เมื่อเผชิญกับศัตรูที่น่าหวาดกลัวมากขนาดนี้ คนของแก๊งมังกรครามต่างก็หวาดกลัวจนขาสั่น พวกเขาบางคนเริ่มวิ่งหนีโดยไร้แรงใจที่จะสู้ต่อ

ศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนี้พวกเขาจะรับมือไหวได้ยังไง?

หลังจากถูกช่วยเหลือ หวังเหยียนก็ได้มีเวลาพักหายใจจนพลังฟื้นฟูมาได้หลายส่วน

“น้องอวี้ ฉันขอบคุณมากจริง ๆ หากไม่ได้นายมาช่วยไว้ป่านนี้ฉันคงตายไปแล้วแน่ ๆ”

หวังเหยียนขอบคุณจากใจจริงเนื่องจากการมาของอีกฝ่ายมันหมายถึงว่าผลลัพธ์การต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาน่าจะชนะแน่นอนถึง 8 ส่วน

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าเล็กน้อยรับคำขอบคุณของอีกฝ่าย แต่แล้วเมื่อเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นโจวเฟยหู่ เขาจึงเอ่ยถามขึ้น

“โจวเฟยหู่ไปไหนซะล่ะ?”

“หัวหน้าโจวบุกข้ามกำแพงเข้ามาก่อนหน้านี้แล้วกับพวกของเราอีกหลายคนเพื่อไล่ตามคงเหอที่บาดเจ็บ หัวหน้าอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงไม่ฟื้นฟู แต่นี่มันก็เป็นเวลาสักพักแล้วที่ไม่มีข่าวคราวของเขาเลย ฉันว่ามันน่าจะมีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น”

หวังเหยียนตอบกลับ

“ทำไมนายไม่ห้ามเขา?” ชายหนุ่มถามกลับพลางขมวดคิ้ว

เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลในสายตาของเขาสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าโจวเฟยหู่จะเป็นหัวหน้าแก๊งแต่ก็ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในแก๊ง อย่าว่าแต่ฆ่าคงเหอเลย เอาแค่การฆ่าหยวนหลงก็ยังไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ ซึ่งเรื่องนี้หวังเหยียนก็น่าจะรู้ดีแต่ทำไมอีกฝ่ายกลับปล่อยให้หัวหน้าของตัวเองเข้ามาเสี่ยงชีวิตแบบนี้กัน?

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่คงเหอบาดเจ็บเพราะถูกพวกของโจวเฟยหู่รุมโจมตีก็ดูแปลกมาก เพราะคงเหอนั้นคือผู้บ่มเพาะขอบเขตก่อรากฐาน ซึ่งต่อให้คงเหอจะยังไม่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ พวกของโจวเฟยหู่ก็ไม่น่าจะมีความสามารถถึงขั้นทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้

เรื่องทั้งหมดนี้มันแปลกเกินไปจริง ๆ

“เมื่อครู่ฉันถูกรุมโจมตีจนไม่มีโอกาสห้ามหัวหน้าโจว น้องอวี้ ได้โปรดเข้าไปช่วยหัวหน้าโจวให้ฉันทีเถอะ!”

หวังเหยียนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า จากนั้นเขาก็เดินไปที่ประตูคฤหาสน์และต่อยมันจนประตูเหล็กหนามากกว่า 1 นิ้วพังกระจุยในทันที

อย่างไรก็ตาม เมื่อประตูคฤหาสน์ถูกทำลายลง อวี้ฮ่าวหรานจึงได้เห็นสภาพด้านในตัวคฤหาสน์ เขาสัมผัสได้ว่าที่ด้านในมีค่ายกลถูกวางเอาไว้อย่างแน่นหนา!

ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าด้านในมีค่ายกลถูกวางซุกซ่อนเอาไว้ อวี้ฮ่าวหราน ก็ยังคงเดินเข้าไปด้วยสีหน้าสงบนิ่ง เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ …ไม่จำเป็นต้องกลัวลูกไม้ใด ๆ ของคงเหอ!

