บทที่ 47 หนานว่านเยียน ไสหัวกลับลานของเจ้าไป

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

อดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 47 หนานว่านเยียน ไสหัวกลับลานของเจ้าไป
ทุกคนยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหนานหว่านเยียน ทันทีหลังจากนั้นก็เห็นหยุนอี่ว์โหรวล้มลงอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว มองดูหนานหว่านเยียนที่อยู่ตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก

ในชั่วพริบตาเมื่อครู่นี้ หยุนอี่ว์โหรวต้องการจะสาดน้ำชามาบนร่างกายของตัวเอง หนานหว่านเยียนผลักนางออกไปด้วยปฏิกิริยาตอบสนองที่ว่องไว น้ำชาสาดอยู่บนพื้น ถ้วยชากับหยุนอี่ว์โหรวก็ล้มอยู่บนล้มลงบนพื้น

แต่การกระทำนี้รวดเร็วอย่างมาก เร็วจนไม่มีใครสังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร

หนานหว่านเยียนเม้มริมฝีปาก ท่าทางเศร้าเสียใจ

“ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้ว่าท่านรักพระชายารองมากเป็นพิเศษ เดิมทีหม่อมฉันคิดว่าท่านมีความสุขก็พอ และไม่เคยขัดขวางการแต่งงานของท่านกับคนรักเลย แต่ว่าท่านอ๋อง ท่านลำเอียงเข้าข้างพระชายารอง พระชายารองก็สามารถอาศัยว่าเป็นคนโปรดแล้วจะทำตัวโอหังได้หรือ สามารถรังแกนายหญิงผู้ครองเรือนอย่างไม่มีความยำเกรงใดๆเลยหรือ? !”

สีหน้าของกู้โม่หานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาก็รู้เช่นกันว่าถ้วยชาที่หกเมื่อครู่นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนานหว่านเยียน แต่ตอนนี้ หนานหว่านเยียนผู้หญิงคนนี้กลับถือโอกาสแสดงความคิดเห็น? !

ในเวลาปกติไม่เคยได้ยินนางแทนตัวเอง ตอนนี้กลับใช้หม่อมฉันทุกคำ ฟังแล้วขยะแขยงอย่างมาก!

หยุนอี่ว์โหรวลนลานทำอะไรไม่ถูก นางคิดไม่ถึงเลยว่าหนานหว่านเยียนจะชิงลงมือก่อน

แต่นางตอบสนองกลับมาทันที ร้องไห้เสียใจอย่างมากในชั่วพริบตา

“ท่านอ๋อง ท่านอย่าตำหนิพระชายา เพราะข้าไม่ดีเอง ข้าไม่ได้ยกถ้วยชาให้ดี ถึงได้ทำให้น้ำชาสาดเต็มพื้น พระชายาไม่ได้จงใจทำหก……”

นางตกตะลึงในวิธีการของหนานหว่านเยียนก็จริง แต่นางคือใคร หาเรื่องได้รอได้แถมยังสามารถอดทนได้อีก นางคิดหาทางตอบโต้ได้ในทันที

หนานหว่านเยียนมองดูหยุนอี่ว์โหรวด้วยความตกตะลึง ราวกับได้ยินคำพูดที่ไม่น่าเชื่ออะไรเข้า “เดิมทีก็เป็นเจ้าที่ยกไม่มั่นคงเอง ไม่ยอมรับผิดก็ช่างมันเถอะ ทำไมเจ้ายังย้อนกลับมาเล่นงานข้าได้?”

ความประทับใจที่บรรดาแขกเหรื่อมีต่อหยุนอี่ว์โหรวลดลงอย่างมากทันที

“ใช่แล้ว พระชายาก็ไม่ได้พูดอะไรนี่นา คุณหนูโหรวกล่าวหาโดยเจตนาและไม่เจตนาเช่นนี้ เพราะเหตุใดล่ะ?”

“ใช่ๆ พระชายาใจกว้างขนาดนี้ ก็ไม่ได้กล่าวตำหนิ เพียงแค่รู้สึกไม่ยุติธรรมเท่านั้น กลับเป็นคุณหนูโหรวเอง แม้แต่เรื่องเล็กๆอย่างการยกน้ำชาแสดงความเคารพยังทำได้ไม่ดี ยังมาโทษพระชายาอีก!”

“ดูท่าพระชายาอี้มีลักษณะท่าทางของนายหญิงผู้ครองเรือน ส่วนคุณหนูโหรว เฮ้อ ร้องไห้สะอึกสะอื้น ดูใจแคบเกินไป!”

