บทที่ 239 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพบพ่อบุญธรรม

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 239 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพบพ่อบุญธรรม

“เทียนเอ๋อร์ การฝึกในสนามรบครั้งนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองเสิ่นเทียนพลางพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาและน่าเกรงขาม “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าได้อะไรมาไม่น้อยเลย”

เสิ่นเทียนพยักหน้าอย่างจริงใจ “เรียนอาจารย์ ศิษย์ได้อะไรมาน้อยในสนามรบ ไม่อยากให้อาจารย์หวังสูงเกินไป”

เสิ่นเทียนพูดและเริ่มเล่าประสบการณ์ในสนามรบของตน แน่นอนว่าไม่ได้พูดอะไรที่เป็นความลับที่ไม่สะดวก

เมื่อได้ฟังประสบการณ์ของเสิ่นเทียน สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ว่านโลหิตมังกรที่กำเนิดขึ้นจากโลหิตบริสุทธิ์ขององค์หญิงขั้นหนึ่งเผ่ามังกรดำทะเลอุดรเมื่อหมื่นปีก่อน?

ผลใจกระบี่ที่กำเนิดขึ้นจากอาวุธเตรียมเซียนเมื่อหมื่นปีก่อน?

อาวุธเตรียมเซียนกระบี่ฟ้าสังหารที่อยู่มาเมื่อหมื่นปีก่อน?

สมบัติสุดยอดทองคำเซียนปีกปักษาของเผ่าเผิงปีกทองเมื่อหมื่นปีก่อน?

มรดกทั้งหมดจากผู้เตรียมอริยะเชียนจีเมื่อหมื่นปีก่อน?

ถาดวัฏจักรหกมรรคที่ผนึกราชามารเงามืดเมื่อหมื่นปีก่อน?

และยังมีเป็นพันธมิตรกับเผ่ามังกรดำและเผ่าเทพนกยูงอีก

……

เมื่อได้ฟังสมบัติล้ำค่าที่เสิ่นเทียนพูดออก นักพรตชราข้างกายตาเขียวแล้ว

เขากำลังสงสัยในชีวิต

มีสิทธิ์อะไรกัน

มีสิทธิ์อะไรที่ฝึกฝนคัมภีร์คบเพลิงเหมือนกัน แต่ข้ากลับดวงซวย ส่วนเจ้านี่หนูไปที่ใดก็เจอแต่สมบัติราวกับใช้สูตรโกง

บัดซบ คนดำหลั่งน้ำตา[1]!

“เทียนเอ๋อร์เจ้าทำได้ดีมาก” เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “ไม่ใช่แค่ได้สมบัติมามากมาย แต่ยังผูกมิตรกับโอรสสวรรค์ของขุมอำนาจใหญ่ นี่เป็นเรื่องที่ยาก

แต่เจ้าเอาถาดวัฏจักรหกมรรคมา แล้วราชามารวิญญาณมืดที่ถูกผนึกนั่นตอนนี้อยู่ที่ใด”

ราชามารวิญญาณมืดรึ

พอได้ฟังคำถามของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ประมุขชุดคลุมโลหิตข้างๆ ก็ยิ้มเยาะ “นี่เจ้าเชื่อคำพูดโอ้อวดของเจ้าหนูนี่จริงๆ รึ ถึงท่านราชาศักดิ์สิทธิ์จะถูกถาดวัฏจักรหกมรรคขังไว้ แต่ก็ยังแสดงกำลังรบระดับผู้อริยะในสนามรบได้ กวาดล้างได้ทั้งสนามรบ

ผู้สูงส่งยิ่งใหญ่เช่นนี้ เจ้ากลับคิดว่าเจ้าหนูระดับสร้างฐานตัวเล็กๆ จะหนีรอดจากมือเขาได้รึ น่าขำจริงๆ น่าขำที่สุด!”

ซื่อ~

สายฟ้าสีทองผ่าบนตัวประมุขชุดคลุมโลหิต ประมุขชุดคลุมโลหิตที่ถูกผนึกพลังบำเพ็ญเส้นผมตั้ง ควันดำลอยโชยมาทั้งตัว

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยอย่างเย็นชา “รู้สถานะตัวเองด้วย ตอนนี้เจ้าเป็นเพียงนักโทษระดับล่างต่อหน้าข้าเท่านั้น”

น่าอัปยศ!

น่าอัปยศอดสู!

ประมุขชุดคลุมโลหิตทำเสียงขึ้นจมูก “บัดซบ อย่าคิดว่าจับข้าแล้วจะมีประโยชน์! ในสนามรบบรรพกาล ท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ไร้พ่าย รอวันที่มารสวรรค์พุ่งชนดาวชิกสัวะก่อน เขาจะต้องทำลายผนึกออกมาได้แน่!

