บทที่ 217 การต่อสู้อันดุเดือดกับคาเมดะอิจิโร่

เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ

แม้ปากของเย่เทียนเฉินจะพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ แต่การเคลื่อนไหวในมือก็ไม่ได้เชื่องช้าลงเลย และในใจก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ชายชุดดำหลังค่อมคนนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงกับเคลื่อนย้ายมาอยู่ด้านหลังเขาในเวลาเพียงชั่วพริบตาและซัดหมัดมายังศีรษะของเขาได้ โจมตีหวังเอาชีวิต

บางทีคนอื่นอาจจะดูไม่ออก แต่เย่เทียนเฉินนั้นเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง หากไม่ใช่เพราะเขารีดเร้นพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันจนถึงขั้นสูงสุดออกมาเพื่อบีบบังคับให้หญ้าสยบกายาออกมาจากร่าง ทำให้พลังพิเศษแห่งการรับรู้แผ่ขยายออกไปจนถึงขั้นที่สามารถตรวจพบแม้แต่เสียงหญ้าขยับ มิฉะนั้นคงยากที่จะป้องกันหมัดของชายชราคนนี้

“ประเทศจีนถึงกับมีคนรุ่นหลังที่มีฝีมือแข็งแกร่งแบบแกออกมา ทำให้ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ท่าทางจำเป็นต้องฆ่าคนที่นี่ให้หมดทุกคนแล้ว!” ชายชุดดำหลังค่อมมองไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดออกมาอย่างเรียบเฉย

“ไอ้แก่ แกจะพูดจาโอหังเกินไปหรือเปล่า? จะตายเหรอ? แกมั่นใจว่าสามารถฆ่าพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้หรือไง?” เย่เทียนเฉินพูดออกมาอย่างไม่พอใจ

 “ผู้อาวุโสคาเมดะ อย่ามัวแต่พูดกับไอ้เด็กนี่อยู่เลย มันฆ่าคนของพวกเรา มันจะต้องตาย!” หนึ่งในมือสังหารชั้นยอดที่เหลืออีกสองคนพูดพลางมองไปยังเย่เทียนเฉินอย่างโหดเหี้ยม

ในบริเวณนี้ยังมีนักฆ่าชุดดำอีกสามคน แต่ทางฝั่งของเย่เทียนเฉิน นอกจากเย่เทียนเฉินแล้วก็เหลือเพียงเฮยเมี่ยนที่ยังมีแรงต่อสู้ แต่เฮยเมี่ยนก็ได้รับบาดเจ็บไปจำนวนหนึ่งท่าทางจะต้องไม่สามารถป้องกันการลอบสังหารของนักฆ่าชั้นยอดที่เหลืออีกสองคนได้อย่างแน่นอน นานไปจะต้องตายโดยไม่ต้องสงสัยเลย

“หึ แต่ไหนแต่ไรก็ไม่มีใครที่ฉันคาเมดะฆ่าไม่ได้ แกฆ่ายอดฝีมือรุ่นเยาว์ของสำนักโฮคุชินอิตโตริวของฉัน จะต้องไม่มีชีวิตอยู่เพื่อดูพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้แน่!” ทันใดนั้นสายตาของชายชุดดำหลังค่อมเปลี่ยนไปเป็นโหดเหี้ยมดุร้าย จ้องมองไปยังเย่เทียนเฉินเขม็ง

ในช่วงเวลาเป็นตาย เย่เทียนเฉินพบว่ารอบๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั่วทั้งท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝนเลือดตกลงมา น่าหวาดผวาเป็นอย่างมาก หากเป็นคนปกติที่ได้มาเห็น เกรงว่าจิตใจจะต้องแหลกสลายไปอย่างแน่นอน และจะต้องตกใจจนตายทั้งเป็น เพียงแต่น่าเสียดายที่ภาพลวงตาของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวของคาเมดะอิจิโร่ใช้กับคู่ต่อสู้ผิดคน เย่เทียนเฉินเป็นผู้ที่ได้มาเกิดใหม่จากช่วงยุคสิ้นโลก ที่นั่นเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดและพิลึกมากมาย เป็นโลกที่คนกินคนโดยสิ้นเชิง ภูเขาศพทะเลเลือดไม่นับว่าเป็นอะไรได้ เป็นเรื่องที่พบเห็นได้อย่างปกติมาก

ผัวะ!

