บทที่ 244 อาจารย์เฉียวหายสงสัย

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนแสร้งทำตัวปกติขณะเดินเข้าไปหาเฉียวเหลียง เขายิ้มแล้วถามออกไป “เป็นไงบ้างครับ”

เฉียวเหลียงกำลังหมกมุ่นอยู่กับเกมเลยไม่ได้ตอบคำถามเผยเชียนทันที หลังจากเหม่อมองอีกฝ่ายอยู่สักพัก เขาก็ลุกขึ้นยืน “เอ่อ…ก็…”

อาจารย์เฉียวผู้ผ่านเกมสุดแหวกแนวมามากมายและทำคลิปรีวิวเกมออกมาหลากหลายคลิป ไม่รู้ว่าจะต้องตอบออกไปยังไงดี

เป็นไงบ้างเหรอ

ที่ติดใจสุดๆ คือความยากของเกมนี้ต้องตั้งค่ามาผิดแน่ๆ!

นักออกแบบเกมน่าจะตั้งค่าให้มอนสเตอร์มีพลังโจมตีมากเกินไป อาจจะเผลอใส่ศูนย์เกิน แต่นอกนั้นก็โอเคหมด

แต่พอเห็นเผยเชียนยิ้มให้อย่างอบอุ่น อาจารย์เฉียวก็ตอบออกไปอย่างนั้นไม่ได้

ตอนนี้บอสเผยคือนักออกแบบเกมชื่อดัง ไม่มีทางจะทำเรื่องผิดพลาดโง่ๆ แบบนั้นได้

ขนาดนักออกแบบระบบหน้าใหม่ยังไม่ค่อยทำพลาดในเรื่องง่ายๆ อย่างใส่เลขศูนย์มาเกิน เพราะการจะเป็นนักออกแบบระบบได้ ต้องมีความรู้เรื่องคณิตศาสตร์พื้นฐาน

ไม่เหมือนนักวางพล็อตที่แค่เขียนประโยคสวยๆ สักสองสามประโยคก็ได้งานแล้ว

ดังนั้นหลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่ง อาจารย์เฉียวก็ยังคิดหาคำตอบเหมาะๆ ไม่ได้

เขาเริ่มรู้สึกละอายใจขึ้นมาเล็กน้อย

เฉียวเหลียงนะเฉียวเหลียง ทำไมถึงมาเอ๋อช่วงสำคัญแบบนี้ได้!

บอสเผยอุตส่าห์เชิญฉันมาตั้งไกล ที่พักอาหารก็จัดหาให้อย่างดี เพราะมองว่าฉันเป็นเกมเมอร์มืออาชีพ เขาคงอยากจะรู้ว่าฉันคิดเห็นยังไง

แต่ถึงจะเล่นเกมไปตั้งหลายชั่วโมง ฉันก็ยังอธิบายความรู้สึกหลังจากเล่นไม่ได้เลยสักประโยค บอสเผยต้องผิดหวังแน่!

เฉียวเหลียงเริ่มรู้สึกขายหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

แต่เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหัวเราะ “ไปกินมื้อเย็นกันดีกว่าครับ คืนนี้เราจัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ยกใหญ่เลย!”

เผยเชียนไม่ได้โกรธเคืองเลยสักนิด เขาพอใจกับท่าทีของเฉียวเหลียงมาก

หมายความว่าอีกฝ่ายเบลอไปเลยหลังจากได้เล่นเกมกลับใจคือฟากฝั่ง และนั่นแหละคือสิ่งที่เผยเชียนอยากเห็น

ยังไงซะอาจารย์เฉียวก็ถือว่าเป็นเกมเมอร์ฝีมือดีในหมู่เกมเมอร์

ครั้งก่อนก็เล่นเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายได้จนจบ เป็นคนความพยายามสูงจริงๆ!

