ตอนที่ 843 ไม่ใช่วิธีการในแบบฉบับถังหนิง

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“ด้วยการให้ความสนใจในตัวซิงหลานที่ล้นหลามในตอนนี้ จากที่เห็นไห่รุ่ยสามารถเซ็นสัญญากับเธอได้อย่างง่ายดายเลยนะครับ” ฟังอวี้เอ่ยกับโม่ถิงเป็นการส่วนตัว “ถ้าเป็นอย่างนั้น ผู้บริหารระดับสูงก็จะเลิกกดดันถังหนิงนะครับ”

 

 

“ยังไม่ถึงเวลาหรอก” โม่ถิงตอบกลับ แม้ว่าในตอนนี้ซิงหลานจะได้รับความสนใจมาก แต่เธอยังมีศักยภาพที่จะไปได้ไกลกว่านี้ อีกอย่างซิงหลานเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของจู้ซิงมีเดีย หากจู้ซิงมีเดียยังไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชน ก็ยังไม่เหมาะสมที่ซิงหลานจะย้ายมาอยู่สังกัดไห่รุ่ยในเร็วๆ นี้

 

 

เมื่อได้ยินคำตอบของโม่ถิง ฟังอวี้ก็หลุดขำออกมา “ถังหนิงนี่มุ่งมั่นดีนะครับ แต่ว่ายังมีคนที่มีความสามารถมากมายในวงการนี้ที่ถูกมองข้ามไป เธอจะช่วยพวกเขาทั้งหมดได้เหรอครับ ทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะทำให้วงการบันเทิงมีความเป็นธรรม ในเมื่อมันขึ้นอยู่กับโชคชะตามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

 

 

โม่ถิงเงยหน้าและเหลือบมองอีกฝ่าย “นั้นไม่ใช่เรื่องของนายสักหน่อย…”

 

 

ฟังอวี้ยักไหล่ให้อย่างไม่แปลกใจนัก

 

 

เหล่าสื่อมวลชนกำลังแย่งชิงตัวซิงหลานและเอเจนซี่ชื่อดังหลายแห่งก็กำลังตามจีบเธอด้วยข้อเสนอดีๆ หากซิงหลานไม่อาจทนสิ่งล่อใจและหนีไปอยู่กับเอเจนซี่อื่น ถังหนิงจะไม่ถูกทิ้งโดยไม่เหลืออะไรหรือ

 

 

ความกังวลของฟังอวี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่ว่าอย่างไรก็มีคนบางคนติดต่อพ่อแม่หลี่เป็นการส่วนตัว…

 

 

…และซิงหลานตกเป็นผู้ถูกกระทำ…

 

 

หลังจากกลับมาที่บ้าน โม่ถิงบอกภรรยาของเขาเรื่องความเป็นห่วงของฟังอวี้ “สิ่งที่ฟังอวี้เป็นห่วงก็น่าคิดอยู่นะครับ คุณต้องจัดการกับเรื่องนี้อย่างระมัดระวังด้วย”

 

 

ถังหนิงหัวเราะและวางลูกชายของตัวเองในอ้อมแขนของโม่ถิง ก่อนเอ่ยพร้อมเลิกคิ้วขึ้น “ทั้งซิงหลานกับลัวเซิงรู้ว่าพวกเขาจะไม่เหลืออะไรเลยถ้าทิ้งจู้ซิงมีเดียไป เพราะไม่มีใครในโลกนี้จะยินดีช่วยคนที่ล้มเหลวนอกจากฉันค่ะ”

 

 

“คุณมั่นใจอย่างนั้นเหรอครับ” โม่ถิงจ้องเข้าไปในดวงตาของถังหนิงขณะที่เชยคางของเธอขึ้น

 

 

แววตาแฝงความหมายที่ฉายออกมาผ่านดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและปรารถนา

 

 

“ความมั่นใจของฉันมาจากความจริงที่ฉันมีสามีที่ไม่มีใครเทียบได้ค่ะ” ถังหนิงตอบอย่างภาคภูมิใจ “คุณคือราชาแห่งวงการบันเทิง ฉันก็ต้องเป็นราชีนีผู้ทรงอิทธิพลสิคะ อย่างนั้นเราถึงจะสามารถปกป้องอาณาจักรที่เราทั้งคู่พยายามรักษาไว้ได้”

 

 

“แล้วเจ้าตัวป่วนสองคนนี้ล่ะ” โม่ถิงถามพลางก้มมองเจ้าตัวแสบในอ้อมแขนที่กำลังดึงเลื้อเขาอยู่