หลังจากเดินผ่านโถงทางเดินไปเรื่อย ๆ อวี้ฮ่าวหรานก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังอยู่ข้างหน้า เขารีบวิ่งไปยังต้นเสียงทันที

ที่ห้องโถงใหญ่ของตัวคฤหาสน์ โจวเฟยหู่และคนของแก๊งพยัคฆ์เวหาอีก 4 – 5 คนกำลังถูกล้อมโดยคนของแก๊งมังกรครามเกือบ 20 คน

เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ไม่รีรอใด ๆ เขาพุ่งเข้าไปจัดการกับคนของแก๊งมังกรครามที่กำลังรุมล้อมพวกของโจวเฟยหู่ทันที!

“น้องอวี้! ในที่สุดนายก็มา!”

เมื่อโจวเฟยหู่เห็นอวี้ฮ่าวหราน เขารีบทักทายด้วยสีหน้าเบิกบานทันที การปรากฏตัวของชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งคนนี้ทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานยังไม่ได้ทักทายกลับอีกฝ่าย เขามัวง่วนอยู่กับการจัดการคนของแก๊งมังกรครามที่เหลือในห้องโถงและทำลายค่ายกลที่ถูกวางซ่อนเอาไว้

ในเวลาไม่เกิน 30 วินาที อวี้ฮ่าวหรานก็ขจัดภัยคุกคามทั้งหมดได้จนหมด

“ฮ่า ๆ สุดยอดไปเลย! น้องอวี้ นายนี่แข็งแกร่งสุดยอดจริง ๆ!”

โจวเฟยหู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมออกมาถึงแม้ว่าเขาจะมีบาดแผลเต็มตัว

วันนี้หากอวี้ฮ่าวหรานไม่มาช่วย เขาเองก็คงไม่อาจเอาชนะแก๊งมังกรครามได้อย่างแน่นอน และมันจะกลายเป็นวันที่เขาพบกับจุดจบแทน

ดังนั้นเขาจึงดีใจเป็นอย่างมากที่ตัดสินใจได้ถูกต้องในการรักษาความสัมพันธ์กับอวี้ฮ่าวหรานเอาไว้ตั้งแต่แรก!

อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้สนใจอะไรหมดในตอนนี้ ในทางกลับกันเขาเอ่ยถามเกี่ยวกับหยวนหลงและคงเหอแทน

“คนทั้งคู่นั่นอยู่ที่ไหน?”

ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะจัดการกับต้นตอของปัญหาแล้ว เขาจึงอยากที่จะทำมันให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

เมื่อได้ยินคำถามนี้ โจวเฟยหู่ก็ชี้ไปที่หลังประตูบานใหญ่ทันทีและพูดว่า “หลังประตูนั่นคือทางลงไปห้องใต้ดินของคฤหาสน์ ไอ้ทั้งสองคนนั้นมันอยู่ที่นั่น แต่น้องอวี้นายต้องระวังเอาไว้ให้มากเพราะจากข้อมูลที่ฉันได้มา ห้องใต้ดินหลังประตูนั่นเป็นสถานที่ ๆ ถูกเรียกว่าห้องประหาร!”

แน่นอนว่าอวี้ฮ่าวหรานไม่ได้สนใจชื่ออันไร้สาระที่พวกมนุษย์เหล่านี้ตั้งให้กับสถานที่กบดานของตัวเอง เขาวิ่งไปที่ประตูและถีบมันจนพังพินาศทันที!

