ตอนที่ 483 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (1) / ตอนที่ 484 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (2)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 483 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (1)

 

 

เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตัวเองจะมีลูก

 

 

ยิ่งไม่คาดคิด ว่าลูกของเธอจะอยู่ใกล้เธอขนาดนี้…

 

 

ใกล้ถึงขนาดที่เธอได้เจอหน้าทุกวัน แต่กลับไม่เคยคิดเลย ว่านั่นคือเลือดเนื้อเชื้อไข เป็นลูกสาวที่เธอให้กำเนิดเอง!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตัวสั่นไปทั้งตัว ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เลย

 

 

ทุกย่างก้าวเหมือนย่ำอยู่บนปุยฝ้าย

 

 

ไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าตัวเองออกจกธนาคารได้อย่างไร…

 

 

หญิงสาวกำรายงานดีเอ็มเอในมือแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูนโปน ไม่ยอมผ่อนแรงแม้สักน้อย

 

 

เพราะเธอกลัวว่าทุกอย่างตรงหน้าจะเป็นเพียงภาพลวงตา

 

 

ถ้าเธอปล่อยมือ ทุกอย่างจะหายโดยสิ้นเชิง

 

 

เธอลืมแม้กระทั่งเรียกรถแท็กซี่ ได้แต่ยืนอยู่ริมทางไม่ยอมขยับ

 

 

ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองมีลูก จนกระทั่งหาลูกสาวของตัวเองเจอ ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ หนึ่งวันเท่านั้น

 

 

แรงกระทบอย่างต่อเนื่อง ทำให้เหนียนเสี่ยวมู่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร…

 

 

ได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา เหมือนคนโง่ก็ไม่ปาน

 

 

ตรงหน้าปรากฏใบหน้ารูปไข่สะสวยของเสี่ยวลิ่วลิ่ว ที่กำลังโผเข้ามาในอ้อมกอดของเธอ พลางร้องเรียก ‘แม่คนสวย’

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา แล้วเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ก่อนจะบอกที่อยู่ของคฤหาสน์ตระกูลอวี๋กับคนขับรถอย่างรวดเร็ว

 

 

ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น

 

 

หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ครั้นเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอ เธอก็กดรับโดยไม่ต้องคิด

 

 

น้ำเสียงเหนื่อยล้าอยู่บ้างของถานเปิงเปิง ดังมาจากปลายสาย

 

 

“ฉันเพิ่งกลับจากเมืองนอกวันนี้ ก็เลยไปจัดการงานที่โรงพยาบาลก่อน ยุ่งจนลืมเปิดเครื่องไปเลย เพิ่งรู้ว่าเธอมาหาฉัน เป็นอะไรหรือเปล่า”

 

 

ครั้นได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เหนีนเสี่ยวมือก็กำรายงานตรวจดีเอ็นเอในมือแน่นทันที “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ฉันมีธุระ อยากเจอเธอเดี๋ยวนี้!”

 

 

“โรงพยาบาล” ถานเปิงเปิงตอบไปตามตรง และวางสายไปก่อน หลังจากที่พูดจบแล้ว

 

 

หญิงสาวถอนหายใจเสียงเบา และรีบเตือนคนขับ ให้เปลี่ยนทิศทางไปยังโรงพยาบาลที่ถานเปิงเปิงทำงานอยู่

 

 

ไม่นานเธอก็มาถึงโรงพยาบาล

 

 

เมื่อก่อนเหนียนเสี่ยวมู่มาหาถานเปิงเปิงที่โรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ จึงคุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี่มาก เมื่อทำบันทึกเยี่ยมเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินไปที่ห้องทำงานของถานเปิงเปิงอย่างราบรื่น

 

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เก็บรายงานตรวจดีเอ็นเอในมือไว้ในกระเป๋าถือ

 

 

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็ยื่นมือไปตีหน้าซีดเผือดของตัวเองเบาๆ ครั้นแน่ใจแล้วว่าตัวเองดูปกติดี ถึงจะยกมือขึ้นเคาะประตู

 

 

“เข้ามาค่ะ” เสียงเย็นชาของถานเปิงเปิงดังออกมาจากในห้องทำงาน

 

 

ทันใดนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดจากข้างใน

 

 