 

 

“พวกเขาเป็นลูกของเรา ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการค่ะ…”

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันซิงหลานทะยานขึ้นมามีชื่อเสียงโด่งดังเพราะเหตุการณ์นี้

 

 

นี่เป็นผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายของซิงหลานไปโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดต้องขอบคุณการวางแผนเบื้องหลังที่รอบคอบของถังหนิง ไม่อย่างนั้นซิงหลานคงยังเป็นได้แค่ครูสอนดนตรีที่ถูกข่มขู่แน่

 

 

ซิงหลานรู้ว่ามีเอเจนซี่หลายแห่งมาตามหาตัวเธอเพื่อติดต่อขอเซ็นสัญญาด้วย ทั้งเข้ามาแบบโจ่งแจ้งและแอบเป็นความลับ เพราะหลินเฉี่ยนไม่ได้ปิดบังและเอาสัญญาทุกฉบับมายื่นให้ต่อหน้าเธอ

 

 

“ตอนนี้คุณกำลังไปได้สวย ถ้าคุณอยากจะเซ็นสัญญากับเอเจนซี่อื่น คุณก็ลองพิจารณาสัญญาพวกนี้ได้เลยค่ะ”

 

 

ทว่าซิงหลานกลับไม่ได้ปรายตามองพวกมันสักฉบับและกวาดมือดันไปข้างๆ “พี่หนิงให้โอกาสครั้งที่สองในชีวิตกับฉัน มันจึงเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้ตอบแทนเธอค่ะ”

 

 

“คุณต้องคิดให้ดีๆ นะคะ ตามที่พี่หนิงสั่งมา เธอต้องการให้คุณเข้าประกวดต่อและคว้าถ้วยรางวัลมาให้ได้ นั้นเป็นทางที่ดีที่สุดที่จะพิสูจน์ตัวเองค่ะ”

 

 

“ฉันก็คิดดีแล้วเช่นกันค่ะ ฉันไม่ต้องการใช้ทางลัดและพลาดโอกาสแสดงศักยภาพของฉันค่ะ” ซิงหลานว่าขึ้นอย่างมั่นใจ

 

 

“ดีค่ะ อย่างนั้นต่อไปนี้ คุณควรตั้งใจกับการแข่งขันรอบต่อไปนะคะ” หลินเฉี่ยนพยักหน้า

 

 

“ฉันจะทำให้ดีที่สุดค่ะ”

 

 

ซิงหลานกลับไปเข้าร่วมประกวดในเวลาถัดมา ทว่าด้วยชื่อเสียงของเธอจึงมีผู้สื่อข่าวตามติดไปทุกที่ที่เธอไป

 

 

เมื่อผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเห็นดังนั้น พวกเขาจึงไม่พอใจนัก ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นต้นเหตุของเรื่องวุ่นวาย เธอเลยได้รับความสนใจมากกว่าคนอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ นี่มันไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าประกวดคนอื่นไม่ใช่หรือ

 

 

ผู้เข้าแข่งขันบางคนจึงรวมตัวกันเพื่อร้องเรียนผู้จัดงานเป็นการตอบโต้

 

 

หากแต่ซิงหลานไม่ได้ทำผิดกฎแต่อย่างใด จึงไม่มีเหตุผลที่ทางผู้จัดรายการจะขอให้เธอถอนตัวจากการประกวด

 

 

“เธอมีโอกาสที่จะได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ดีๆ ทำไมเธอยังมาแข่งกับเราอีกล่ะ”

 

 

“ฉันรู้ ใช่ไหมล่ะ หรือเธอพยายามแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนมุ่งมั่นกันนะ”

 

 

“เธอคิดว่าตัวเองจะได้ที่หนึ่งจริงๆ น่ะเหรอ”

 

 

“ฉันไม่เคยเห็นคนเห็นแก่ตัวอย่างเธอมาก่อนเลย…”

 

 

ซิงหลานไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ เธอรู้แค่อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าพวกเขาไม่ชอบหน้าเธอขึ้นมา ด้วยแววตาที่แฝงการเย้ยหยันและตัดสินของพวกเขาให้เธอรู้สึกไม่สบายใจนัก

 

 

