บทที่ 49 สิ่งที่จอมจักรพรรดิโบราณและผู้สำเร็จวิชากายาจักรพรรดิเทิดทูน

จอมบงการเทพยุทธ์

“ฮ่าฮ่า ! หนึ่งตระกูลสองจักรพรรดิงั้นรึ ? ทั้งพ่อและแม่เป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอดงั้นรึ ?

เจ้าพวกมนุษย์ เจ้ากําลังพยายามทําให้ข้าหัวเราะออกมาจนฟันร่วงงั้นรึ ? ”

เสื้อดํายักษ์เยาะเย้ย เขาปฏิเสธข้อสรุปของผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยู่เพิ่ง

หนึ่งตระกูลสองจักรพรรดินั้นก็น่าเหลือเชื่อพอแล้ว

แล้วทั้งพ่อและแม่ยังเป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอดงั้นรึ ?

มันจะเป็นไปได้อย่างไร !

มีจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ! นี่คือกฎเหล็ก !

แม้ว่าโลกนี้จะวิเศษเพียงใด แต่มันก็สามารถรองรับจอมจักรพรรดิดึกดําบรรพ์ได้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

หลังจากที่จักรพรรดิโบราณถือกําเนิด เส้นทางจะถูกปิดกั้น ผู้มาทีหลังจะถูกขวางกั้น ไม่ว่าจะมีความสามารถหรือพรสวรรค์แค่ไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นทางต้นนี้ได้ และได้แต่รู้สึกเสียใจและเกลียดชังไปตลอด

เช่นนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดิทั้งสองจะอยู่ร่วมกัน !

“ข้าเข้าใจแล้ว ! เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ! ไม่ใช่ว่าทั้งสองเป็นจักรพรรดิอยู่ร่วมกัน ! ”

ทันทีที่เสียงคํารามของเสื้อดํายักษ์สิ้นลง ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชก็พูดขึ้นทันที ด้วยความสั่นเครือแสดงอยู่ในน้ําเสียงเล็กน้อย !

“พ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่นอนั้นไม่ใช่จักรพรรดิทั้งหมด

แม่ของจอมจักรพรรดิอู่ซื้อ นางน่าจะได้ฝึกฝนจนมีพลังยุทธ์ระดับสุดยอดและกลายเป็นจอมจักรพรรดิโบราณ !

ส่วนพ่อของจอมจักรพรรดิอู่อนั้นไม่ใช่จักรพรรดิ บางที…เขาอาจเป็นผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิในตํานาน ! ”

ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ !

นี่คือการเดาของผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนช

ความคิดที่ติดค้างอยู่ในใจนั้นเกี่ยวข้องกับผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ

เมื่อครู่นี้ เขาเห็นแสงสีทองจางๆ บนผิวของร่างที่แข็งแกร่งในภาพ ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชก็นึกถึงผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิแห่งแดนร้างตะวันออกที่ทําให้เขาตกใจเมื่อไม่กี่วันก่อน

ตามตํานาน กายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นแตกต่างตั้งแต่เกิด มีพลังไร้สิ้นสุดและมีเลือดเป็นสีทอง

กายาจักรพรรดิมีพลังการต่อสู้ที่ไร้เทียมทาน หลังจากประสบความสําเร็จก็เขาก็สามารถท้าทายจอมยุทธ์ระดับสุดยอดอย่างจักรพรรดิโบราณได้ !

ว่ากันว่าสายเลือดนี้ท้าทายสวรรค์เกินไป ดังนั้นในประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เจ้าของสายเลือดกายาจักรพรรดิจึงทําได้เพียงประสบความสําเร็จอย่างยิ่งใหญ่แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถกลายเป็นจักรพรรดิได้…

การคาดเดานั้นสมเหตุสมผลกับชายในภาพหินสลักได้อย่างลงตัว

ไม่แน่ว่าพ่อของจอมจักรพรรดิอู่ฉอก็คือผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ !

และแม่ของเขาก็คือจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เป็นจอมยุทธ์ระดับสุดยอด !

ทั้งสองมีพลังเท่าเทียมกันและเป็นตัวตนที่ไร้ผู้เทียบได้

หลังจากร่วมหอกันแล้วต่อมาก็จึงมีจอมจักรพรรดิอู่จื่อ !

“ลูกหลานของผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิร่วมเรือนกับจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์…”

“ถูกต้อง ทุกอย่างดูสมเหตุสมผล จอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์ ! ช่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรข้ามกาลเวลาเลยไม่ใช่รี่?

ใครในโลกนี้จะอยู่ในสายตานางบ้าง ? ข้าเกรงว่าก็มีคงเพียงผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเท่านั้น ! ”

“เหลือเชื่อ ! ถ้าเป็นเช่นนี้ ต้นกําเนิดของจอมจักรพรรดิอุสื่อก็อัศจรรย์มาก !

แม่คือจอมจักรพรรดิโบราณ พ่อคือผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ

ด้วยภูมหลังเช่นนี้ เมื่อมองย้อนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันจะมีสักกี่คน?”
ทุกคนตัวสั้น

การอนุมานของผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชู ทําให้ทุกคนใจสั่นจนไม่อาจควบคุมได้

หากการวิเคราะห์ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูเป็นจริง ที่มาของจอมจักรพรรดิอู่จื่อก็น่ากลัวเกินไปแล้ว !

ไม่ใช่แค่หนึ่งตระกูลสองจักรพรรดิ

แต่เรียกว่าสามจักรพรรดิก็ยังได้ !

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ +14,352 จากเชียนเหวยทง !!

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +16,449 จากหล่อหมิง !”