ถึงตอนนั้นทั้งดินแดนบูรพาจะต้องก้มหัวสวามิภักดิ์ใต้อำนาจของราชาศักดิ์สิทธิ์ หากยังรู้จักเอาตัวรอดก็ปล่อยข้าไป ไม่อย่างนั้นแม้แต่ไก่และสุนัขในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ของเจ้าก็ไม่เหลือ~!”

ประมุขชุดคลุมโลหิตไม่เชื่อเลยว่าเสิ่นเทียนตัวเล็กจ้อยจะเอาถาดวัฏจักรหกมรรคออกมาและหนีรอดต่อหน้าท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ได้

ถึงอย่างไรท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ควบคุมพลังแห่งเงามืดลับสร้างเงาภูตผีที่มีศักยภาพเท่ากับผู้อริยะได้มหาศาล

ประมุขชุดคลุมโลหิตเชื่อมั่นมาตลอดว่าท่านราชาศักดิ์สิทธิ์ไร้พ่ายบนสนามรบ

ในมุมมองเขา เสิ่นเทียนก็แค่คุยโม้เท่านั้น!

“ราชาศักดิ์สิทธิ์หรือ เจ้าหมายถึงเจ้านี่รึ”

เสิ่นเทียนเกาหัวก่อนจะมีหอคอยเทพสีม่วงลอยออกมาจากจุดตันเถียน เปล่งแสงสีม่วงใสแจ๋ว ตรงฐานหอคอยเทพนี้ยังห้อยตุ๊กตาตัวเล็กสีม่วงขนาดเท่าไข่ไก่ไว้ตัวหนึ่ง เหมือนกับของตกแต่ง

ทันทีที่หอคอยเทพสีม่วงปรากฏ ไม่ใช่แค่ประมุขชุดคลุมโลหิตเท่านั้น แม้แต่นักพรตชรา เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังนิ่งอึ้งไป

เพราะประมุขชุดคลุมโลหิตมองออกว่ากลิ่นอายพลังที่แผ่มาจากตุ๊กตาสีม่วงนั้นคือท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่วิหารโลหิตสังหารพวกเขาเฝ้าใฝ่หาตลอด

จิตใจเขาระเบิดแล้ว

สวรรค์!

นั่นคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จากต่างแดน

เทพผู้สุดโหดเหี้ยมมีอำนาจเกรียงไกรและเคยเซ่นไหว้โลหิตหนึ่งดินแดนเมื่อหมื่นปีก่อน เหตุใดตอนนี้ถึงกลายเป็นตุ๊กตาเช่นนี้ อีกทั้งยังดูน่ารักมากด้วย!

น่ารักเช่นนี้ได้อย่างไร!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นี่กล้าดีอย่างไรถึงหยาบคายกับท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ว่าแต่ เขาผนึกท่านราชาวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไรกัน

ส่วนที่นักพรตชรากับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตกใจไม่ใช่เพราะตุ๊กตาเล็กสีม่วงนั้น แต่เป็นหอคอยล้ำค่าที่เสิ่นเทียนยันไว้กลางมือ

นี่มัน หอคอยเทพสงคราม!

…….

ทันใดนั้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง

เขาคารวะเสิ่นเทียนอย่างนอบน้อม พูดให้ถูกคือคารวะหอคอยในมือเสิ่นเทียน

“ไม่ได้พบกันพันปี หลงหยวนขอคารวะผู้อาวุโสเยี่ย!”

ส่วนฉู่หรงเหอตอนแรกใบหน้ามีแต่ความคับอกคับใจ ตอนนี้พอเห็นหอคอยเทพสงครามก็เผยรอยยิ้มประจบทันที ก่อนจะขยับเข้ามาข้างๆ หอคอยเทพสงคราม

“พ่อบุญธรรม ท่านออกมาจากสนามรบได้อย่างไรกัน!”

หอคอยเทพสงครามเปล่งแสงสีม่วงแวววาว ก่อนจะปรากฏร่างของเยี่ยฉิงชางขึ้นตรงหน้าทุกคน

เขาชำเลืองตามองฉู่หรงเหอ “ไม่ได้พบกันพันปี เจ้าหน้าไม่อายยิ่งกว่าตอนหนุ่มเสียอีก ไม่อยากเชื่อว่าจะหลอกเด็ก”

พ่อบุญธรรมเห็นหรือ

ฉู่หรงเหอหน้าแดงอย่างพบเห็นได้ยาก “แค่กๆ ท่านพ่อบุญธรรมเข้าใจผิดแล้ว ขะ…ข้าบาดเจ็บสาหัสจริงๆ!”

เยี่ยฉิงชางมองค้อน “อย่าเรียกข้าพ่อบุญธรรม เมื่อพันปีก่อนเจ้ายังเด็กเลยตามใจเจ้า ตอนนี้เจ้าดูแก่กว่าข้าอีก อย่ามาทำตีสนิทกับข้านักเลย!”

