ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 31
เหล่าเสนาบดีล้วนหวาดกลัวฮองเฮา มู่หรงเจี๋ยต้องการให้องค์จักรพรรดินีมีผู้ช่วยเหลือเธออยู่ข้างหลัง เขาจึงพูดกับองค์จักรพรรดินีว่า องค์จักรพรรดิเหลียงได้รับยาพิษ และต้องพึ่งพาเธอในการรักษาตัว
เมื่อฮองเฮาได้ยินคำพูดของมู่หรงเจี๋ยก็ถามกลับด้วยความประหลาดใจว่า “ยาพิษ? ได้รับยาพิษอย่างไร? พิษร้ายแรงหรือไม่?”
ฮองเฮาถามออกไปโดยที่เธอไม่ห่วงชีวิตของเธอเลยสักนิดเดียว เธอสนใจเพียงแค่ยาพิษร้ายแรงหรือไม่ และเธอจะสามารถรักษาอาการขององค์จักรพรรดิเหลียงได้หรือไม่เท่านั้น
เซี่ยจื่ออานก้มศีรษะลงรับสั่งและตอบกลับว่า “เพื่อตอบแทนฮองเฮา ชีวิตหม่อมฉันไม่สำคัญหม่อมฉันเต็มใจรับใช้พระองค์เพคะ”
ฮองเฮาต้องการถามท่านยายของเธอ เพราะตอนนี้เธออยากรู้อาการขององค์จักรพรรดิเหลียง มากยิ่งกว่าสิ่งใด แต่เธอต้องกล้ำกลืนคำถามของเธอเอาไว้
เซี่ยจื่ออานบอกสภาพการขององค์จักรพรรดิเหลียง และตอบคำถามของท่านมู่หรงเจี๋ยว่า “องค์จักรพรรดิเหลียง มีอาการปอดอักเสบจากการกำเริบของโรคลมบ้าหมูที่สามารถเกิดขึ้นโดยง่ายเพคะ ตอนนี้ยังหาวิธีการรักษาไม่ได้ จึงทำให้เกิดน้ำลายและเลือดในกระเพาะอาหาร จึงทำให้กระเพาะอาหารเป็นกรดไหลย้อนเข้าหลอดลม และย้อนกลับมาเข้าปอดอีกครั้งเพคะ และทำให้ปอดติดเชื้อจนหายใจลำบาก ใบหน้าและริมฝีปากของท่านเป็นสีเขียว เกิดจากการขาดออกซิเจนในการหายใจ ซึ่งรักษาได้ยากมากเพคะ นอกจากว่าเราจะมีออกซิเจนที่เพียงพอ และยังต้องกำจัดเชื้อร้ายในปอดด้วยเพคะ”
หมอหลวงหลิวอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”
จื่ออานตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “สิ่งที่หมอหลวงไม่รู้นั้น ไม่ได้หมายความว่าไม่มีอยู่จริง”
หยวนพ่านได้ยินดังนั้นจึงตำหนิหมอหลิวหยูว่า “เจ้าเงียบไปเลย! เจ้าออกไปจากที่นี่เถอะ”
หลิวหยูแสดงอาการไม่พอใจ เขามองตรงไปที่ฮองเฮาและพูดว่า “ทูลฮองเฮา เรื่องที่นางพูด ไม่มีขุนนางคนใดเคยได้ยินมาก่อน แม้แต่หมอหลวงในปัจจุบันก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน เหล่าขุนนางจึงคิดว่า เพราะนางทำการรักษาไม่ถูกต้องจึงทำให้ องค์จักรพรรดิเหลียง…”
เมื่อมู่หรงเจี๋ยได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าที่โกรธจัดขึ้นทันที “เจ้าเพิ่งจะฝังเข็มให้องค์จักรพรรดิเหลียง เขาจึงมีอาการกำเริบอีกครั้งจนเกือบจะสวรรคต ถ้าเซี่ยจื่ออาน มาไม่ทัน ข้าเกรงว่าตอนนี้องค์จักรพรรดิเหลียงคงจะสวรรคตด้วยมือของเจ้าแล้ว นี่เจ้ายังกล้าที่จะพูดจามั่วซั่วอย่างนี้อีกหรือ?”
หมอหลวงหลิวตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่า “ท่านอ๋อง เหล่าขุนนางจัดตั้งขึ้นพร้อมรับใช้ฝ่าพระบาท องค์จักรพรรดิเหลียง พ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮารีบพูดขึ้นอย่างร้อนใจไม่เป็นสุขว่า “ถ้าหากเจ้ากำลังนึกถึงองค์จักรพรรดิเหลียง เจ้าจงเงียบเสียเถิด”
หลิวหยูเริ่มรู้ด้วยตัวเองว่าวันนี้คงยากที่จะรักษาชีวิตขององค์จักรพรรดิเหลียงให้หายเป็นปกติ เขาจึงเดินจากไปเสียก่อน
องค์รัชทายาทเฝ้ามองดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อคำพูดของจื่ออาน แต่สิ่งที่เขาได้ยินจากจื่ออาน เขาก็สรุปได้ว่าอาการขององค์จักรพรรดิเหลียงคงร้ายแรงมาก และบางที องค์จักรพรรดิเหลียงอาจจะสวรรคตก็ได้ องค์รัชทายาทคิดพลางแสดงสีหน้าพอใจออกมาเล็กน้อย
จื่ออานรู้สึกเกลียดชังหมอหลวงหลิวมากจริง ๆ ในฐานะหมอเขาไม่มีแม้แต่น้ำใจที่อย่างน้อยควรจะมีที่สุด เขาไม่มีความรู้สึกที่ต้องการจะช่วยโลกหรือความเมตตา คนแบบนี้ไม่ควรเป็นหมอเสียด้วยซ้ำ
ฮองเฮาถามจื่ออานว่า “โรคปอดอักเสบนี้เป็นอย่างไร? ต้องรักษาอย่างไร?”
จื่ออานคิดไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะหนึ่งแล้วตอบกลับท่านว่า “เรื่องแผนการรักษา เหล่าขุนนางทุกคนจะต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้งเพคะ”
สิ่งที่จื่ออานต้องทำความเข้าใจให้อย่างแจ่มแจ้งคือ เรื่องการพัฒนาทางการแพทย์แผนจีนในปัจจุบันว่าพัฒนามากน้อยแค่ไหนแล้ว รวมถึงเรื่องของการใช้ยาแผนจีนด้วย ดังนั้นเธอจึงเสนอเรื่องให้เหล่าขุนนางได้ปรึกษาหารือกัน
ฮองเฮามองดูเหล่าขุนนาง เหล่าขุนนางรีบโค้งคำนับและตอบกลับองค์จักรพรรดินีว่า “เหล่าขุนนางยินดีร่วมมือกันอย่างเต็มที่ พ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเจี๋ยถามจื่ออานว่า “อาการขององค์จักรพรรดิเหลียงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? ยังมีอาการกำเริบอยู่หรือไม่? หรือยังคงเป็นอันตรายอยู่หรือไม่?”
จื่ออานตอบกลับว่า “หม่อมฉันต้องรีบกลับไปหาองค์จักรพรรดิเหลียงเพคะ ตอนนี้สภาพการของพระองค์ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนมากเพคะ ปัญหาเรื่องการหายใจลำบากจำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็นสิ่งแรกเพคะ การที่สมองขาดอากาศเป็นเวลานานจะทำให้สมองได้รับความเสียหายเพคะ เมื่อเป็นเช่นนี้อาการจะกำเริบได้อีก เหล่าหมอหลวงจึงจะทำการฝังเข็มให้องค์จักรพรรดิเหลียงอีกครั้งเพื่อบรรเทาอาการหายใจลำบากของพระองค์ หลังจากนั้นจะทำการรักษาส่วนท่อหายใจ เพื่อให้พระองค์หายใจอย่างคงที่เพคะ”
“ทำการฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการหายใจลำบากหรือ?” ฮองเฮาขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน เพราะเมื่อครู่นี้หมอหลวงหลิวทำเช่นเดียวกันนั้น ก็ทำให้อาการกำเริบขึ้นถึงสองครั้ง
จื่ออานตอบกลับตามความจริงกับฮองเฮาว่า “ทูลฮองเฮา การฝังเข็มเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำเพคะ”
“ไม่ เจ้าทำการรักษาอย่างอื่นก่อน” ฮองเฮารู้สึกสับสนและหวั่นใจจึงออกคำสั่งว่า “ทำการรักษาส่วนท่อหายใจก่อน ส่วนอาการหายใจลำบาก เจ้าสั่งยาต้มได้”