ทุกคนพูดคนละคำสองคำ ราวกับมีดแหลมคมนับพันนับหมื่นเล่ม แทงเจ้าไปในใจของหยุนอี่ว์โหรวอย่างแรง นางกำหมัดเอาไว้แน่น ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือว่าไม่ร้องดี มองไปทางกู้โม่หานด้วยความน้อยใจ

กู้โม่หานดูอย่างกระวนกระวายใจ แต่ติดอยู่ที่ว่าหลี่มามาก็อยู่ในเหตุการณ์ และเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของหยุนอี่ว์โหรวจริงๆ

ดัวนั้นเขาจึงไม่ได้เอ่ยปาก อี่ว์โหรวจะได้ไม่ถูกคนวิจารณ์

หลี่มามามองดูเงียบๆอยู่ด้านข้าง จำทุกสิ่งทุกอย่างนี้เอาไว้ในใจเงียบๆ

“ท่านอ๋อง หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าไม่ได้รับความโปรดปราน วันนี้อยู่ในเรือนเซียงหลิน ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง แต่ใครจะรู้ว่า……”

หนานหว่านเยียนชมความบังเทิงไม่กลัวเรื่องบานปลาย กระพือให้เรื่องราวใหญ่โตต่อไป พูดจบประโยคหนึ่งก็ก้มหน้าก้มตานิ่งเงียบไป

ในที่สุด ก็มีบางคนถูกปลุกปั่นขึ้นมา “ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้ มัน……ไม่เหมาะสมจริงๆ”

“ใช่แล้ว ท่านอ๋อง อย่างไรคุณหนูโหรวก็เป็นสนม และพระชายาต่างหากที่เป็นภรรยาเอกของท่าน ไม่ว่าด้วยอารมณ์หรือหลักเหตุผล ท่านควรจะให้ความสำคัญกับพระชายามากกว่า”

หนานหว่านเยียนควบคุมความคิดเห็นของสาธารณชนเอาไว้อย่างดี การทำลายล้างในครั้งนี้ทำได้ค่อนข้างสวยงาม! นางพึงพอใจอย่างยิ่ง!

และในเวลานี้ คนที่จวนแม่ทัพส่งมาแสดงความยินดีก็มาถึงจวนอ๋อง

คนที่มาคือลูกชายอนุภรรยาของหยุนเจิ้นซง พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของหยุนอี่ว์โหรว——หยุนโม่หลาน

ทันทีที่หยุนโม่หลานเข้าประตูมา ก็ได้ยินแขกเหรื่อพวกนี้ซ้ำเติมหยุนอี่ว์โหรว

คนหนุ่มสาวจิตใจฮึกเหิม บวกกับหยุนอี่ว์โหรวคือคนของจวนแม่ทัพ เขาจึงรู้สึกว่าหนานหว่านเยียนจงใจทำให้หยุนอี่ว์โหรวลำบากใจโดยสัญชาตญาณ!

เขาเดินเข้ามาในห้องโถงด้านหน้าด้วยลักษณะท่าทางดุดัน ชี้ไปที่หนานหว่านเยียนแล้วกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึมเฉียบขาด: “พระชายาอี้ อี่ว์โหรวเป็นคนของจวนแม่ทัพ ท่านทำให้อับอายเช่นนี้ ทำเกินไปหรือเปล่า? !”

หยุนอี่ว์โหรวเห็นคนที่มา ในดวงตาฉายแววความประหลาดใจ นางเรียกออกมาอย่างอ่อนแรง “พี่ชาย……”

หยุนโม่หลานมองดูท่าทางที่ได้รับความอัปยศอดสูสารพัดของนาง ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น ตวาดใส่หนานหว่านเยียนด้วยความโกรธทันที “หนานหว่านเยียน เจ้าไม่เห็นจวนแม่ทัพอยู่ในสายตาจริงๆใช่ไหม! ผู้หญิงจิตใจโหดเหี้ยมชั่วร้าย เจ้ามันไร้ยางอายชัดๆ!”