“ซิงหลาน เราได้ยินมาว่าเธอไม่ยอมรับข้อเสนอจากเอเจนซี่ชื่อดังเหรอ ทำไมล่ะ พวกเขาดีไม่พอสำหรับเธอเหรอ” หนึ่งในผู้เข้าประกวดถามซิงหลานในระหว่างการประชุมกับทีมผู้จัด “ทุกคนคิดว่าเธอมีความสามารถที่จะแจ้งเกิดได้แล้ว แล้วทำไมเธอถึงยังมาดิ้นรนอยู่ที่นี่กับพวกเราล่ะ”

 

 

“เอเจนซี่ของฉันคือจู้ซิงมีเดีย ฉันไม่อยากย้ายไปที่อื่น”

 

 

“แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของพวกเขาเลยนะ”

 

 

ซิงหลานส่งยิ้มให้โดยไม่ได้อธิบายอะไร

 

 

ไม่นานบทสนทนาก็กลับกลายเป็นว่าซิงหลานปฏิเสธคำเชิญจากเอเจนซี่หลายแห่งและการที่เธอคิดว่าตัวเองจะได้อยู่ในอันดับสูงในการประกวด

 

 

“ซิงหลานคนนี้ช่างอวดดีจริงๆ!”

 

 

“ฉันไม่รู้ว่าเธอไปอวดดีเรื่องอะไรนะ หลังจากผ่านช่วงนี้ไปเธอก็จะเป็นแค่ผู้เข้าแข่งขันทั่วไปนั่นแหละ”

 

 

ในไม่ช้าข่าวที่ว่าซิงหลานทำตัวหยิ่งก่อนที่จะได้แจ้งเกิดก็เริ่มแพร่สะพัดออกไป

 

 

สื่อมวลชนหาโอกาสที่สัมภาษณ์เรื่องนี้กับซิงหลานไม่ได้ แต่พวกเขาได้ยินข่าวลือมามากมายและคิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ

 

 

ระหว่างช่วงเวลานี้ แม้ว่าซิงหลานจะตกอยู่ท่ามกลางข่าวลือ ทว่าการคัดออกจากหนึ่งร้อยคนเหลือหกสิบสี่คนก็ได้กระชั้นชิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 

 

แม้ถังหนิงจะไม่ได้บอกให้หลินเฉี่ยนออกมาแก้ไขข่าวลือ แต่ข่าวใหญ่ก็กำลังจะถูกปล่อยออกมา

 

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ถังหนิงได้บอกให้หลงเจี่ยนัดคุยกับลัวเซิง

 

 

การดูแลคนหนึ่งโดยไม่ใส่ใจอีกคนไม่ใช่วิธีในแบบฉบับของถังหนิง

 

 

แม้ว่าความจริงแล้วลัวเซิงจะไม่ได้รู้สึกไม่เป็นธรรมที่ถังหนิงให้ความสนใจกับซิงหลานมากกว่า ด้วยว่าอย่างไรเขาเองก็รู้จุดยืนของตัวเองดี

 

 

กระนั้นเขาก็ยังคงตื่นเต้นที่จะได้เจอถังหนิงไม่น้อย

 

 

“พี่หนิงครับ ผมมาถึงทุกวันนี้ได้เพราะคุณ แม้ว่าจะเป็นแค่นักแสดงสมทบแต่ผมก็คว้างานใหญ่มาด้วยตัวเองได้ พวกเขาจะประกาศกับสาธารณชนเร็วๆ นี้ล่ะครับ ผมจะตั้งใจทำงานเพื่อคุณครับ! …

 

 

“ผมชอบที่ได้ทำงานอย่างเอาจริงเอาจังและไม่เอาแต่พึ่งพาคนอื่นครับ อีกอย่างผมก็รู้สึกว่าการแสดงค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลย ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ต่อให้ฝีมือของผมไปไม่ถึงระดับคุณผมก็จะเอาคุณเป็นแบบอย่างและตั้งใจทำให้ดีที่สุดครับ”

 

 

“อีกไม่นานทุกคนบนโลกจะรู้จักจู้ซิงมีเดีย พวกเขาจะรู้ว่าเรายอมรับแต่คนที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ใครก็ได้”

 

 

คำพูดของถังหนิงได้จุดประกายให้กับลัวเซิงขึ้นมาก เพราะเขารู้ว่าถังหนิงจะยอมรับคนที่มีความสามารถแต่ไม่ได้รับโอกาสที่จะเฉิดฉาย

 

 

ถังหนิงได้ให้โอกาสครั้งที่สองกับคนที่คิดว่าเส้นทางอาชีพของพวกเขาได้จบลงแล้ว!

 

 

“ผมเชื่อว่าจู้ซิงมีเดียจะถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์เหมือนอย่างไห่รุ่ย”