ตอนที่ 226 พึ่งใบบุญบอสใหญ่เป็นหลัก การแก้แค้นของสุภาพบุรุษ

เผยตัวตนลับ จับหัวใจเธอ

หลังจากถังชิงกลับไปก็ติดต่อคุณลุงของเธอทันที

 

 

แต่แค่ว่าคุณลุงของเธอยุ่งอยู่ตลอด ที่ผ่านมาพวกเขาจึงไม่ค่อยได้ติดต่อกัน ไม่ง่ายเลยที่เขาจะตอบกลับข้อความอย่างเมื่อสักครู่นี้ ถังชิงรีบมาหาเฉิงหั่วที่หน่วยข่าวกรอง

 

 

“คุณลุงบอกว่าอาจจะยุ่งยากสักหน่อย…” ถังชิงวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางเฉิงหั่วด้วยสายตาระยิบระยับ 

 

 

เฉิงหั่วคัดลอกโค้ดลงในโปรแกรมจำลองอีกครั้ง ขณะที่มือข้างหนึ่งกำลังพิมพ์โค้ด เขาก็เงยหน้ายิ้มให้ถังชิงพลางเหยียดมืออีกข้างออกแล้วดีดนิ้ว “เสี่ยวเฮย”

 

 

ถังชิงผงะ เธอยังงงอยู่เลยว่าตอนบ่ายเฉิงหั่วยังดูร้อนใจอยู่แท้ๆ ตอนนี้ทำไมถึงดูสงบเสงี่ยมขึ้นมาได้?

 

 

เธอเพิ่งจะคิดได้ถึงตรงนี้

 

 

หุ่นยนต์ที่อยู่ข้างหลังเฉิงหั่วก็ค่อยๆ เดินออกมา

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่ว เห็นๆ อยู่ว่ามันเป็นเสียงกลไก แต่กลับฟังดูเมินเฉยเล็กน้อย “คุณเฉิงหั่วยังมีอะไรจะสั่งอีกไหม ผมกำลังอยู่ในกระบวนการชาร์จแบตเตอรี่”

 

 

“…ไม่มีอะไร นายกลับไปชาร์จแบตต่อเถอะ” เฉิงหั่วเคาะปุ่ม “enter” แล้วพูดอย่างเรียบๆ

 

 

เสี่ยวเฮยเหลือบมองเฉิงหั่วอีกครั้ง

 

 

ก่อนจะหาที่ชาร์จแบตของตัวเอง

 

 

จนกระทั่งเสี่ยวเฮยไปแล้ว เฉิงหั่วถึงได้แตะหน้าผากเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วมองถังชิง “ฉันสตาร์ทEA3ได้แล้ว มันชื่อเสี่ยวเฮย”

 

 

ในที่สุดถังชิงก็ละสายตา ตอนเธอหันกลับมา ผมบลอนด์ของเธอปลิวเล็กน้อย ใบหน้าบอบบางทำหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พวกคุณสตาร์ทEA3ได้ยังไง?”

 

 

“ไม่ใช่ฉัน เป็นคุณหนูฉิน” โปรแกรมจำลองบนคอมพิวเตอร์เริ่มทำงาน เฉิงหั่วนั่งตัวตรงพลางมองไปที่โปรแกรมจำลองบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่ละสายตา “เธอรู้วิธีควบคุมEA3”

 

 

สองวันที่ผ่านมาในคฤหาสน์แห่งนี้ นอกจากลูกพี่ของเฉิงหั่วแล้วก็ยังมีคุณหนูฉินท่านนี้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสนั่นหู

 

 

เธอยืนอึ้งอยู่กับที่ ขนตาสั่นไหว

 

 

วินาทีต่อจากนั้นกลับตกใจกับระบบจำลองในคอมพิวเตอร์ของเฉิงหั่ว

 

 

เมื่อมองไปที่ระบบการจำลองแบบชุดเดียวทั้งหมด เฉิงหั่วก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เขาเอียงศีรษะมองถังชิง “นี่คือโค้ดโปรแกรมที่ฉันได้รับจากการเชื่อมต่อกับเสี่ยวเฮย แต่ยังแกะไม่ได้ทั้งหมด คุณลุงของเธอเดินทางมาคฤหาสน์ได้ไหม?”