แน่นอนว่าที่เล่นได้จนจบส่วนหนึ่งก็เพราะต้องหาเงินเลี้ยงปากท้อง แต่ก็ดูถูกความอดทนและความสามารถในการจัดการกับความเครียดของอาจารย์เฉียวไม่ได้เลยจริงๆ

ตอนนี้อาจารย์เฉียวโดนเกมทรมานจนสมองเบลอ ถือว่ามาได้ถูกทางแล้วหรือเปล่านะ

พอเห็นท่าทีของอาจารย์เฉียว เผยเชียนก็พอจะจินตนาการออกว่าเกมเมอร์ทั่วไปจะมีทีท่ายังไง เขารู้สึกโล่งใจกับอนาคตของเกมกลับใจคือฟากฝั่งมากขึ้น

ครัวส่วนตัวหมิงหยุน

เผยเชียนเดินนำเฉียวเหลียงไปห้องส่วนตัวที่กว้างที่สุดในร้าน

การตกแต่งต่างๆ แตกต่างจากตอนกลางวัน ตอนนี้ทั้งห้องจัดแต่งตามเมนูที่ร้านจะเสิร์ฟในค่ำคืนนี้ แม้แต่โต๊ะอาหารและจานชามก็ยังจัดให้เข้ากับการตกแต่งด้วย

คืนนี้มีแค่เผยเชียนกับเฉียวเหลียง ไม่มีคนอื่นอีก

พนักงานคนอื่นๆ กำลังง่วนอยู่กับการดูแลกิจการมุ่งขาดทุนของบอสเผย มีแค่เผยเชียนเท่านั้นที่ไม่มีอะไรทำ เลยตัดสินใจพาเฉียวเหลียงมาเลี้ยงมื้อค่ำเป็นการส่วนตัว ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความเอาใจใส่

นอกจากนั้นแล้ว นี่ก็ไม่ใช่งานรับรองที่เป็นทางการอะไรมาก ถ้ามีคนมากกว่านี้อาจจะทำให้อึดอัดได้

บรรยากาศร้านดีมาก การบริการก็ยอดเยี่ยม

แม้แต่อาหารเรียกน้ำย่อยกับของว่างกินเล่นก่อนมื้อหลักก็อร่อยกว่าอาหารจานหลักของหลายๆ ร้านแล้ว

เฉียวเหลียงกินของว่างกับอาหารเรียกน้ำย่อยพลางพูดคุยกับเผยเชียน แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถูกคุกคาม

บอสเผยดีกับฉันเกินไปหรือเปล่านะ

ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ถ้ามีเรื่องไม่ชอบมาพากลแสดงว่าเจอมารผจญ ฉันเป็นแค่อัปโหลดมาสเตอร์ธรรมดา ทำไมบอสเผยต้องดูแลฉันดีขนาดนี้ด้วย

แอบวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า

เฉียวเหลียงรู้สึกว่ารอยยิ้มของบอสเผยมีอะไรแอบแฝงอยู่ มันไม่ใช่รอยยิ้มธรรมดาทั่วไป

“เล่นเกมไปถึงไหนแล้วครับ” เผยเชียนยิ้มระหว่างคีบอาหารเรียกน้ำย่อยเข้าปาก

เฉียวเหลียงตอบตามตรง “ไปถึงเมืองแล้วครับ”

โห เล่นผ่านหมู่บ้านเริ่มต้นแล้วเหรอ

ไม่เลวเลย คืบหน้าไปได้เร็วมาก

ดูเหมือนว่าอาจารย์เฉียวจะหัวไวและมีฝีมือเลยทีเดียว

เกมโหดๆ แบบนี้มักจะยากตอนแรกเริ่ม ถ้าอดทนเล่นไปสักพักก็จะเล่นได้ราบรื่นขึ้น

สิ่งสำคัญเลยคือต้องเปลี่ยนวิธีคิด

ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีคิดก็จะติดอยู่ที่หมู่บ้านเริ่มต้นไปตลอด