ร่างกายของเย่เทียนเฉินสะท้านขึ้นครั้งหนึ่ง ใช้พลังพิเศษกำจัดภาพลวงตาของคาเมดะอิจิโร่ ในขณะเดียวกันก็ใช้หมัดปล่อยไปยังคาเมดะอิจิโร่ด้วยความเร็วหาใดเปรียบ ทุกคนที่เห็นต่างก็ต้องตกตะลึง โดยเฉพาะมือสังหารชั้นยอดอีกสองคนที่เหลือที่ไม่กล้าเชื่อโดยสิ้นเชิง ในสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว คาเมดะอิจิโร่มีฐานะเป็นผู้อาวุโสซึ่งเป็นตำแหน่งที่เป็นตัวแปรสำคัญ มิหนำซ้ำความแข็งแกร่งของเขา นอกจากจะแข็งแกร่งในด้านความสามารถแล้ว ยังมีวิชาหลวงตาอันร้ายกาจที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครทำลายได้ เมื่อตกลงสู่ภาพลวงตาของคาเมดะอิจิโร่ ก็จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินไม่เพียงจะทำลายภาพลวงตาของคาเมดะอิจิโร่ได้ แต่ยังสามารถโจมตีกลับโดยใช้หมัดซัดไปยังคาเมดะอิจิโร่อย่างรุนแรงและว่องไวได้อีกด้วย

ปัง!

เสียงหนึ่งดังสนั่น คาเมดะอิจิโร่และเย่เทียนเฉินโจมตีปะทะกันอีกครั้ง เพียงแต่การโจมตีนี้ไม่ใช่หมัดปะทะหมัด คาเมดะอิจิโร่ซัดฝ่ามือออกไป เดิมทีระยะห่างระหว่างเขากับเย่เทียนเฉินก็ห่างกันเพียงหนึ่งเมตรเท่านั้น ทั้งสองโจมตีใส่กันอีกครั้ง ครั้งนี้คาเมดะอิจิโร่ถอยหลังไปสามสี่ก้าว คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มชาวจีนเบื้องหน้าจะมีฝีมือแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ดูท่าเมื่อสักครู่เขาจะแค่ลองเชิงตนเองเท่านั้น

“เฮยเมี่ยน แกยังทนได้อีกสักพักหรือเปล่า? ฉันจะกำจัดไอ้แก่นี่ก่อนแล้วค่อยไปช่วยแก!” เย่เทียนเฉินมองเฮยเมี่ยน พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

“บิดายังไม่ถึงคราวที่ต้องให้แกมาช่วย แกฆ่าไอ้แก่นั่นให้ได้จะดีกว่า ถ้าฆ่าไม่ได้รออีกสักครู่ฉันจะไปช่วยแก!” เฮยเมี่ยนพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

“งั้นก็ดี!”

เย่เทียนเฉินเพิ่งจะพูดจบ ฝ่ามือทั้งสองก็ห่อหุ้มไปด้วยพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชัน ยิ่งไปกว่านั้นยังเตรียมที่จะใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษที่แข็งแกร่งออกไปได้ทุกเมื่อ ความสามารถของคาเมดะอิจิโร่ที่อยู่เบื้องหน้ายังเหนือกว่าจางอีเต๋ออีก ไม่อาจลำพองใจได้โดยเด็ดขาด เย่เทียนเฉินไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าจะสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้ ทำได้เพียงโผทะยานตัวเข้าไปอย่างเต็มกำลังเท่านั้น

