ด้านนอกหอคอยขาว หลิงเหยายิ้มบางๆ เดินกลับไปช้าๆ อาจเป็นเพราะอารมณ์ดี ฝีเท้าของเธอดูมีความสุขมาก

ส่วนพวกลู่ฝานต้องอยู่ในหอคอยฝึกฝนหนึ่งชั่วยาม งั้นอีกชั่วยาม เธอค่อยกลับมาก็ได้

คนอื่นไม่รู้กฎของหอคอยฝึกฝน แต่หลิงเหยารู้เป็นอย่างดี ไม่ใช่สาเหตุอื่น อันที่จริงเธอเคยเข้าไปครั้งหนึ่ง หลิงเหยาไม่ใช่คนในอันดับบู๊ เธอไม่มีชื่อในอันดับบู๊ แต่ตอนที่ยอดฝีมือในอันดับบู๊ยังไม่สามารถเข้าไปได้ เธอโดนอาจารย์ของตัวเองพาเข้าไปเลือกเคล็ดวิชาบู๊

แน่นอนว่าหลิงเหยาไม่มีทางบอกคนอื่น

หลิงเหยายิ้มบางๆ เธอตบกระเป๋าใบเล็กของตัวเอง วันนี้ได้เหรียญทองมาเยอะ เธอจะไปซื้อของแวววาวระยิบระยับสักหน่อย

ขณะกำลังเดิน จู่ๆ มีคนเดินสวนมาสามคน

หลิงเหยาเห็นทั้งสามคน จึงชะงักฝีเท้าลง เธอรู้จักสองคนในนั้น

“ศิษย์พี่เยียนหราน”

หลิงเหยาพูดออกมา

ทั้งสามมาถึงตรงหน้าหลิงเหยา เยียนหรานที่อยู่ซ้ายสุดพูดว่า “ศิษย์น้องหลิงเหยา เธอก็มาดูหอคอยฝึกฝนเหรอ”

หลิงเหยาพยักหน้า พูดตอบรับ จากนั้นกวาดตามองสองคนที่เหลือ คนที่ยืนอยู่ตรงกลางคือเหลิ่งหาน ส่วนอีกคนเป็นผู้ชายใบหน้าซูบผอม เบ้าตาลึกลงไป สวมชุดคลุมยาวสีเทา เธอรู้จัก

เยียนหรานยิ้มแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องหลิงเหยาเธอน่าจะรู้จักศิษย์พี่เหลิ่งหานแล้ว อีกท่านคือ ศิษย์พี่หยู่ซินแห่งคณะหยินหยาง”

เมื่อได้ยินชื่อหยู่ซินสีหน้าหลิงเหยาตกใจเล็กน้อย

“ศิษย์พี่หยู่ซินที่ 21 ในอันดับบู๊เหรอ”

เหลิ่งหานพูดว่า “ใช่ คิดไม่ถึงว่าศิษย์น้องหลิงเหยาจะดูอันดับบู๊ในปีนี้ด้วย แต่ข้อมูลของศิษย์น้องหลิงเหยาดูเก่าไปหน่อยนะ อันที่จริงเมื่อกี้ศิษย์พี่หยู่ซินเอาชนะที่ 19 ศิษย์พี่หวงลูหลินแห่งคณะกระบี่ ดังนั้นตอนนี้ ศิษย์พี่หยู่ซินอยู่ 20 อันดับแรกแล้ว”

หลิงเหยามองหยู่ซินอย่างตกใจขึ้นอีก

แต่หยู่ซินกลับพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เหลิ่งหานอย่าพูดไร้สาระ ไอ้เด็กที่ทำลายชื่อเสียงคณะหยินหยางของเราอยู่ที่ไหน รีบให้ฉันจัดการเขา ก็จบแล้ว”

เหลิ่งหานยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ไกลครับๆ อยู่ในหอคอยฝึกฝน”

หยู่ซินพูดด้วยเสียงเย็นชา “หอคอยฝึกฝนเหรอ ในหอคอยห้ามฆ่ากัน”

เหลิ่งหานพูดว่า “ในหอคอยไม่ได้ งั้นก็นอกหอคอยสิ เพราะยังไงเขาก็ต้องออกมา”

หยู่ซินครุ่นคิด แล้วพูดว่า “โอเค งั้นรอเขาละกัน หวังว่าเขาจะมีฝีมืออย่างที่พวกนายพูด ถ้าอ่อนแอเกินไป ฉันจะจัดการพวกนายด้วย”

รอยยิ้มเหลิ่งหานกระอักกระอ่วนขึ้นทันที มองหยู่ซินแล้วพูดในใจว่า ไอ้คลั่งบู๊คนนี้รู้แต่การต่อสู้ คิดไม่ถึงว่าจะเล่นงานเขาด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะสู้นายไม่ได้ วันนี้ฉันคงตบนายไปแล้ว

หลิงเหยาขมวดคิ้ว พูดว่า “พวกพี่ไม่ได้หมายถึงลู่ฝานใช่ไหม เหลิ่งหาน ทำไมต้องให้คนมาทำร้ายลู่ฝาน”

