ตอนที่ 242 : การอนุมานมิติระดับโลก 500 แห่ง

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 242 : การอนุมานมิติระดับโลก 500 แห่ง

“ฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยิ่งแย่กว่า ” ฮวงเทียนเจวี๋ยนถอนหายใจออกมา “ประเทศที่ตั้งอยู่ในเกาะ2-3แห่ง อย่างเกาะชวาของอินโดนีเซียและอื่น ๆ ต่างก็โดนทำลายไปหมด ตอนที่โลกเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดพายุและคลื่นยักษ์ขึ้นมาตลอดเวลา ตอนนี้เกาะส่วนใหญ่ได้จมลงไปแล้ว”

“อินเดีย ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงนั้นก็เริ่มไม่มั่นคงแล้ว หลังจากที่โลกเปลี่ยนแปลงไป องค์กรต่อต้านรัฐบาล, พวกองค์กรค้ายาและอื่น ๆ ก็พากันสร้างปัญหา ผลก็คือมีการหลั่งเลือดขึ้น พวกเขาตั้งกองกำลังทหารของตัวเองขึ้นมา ชาวบ้านบางคนโดนหลอก ดังนั้นอินเดียจึงยากที่จะรักษาประเทศของตัวเองเอาไว้ได้ ตอนนี้ก็รอดได้แค่ชื่อ แม้แต่เมืองก็ยังสร้างขึ้นมาไม่ได้ เมื่อรวมกับการที่มีสัตว์อสูรโผล่ขึ้นมา เดาว่าคงมีคนรอดแค่เพียงไม่กี่คน”

“แอฟริกานั้นเพราะอยู่ห่างกันเกินไป ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนแปลงเราก็ไม่ค่อยติดต่อกับพวกเขาอยู่แล้ว เราจึงไม่รู้สถานการณ์อะไรมาก หลังจากที่โลกเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่ได้ติดต่ออะไรนัก ตอนนี้ถ้าไม่แข็งแกร่งพอ ก็ไม่อาจจะเดินทางตัดผ่านระยะทางที่ไกลแบบนั้นได้ แม้ว่าเราจะเป็นผู้ตรวจสอบ 4 ดาวและมีความสามารถพอตัว แต่ก็ไม่มีใครคิดจะไปตรวจสอบสถานการณ์ที่นั่น เราจึงไม่เข้าใจสถานการณ์ฝั่งอเมริกาใต้ได้ดีนัก ด้วยสภาพแวดล้อมของที่นั่นซึ่งเหมาะกับการให้กำเนิดและเติบโตของสัตว์อสูร เดาว่าสถานการณ์ก็ไม่น่าจะสู้ดี”

ฮวงเทียนเจวี๋ยนกระดกเหล้าเข้าไปแล้วสรุปออกมา “โดยรวมแล้วสถานการณ์มีแต่ไม่มั่นคงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากประเทศเราและฝั่งยุโรปแล้ว ประเทศและที่อื่นๆล้วนตกอยู่ในสภาพที่น่าอนาถ เราคนหัวเซี่ยแม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดี แต่ก็ยังมีหน้าที่รับผิดชอบในการเบิกทางสู่อนาคต เราจะกลายเป็นผู้บุกเบิก”

หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ คำพูดของฮวงเทียนเจวี๋ยนนั้นทำให้เขาพอเข้าใจสถานการณ์ของโลกในตอนนี้อย่างคร่าว ๆ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกกดดันมากกว่าเดิม

“ใช่สิ แล้วมิติลับบนโลกทั้งหมดล่ะ ? ลุงมีสถิติรึเปล่า ? ” หวังเย่ารู้ว่าคำถามนี้ดูโง่เง่าแต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “แม้แต่ในประเทศ พวกเรายังไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสถานการณ์ต่างประเทศเลย เราจะไปรู้ได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศอื่นบ้าง ? ฉันบอกนายได้แค่ว่ากว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ของโลกในตอนนี้ไม่ใช่ที่ของมนุษย์อีกต่อไป พวกมันคือที่ที่เราไม่รู้จักและต้องเข้าไปสำรวจใหม่”

หวังเย่าพยักหน้าตอบรับอีกครั้ง เขาเข้าใจว่ามีพื้นที่ไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นของมนุษย์นั่นรวมไปถึงพื้นที่รอบเมืองและพื้นที่เพาะปลูกแล้วด้วย ไกลออกไปนั้นคือสรวงสวรรค์ของสัตว์อสูร มนุษย์ไม่มีความสามารถและพลังมากพอที่จะก้าวเข้าไปที่นั่น

“แต่คำถามของนายน่ะฟังดูน่าสนใจ” จางจื้อเฉียงขัดขึ้นมา “เป็นที่รู้กันว่าตอนนี้มีโลกสวรรค์อยู่ 3 แห่ง ต่ำกว่าโลกสวรรค์ลงไปก็เป็นมิตินอกระดับ 8-9 ดาวและอื่น ๆ หากนายถามว่ามีมิติระดับโลกอยู่กี่แห่งในโลกนี้ งั้นฉันคงอาจจะพอตอบได้อยู่”

“หือ ? ” หวังเย่าเลิกคิ้ว

“จำนวนที่แน่ชัดนั้นแน่นอนว่าอาจจะไม่ถูกต้อง แต่ฉันเดาจากหลักเหตุผลโดยใช้หัวเซี่ยเป็นตัวอ้างอิง ยกตัวอย่างเช่นมีมิติระดับโลกในหัวเซี่ย 10 แห่ง โดยเฉลี่ยแล้วในพื้นที่ 1 ล้านตารางกิโลเมตร จะมีมิติโลกอยู่ 1 แห่ง พื้นที่ของโลกนั้นมีอย่างน้อย 500 ล้านตารางกิโลเมตร เดาคร่าว ๆ ได้ว่าคงมีอย่างน้อย 500 แห่งบนโลกนี้”