ตู้มๆๆ…

ทุกคนถูกการต่อสู้ของเย่เทียนเฉินและคาเมดะอิจิโร่ทำเอาตกตะลึง รวมไปถึงการต่อสู้ของเฮยเมี่ยนและนักฆ่าฉันยอดอีกสองคนนั้นด้วย เนื่องจากในตอนนี้ชายวัยรุ่นชาวจีนถึงกับสามารถต่อสู้สูสีได้กับผู้อาวุโสคาเมดะอิจิโร่ที่ใช้ความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้คนอื่นตกใจจนพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ เย่เทียนเฉินและคาเมดะอิจิโร่แต่ก็ไม่ได้ใช้กระบวนท่าที่มีความสามารถในการสังหารแข็งแกร่งอะไรออกมา เย่เทียนเฉินก็ไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษ คาเมดะอิจิโร่ก็ไม่ได้ใช้กระบวนสังหารของสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริว ทั้งสองใช้เพียงหมัดเปล่าๆ ต่อสู้กัน น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก และเฉียบคมเป็นอย่างมากด้วย ไม่ทันไรก็สั่นสะเทือนจนห้องยาแทบจะพังทลาย

ซู่ม!

ซู่ม!

เงาร่างสองร่างพุ่งลงมาด้านล่างห้องยาพร้อมกัน ปะทะหมัดกันกลางอากาศไปหลายหมัด ถูกกระแทกจนล่วงไปยืนบนพื้น จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเคร่งขรึม เย่เทียนเฉินไม่มีบรรยากาศเรื่อยเฉื่อยอีกต่อไป คาเมดะอิจิโร่เองก็ไม่พูดอะไรมาก เพราะพวกเขาต่างรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัวของอีกฝ่าย หากเสียสมาธิไป คนที่ตายอาจเป็นตนเองก็เป็นได้

“พวกแกยังมัวตะลึงอะไรกันอยู่ ฆ่าคนอื่นซะ ฉันจะขวางเจ้าหมอนี่ไว้เอง!” คาเมดะอิจิโร่พูดภาษาจีนออกมาอย่างคล่องแคล่ว ออกคำสั่งกับมือสังหารทั้งสองคนที่เหลือ

คำพูดของคาเมดะอิจิโร่ทำให้เห็นได้ว่า ในตอนแรกเขาไม่เห็นเย่เทียนเฉินอยู่ในสายตา ถึงแม้เขาจะรู้สึกว่าเย่เทียนเฉินแข็งแกร่งมาก แต่ก็คิดว่าหากตนเองจะฆ่าเย่เทียนเฉินก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร หลังจากต่อสู้กันไปยกหนึ่ง ถึงได้พบว่าชายวัยรุ่นชาวจีนเบื้องหน้าแข็งแกร่งจนถึงขั้นที่สามารถต่อต้านเขาได้ ตอนนี้เขาคิดเพียงจะหยุดยั้งเย่เทียนเฉิน และให้มือสังหารชั้นยอดอีกสองคนที่เหลือลงมือโจมตีฆ่าพวกจางอีเต๋อ

มือสังหารชั้นยอดอีกสองคนนั้นได้สติกลับมา จึงขยับแทบจะเวลาเดียวกัน พุ่งไปยังเฮยเมี่ยน ดาบในมือของพวกเขาก็ได้กลายเป็นเศษเหล็กในการโจมตีของเฮยเมี่ยนไปแล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงใช้หมัดเปล่าๆ โจมตีเข้าไป เฮยเมี่ยนเองขมวดคิ้ว กำหมัดทั้งสองแล้วพุ่งเข้าไปต่อสู้โดยไม่สนใจบาดแผล

ฟู่!