ถานเปิงเปิงมาเปิดประตูด้วยตัวเอง พอเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคือเหนียนเสี่ยวมู่ ใบหน้าที่มักไร้อารมณ์กลับแย้มยิ้มอย่างหาได้ยาก

 

 

จากนั้นเธอก็กอดเหนียนเสี่ยวมู่ครั้งหนึ่ง

 

 

“พอกลับมาปุ๊บเธอก็มาหาฉันเลย ดูท่าทางเธอคิดถึงฉันมากเลยนะ”

 

 

เมื่อทักทายกันเสร็จแล้ว ถานเปิงเปิงถึงจะปล่อยมือ แล้วกลับหลังกันเดินไปตรงหน้าโต๊ะทำงาน พร้อมกับดึงเก้าอี้มาตรงหน้า เพื่อให้เพื่อนสาวนั่งลง

 

 

ส่วนตัวเธอพิงขอบโต๊ะ สองมือกอดอก และหันมามองเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

“เธอบอกในสายว่ามีธุระ มีเรื่องด่วนอะไรถึงอยากเจอฉัน”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองคนตรงหน้า เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวแล้ว เธอก็เครียดขึ้นมาอยู่บ้างจริงๆ

 

 

เธอมีคำถามมากมาย และไม่รู้ว่าควรเริ่มถามจากตรงไหน

 

 

แต่พอสบสายตาสดใสของอีกฝ่าย ความกระวนกระวายใจพลันสงบลงทันที

 

 

“วันนี้ฉันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอื่นมา”

 

 

“…” ถานเปิงเปิงชะงัก ก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

 

 

แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวว่าปฏิกิริยาของตัวเองว่องไวเกินไป จึงยกแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นมาดื่มอึกหนึ่ง “ทำไมอยู่ๆ ถึงไปตรวจร่างกายล่ะ เธอเพิ่งตรวจกับฉันไปไม่ใช่เหรอ”

 

 

 

 

ตอนที่ 484 พีค! แม่ลูกรู้จักกัน! (2)

 

 

“เป็นการตรวจร่างกายตามที่บริษัทจัดให้” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบอย่างไม่คิด แต่สายตากลับจ้องมองสีหน้าของถานเปิงเปิงอยู่ตลอด

 

 

“เธอรู้ไหม ว่าหมอที่ตรวจร่างกายให้ฉัน พูดกับฉันว่าอะไรบ้าง”

 

 

“อะไรเหรอ” ถานเปิงเปิงวางแก้วลง ก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิท

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันเอ่ยปาก ถานเปิงเปิงก็พูดขึ้นมาก่อน “ความจริงแล้วเธอไม่ต้องใส่ใจมากหรอก ฉันระแวดระวังสภาพร่างกายของเธออยู่ตลอด เพราะร่างกายของเธออ่อนแอกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย แต่ไม่ส่งผลกระทบถึงชีวิตประจำวัน…”

 

 

“ฉันเคยมีลูก”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดในทันที ขัดจังหวะคำพูดของถานเปิงเปิง

 

 

ฝ่ายถานเปิงเปิงอ้าปากเล็กน้อย คำพูดที่ยังพูดไม่จบ จุกอยู่ในลำคอ

 

 

ครั้นสบสายตาสงสัยของเหนียนเสี่ยวมู่ เธอก็หยุดไปนานทีเดียว ถึงจะถอนหายใจออกมา “เธอรู้แล้ว”

 

 

“…”

 

 

ทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวพูดอย่างนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ก็ตัวสั่นในทันที!

 

 

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ

 

 

ตั้งแต่เธอรู้ว่าตัวเองเคยมีลูก เธอก็คิดมาโดยตลอด ว่าถานเปิงเปิงดูแลเธอมานานขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่อง!