นับตั้งแต่เขาปรากฏตัว บนใบหน้าของหนานหว่านเยียนมั่นคงสงบนิ่งอยู่ตลอด

หยุนโม่หลานคือพี่ชายลูกพี่ลูกน้องที่แสนดีของหยุนอี่ว์โหรว คือคนโง่ไร้สมองที่ชอบออกหน้าแทนสาวงามที่สุด! ร่างเดิมก็เคยได้รับความลำบากจากเขาไม่น้อยเช่นกัน

นางลุกขึ้นมา ยิ้มอย่างเย็นชา “ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดคุณชายรองหยุนถึงได้กล่าวเช่นนี้? กล้าถามทุกท่าน ในจวนอ๋องแห่งนี้ ใครที่เป็นนายหญิงผู้ครองเรือน?”

ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ย่อมคือท่านอยู่แล้ว”

“งั้นหรือ?” หนานหว่านเยียนทำหน้าประหลาดใจ “วันนี้ท่าทีของพระชายารองกับคุณชายรองหยุน ข้ายังนึกว่าข้าเป็นเพียงสาวใช้ของจวนอ๋อง ใครๆก็สามารถเหยียบย่ำให้อับอายได้ตามใจเท่านั้น คุณชายของจวนแม่ทัพถึงขั้นสามารถเรียกชื่อจริงของข้าได้ เกรงว่า ไม่เห็นข้าเป็นพระชายาอี้ใช่ไหม?”

“หรือว่าตระกูลหยุนของพวกเจ้าเต็มไปด้วยคนที่หยิ่งยโสไม่เห็นใครอยู่ในสายตา? หรือว่าพระชายารองรู้สึกว่าวันหนึ่งจะมาแทนที่ตำแหน่งของข้า? คิดว่าข้าไม่คู่ควรจะได้รับความเคารพนับถือของพวกเจ้า?”

หยุนอี่ว์โหรวตัวสั่นขึ้นมาทันที ในดวงตาแสดงความหวาดกลัว นางคิดไม่ถึงเลยว่าหนานหว่านเยียนจะพูดเช่นนี้ นี่มันไม่ยึดตามหลักเหตุผลทั่วไปเลยชัดๆ!

นางรีบร้อนส่ายหน้า “ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน……”

“พอได้แล้ว!” ในที่สุดกู้โม่หานก็ทนไม่ไหว สะบัดชุดแต่งงานอย่างแรง ลุกขึ้นเดินไปถึงหน้าหยุนอี่ว์โหรว แล้วกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน

“หนานหว่านเยียน! ข้าทนเจ้ามานานมากพอแล้ว เจ้าจะทำอะไรกันแน่!”

หนานหว่านเยียนยิ้มเย้ยหยันในใจ กู้โม่หานปฏิบัติต่อหยุนอี่ว์โหรวอย่างอ่อนโยน แต่กับร่างเดิมกลับเกลียดชังจนถึงตอนนี้ สร้างเวรสร้างกรรมจริงๆ

แต่เบื้องหน้านางกลับตาแดงขึ้นมากะทันหัน กัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น ดูเหมือนน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างมาก

ทุกคนมองเห็นสีหน้าท่าทางของหนานหว่านเยียน ต่างก็รู้ดีแก่ใจ

อ๋องอี้ลำเอียงเข้าข้างพระชายารอง มีเจตนาหลงใหลอนุละเลยภรรยาเล็กน้อย แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดอะไร

แม้แต่หลี่มามาก็ไม่ได้พูดอะไร

เห็นดังนั้น กู้โม่หานยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา เขารู้อยู่แล้วว่ามีหนานหว่านเยียนอยู่ งานแต่งงานของเขาในครั้งนี้ก็ไม่มีทางดีแน่นอน!

มองดูท่าทางกล้ำกลืนความไม่ธรรมเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่ายของนาง ควบคุมทุกคนเอาไว้ได้อย่างสิ้นเชิง วิธีการนี้ทำให้เขารู้สึกละอายใจที่ด้อยกว่าจริงๆ!

หนานหว่านเยียนเป็นคนที่กล้ายกหม้อขึ้นทุบหัวของเขาแท้ๆ เป็นผู้หญิงที่ถึงขั้นกล้าตบหน้าเขาด้วยซ้ำ นางจะรู้สึกน้อยใจเพราะถูกเขาด่าสองสามคำหรือ? !

เสแสร้งออกมาทั้งนั้น! ก็เพื่อไม่ให้เขาได้อยู่ดีมีความสุข!

เขาใบหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธ ดวงตาที่แดงก่ำแฝงไปด้วยความกระหายเลือด “หนานหว่านเยียน! เล่นพอแล้วก็ไสหัวกลับเรือนเซียงหลินของเจ้าไป!”