มือขวาของคาเมดะอิจิโร่สะบัดครั้งหนึ่ง คมดาบหัวกะโหลกทั้งเจ็ดเล่มปรากฏร่างกายของเขาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น สีของคมดาบหัวกะโหลกทั้งเจ็ดก็ได้กลายเป็นสีเลือดไปแล้ว โดยเฉพาะหัวกระโหลกบนคมดาบที่ดูคล้ายกับจะสูบเลือดผู้คนอย่างไรอย่างนั้น ดูอัปลักษณ์และน่าหวาดกลัว ทำให้ผู้อื่นต้องสั่นสะท้าน

“ดาบสไตล์ชิบะทั้งเจ็ดเล่ม งั้นฉันก็จะใช้อาวุธของจีน!” เย่เทียนเฉินเองก็แบมือขวาออกเช่นเดียวกัน รวบรวมพลังกลางฝ่ามือจนปรากฏเป็นง้าวฟางเทียน(อาวุธของลิโป้)ออกมา ดูเหมือนของจริง จางอีเต๋อเห็นก็ลอบตื่นตะลึงในใจ คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะสามารถใช้พลังพิเศษสร้างอาวุธออกมาได้ตามใจชอบ นี่เป็นเคล็ดวิชาพลังพิเศษที่น่าหวาดกลัวอย่างหนึ่ง

ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ พริบตาเดียวก็แลกเปลี่ยนกระบวนท่าถึงขั้นเป็นตาย เมื่อมาถึงตอนนี้ เย่เทียนเฉินก็ไม่กล้าเรื่อยเฉื่อยอีกต่อไป คาเมดะอิจิโร่เองก็ไม่กล้าดูเบาเด็กรุ่นหลัง ทั้งสองต่างก็ลงมือเต็มที่ เพิ่มพูนพลังกายของตนเองจนถึงขีดสุด

คมดาบหัวกะโหลกทั้งเจ็ดส่งเสียงหวีดหวิวออกมา พุ่งเข้าไปยังเย่เทียนเฉิน ครอบคลุมขอบเขตไปเกือบร้อยเมตร ไม่มีโอกาสให้หลบโดยสิ้นเชิง บริเวณที่คมดาบหัวกะโหลกพุงผ่านไป กระทั่งอากาศก็ยังถูกฟันขาด น่ากลัวและน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก

“โฮ!”

เสียงหนึ่งทีทั้งน่ากลัวและเสียดหูดังขึ้น คล้ายกับเสียงของวิญญาณจากนรกขุมที่เก้า ก็มิปาน ส่องประกายสีแดงเลือดออกมา ในประกายนั้นคล้ายกับว่ามีหัวกระโหลกโถมออกมา ทำให้ผู้คนต้องรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน

“หลบไป อย่าได้ปะทะตรงๆ!” จางอีเต๋อเห็นเย่เทียนเฉินยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อนก็รีบตะโกนเตือนอย่างร้อนใจ

“ทุกคนหลับตา!”

ทุกคนได้ยินคำพูดนี้ของเย่เทียนเฉิน ทันใดนั้นเย่เทียนเฉินก็กระโดดขึ้น ง้าวฟางเทียนในมือขวาของเขามีประกายแสงระเบิดออกมา ส่องประกายแพรวพราว ทำให้ผู้คนไม่กล้ามองตรงๆ นอกจากจางอีเต๋อแล้ว คนอื่นรวมทั้งเฮยเมี่ยนแล้วมือทหารทั้งสองคน ต่างก็รับไม่ไหวจนต้องรีบหลับตา

“ฆ่า!”

เย่เทียนเฉินตะโกนเสียงดัง ง้าวฟางเทียนในมือขวาโจมตีออกไป แทงไปยังประกายดาบ ง้าวฟางเทียนฟันลงบนคมดาบหัวกะโหลกทั้งเจ็ดที่รวมเป็นหนึ่ง จนเกิดแสงไฟสว่างจ้าระเบิดออกมากลางอากาศ เกิดการสั่นไหวของพลังอย่างรุนแรงทำให้กำแพงอิฐทั้งสี่ด้านของลานบ้านตระกูลจางถูกทำลายย่อยยับ บนพื้นเองก็ปรากฏหลุมเล็กใหญ่จำนวนมาก กระทั่งต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าก็เกือบจะถูกฟันขาด เห็นได้ว่าการโจมตีของเย่เทียนเฉินและคาเมดะอิจิโร่ ปะทะกันอย่างรุนแรงขนาดไหน

“อั่ก!”