 

 

ถานเปิงเปิงเก่งวิชาแพทย์ขนาดนั้น แถมยังเป็นหมอฝีมือดีที่รู้จักโดยทั่วไป และเป็นเพื่อนสนิทของเธอด้วย

 

 

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมเธอรู้แล้วถึงไม่บอกล่ะ

 

 

ถึงจะคาดเดาอย่างไร ก็เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น

 

 

ผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตเหนียนเสี่ยวมู่ไว้ ก็คือถานเปิงเปิง เธอจะตัดสินว่าอีกฝ่ายทำเรื่องที่ผิดต่อตน ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ถามอะไรไม่ได้

 

 

เธอจึงติดต่อถานเปิงเปิง และมาหาหญิงสาวถึงที่ในทันที

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อยากถามเธอด้วยตัวเอง ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

 

 

“เธอรู้นานแล้ว ว่าแผลบนท้องของฉันไม่ใช่แผลไฟลวกธรรมดา แต่เป็นแผลเป็นจากการผ่าคลอดใช่ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่อยากจะให้ตัวเองใจเย็นๆ แต่ก็ควบคุมความรู้สึกไม่ได้ตั้งแต่ทีแรกเสียแล้ว

 

 

หญิงสาวเห็นถานเปิงเปิงเป็นคนแรก หลังจากที่ตื่นขึ้นมา

 

 

เธอจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น

 

 

ข้างกายมีเพียงถานเปิงเปิง

 

 

หลายปีมานี้ ถานเปิงเปิงขายบ้านของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือเธอด้วยซ้ำไป จนเพื่อนคนนี้เหมือนเป็นครอบครัวของเธอไปแล้ว

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าคนที่ปิดบังเรื่องราวทั้งหมดได้ดีที่สุด จะเป็นคนที่เธอเชื่อใจมากที่สุด

 

 

“ใจเย็นๆ หน่อย”

 

 

ถานเปิงเปิงกดเธอกลับลงบนเก้าอี้ ก่อนจะรินน้ำให้แก้วหนึ่ง

 

 

ทว่าเหนียนเสี่ยวมู่กลับไม่รับไว้ เอาแต่ถลึงตามองอีกฝ่าย กำลังรอคำอธิบายจากเธอ

 

 

“ใช่ ฉันรู้นานแล้ว ตอนฉันเจอเธอ ทั้งตัวเธอมีแต่แผล แถมตอนที่ฉันตรวจให้เธอ ก็แปลกใจเหมือนกันที่รู้ว่าเธอเพิ่งคลอดลูก แผลผ่าตัดบนท้องยังไม่สมานดีเลยด้วยซ้ำ”

 

 

หลังจากนั่งลงที่ขอบโต๊ะอีกครั้ง ถานเปิงเปิงก็มีน้ำเสียงใจเย็นชาขึ้นบ้าง คล้ายกับนิสัยของเธอมากทีเดียว ก่อนจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตัวเองรู้อย่างละเอียด

 

 

“ตอนนั้นเธอเหลือลมหายใจสุดท้าย ฉันก็ไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ทำได้แค่ช่วยเธอไว้ก่อน พอดึงเธอกลับมาจากประตูนรกได้ ฉันก็ไปตรงที่เจอเธอ แล้วก็หาบริเวณรอบๆ นั้นด้วย แต่ไม่เห็นลูกของเธอเลย”

 

 

“ฉันขอให้เพื่อนร่วมงานที่โรงพยาบาลไปสอบถามด้วย ว่ามีคนเก็บหรือเห็นเด็กทารกอยู่แถวนั้นบ้างไหม ตามหาอยู่อย่างนั้นนานมาก แต่ก็ไม่เจออะไร”

 

 

“เรื่องราวหลังจากนั้นเธอก็รู้หมดแล้ว เธอสลบไปนานขนาดนั้น ตื่นมาแล้วก็ลืมเรื่องทุกอย่าง บวกกับสภาพร่างกายของเธอในตอนนั้น คงรับผลกระทบเรื่องที่เสียลูกไปไม่ได้…ฉันเป็นหมอ ก็เลยทำได้แค่ตัดสินใจทำเรื่องที่มีประโยชน์กับคนไข้มากที่สุด”

 

 

ถานเปิงเปิงถอดแว่นตาออก หลังจากที่พูดจบ แล้วมองเหนียนเสี่ยวมู่อย่างใจเย็น

 

 

“ถ้าเธอเป็นฉัน เธอจะทำยังไง”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กำหมัดแน่น พยายามหวนคิดถึงภาพในตอนนั้น แต่ในหัวมีเพียงภาพของเปลวเพลิงทั้งผืน

 

 

ใช่

 

 

แม้แต่เธอยังลืมลูกของตัวเอง ถานเปิงเปิงไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ แถมยังเจตนาดีช่วยคนแปลกหน้าไว้อีก แล้วมันผิดตรงไหนกัน…