 

 

โปรแกรมพิสดารดังกล่าว ไม่ใช่แค่เฉิงหั่วเท่านั้นที่เชื่อว่าแฮ็กเกอร์ทุกคนที่เห็นโปรแกรมนี้ล้วนแล้วแต่หวังว่าตัวเองจะสามารถสื่อสารกับผู้คิดค้นได้

 

 

“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ตอนเย็นจะลองถามดู” ถังชิงนิ่งไปสักพักแล้วตอบ

 

 

เฉิงหั่วพยักหน้าและมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “เธอลองมาดูโค้ดพวกนี้สิ ใช่แล้ว เธอพกคอมพ์มาด้วยไหม…”

 

 

**

 

 

ฉินหร่านฝึกซ้อมเฉิงมู่มาได้หนึ่งสัปดาห์กว่าๆ

 

 

ฉินหร่านทดลองยาชนิดต่างๆ ของกู้ซีฉือไปรอบหนึ่งแล้ว

 

 

วันที่สิบสอง ฉินหร่านให้ซือลี่หมิงสู้กับเฉิงมู่โดยที่เธอไม่ได้คอยดูอยู่ข้างๆ แต่ไปที่ห้องหนังสือ…ฝึกเขียนตัวอักษรแทน

 

 

“คุณหนูฉิน นี่คือพัสดุที่อวิ๋นกวงส่งมา” เฉิงสุ่ยเคาะประตูเข้ามาจากด้านนอก

 

 

เขาเหลือบดูสมุดคัดลายมือของฉินหร่าน แม้เธอจะถนัดมือซ้ายแต่ลายมือก็ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว ลีลาการเขียนและเค้าโครงตัวอักษรเป็นไปอย่างอิสระ

 

 

เธอยังคงฝึกเขียนแบบนี้ทุกวัน เฉิงสุ่ยแอบถอนหายใจ

 

 

แน่นอนว่าถ้าเฉิงมู่อยู่ที่นี่จะต้องบอกเขาว่าไม่กี่เดือนก่อนลายมือฉินหร่านไม่ได้เป็นแบบนี้

 

 

เฉิงสุ่ยยื่นพัสดุให้ฉินหร่าน

 

 

โดยปกติแล้วนักมวยเดนตายจะต่อยเพียงวันละครั้งหรือทุกสองถึงสามวัน

 

 

ส่วนเฉิงมู่ต่อยวันละหลายๆ ครั้งและใช้ยาอย่างหนัก

 

 

ยาส่วนใหญ่ใช้ไปหมดแล้ว

 

 

ฉินหร่านวางปากกาในมือลง เธอวางสมุดคัดลายมือและปากกาไว้ข้างๆ

 

 

เฉิงเจวี้ยนก็กำลังจะไปรินชาให้ตัวเองกับฉินหร่านอยู่พอดี ตอนนี้เฉิงมู่ไม่อยู่ งานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ จึงตกเป็นของเฉิงเจวี้ยน เขาถือโอกาสไปหยิบกรรไกรมาให้เธอ

 

 

ฉินหร่านรับมาแล้วแกะห่อพัสดุอย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ทางด้านเฉิงสุ่ยก็ไม่ได้ละสายตา วางตัวสุภาพเรียบร้อยทั้งที่ในใจเหมือนมีคลื่นลมถาโถม

 

 

เป็นห่อยาอีกแล้ว

 

 

ฉินหร่านหยิบขวดยาพวกนั้นออกมา เธอชี้ขวดยาแล้วถามเฉิงเจวี้ยน “นี่น่ะ คราวที่แล้วกู้ซีฉือบอกว่าเขาแย่งยาของอาจารย์มาหมดเกลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอ?”

 

 

มีอีกตั้งเป็นกองได้ยังไง?

 

 

“เป็นของแพทย์ท่านอื่น” เฉิงเจวี้ยนรู้ได้ทันทีว่ายามาจากไหนโดยการสแกนรหัสที่ติดบนฝาขวด เขาเลิกคิ้วขึ้น “เขาน่าจะกวาดมาทั้งองค์กรการแพทย์”

 

 

ฉินหร่านพยักหน้า นั่นก็เข้าใจได้

 

 

เฉิงเจวี้ยนเหลือบมองเธอแล้วเอนพิงโต๊ะ จากนั้นก้มหน้าควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง เปิดภาพโปรไฟล์กู้ซีฉือพลางหรี่ตา

 

 

ค่อยๆ พิมพ์ไปหนึ่งประโยค——

 

 

(นายทำได้ดีจริงๆ)

 

 

ทางด้านกู้ซีฉือก็กำลังตบมือเจียงตงเยี่ยเพื่อไม่ให้เขาสร้างปัญหา โทรศัพท์ที่วางอยู่อีกด้านสว่างขึ้น หน้าจอเป็นชื่อเฉิงเจวี้ยน

 

 