แต่แล้วเมื่อเดินพ้นประตูที่พังพินาศและเดินลงบันไดไปได้จนสุด อวี้ฮ่าวหราน โจวเฟยหู่ และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกงุนงงกับภาพที่เห็น

พวกเขาทั้งหมดเห็นว่าหยวนหลงไม่ได้พยายามซ่อนตัวเลย ที่ใจกลางของห้องใต้ดินขนาดใหญ่ที่โล่งกว้าง หยวนหลงนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าสงบนิ่งจนน่าประหลาดใจ

ทั่วทั้งห้องใต้ดินขนาดใหญ่ไม่มีห้องเล็กแยกหรือเสาใด ๆ ดังนั้นทุกคนจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าขณะนี้หยวนหลงอยู่ที่นี่แค่เพียงคนเดียว

เมื่อเห็นเช่นนี้ โจวเฟยหู่ขมวดคิ้วแน่น เขารู้ดีว่าหยวนหลงเป็นคนเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ดังนั้นการที่อีกฝ่ายนั่งรอพวกเขาแบบนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดี

“น้องอวี้ ฉันว่าแบบนี้ไม่ค่อยเข้าท่าสักเท่าไหร่แล้ว หยวนหลงมันจะต้องวางแผนอะไรไว้สักอย่างแน่นอน คนเจ้าเล่ห์อย่างมันไม่มีทางยอมนั่งอยู่เฉย ๆ รอให้เราจับตัวมันได้ง่าย ๆ แน่นอน”

หลังจากได้ยินประโยคนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็ใช้เนตรเทวะกวาดมองไปทั่วบริเวณซึ่งเขาก็ยืนยันได้ในเวลาไม่นานว่าขณะนี้ หยวนหลง อยู่ที่นี่แค่เพียงคนเดียวจริง ๆ

“คงเหอไม่ได้อยู่ที่นี่ มีบางอย่างไม่ถูกต้อง”

“มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันเห็นกับตาเลยว่าก่อนหน้านี้คงเหอหนีเข้ามาในตัวคฤหาสน์จริง ๆ!”

โจวเฟยหู่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

ในขณะเดียวกัน หยวนหลงก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นและเอ่ยด้วยสีหน้าสงบ “ในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดก็มาถึงจุดนี้ นี่เป็นจุดจบที่ฉันไม่เคยคาดคิดเอาไว้เลย อวี้ฮ่าวหราน แกรู้หรือเปล่าว่าหากไม่ใช่เพราะแก ป่านนี้ไอ้โจวเฟยหู่กับพวกของมันคงตายไปแล้ว และหลังจากนี้แก๊งของฉันจะยึดทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของแก๊งพยัคฆ์เวหา ซึ่งมันหมายถึงว่าแก๊งของฉันจะกลายเป็นแก๊งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่วยอัน! แต่แก…เป็นเพราะแกคนเดียวที่ทำให้แผนของฉันพังพินาศ!”

ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ สีหน้าของหยวนหลงจากที่สงบนิ่งก็เริ่มกลายเป็นบ้าคลั่ง ผิดหวัง และเคียดแค้น…

อย่างไรก็ตาม อวี้ฮ่าวหรานไม่ได้ใส่ใจกับสีหน้าหรืออาการสติหลุดของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย เพราะเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าขณะนี้อีกฝ่ายกำลังพยายามถ่วงเวลาเขาอยู่ต่างหาก!

“เลิกพูดจาไร้สาระแล้วรีบ ๆ บอกฉันมาว่าไอ้แก่คงเหอนั่นมันอยู่ที่ไหนตอนนี้จะดีกว่า!”

“อยากรู้ว่าอาจารย์ของฉันอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ? ฮ่า ๆ อวี้ฮ่าวหราน…มันสายไปแล้วโว้ย ตอนนี้แกแก้ไขอะไรไม่ทันอีกแล้ว!”

หลังจากพูดจบประโยค หยวนหลงก็หยิบรีโมทอันหนึ่งขึ้นมาแล้วกดปุ่มทันที!

“โครม!!”

เสียงของกลไกดังลั่นขึ้น และหลังจากนั้นทางออกที่พวกของอวี้ฮ่าวหรานเพิ่งเดินเข้ามาก็มีกรงเหล็กที่ทั้งหนาและหนักหล่นลงมาปิดทางเอาไว้!