เกมกลับใจคือฟากฝั่งคล้ายเกมสไตล์ Souls เกมอื่นๆ ถูกออกแบบมาให้มอนสเตอร์ทุกตัวเกิดใหม่หลังตายไป ถ้าเป็นพวกใจร้อนคิดแต่จะรีบเล่นให้ผ่าน พยายามกี่ครั้งก็จะติดอยู่แค่ที่จุดเริ่มต้น

แต่ถ้าพยายามจับทางเกมแล้วค่อยๆ เล่นไปอย่างระมัดระวัง ก็จะสามารถเล่นผ่านไปได้เร็วขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเหลียงได้เล่นเกมแบบนี้ จึงไม่แปลกที่เขาจะรุดหน้าไปได้ช้าในช่วงเริ่มแรก

แต่แค่คิดว่าเฉียวเหลียงต้องทรมานอยู่หมู่บ้านเริ่มต้นถึงแปดชั่วโมง เผยเชียนก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หัวเราะออกมา

“คิดว่าส่วนไหนยากที่สุดในเกมเหรอครับ” เผยเชียนถามต่อ

เขาต้องปรับส่วนที่อาจารย์เฉียวคิดว่ายากที่สุดเพิ่มขึ้นไปอีก

แล้วก็ต้องปรับส่วนที่อาจารย์เฉียวคิดว่าง่ายเพิ่มขึ้นด้วย

เฉียวเหลียงตอบโดยไม่คิด “พลังโจมตีของมอนสเตอร์สูงเกินไปครับ”

“มีอย่างอื่นอีกมั้ยครับ” เผยเชียนไม่สนใจคำตอบนั้น

“อย่างอื่น…” เฉียวเหลียงครุ่นคิด แปดชั่วโมงแห่งความทุกข์ระทมปรากฏขึ้นในสายตา

มีทั้งตอนที่เขาหัวร้อนกับมอนสเตอร์ลูกกระจ๊อก ตอนโดนมอนสเตอร์รุม ตอนเดินไปตามทางแล้วจู่ๆ เจอมอนสเตอร์ล้อม ตอนเดินผ่านหน้าผาแล้วโดนมอนสเตอร์โผล่มาผลักตกลงไป…

การเดินทางแปดชั่วโมงเต็มไปด้วยน้ำตาและหยดเลือด!

เฉียวเหลียงรู้สึกเหมือนเป็นปลาบนเขียงที่กำลังโดนคนเชือด!

ไม่สิ โดนมอนสเตอร์เชือดต่างหาก!

ได้ฟังเฉียวเหลียงโอดครวญ เผยเชียนก็ได้แต่พยายามตีหน้าขรึม แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง เขาก็เห็นแค่สี่คำบนหน้าเฉียวเหลียง นั่นก็คือ ขอโหดกว่านี้!

เผยเชียนแสนเบิกบานใจเมื่อได้ฟังอาจารย์เฉียวอธิบายประสบการณ์แสนทุกข์ทรมานของตัวเอง

ทุ่มเงินทำเกมไปตั้งมากมายเพื่ออะไร

ก็เพื่อแค่นี้แหละ!

เฉียวเหลียงไม่ทันสังเกตสีหน้าแอบแฝงของบอสเผย เขามัวแต่จดจ่ออยู่กับการบรรยายความเจ็บปวดที่ผ่านมาและไม่สามารถหยุดตัวเองได้สักที

“ที่โหดสุดคือมอนสเตอร์ในหมู่บ้านที่เหมือนยามเฝ้าตอนกลางคืน มันมากันสองตัว ตัวหนึ่งถือฆ้อง อีกตัวถือไม้ตี มอนสเตอร์ทุกตัวจะตื่นเวลามันเดินผ่าน ต้องรอนานมากกว่าพวกมันจะกลับไปนอน ผมตั้งใจจะลอบฆ่ามัน แต่มันมีโคมไฟแล้วตาก็ดีมาก แทงผมครั้งเดียวเลือดหมดหลอดเลย ทุกครั้งที่คิดจะหนี พวกมันจะใช้อาวุธลับ ผมเลย…”

“พรืด”

เผยเชียนทนไม่ไหว หลุดหัวเราะออกมา

อาจารย์เฉียวอึ้งไป “มีอะไรเหรอครับบอสเผย”

เผยเชียนทำตัวไม่ถูก ฉิบหาย ดันทนไม่ไหว!

