Ch.16 – ทักษะลับกลืนดารา

Translator : Muntra / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.16 – ทักษะลับกลืนดารา

 

ฉินเฟิงวิเคราะห์สิ่งต่างๆรอบตัวอย่างรอบคอบ เลือกมันแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน เอาเฉพาะสินค้าที่หากซื้อมัน จะไม่เป็นการดึงดูดความสนใจใดๆ

 

นั่นเพราะเขาต้องการที่จะปกปิดสถานะผู้ใช้อบิลิตี้ธาตุมืดของตน

ฉินเฟิงกลับมายังโรงแรมพร้อมกับสินค้าจำนวนหนึ่ง หลังจากที่เขาแลกเปลี่ยนยากระตุ้นไปจนหมดแล้ว
“แอ๊!”

 

เสี่ยวไป๋ไม่สามารถอดทนรอได้อีกต่อไป มันกระโดดออกจากกระเป๋าเสื้อ และเริ่มส่ายหางไปมา

 

“ทำตัวอย่างกับหมาเลย นี่แกไม่ได้เป็นหมาจริงๆใช่ไหม?”

 

ฉินเฟิงเริ่มสำรวจเสี่ยวไป๋อย่างใกล้ชิด และค้นพบว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกแล้ว ขนของมันยาวขึ้น ขนาดตัวเทียบกับตอนเกิดคล้ายจะใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย  มันมีดวงตาสีดำ ปากแหลม หูเล็กตั้งตรง ตรงหางเป็นขนดก จะบอกว่าเหมือนหางหมา แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว

 

ฉินเฟิงลองยื่นมีไปขยำมัน ขยำไปขยำมา ก็รู้สึกว่าคล้ายกับหมาปอมที่พวกเศรษฐีนีสูงวัยมักจะชอบอุ้มไปมาระหว่างเดินเที่ยวเล่นอยู่เหมือนกัน

 

“ลืมมันเถอะ ไม่ว่าแกจะเป็นตัวอะไร ฉันก็ยังเลี้ยงแกต่อไปอยู่ดี”

 

เนื่องจากในช่วงเวลาก่อนหน้า ชีวิตของตนเองรอดมาได้ก็เพราะเจ้าตัวน้อย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้เกิดใหม่อีกครั้ง เขาก็ต้องตอบแทนบุญคุณมัน

 

ฉินเฟิงดึงแก่นพลังงานออกมา แล้วโยนให้แก่เสี่ยวไป๋ อีกฝ่ายกระโดดคว้าหมับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มกอดรัดแก่นพลังงาน ลามเลียมัน สักพัก แก่นพลังงานก็เริ่มเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

 

เวลานี้ กระทั่งฉินเฟิงเองก็ยังประหลาดใจเล็กน้อย

 

เหตุการณ์นี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นเพราะพลังงานของมันถูกเสี่ยวไป๋ดูดซับไป ทว่ามันรวดเร็วนัก เกรงว่าศักยภาพของเสี่ยวไป๋จะต้องไม่ธรรมดา ยากจะประเมินได้อย่างแน่นอน

 

หลังจากกินแก่นพลังงานเรียบร้อย เสี่ยวไป๋ก็ผล็อยหลับไป แต่ฉินเฟิงไม่ได้หลับตาม เขาหยิบจี้รูปสลักเจ้าแม่กวนอิมสีดำออกมา แล้ววางมันลง

 

วัฒนธรรมโบราณยังคงเผยแพร่อย่างไม่รู้จบ ซึ่งไม่ว่าใครต่างก็รู้ ว่าการดำรงอยู่ของเจ้าแม่กวนอิมคือตัวแทนของความเมตตา

 

ภายในจี้สีดำหมึกถูกแกะไว้ด้วยมังกรเก้าตัว ทั้งหมดเวียนว่ายรวมกันเป็นรูปสลักเจ้าแม่กวนอิม

ฉินเฟิงทดลองส่งพลังลงไปอย่างระมัดระวัง แต่แล้วจู่ๆจี้รูปสลักเจ้าแม่ก็บังเกิดเสียงแกร๊ก! ปริร้าวแตกออกมาอย่างคาดไม่ถึง

 

และภายใน กลับบรรจุไว้ด้วยผ้าไหมบางเบา

 

“มีอะไรซ่อนอยู่ข้างในจริงๆด้วย!”