สีหน้าหลิงเหยาดูโมโห เยียนหรานพูดว่า “ศิษย์น้องหลิงเหยา ลู่ฝานกับหานเฟิงแห่งคณะหนึ่งเดียวทำให้คณะหยินหยางต้องอับอาย คณะหยินหยางมาสั่งสอนพวกเขา เป็นเรื่องปกติ ทำไมเธอต้องโมโหด้วยล่ะ”

หลิงเหยาหน้าแดง “พวกเขาแข่งขันกันปกติ ต่อสู้กันปกติ อับอายก็เพราะคนคณะหยินหยาง หาเรื่องเอง ยิ่งไปกว่านั้น……ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาเป็นเพื่อนฉัน”

แววตาเหลิ่งหานเปลี่ยนไป เขาฟังน้ำเสียงผิดปกติของหลิงเหยาตอนพูดประโยคสุดท้ายออก

เยียนหรานพูดว่า “เพื่อนเหรอ ศิษย์น้องหลิงเหยา เธอเป็นเพื่อนกับพวกเขาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ อย่าบอกนะว่าหวั่นไหว”

หน้าหลิงเหยาแดงเป็นอย่างมาก สีหน้าเหลิ่งหานไม่สู้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะยิ่งหลิงเหยาเป็นแบบนี้ ยิ่งอธิบายว่าคำพูดของเยียนหรานเป็นจริง

คนที่คิดว่าหลิงเหยาเป็นของตัวเองมานานแล้วอย่างเหลิ่งหาน ไม่อยากให้ใครมาแย่งของตัวเอง จึงพูดอย่างเย็นชาว่า “ศิษย์น้องหลิงเหยา นี่เป็นเรื่องของคณะหยินหยางกับคณะหนึ่งเดียว ไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ในเมื่อศิษย์น้องหลิงเหยาเห็นพวกเขาเป็นเพื่อน ฉันจะได้ลงมือกับพวกเขาเบาลงหน่อย”

เหลิ่งหานเงียบไป แล้วพูดต่อ “แน่นอนว่า เพื่อเป็นการตอบแทน ฉันหวังว่าศิษย์น้องหลิงเหยาจะทานข้าวเที่ยงกับฉันสักมื้อ เงื่อนไขนี้ คงไม่เกินไปนะ”

หลิงเหยากัดฟันพูดว่า “ที่แท้หานเฟิงประเมินนายไม่ผิดเลยสักนิด”

จู่ๆ เหลิ่งหานยื่นมือไปหาหลิงเหยา จะดึงมือหลิงเหยา

หลิงเหยาปฏิกิริยารวดเร็ว ปัดมือเหลิ่งหานไปทางอื่น หยู่ซินที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “เป็นผู้หญิงที่เป็นตัวของตัวเอง เหลิ่งหานคณะหยินหยางของเรา ต้องการผู้หญิงสักคน ควรทำยังไง”

เหลิ่งหานหัวเราะเบาๆ “ผมรู้ครับ ศิษย์พี่หยู่ซิน”

เมื่อพูดจบ เหลิ่งหานยื่นมือออกมาทันที ใช้นิ้วแตะลงไปบนหัวไหล่หลิงเหยา พลังปราณอันแข็งแกร่งเข้าไปในตัวหลิงเหยา ทันใดนั้น หลิงเหยายืนอึ้งอยู่ที่เดิม

เหลิ่งหานยิ้ม แล้วมองหลิงเหยา “ขอโทษด้วยนะ แม่นางหลิงเหยา เธอคงต้องยืนดูข้างๆ แล้วล่ะ เยียนหราน ประคองศิษย์น้องของเธอ เราไปรอไอ้สองคนของคณะหนึ่งเดียวหน้าหอคอยขาวกัน”

เยียนหรานเดินเข้ามา ประคองตัวหลิงเหยา

แม้หลิงเหยาตัวแข็งทื่อ แต่ยังพูดได้ เธอกดเสียงต่ำพูดว่า “ศิษย์พี่เยียนหราน พี่เป็นพวกเดียวกับเขาเหรอ”

เยียนหรานใช้เสียงพูดแบบที่หลิงเหยาได้ยินเพียงคนเดียว “ศิษย์น้องหลิงเหยา อันที่จริง ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่ใครใช้ให้เธอมาแย่งความโดดเด่นของฉันล่ะ ใครใช้ให้เธอใกล้ชิดกับอาจารย์ขนาดนั้น เหมือนอาจารย์อู๋โฉวมีเธอเป็นศิษย์แค่คนเดียว ศิษย์น้องหลิงเหยา ทั้งหมดต้องโทษเธอ แต่รอให้ศิษย์พี่เหลิ่งหานจัดการเพื่อนสองคนนั้นของเธอ หลังจากได้ตัวเธอ เธอก็ข่มขู่ฉันไม่ได้แล้ว ฉันยังคงเป็นศิษย์พี่สามแห่งคณะสงบใจส่วนเธอก็ต้องเป็นศิษย์น้องที่เชื่อฟังฉัน”

หลิงเหยาปิดปาก ไม่พูดอะไรอีก

เยียนหรานหัวเราะเบาๆ ประคองหลิงเหยาเดินตามเหลิ่งหานกับหยู่ซินไป

……