อาจารย์เฉียวจดจ่อกับการบรรยายมาก เขาเก็บหมดทุกรายละเอียด จนเผยเชียนนึกภาพยามถือโคมไฟฟาดเฉียวเหลียงตอนเจอหน้าได้ พอนึกตามแบบนั้น เผยเชียนก็ตีหน้าขรึมได้ยาก โชคดีที่อาหารมาเสิร์ฟพอดี

“ผมดีใจที่อาหารมาเสิร์ฟน่ะครับ เอ้า เต็มที่เลยครับอาจารย์เฉียว”

เผยเชียนรีบผลักจานซูชิหอยเม่นที่พนักงานเพิ่งจะวางลงบนโต๊ะไปทางอาจารย์เฉียว แล้วผายมือเชิญให้อีกฝ่ายกิน

เฉียวเหลียงรู้สึกไม่ชอบมาพากลหนักขึ้น

ท่าทีของบอสเผยดูแปลกๆ

ทำไมเขาดูมีความสุข

เหมือนจะพอใจมากที่ได้ยินว่าฉันโดนฆ่าเป็นผักปลาในเกมจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้

หรือบอสเผยจะเชิญฉันมาถึงที่นี่เพื่อดูฉันทรมาน

อาหารหรูบนโต๊ะนี่เพื่อจะปลอบใจฉันงั้นเหรอ

เฉียวเหลียงอดรู้สึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้

ถึงฉันจะเป็นแค่อัปโหลดมาสเตอร์ธรรมดาและเซ็นสัญญาเอาเงินแกมาแล้ว แต่ฉันก็เป็นคนมีหัวจิตหัวใจ มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง!

ถ้าเป็นตามที่ฉันคิด ถึงจะเซ็นสัญญาไปแล้ว ฉันก็จะต่อต้านอย่างสุดกำลัง จะแฉพฤติกรรมไร้ยางอายของแกลงอินเทอร์เน็ตเลย!

เฉียวเหลียงคิดในใจระหว่างคีบซูชิหอยเม่นเข้าปาก

“เอ๋ อร่อยจัง!”

หอยเม่นสดๆ เย็นๆ กับข้าวซูชิหอมอุ่นเป็นรสชาติอันแตกต่างที่ละลายในปาก รู้สึกเหมือนรสจูบอันดื่มด่ำ ต่อมรับรสของเฉียวเหลียงถูกซัดกระหน่ำด้วยรสชาติมากมาย

เขาเคยกินอาหารญี่ปุ่นที่ปักกิ่ง เห็นได้ชัดเลยว่านี่ไม่ใช่หอยเม่นธรรมดา!

หอยเม่นธรรมดาราคาค่อนข้างถูก แต่หอยเม่นเกรดดีอาจจะราคาสูงถึงหลักพัน

เป็นเหตุให้ตอนที่เซวียเจ๋อปินมาร้านตอนกลางวันและถามหาหอยเม่น พนักงานจึงตอบไปว่าต้องสั่งจองล่วงหน้า ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้เสิร์ฟหอยเม่นธรรมดาทั่วไป

ว่ากันตามตรง ตอนนั้นในครัวก็มีหอยเม่นอยู่ แต่เผยเชียนจองล่วงหน้าไว้สำหรับเลี้ยงเฉียวเหลียง จึงเอาไปเสิร์ฟเซวียเจ๋อปินไม่ได้

พอเห็นอาหารจานหรูบนโต๊ะ ความสงสัยที่มีในใจก็ละลายหายไปทันที

บอสเผยมองว่าฉันสำคัญเลยเลี้ยงอาหารดีๆ แบบนี้ ไม่มีทางที่จะเชิญฉันมาเพื่อดูฉันทรมานหรอก

ถ้าต้องทนทรมานเล่นเกมแล้วได้กินอาหารดีขนาดนี้ ก็บอกเลยว่า…โหดกว่านี้ก็ไหว!