กู้ซีฉือตกใจเล็กน้อย เขาหยิบมันมา หลังจากหน้าจอโทรศัพท์ปลดล็อกอัตโนมัติ ข้อความเฉิงเจวี้ยนก็เด้งขึ้น

 

 

กู้ซีฉือถึงกับเย็นสันหลังวาบโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

 

เขากดโทรศัพท์ตอบกลับเฉิงเจวี้ยน——

 

 

(เรียนรู้มาจากรุ่นพี่ ยังไม่เก่งเท่าหนึ่งหรือสองในสิบของรุ่นพี่เลย)

 

 

คำพูดนี้กู้ซีฉือไม่ได้โกหก เขานึกถึงตอนนั้น ตอนที่เฉิงเจวี้ยนนำหนังสือทางการแพทย์ไปขวางทุกคนไว้ ซึ่งเป็นคนขององค์กรการแพทย์ทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงนักศึกษาวัยรุ่น แพทย์พวกนั้นหรือแม้กระทั่งอาจารย์ต่างก็วุ่นวายเพราะเฉิงเจวี้ยน

 

 

เขาคือมนุษย์กลดีๆ นี่เอง

 

 

ไม่ต้องพูดถึงหนึ่งหรือสองในสิบ กู้ซีฉือคิดว่าเขาได้เรียนรู้แก่นแท้เพียงสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรโดยหลักแล้วเขาก็พึ่งใบบุญบอสใหญ่ไดม่อนคนนั้นถึงได้ทั้งขู่ทั้งแย่งมันมาได้

 

 

พวกแพทย์ในองค์กรการแพทย์เหล่านั้นต่างก็รู้ดีว่าเงินสนับสนุนส่วนใหญ่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เป็นของบอสใหญ่ไดม่อน พวกเขาจึงด่าแค่เพียงฉากหน้าแต่สุดท้ายก็ไม่ได้กระทำการขัดขวางใดๆ

 

 

และกู้ซีฉือเองก็ยังเหลือยาตัวอย่างไว้ให้พวกเขาอย่างละหนึ่งขวด

 

 

**

 

 

ตอนบ่าย

 

 

หลังจากฉินหร่านเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินไปห้องฝึกซ้อมชั้นหนึ่ง

 

 

ตอนที่เธอไปถึง เฉิงมู่กำลังต่อยเครื่องทดสอบพลังหมัดอยู่

 

 

ส่วนซือลี่หมิงก็กำลังนอนลงไปกับพื้นโดยมีแผลอยู่ตามร่างกาย สภาพดูอเนจอนาถยิ่งกว่าเดิม

 

 

สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

เขายังมีวันที่โดนเฉิงมู่ต่อยจนล้ม

 

 

และเป็นเวลาภายในไม่ถึงครึ่งเดือน

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นกับตาตัวเองว่าฉินหร่านซ้อมพิเศษให้เฉิงมู่อย่างไรในระยะเวลาที่ผ่านมา หรือได้เห็นว่าเฉิงมู่ฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงเพียงใด ซือลี่หมิงก็คงจะนึกสงสัยขึ้นมาจริงๆ ว่าเฉิงมู่กลายเป็นคนละคน

 

 

ฉินหร่านยื่นมือแตะริมฝีปากล่าง จากนั้นก็หยิบขวดยาในห่อพัสดุให้ซือลี่หมิงหนึ่งขวด เธอโยนไปที่มือเขาโดยไม่พลาดเป้า “สามเม็ด”

 

 

ซือลี่หมิงลุกขึ้นทันที จากนั้นก็ประคองขวดยาไว้ รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว

 

 

ที่แท้แล้วเขาก็มีวันนี้

 

 

“คุณหนูฉิน” พอเฉิงมู่ต่อยเสร็จก็เอียงข้างเพื่อให้ฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดข้างหลังเขา

 

 

เขาต่อยไปสามครั้งโดยแบ่งสถิติได้ดังนี้——

 

 

 845

 

 

 859

 

 

 857

 

 

จากหกร้อยกว่าจนมาถึงแปดร้อยกว่า ไม่ได้พัฒนาขึ้นเพียงแค่ระดับเดียว

 

 

นี่ไม่ได้เป็นผลมาจากการฝึกที่หนักหน่วงทุกวันเท่านั้น แต่เป็นผลมาจากยาสร้างเนื้อเสริมกระดูกที่กู้ซีฉือส่งมาด้วยเช่นกัน

 

 

ไม่ใช่แค่ค่าพลังหมัดที่พัฒนาขึ้น หลังจากซือลี่หมิงเจอมากับตัวแล้วก็พบว่าทักษะการต่อสู้ของเฉิงมู่เป็นแนวเดียวกับฉินหร่าน ทั้งดุดันและแม่นยำ เป็นวิธีการต่อสู้แบบไม่คิดชีวิต