“ไม่…อั่ก…”

เสียงร้องอย่างอนาถดังขึ้นสองเสียง ตามมาด้วยเสียงของการต่อสู้ ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดลง จางอีเต๋อ มู่หรงอวี๋ตู มู่หรงซิน จางรั่วถง และเฮยเมี่ยนต่างต้องสูดหายใจเย็นยะเยือก เย่เทียนเฉินยืนอยู่เบื้องหน้าของเฮยเมี่ยน ง้าวฟางเทียนในมือขวาดูคล้ายกับจะมีการเปลี่ยนแปลง และมีศพสองศพนอนจมกองเลือดอยู่แทบเท้าเขา ศพทั้งสองต่างถูกตัดหัวจนขาด

ศพทั้งสองศพนี้ก็คือมือสังหารชั้นยอดอีกสองคนที่เหลือนั่นเอง ใครก็คิดไม่ถึงว่า ในตอนที่เย่เทียนเฉินต่อสู้กับคาเมดะอิจิโร่ถึงขั้นเป็นตายอยู่นั้น เย่เทียนเฉินจะถือโอกาสในตอนที่ลำแสงเปล่งประกายออกไปทั้งสี่ทิศจนทำให้คนอื่นไม่สามารถลืมตาได้สลัดออกจากคาเมดะอิจิโร่โดยฉับพลันและไปกำจัดมือสังหารฉันยอดทั้งสองคนนั้น

อย่างไรก็ตามบนไหล่ซ้ายของเย่เทียนเฉินก็ปรากฏรอยแผลลึกที่เกิดจากดาบอยู่หนึ่งแผล ลึกจนมองเห็นกระดูกด้านในได้อย่างชัดเจน เขาไม่ใช่จางอีเต๋อที่เป็นเซียนแพทย์เทวะ ไม่มีความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งเหนือระดับ แต่กลับยังสามารถยิ้มออกมา พูดกับคาเมดะอิจิโร่ที่ยืนอยู่ไม่ไกลว่า “ลูกน้องของแกตายหมดแล้ว แกคนเดียวจะฆ่าพวกเราได้หมดหรือไง?”

“เจ้าหนุ่ม ฉันว่าแกอย่าได้โอหังเกินไปจะดีกว่า ฝีมือของแกแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครฆ่าแกได้!” ในมือของคาเมดะอิจิโร่กำดาบหัวกระโหลกเล่มหนึ่งเอาไว้ แข็นซ้ายของเขาล่วงลงมา ดูเหมือนจะถูกฟันขาด

“ขี้โม้กับบิดาให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ บิดาจะโอหัง แกจะคิดยังไงก็ช่าง มาฆ่าฉันสิ!” เย่เทียนเฉินมองไปยังคาเมดะอิจิโร่แล้วพูดอย่างไม่พอใจ เขาเกลียดคนแก่ที่เสแสร้งแบบนี้เป็นที่สุด

“ดี ฉันอยากจะรู้ชื่อของแก คนที่กล้ามาเป็นศัตรูกับสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวของพวกเรา ล้วนต้องตายทั้งหมด!” คาเมดะอิจิโร่จ้องไปยังเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น

“เย่เทียนเฉิน เอาชื่อของฉันไปบอกบรรพบุรุษแกซะ ไสหัวกลับไปยังประเทศชิบะ เถอะ แล้วก็ฉันจะขอเตือนสำนักดาบโฮคุชินอิตโตริวของพวกแกเอาไว้ ฉันไม่สนใจว่าพวกแกจะทำตัวระรานขนาดไหน ถ้ากล้ามาก่อเรื่อง ฉันก็จะฆ่าพวกแก!” มุมปากของเย่เทียนเฉินปรากฏรอยยิ้มโหดเหี้ยม มองไปยังคาเมดะอิจิโร่แล้วพูดขึ้น