เฉียวเหลียงตั้งมั่นในใจระหว่างดื่มด่ำกับอาหาร

“บอสเผยดีกับฉันขนาดนี้ ฉันต้องเล่นเกมอย่างจริงจังจนกว่าจะผ่าน จากนั้นก็ช่วยบอสเผยโฆษณาเกมนี้!”

“ขอบคุณที่เลี้ยงครับบอสเผย!” เฉียวเหลียงอยากจะกินต่อ แต่ท้องแน่นจนยัดเพิ่มไม่ไหวแล้ว

เขาสุขใจมากที่ได้กินอาหารหรูหรามากมาย!

อาจารย์เฉียวรู้สึกว่าแค่อาหารมื้อนี้ก็คุ้มค่ากับการเดินทางมาถึงจิงโจวแล้ว!

เผยเชียนไม่รู้เลยว่าอาจารย์เฉียวอารมณ์พลิกจากหน้ามื้อเป็นหลังมือระหว่างมื้ออาหาร เขาบอกให้เสี่ยวซุนไปส่งอาจารย์เฉียวที่โรงแรมแล้วค่อยกลับมารับตัวเอง

พอส่งเฉียวเหลียงเสร็จ เผยเชียนก็หันไปคุยกับหลินชั่นหรง เขาอยากจะถามถึงสถานการณ์ร้านในปัจจุบัน

มีโต๊ะเก้าอี้ตั้งอยู่ในสวนของวิลล่า ลมเย็นสบายยามค่ำคืนทำให้รู้สึกสดชื่น

“ช่วงนี้มีลูกค้าบ้างมั้ย”

ตั้งแต่จางจู่ถิงโพสต์เรื่องร้านลงเว่ยป๋อ เผยเชียนก็รู้สึกกระวนกระวายใจ ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกวางใจเรื่องครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้

หลินชั่นหรงเข้าใจทันที

ตอนแรกไม่มีลูกค้ามาร้านเลย ช่วงนี้เริ่มมีมาบ้างประปราย ชัดเจนว่ามีการโฆษณาครัวส่วนตัวหมิงหยุน แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้จักร้าน

บอสเผยน่าจะถามเรื่องจำนวนลูกค้าเพื่อประเมินประสิทธิภาพการโฆษณา

แล้วฉันจะตอบยังไงดีนะ

ตามหลักการแล้ว ถ้าจะประเมินประสิทธิภาพการโฆษณา หลินชั่นหรงต้องรายงานไปในด้านบวก แต่บอสเผยอาจจะคิดว่าเขาให้ข้อมูลผิดๆ ก็ได้

เพราะสองวันที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าไม่ถึงสิบคน แถมส่วนใหญ่เห็นเมนูก็หนีกันไปหมดแล้ว มีแค่สองสามคนที่อยู่สั่งอาหารกิน

ลูกค้าที่จะกลับมากินอีกรอบมีแค่ชายหนุ่มชื่อเซวียเจ๋อปินที่มาเมื่อตอนกลางวัน

แค่จำนวนลูกค้าก็บอกให้ดูดีไม่ได้แล้ว!

เห็นหลินชั่นหรงลังเลใจ มุมปากของเผยเชียนก็ผุดยิ้ม

ดีๆ หลินชั่นหรงดูลังเลที่จะรายงานสถานการณ์ ถือว่าเป็นข่าวดีมาก!

แสดงว่าโพสต์เว่ยป๋อของจางจู่ถิงไม่ได้ช่วยเรียกลูกค้ามากนัก ไม่ได้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นพรวดพราดขนาดนั้น