 

 

หลังจากกินยาเสร็จ ซือลี่หมิงก็รู้สึกว่ายาออกฤทธิ์ค่อนข้างเร็ว ไม่ได้รู้สึกเจ็บหน้าอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็ยังหน้าตาบิดเบี้ยวอยู่เหมือนเดิม ในใจยังนึกชื่นชมเฉิงมู่ที่โดนต่อยแบบนี้วันละเจ็ดถึงแปดครั้งต่อวัน อดทนเก่งจริงๆ

 

 

เมื่อฉินหร่านเห็นค่าพลังหมัดก็ยังไม่ค่อยพอใจ แต่ก็พยักหน้า “ตามฉันลงไปข้างล่าง”

 

 

เฉิงมู่ยังคิดว่าฉินหร่านจะสู้กับเขา

 

 

เมื่อได้ยินที่เธอพูด เขาก็อึ้งไปสักพัก “วันนี้ไม่ซ้อมพิเศษแล้วเหรอครับ?”

 

 

“อืม พวกเราจะไปหาที่ซ้อมข้างล่างกัน…” ฉินหร่านหรี่ตามองไปทางซือลี่หมิง “เจอร์รี่นั่นใช่ไหม?”

 

 

ซือลี่หมิง “…ครับ”

 

 

ซือลี่หมิงรู้สึกได้ว่าไม่ได้เจ็บปวดตามร่างกายแล้ว เขาสวมผ้าปิดปากและหมวกอย่างเงียบๆ พลางเดินตามฉินหร่านลงไปข้างล่าง

 

 

เขาอยากจะเห็นเจอร์รี่โดนต่อยจนมีสภาพอเนจอนาถถึงจะพอใจ

 

 

**

 

 

สนามฝึกชั้นล่าง

 

 

วันนี้ข้างนอกมีแดดส่อง ไม่มีลมแรง แต่อากาศเย็นอย่างบอกไม่ถูก 

 

 

ช่วงนี้เจอร์รี่ไม่ค่อยมาซ้อมที่สนามฝึกเลย เขายุ่งอยู่กับโค้ดของเสี่ยวเฮยอยู่ที่หน่วยข่าวกรอง เฉิงหั่วเองก็กินข้าวนอนหลับอยู่ที่นั่น

 

 

อย่างไรก็ตามในช่วงสองวันที่ผ่านมาก็ใกล้จะแกะโค้ดสำเร็จแล้ว เจอร์รี่ ถังชิง และคนอื่นๆ ต่างก็พากันมาที่สนามฝึก

 

 

“เจอร์รี่ นั่นเฉิงมู่นี่ เกือบจะครึ่งเดือนแล้วยังไม่มาซ้อมที่สนามฝึกเลย คงกลัวนายต่อยแหงๆ” หลายคนรวมถึงถังชิงต่างก็ส่งเสียงพลางหรี่ตา

 

 

เจอร์รี่หรี่ตามองอย่างดูถูกแล้วพูดไปตรงๆ “ครึ่งเดือนแล้วเหรอ? ซือลี่หมิงก็ไม่มาด้วยหนิ ไอ้ขี้ขลาดนั่นกับซือลี่หมิงก็เหมือนๆ กัน เอาแต่ล้อมหน้าล้อมหลังผู้หญิงทั้งวัน ช้าเร็วก็คงถูกคุณเฉิงสุ่ยจัดการ”

 

 

พอพูดจบก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีถังชิงอยู่ข้างๆ เจอร์รี่จึงรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที “ขอโทษด้วยครับคุณถัง ผมไม่ได้พูดถึงคุณ คุณต่างจากคนอื่นแน่นอน…”

 

 

ในช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ถังชิงมีบทบาทโดดเด่นในหน่วยข่าวกรอง ในแง่ของความสามารถเธอเป็นรองแค่เฉิงหั่วเท่านั้นและได้ยินมาว่าเธอยังมีคุณลุงที่มีฝีมือเก่งกาจอยู่อีกด้วย

 

 

คิ้วถังชิงที่ขมวดคลายออก

 

 

เธอยังไม่ได้พูดอะไรต่อ

 

 

ไม่ไกลมากนัก กลุ่มของเฉิงมู่ค่อยๆ เดินมาทางนี้

 

 

คนในสนามฝึกจำฉินหร่านที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยตามหลังเฉิงมู่ได้ พวกเขาจึงออกมาทักทายอย่างสุภาพ “คุณหนูฉิน”