 

แม้ว่าผ้าไหมนี่จะบางเบาราวกับปีกจั๊กจั่น แต่มันก็เหนียวและทนทานมาก หลังจากถูกดึงออกมาโดยฉินเฟิง แท้จริงกลับพบว่าตัวผ้าขยายขนาดขึ้น มีความกว้างยาวกว่าหนึ่งเมตรครึ่งอย่างกระทันหัน พร้อมกันกับปรากฏตัวอักษรขนาดเล็ก อัดกันแน่นบนผ้าไหม

 

ตรงส่วนบน เผยให้ชื่ออะไรบางอย่างระบุไว้ชัดเจน

 

«ทักษะลับกลืนดารา»

 

ในบรรดาคนจากองค์กรร้าย มีตัวตนอันตรายระดับ S อยู่คนหนึ่ง มันเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณชื่อว่าหลุยเหมิง และยังเป็นผู้ครอบครองทักษะลับกลืนดารา

 

กำลังภายในดังกล่าว ในกลุ่มพันธมิตรผู้ใช้วรยุทธโบราณมันถูกเรียกกันว่าเป็นศาสตร์มืด และยังถูกประเมินประสิทธิภาพไว้ถึงระดับ S

 

ก่อนที่ฉินเฟิงจะกลับมาเกิดใหม่ หลุยเหมิงเป็นตัวตนทรงพลังชนิดที่ว่าใช้เพียงนิ้วเดียว ก็สามารถสังหารฉินเฟิงถึงแก่ความตายได้ กล่าวว่าหากต้องการจะล้างแค้นองค์กรร้ายนั่น เขาก็จำเป็นต้องกำจัดหลุยเหมิงลงซะก่อน

 

อีกฝ่ายก็ต้องเป็นศัตรูอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะไปล่วงรู้ถึงข้อมูลของหลุยเหมิงมากขนาดนี้ได้อย่างไร?

แต่หลังจากที่ฉินเฟิงได้กลับมาเกิดใหม่ หลุยเหมิงในปัจจุบันยังเป็นวัยรุ่นอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น หลังจากจบการศึกษาจากระดับมัธยม แม้ระบบจะตรวจวัดได้ว่าเขาเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่เจ้าตัวก็เป็นคนขี้เกียจเฉื่อยชา แถมค่าพลังโจมตีก็ไม่สูงอะไรนัก นอกจากนี้ยังไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายอีก

 

ซึ่งคนเช่นเขา มีมากมายในชุมชน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นพวกอันธพาล

 

อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยพวกเขาก็พอมีพลังอยู่บ้าง สามารถใช้อำนาจรังแกคนธรรมดาได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังจากที่หลุยเหมิงได้ไปปล้นชายชราเข้าโดยบังเอิญ เขาก็ได้รับ ‘ทักษะลับกลืนดารา’ มาอย่างไม่คาดฝัน

 

เดาถูกแล้วล่ะ ชายชราที่หลิวเหมิงปล้นไป ก็คือคนๆเดียวกับที่ฉินเฟิงเพิ่งจะซื้อจี้เจ้าแม่กวนอิมมาในวันนี้นั่นเอง

หลังจากหลุยเหมิงได้รับทักษะลับกลืนดารา เขาพบว่าการเรียนรู้ทักษะนี้ช่างง่ายดายยิ่ง -เขาสามารถใช้มันในการดูดกลืนกำลังภายในของคู่ต่อสู้มาเป็นของตนเองได้ -เป็นทักษะที่โคตรจะโกง
ภายในเวลาไม่กี่วัน หลิวเหมิงก็เข้าใจถึงวิธีการใช้งานมัน และเริ่มมุ่งเป้าหมายไปที่คนอื่นๆ

 

และคนที่ว่า ก็คือผู้อำนวยการของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลินเต๋อหรงนั่นเอง

แม้หลินเต๋อหรงจะเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่เขาก็อายุปาเข้าไป 80 แล้ว พละกำลังกายของเขาอ่อนแอลงตามวัย แถมยังมีโรคภัยที่เกิดจากการต่อสู้ในอดีตรุมเร้า ด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้แม้จะมีกำลังภายในไว้ปกป้องร่างกาย แต่มันก็ไม่มากพอที่จะใช้รับมือกับศัตรู

หลุยเหมิงลอบสังหารผู้อำนวยการหลินในตรอกเล็กๆ และนับตั้งแต่นั้นมา เขาก็ได้กลายเป็นอาชญากร ต้องคอยหลบหนีอยู่หลายครั้งหลายครา ทว่าระหว่างหลบหนี ก็คอยทำเรื่องชั่วร้ายไปเรื่อยๆ ส่งผลให้ยิ่งนาน หลุยเหมิงก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

 

“แต่ตอนนี้ «ทักษะลับกลืนดารา» ได้มาตกอยู่ในมือของฉันแล้ว!” ในแววตาของฉินเฟิงบังเกิดประกายกระพริบไหว

 

และต่อมา เขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะจุดไฟเผาผ้าไหมนี้

 

ซึ่งหมายความว่า นับตั้งแต่นี้ไป «ทักษะลับกลืนดารา» จะมีเพียงฉินเฟิงผู้เดียวที่ได้ครอบครองมัน

 

“ทักษะนี้ นอกจากจะเป็นทักษะวรยุทธโบราณขั้นสูงแล้ว มันยังมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาให้แกร่งขึ้นยิ่งกว่าเดิมได้อีก ที่สำคัญก็คือ มันยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ! ”

 

นั่นก็คือ เมื่อใช้งาน ‘กลืนดารา’ มันจะช่วยเสริมพละกำลังให้แก่เขาได้เกือบสิบเท่าเป็นการชั่วคราว

 