“500 แห่งเลยหรือ ? ” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีแปลกใจออกมา “มากขนาดนั้นเลยหรือ ? ! ”

ต้องรู้ก่อนว่ามิติ 5 ดาวนั้นมีพื้นที่ 10 ล้านตารางกิโลเมตรซึ่งมีขนาดเท่ากับประเทศหัวเซี่ยแล้ว

พื้นที่ของมิติ 6 ดาวเท่ากับทวีปเอเชีย

พื้นที่ของมิติ 7 ดาวเท่ากับครึ่งหนึ่งของโลก

พื้นที่ของมิติ 8 ดาวเท่ากับทั้งโลก

พื้นที่ของมิติ 9 ดาวเท่ากับโลก 2-3 ใบ

สำหรับโลกสวรรค์ทั้งสามในหัวเซี่ยนั้นยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้ ว่ากันว่ามีผู้ตรวจสอบเข้าใกล้ที่นั่นแต่ก็ไม่ได้เข้าไปด้านใน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้คำตอบ

ยิ่งไปกว่านั้นมิตินอกระดับโลกสวรรค์ทั้งสามที่ถูกพบบนโลก ส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเลรึเขตหวงห้ามที่มนุษย์ไม่กล้าเข้าไป ดังนั้นในอนาคตพวกเขาก็อาจจะค้นพบมิตินอกระดับโลกสวรรค์เพิ่ม

ตอนนี้โลกได้เชื่อมต่อกับโลกสวรรค์ซึ่งอย่างน้อยต้องมีขนาดเท่ากับโลกหลายพันใบรวมกัน นี่ยังไม่รวมมิตินอก 1-9 ดาวอีก…มันน่าเหลือเชื่อ

หวังเย่าไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าอนาคตของมนุษย์จะเป็นยังไงต่อ ความมั่นใจที่มาจากการมีระบบวิวัฒนาการสัตว์อสูรอยู่กับตัวต้องสั่นคลอน เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงนี้

ที่สำคัญกว่านั้นคือโลกนี้ก็แค่ดาวเคราะห์ในจักรวาล กิเลนไฟเหมือนจะบอกว่าเคยเดินทางในจักรวาลมาแล้ว และเคยเห็นดาวเคราะห์อื่นนอกจากโลกมาแล้ว

“ …” หวังเย่าส่ายหน้า อนาคตของโลกคือเรื่องสำคัญ

“หวังเย่า นายเป็นอะไรรึเปล่า ? ” ฟ่านฉิงเหมยเห็นท่าทีของหวังเย่าก็คิดว่าเขาคงคิดมากไปจึงถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ฉันแค่เมานิดหน่อย ” หวังเย่ายิ้มออกมา เขาไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อ เมื่อรู้สถานการณ์โดยรวมของโลกแล้ว มันก็เพียงพอที่เขาจะใช้เวลาอีกนานกว่าจะเข้าใจมัน

….

วันต่อมาผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนก็ได้ออกจากมิติลับไป พวกเขามีธุระมากมายให้ไปจัดการ การที่ใช้เวลา 3-4 วันที่นี่ก็ถือว่านานพอตัวแล้ว

ทหาร 4,000 คนยังคงอยู่ในมิติป่าดังเดิม พวกเขาใช้เวลานั้นเข้าไปในป่าเพื่อหากระดูกสัตว์อสูรเพื่อใช้มันเป็นอาหารให้กับพวกผึ้งแปดปีก

ชีวิตของหวังเย่ากลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง หลังจากทำความเข้าใจมาหลายวันในที่สุดเขาก็เข้าใจทักษะพายุสังหารส่วนที่ 4 ได้ และเริ่มฝึกฝนมัน

ทักษะพายุสังหารส่วนที่ 4 คือการเป็นหนึ่งเดียวกับสายลม ซึ่งมันจะทำให้เขาบินในระดับสูงได้และบินได้ไกลถึง 120 กิโลเมตร

นอกจากนี้แล้วโล่ลมก็ยกระดับขึ้นไปจากเดิม มันสามารถปกคลุมไปทั่วทั้งตัวและต้านทานได้ดีขึ้น

ที่สำคัญกว่านั้นคือการควบคุมพลังลมให้รวมตัวเป็นรูปร่างอย่างหอก, ดาบและอื่น ๆ ก็ทำได้ตามที่ใจคิด เขาสามารถสร้างดาบลมขึ้นมาและส่งไปฆ่าศัตรูที่อยู่ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตรได้

มันเหมือนกับลูกธนูไฟแต่ไม่ได้ทรงพลังเท่า ถึงอย่างนั้นมันก็สะดวกและสามารถใช้ได้ทันที

แน่นอนว่านี่คือขีดจำกัดของส่วนที่ 4 เขาต้องเชี่ยวชาญทักษะในส่วนนี้ทั้งหมดก่อน ถึงจะสามารถทำความเข้าใจในส่วนต่อไปได้

ในวันนั้นเองหวังเย่าและฟ่านฉิงเหมยก็ได้ออกจากมิติป่าไป พวกเขาตั้งใจจะกลับไปที่เมืองเพื่อพักผ่อนในวันชาติ