เป็นเสียงของหลิ่วอวี่เจ๋อ!

หวังเจียเหยาตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีทันที!

สีหน้านั้นเหมือนที่ตอนที่พบว่าตัวเองโดนเย่เฉินจับได้ว่าไปเปิดห้องที่โรงแรมกับฟางเชาไม่มีผิดเพี้ยน!

เย่เฉิน ‘โชคดี’ ที่ได้เห็นสีหน้าเดียวกันนี้จากหวังเจียเหยาอีกครั้ง!

เขาอดคิดถึงตอนนั้นไม่ได้ ภาพเหตุการณ์ที่พอเขาฝันถึงเมื่อไหร่ต้องสะดุ้งตื่นทุกครั้ง!

เพียงแต่ว่าครั้งก่อนเย่เฉินอยู่ที่ด้านนอกโรงแรม เขาเป็นคนที่โดนไล่

แต่คราวนี้เย่เฉินเป็นคนที่อยู่ในโรงแรม เขาในตอนนี้กลายเป็น ‘ฟางเชา’ ในตอนนั้นแทน !

เย่เฉินหันมองหวังเจียเหยา ตอนนี้หญิงสาวสวมชุดนอนสายเดี่ยวเบาบาง แต่งตัวยั่วยวนเปิดเผย

ถ้าหากว่าตอนนี้หลิ่วอวี่เจ๋อเข้ามาเห็นพวกเขาสองคน จะต้องเข้าใจไปว่าพวกเขาลอบคบหากันแน่!

หวังเจียเหยาย่อมคิดถึงจุดนี้เช่นกัน! ดังนั้นหล่อนจึงลนลานอย่างมาก!

ตอนนั้นที่หวังเจียเหยาถูกเย่เฉินจับได้ว่าแอบมีชู้ หล่อนเพียงแค่ตกใจเล็กน้อย แล้วในวินาทีต่อมาก็ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลับกันยังมาตำหนิเย่เฉินด้วย

แต่ว่าวันนี้กลับต่างกันออกไป หล่อนไม่มีทางตำหนิหลิ่วอวี่เจ๋อแน่นอน ในทันทีที่เขารู้ว่าหล่อนทรยศเขาล่ะก็ ตระกูลหลิ่วต้องไม่ปล่อยหล่อนไปแน่!

อีกทั้งทั้งตระกูลหวังของของหล่อนก็จะต้องพลอยซวยไปด้วย!

หวังเจียเหยารีบร้อนดึงเย่เฉินแล้วกล่าวเสียงเบา “เย่เฉิน สามีของฉันกลับมาแล้ว นายรีบไปหาที่หลบก่อนเร็ว เรื่องนี้อธิบายยาก ถ้าเขาเห็นเราสองคนในสภาพนี้จะต้องเข้าใจผิดแน่!”

เย่เฉินลังเลว่าจะช่วยหล่อนดีหรือไม่!

ที่จริงแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อตามตอแยหญิงสาวตอนที่พวกเขาสองคนกำลังเป็นสามีภรรยากัน เดิมเย่เฉินเองควรจะตอบสนองอีกฝ่ายด้วยการกระทำแบบเดียวกัน

แต่ถ้าหากว่าปล่อยให้หลิ่วอวี่เจ๋อเข้าใจผิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน เช่นนั้นแล้วหลิ่วอวี่เจ๋อจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกฉินหงเหยียนแน่นอน

พอถึงตอนนั้นแล้วถ้าฉินหงเหยียนถามเย่เฉินขึ้นมา แล้วเขาจะตอบหญิงสาวว่ายังไง?

ก็จริงอยู่ที่วันนี้เขาไม่ได้ทอำอะไรกับหวังเจียเหยา แต่วันนั้นล่ะ?

เขาไม่อาจะโกหกหญิงสาวได้ หากหล่อนรู้ว่าเขาทำเรื่องผิดต่อหล่อน ไม่เชื่อใจหล่อน หล่อนจะต้องเสียใจมากแน่!

“ขอร้องล่ะ” หวังเจียเหยามีท่าทีน่าสงสาร

ย่เฉินกล่าวพลางส่ายหน้า “ก็ได้”

ครั้งนี้เขาไม่ได้ทำไปเพื่อช่วยหวังเจียเหยา แต่เพื่อไม่ให้ฉินหงเหยียนเสียใจ!