ไม่เพียงเท่านั้น «ทักษะลับกลืนดารา»  ยังสามารถใช้ดูดกลืนกำลังภายในของผู้อื่น มาเสริมกำลังภายในให้แก่ผู้ใช้ได้อีกด้วย

ในความเป็นจริงแล้วเจ้าสิ่งนี้นับว่าคล้ายคลึงกับพลังพิเศษที่ฉินเฟิงปลุกขึ้นมาได้อยู่เหมือนกัน ทว่าพลังที่เขาปลุก มันไม่สามารถดูดกลืนขณะที่ฝ่ายตรงข้ามยังมีชีวิตอยู่ได้ และพลังดูดของเขา มันก็ช่วยเสริมเพียงพละกำลังภายนอกเท่านั้น มิรวมถึงภายใน

แน่นอนว่าเหตุผลที่ «ทักษะลับกลืนดารา» ถูกเรียกว่าเป็นสิ่งชั่วร้าย นั่นเพราะมันไม่มีความเสถียรในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง

-หลังจากหลุยเหมิงฝึกฝนเสร็จสิ้น ทุกครั้งที่เขาต่อสู้ คนที่ตกตายภายใต้เงื้อมมือของเขาจะกลายเป็นศพที่เหี่ยวแห้ง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังควบคุมกำลังภายในของตนมิให้อาละวาดไม่ได้อีก ส่งผลให้ในทุกๆที่ที่เขาไป มันจะเรียงรายไปด้วยศพตลอดทั้งเส้นทาง นี่เองก็สร้างความทรมานให้แก่เขาเช่นกัน

สำหรับฉินเฟิง  «ทักษะลับกลืนดารา» คือพลังที่แข็งแกร่งสุดที่เขารู้จัก

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงก็ยังเกิดความคิดหนึ่งขึ้นเช่นกัน

 

ว่าหากเขาใช้พลังพิเศษดูดกลืน ที่สามารถดูดพลังงาน เพื่อฟื้นฟูเพิ่มพูนกำลังภายนอกได้ มาผสานกับการใช้งาน «ทักษะลับกลืนดารา» นี่มิใช่หมายความว่าเขาจะสามารถกลายโคตรพยัคฆ์สุดแกร่งหรอกหรือ?

 

แต่ทั้งหมดนี้ เอาไว้ค่อยทดสอบยืนยันกันในภายหลัง

 

ฉินเฟิงนั่งขวาทับซ้าย เริ่มฝึกฝนสมาธิอีกครั้ง

 

 

หลายวันต่อมา ฉินเฟิงมิได้ออกไปจากโรงแรมเลย เขาเกือบที่จะลืมเลือนการหลับนอน เฝ้าฝึกฝนสมาธิกับ «ทักษะลับกลืนดารา»

 

ภายในห้อง ฉินเฟิงประกบสองมือเข้าด้วยกัน -โดยภายในมือมีหญ้ากลางคืนอยู่

 

“ดูดกลืน!”

 

แก่นอบิลิตี้เริ่มหมุนวน พลังพิเศษดูดกลืนเริ่มที่จะใช้งานได้ง่ายดายมากขึ้น

 

ฉินเฟิงสัมผัสกับแสงสีดำในมือของตน เขาพบว่า หญ้ากลางคืนเริ่มเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว พลังงานของมันเริ่มผสานเข้ากับร่างกายของฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า 2-3รูนมืดได้ติดตามพลังงานนี้ไป และผสานเข้ากับแก่นอบิลิตี้ของตนเอง!

 

“ดูเหมือนว่าจะได้เวลาที่ฉันจะต้องออกไปซะแล้ว!”

 

หลังจากที่เอาแต่ฝึกฝนอยู่ในสถานที่ปลอดภัยมาหลายวัน ฉินเฟิงก็ไม่เหลือเงินสักแดงเดียว เขาใช้ทุกอย่างที่มีไปจนหมดสิ้น

ไม่มีกระทั่งอาหารสำหรับเสี่ยวไป๋

 

“มาเถอะเสี่ยวไป๋ วันนี้พวกเราจะออกไปข้างนอกกัน แล้วขากลับค่อยแวะไปเยี่ยมผู้อำนวยการ!”

 

แม้ว่าฉินเฟิงจะได้รับ «ทักษะลับกลืนดารา» มาแล้วก็ตาม แต่แผนของเขาในวันนี้ คือหลังจากเสร็จธุระก็กลับไปเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

 

“มาเถอะ เสี่ยวไป๋!” ฉินเฟิงร้องเรียกคำหนึ่ง

 

เพียงเวลาไม่กี่วัน เสี่ยไป๋ก็เติบโตขึ้นเป็นสองเท่า นอกจากขนของมันที่เริ่มปุกปุยแล้ว ดูเหมือนว่าขนาดตัวจะขยายเท่าฝ่ามือ แม้ยังพอจะสามารถยัดลงในกระเป๋าเสื้อได้อยู่ แต่มันเบียดมาก!

 

ฉินเฟิงจึงตัดสินใจเปิดกระเป๋าเป้สะพายหลัง แล้วใส่มันเข้าไปแทน