เจ้าได้รับแต้มตกใจ +847 จากลัวจิ๋วชวน !!

“เจ้าได้รับ…

แต้มตกใจเด้งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เฉินมู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับอยากปรบมือให้กับผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูนี้

ผู้นําท่านนี้สมกับเป็นปรมาจารย์จริงๆ !

มีเพียงแค่เงื่อนงําก็สามารถจับคู่เหตุการณ์ต่างๆ ในสมองของเขาเอง และอนุมานทุกสิ่งทุกอย่างออกมาอย่างลงตัว

ที่สําคัญยิ่งกว่านั้น ข้อสรุปที่ชายผู้นี้ได้ออกมานั้นถูกต้องแล้ว !

ถ้าไม่มีผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูคาดเดาตัวตนพ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ และสร้างความตกใจอย่างเหนือชั้นให้กับทุกคน

เฉินมู่ก็คงเกี่ยวแต้มตกใจได้น้อยกว่านี้มากอย่างแน่นอน

“เจ้าเป็นปรมาจารย์ด้านความคิด

แต่ทว่าข้ามั่นใจว่าเมื่อเห็นภาพถัดไป เจ้าจะไม่สามารถคาดการณ์สิ่งใดได้”

ฉินมู่ยิ้มแล้วส่ายหน้า ดวงตาของเขาคาดหวังอยู่เล็กน้อย

ครู่ต่อไป เขาไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะยังคาดเดาได้

แต่มันจะทําให้ตกใจไม่น้อยไปกว่าผนังหินแกะสลักก่อนหน้าหรืออาจจะยิ่งกว่าเสียด้วย !

“หนึ่งตระกูลสามจักรพรรดิ อย่างไรมันก็เป็นแค่การอนุมาน เจ้าต้องรู้มากกว่านี้ถึงจะสรุปได้…”

ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูสงบจิตใจลงและรีบมองไปที่ผนังหินแกะสลักภาพถัดไป

ผนังหินแกะสลักโบราณเหมือนมีพลังบางอย่าง

ยิ่งดูยิ่งรู้มาก ยิ่งอยากรู้มากเท่าไหร่ก็จะพบความจริงมากขึ้น และประวัติศาสตร์ก็จะถูกเปิดเผยมากขึ้น

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสําหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ชิ้นส่วนของประวัติศาตร์เหล่านี้มีความสําคัญและบทบาทอย่างยิ่ง !

แต่ทว่าเมื่อผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชูเลื่อนสายตาไปยังภาพถัดไป

อารมณ์ที่ได้สงบลงในที่สุด ก็ได้มีคลื่นใหญ่อีกระลอก !

ความรู้สึกตกใจก็ถาโถมขึ้นในหัวใจจนถึงจุดสูงสุดในทันที !

ไม่ใช่แค่ผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนชู คนอื่นๆที่เห็นภาพนี้ก็ไม่สามารถแม้แต่จะเก็บความรู้สึกตกใจที่พุ่งพล่านอยู่ในหัวใจของพวกเขาได้ในเวลานี้ได้ และอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา !

“โอ้ทวยเทพ ! ”

“นี่คือ…”

“เป็นไปได้อย่างไร !”

น้ําเสียงของทุกคน เปี่ยมไปความไม่เชื่อ

ราวกับว่าภาพแกะสลักทําลายความเข้าใจของพวกเขา !

บนภาพนี้ยังคงมีพ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อและจอมจักรพรรดิอู่จื่อวัยเยาว์ซึ่งถูกผนึกอยู่ในต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์

แต่ ณ ตอนนี้ พ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อกําลังโค้งคํานับไปยังที่หนึ่งด้วยท่าทางนอบน้อม และยื่นต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ภายในมีจอมจักรพรรดิออไปยังสถานที่แห่งนั้น

ดูราวกับว่าพวกเขาไว้วางใจที่จะส่งจอมจักรพรรดิอู่จื่อให้กับบางสิ่ง
แต่ทว่าในจิตรกรรมฝาผนัง พื้นที่บริเวณนั้นกลับว่างเปล่า

แต่พ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อถ่ายทอดอารมณ์ออกด้วยความจริงใจราวกับว่ามีใครบางคนอยู่ในความว่างเปล่าตรงนั้นจริงๆ

แต่…

สิ่งใดในโลกนี้กันที่จะสามารถรับการบูชาจากจอมจักรพรรดิโบราณและผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิได้? !

คิดไม่ถึง เกินกว่าจะเข้าใจได้!

ดวงตาของผู้นําแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ยเหิงเป็นประกาย เขาจ้องไปที่ภาพสลักหินบริเวณที่พ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อเทิดทูน ราวกับว่าสามารถมองทะลุผ่านไปได้

ผู้ที่ทิ้งภาพนี้ไว้จะต้องเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์

และเมื่อมองที่ภาพสลักเบื้องหน้าจะเห็นได้ว่าเจ้าของภาพสลักนี้น่าจะย่าเกรงจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์

เมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วทําไมเขาจึงวาดจักรพรรดินีเผ่าพันธุ์มนุษย์และผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิกําลังร่วมบูชาด้วยกัน ?

ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว

มันได้เกิดขึ้นแล้ว

พ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อได้มอบจอมจักรพรรดิในวัยเยาว์ซึ่งผนึกอยู่ในต้นกําเนิดพลังศักดิ์สิทธิ์กับบางสิ่งในช่วงเวลาหนึ่ง

และจากท่าทางของพ่อแม่ของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ พวกเขาเคารพตัวตนที่ลึกลับนี้เป็นอย่างยิ่ง