ในที่สุดหวังเจียเหยาก็โล่งอก ลากเย่เฉินไปที่ข้างเตียงแล้วชี้ไปตรงนั้นพลางกล่าว “นายไปหลบใต้เตียงไป”

เย่เฉินรีบปฏิเสธทันควัน “ผมไม่หลบใต้เตียงพวกคุณนะ!”

ในสายตาเขานี่คือเรื่องน่าอายและดูหมิ่นศักดิ์ศรีกันอย่างมาก

“งั้นนายไปหลบในตู้เสื้อผ้าไปสิ”

หวังเจียเหยาจัดแจงยัดเขาเข้าไปในตู้เสื้อผ้า

“ที่รักครับ คุณอยู่ไหม?”

หลิ่วอวี่เจ๋อที่อยู่ด้านนอกเรียกภรรยาสาวอีกครั้ง

“เร็วๆ รีบเข้าไป”

หวังเจียเหยาเร่งรัดเขา โชคดีที่ตู้เสื้อผ้าห้องเพรสซิเดนท์สูทมีขนาดค่อนข้างใหญ่ เย่เฉินจึงสามารถซ่อนตัวได้อย่างง่ายดาย

“นายซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าไปก่อน อย่าเอะอะล่ะ ทุกคนจะได้ไม่ซวย”

หวังเจียเหยากำชับเย่เฉินอีกรอบ

“รู้แล้วน่า” เย่เฉินปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วซ่อนตัวอยู่ด้านในเงียบๆ

เมื่ออยู่ในพื้นที่มืดมิดเล็กๆ เย่เฉินก็โอดครวญในใจ “แม่งเอ้ย ฉันเป็นถึงคุณชายตระกูลเย่ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะต้องมาหลบในตู้เสื้อผ้าในห้องพักของโรมแรมคนอื่น แถมคนซ่อนยังเป็นภรรยาเจ้าของห้องอีกต่างหาก หมดคำจะพูด!”

ตอนนี้หวังเจียเหยาก้าวไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว

เพิ่งจะเปิดประตู หลิ่วอวี่เจ่อก็ย้อนถามอย่างหงุดหงิด “ทำไมนานจังกว่าจะเปิดประตู…”

แต่ยังไม่ทันพูดจบ เมื่อเห็นชุดของหวังเจียเหยา หลิ่วอวี่เจ๋อก็ตกตะลึงไป “ที่รัก…คุณสวยจังเลย”

หวังเจียเหยาตั้งใจแต่งตัวอย่างประณีตเพื่อจะลอบนัดพบกับเย่เฉิน ดังนั้นเกรงว่าต่อให้หลิ่วอวี่เจ๋อที่เห็นหล่อนทุกวันก็ยังต้องตกใจในความสวยของหญงสาว

“ที่รัก คุณซื้อชุดนอนตัวนี้เมื่อไหร่ครับ? ทำไมไม่เคยเห็นคุณใส่มาก่อนเลย?”

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวถาม

เย่เฉินที่หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้าได้ยินคำถามของหลิ่วอวี่เจ๋อ ลอบกล่าวกับตนเองในใจ

“ชุดตัวนี้เราเป็นคนซื้อให้หล่อนเอง หลังจากที่แต่งงานกับหมอนั้นแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ทิ้งแถมยังไม่เคยใส่ให้เขาดูมาก่อน”

เย่เฉินประหลาดใจเล็กน้อย

“แค่ก…” หวังเจียเหยาอึกอักเฉไฉถาม “ที่รัก ทำไมคุณกลับมาเช้าขนาดนี้? นี่มันเพิ่งสี่ทุ่มเอง พวกคุณจะกินเหล้ากันถึงเที่ยงคืนไม่ใช่เหรอ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อยังไม่อธิบาย แต่เมื่อเห็นหวังเจียเหยาที่สวยปานนางฟ้าก็ตรงดิ่งเข้าไปอุ้มหล่อน

“ว้าย นายจะทำอะไร ปล่อยฉันลงนะ”

หวังเจียเหยากลัวมาก เพราะหลิ่วอวี่เจ๋ออุ้มหล่อนพลางเดินเข้าไปด้านใน

ยิ่งเดินเข้าไปด้านในเท่าไหร่ก็ยิ่งใกล้เย่เฉินเข้าไปทุกที!