จางหลงหยวนเห็นเสิ่นเทียนยันหอคอยก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในใจ

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง แม้แต่เสียงยังสั่นนิดๆ “ผู้อาวุโสเยี่ย เหตุใดครั้งนี้จู่ๆ ท่านก็ออกมาจากสนามรบกัน”

เยี่ยฉิงชางมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ด้วยรอยยิ้มทีเล่นทีจริง “เหตุใดข้าถึงออกมาเจ้าเดาไม่ได้รึ เจ้านี่ก็ยังทำเป็นสุขุม แต่ในใจเลือดร้อนเหมือนเดิมเลย

พวกเจ้าสองคนไม่มีความมานะพยายาม แต่ก็ยังบ่มเพาะผู้สืบทอดที่ดีออกมาได้ ไม่ใช่แค่มีพรสวรรค์ดี แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือใบหน้าเหนือธรรมดา ทำให้ข้านึกถึงตัวเองสมัยหนุ่มๆ

ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจเลือกให้เขาเป็นเจ้าของคนใหม่ของหอคอยเทพสงคราม ภายภาคหน้าหอคอยเทพสงครามจะเป็นของเจ้าหนูนี่แล้ว”

จากนี้หอคอยเทพสงครามเป็นของเสิ่นเทียนหรือ

หรือก็คือสมบัติสุดยอดหอคอยเทพสงครามยอมรับเป็นนายแล้วหรือ

พอได้ฟังคำพูดของเยี่ยฉิงชาง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นักพรตชรา ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มีสีหน้าตื่นตกใจ

หมื่นปีมานี้มีโอรสสวรรค์มากมายเข้าไปในหอคอยเทพสงคราม ไม่ว่าเขาจะมีความสามารถโดดเด่นมีพรสวรรค์เป็นหนึ่งอย่างไร ก็ยังไม่ทำให้เยี่ยฉิงชางดวงวิญญาณหอคอยเทพสงครามมองด้วยความชื่นชมได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าหอคอยเทพสงครามคือหนึ่งในสุดยอดสมบัติที่สุดของดินแดนบูรพา

เพราะหมื่นปีมานี้ไม่ได้มีโอรสสวรรค์แค่คนเดียวที่ได้มรดกสุดยอดของโลกจากหอคอยเทพสงคราม ดังนั้นชื่อเสียงจึงเลื่องลือในห้าดินแดน

คัมภีร์เสริมวิถีฟ้าของจางหลงหยวนกับคัมภีร์คบเพลิงฉบับอัปเกรดของนักพรตชราล้วนมาจากหอคอยเทพสงคราม ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของสองคนอย่างมาก

นอกจากนี้สองคนยังได้ยอดวิชาและวิชาเซียนอื่นๆ จากในหอคอยเทพสงครามอีก กำลังรบจึงเพิ่มขึ้นอย่างถึงที่สุด

หากไม่อย่างนั้น แม้จางหลงหยวนจะเป็นยอดอัจฉริยะ แต่การจะได้ฉายาวิชาอัสนีอันดับหนึ่งในรอบห้าพันปีของดินแดนบูรพาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย!

……

ตอนนั้นแค่เยี่ยฉิงชางชื่นชมเขาก็มอบวิชาให้เล็กน้อย แต่นั่นกลับสร้างโอรสสวรรค์นับไม่ถ้วน

ตอนนี้หอคอยเทพสงครามรับเสิ่นเทียนเป็นนาย โดนเสิ่นเทียนห่อกลับมา เช่นนั้นก็เท่ากับได้เรียนวิชาในหอคอยเทพสงครามได้ตามใจชอบไม่ใช่หรือ

ดังนั้นแล้วยังต้องกังวลว่าพลังบำเพ็ญกับกำลังรบของเสิ่นเทียนในภายภาคหน้าจะไม่ยิ่งใหญ่ไปทั้งห้าดินแดนอีกหรือ

ยังต้องกังวลว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นทุกคืนวันจนเป็นใหญ่ในห้าดินแดนอีกหรือ

จางหลงหยวนกระบอกตาร้อนผ่าว เหล่าบรรพจารย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์ แดนเรามีความหวังแล้ว!

ข้าได้ทำการเลือกที่ถูกต้องที่สุดในชีวิต นั่นคือรับเทียนเอ๋อร์เป็นศิษย์!

อ่านหนังสือเยอะ อ่านหนังสือดีคือราชธรรมจริงๆ!

ฮิๆๆๆๆๆ~

………………………

[1]คนดำหลั่งน้ำตาเป็นมีมในโซเชียล เป็นภาพคนดำกำลังน้ำตาไหล