เย่เฉินสัมผัสได้ว่าสองคนนั้นกำลังเดินมาทางเขา! เขาเองก็เริ่มตึงเครียดขึ้นมา!

ทว่าเห็นได้ชัดว่าหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ได้สังเกตว่าเพิ่งมีผู้ชายคนอื่นเข้ามาในห้อง

เขาอุ้มหวังเจียเหยาเพียงเพื่อจะอุ้มหล่อนไปที่เตียงนอนเท่านั้น

แค่ได้ยินเสียงเย่เฉินก็เดาออกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อตั้งใจจะทำอะไร

ทว่าหวังเจียเหยากลับผลักสามีออกแล้วกล่าว “นายยังไม่ได้ตอบฉันเลยว่าทำไมกลับมาเร็วจัง”

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “ผมกลับมาเอาของ”

พูดจบก็จุมพิตแฟนสาวของตนเอง

“มาเอาของอะไร?” หวังเจียเหยายังคงผลักอีกฝ่ายออก

ชายหนุ่มตอบกำกวมอีกครั้ง “กุญแจ”

“กุญแจอะไร?” หวังเจียเหยาเซ้าซี้

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวว่า “กุญแจของสนามกอล์ฟอวี๋ซาน”

หวังเจียเหยาพอจะรู้ว่าหวังเจียเหยาและเพื่อนกลุ่มนั้นของเขามักจะไปตีกอล์ฟกันที่นั่น

“กุญแจอะไรของสนามกอล์ฟเหรอคะ?” หวังเจียเหยายังถามต่ออีก

หลิ่วอวี่เจ๋อดูอ้ำๆ อึ้งๆ อย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้จะทำยังไงเลยพูดต่อ

“ที่นั่นมีตู้ส่วนตัวของพวกเรา กุญแจอยู่ที่ผม พรุ่งนี้ข่ายจื่อจะกลับประเทศแต่เช้าไปเอาของในตู้ ดังนั้นผมเลยกลับมาเอากุญแจไปให้เขา”

หวังเจียเหยาดูมีท่าทีสงสัย “ตู้ส่วนตัวเหรอ? ใส่อะไรไว้เหรอคะ?”

ไม่ได้มีแค่หวังเจียเหยาที่สงสัย กระทั่งเย่เฉินเองก็ยังสงสัยเมื่อได้ยิน!

สนามกอล์ฟมีตู้ส่วนตัวอะไรกัน? ถึงจะมีทำไมพวกเขาหลายคนถึงใช้ร่วมกัน?

อีกทั้งกุญแจยังมีแค่ดอกเดียวแถมยังฝากไว้ที่คนๆ เดียว!

เย่เฉินเดาว่าหลิ่วอวี่เจ๋ออาจจะมีความลับที่บอกใครไม่ได้กับเพื่อนชาติชั่วพวกนั้น เขาเอาแต่ใช้วิธีสะอาดเพื่อทำให้หลิ่วอวี่เจ๋อโดนลงโทษ

ดังนั้นเย่เฉินจึงแง้มประตูตู้ออกเป็นรอยผ่านเล็กๆ เพื่อดูสีหน้าหลิ่วอวี่เจ๋อ

เย่เฉินเคยเรียนจิตวิทยาและอ่านสีหน้า เขาสามารถตัดสินได้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเป็นจริงหรือเท็จจากสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา!

หลิ่วอวี่เจ๋ออ้ำๆ อึ้งๆ “ก็พวกของแบรนด์เนมที่พวกเราเอามาจากที่ต่างๆ ทั่วโลก”

เย่เฉินตัดสินจากสีหน้าอีกฝ่ายว่าที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องโกหก!

“ดูแล้วหลังจากกลับไปคงต้องแอบไปรื้อตู้พวกเขาดู”

เย่เฉินลอบกล่าว

ในตอนนี้เขาดีใจมากที่เจอความลับของหลิ่วอวี่เจ๋อได้ขณะที่ซ่อนอยู่ในตู้!

แต่ความลับเล็กๆ นี้อาจจะสามารถล้มหลิ่วอวี่เจ๋อหรืออาจจะถึงขั้นล้มทั้งตระกูลหลิ่วได้เลย!

แต่ว่าในวินาทีนี้เขามองเห็นทั้งสองคนนั้นกำลังจุมพิตกันอย่างดูดดื่มผ่านทางรอยแยกของตู้