ตอนที่ 848 ไม่อยากทำให้เธอโมโห

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ซย่าหันโม่ตกอยู่ในอาการหวาดกลัวหลังจากที่เธอกลับมาจากจู้ซิงมีเดีย และพบว่ามีกล้องรูเข็มติดตั้งอยู่แทบจะทุกห้องในที่พักของเธอ

 

 

หลงเจี่ยยื่นเสื้อเชิ้ตให้เธอทันที “เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

 

“ฉันควรจะทิ้งข้อความไว้บนโต๊ะไหมคะ ฉันไม่รู้ว่าผู้จัดการของฉันมีอะไรอยู่มือบ้าง จริงๆ แล้ว…”

 

 

ซย่าหันโม่ตัวสั่นเทา นึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกจับตามองมานานขนาดนี้

 

 

“ให้ตายเถอะ ฉันไม่เคยเห็นคนที่ร้ายกาจเท่าผู้จัดการคนนี้เลย นังสวะนั่นแหกทุกกฎในวงการนี้ซะย่อยยับเลย” หลงเจี่ยอดไม่ได้ที่จะสบถขึ้นมา

 

 

ถังหนิงมองหญิงสาวทั้งสองคนและสั่งหลงเจี่ย “ก่อนอื่นไปควบคุมช่างภาพที่ทำงานกับนังนั่น รวบรวมหลักฐานที่มีประโยชน์กับซย่าหันโม่มาให้ได้มากที่สุด”

 

 

“สบายมากค่ะ” หลงเจี่ยส่งสัญลักษณ์มือเป็นการตอบรับ

 

 

ระหว่างที่เธอออกไปลงมือ ซย่าหันโม่หวาดกลัวเกินกว่าจะกลับไปที่ห้องพัก จึงลงเอยด้วยการนั่งเหม่ออยู่ที่จู้ซิงมีเดียอยู่ครู่ใหญ่

 

 

ช่วงบ่ายหลังจากนั้นก็ได้ข่าวจากหลงเจี่ยว่าเธอได้หลักฐานที่จำเป็นมาแล้วและบังคับให้ช่างภาพเงียบปากเอาไว้ อย่างไรจู้ซิงมีเดียและไห่รุ่ยก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน เขาจึงไม่อยากเสี่ยงเพียงเพื่อผลประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ

 

 

“ตอนนี้เธอสามารถร้องเรียนกับต้นสังกัดของเธอได้แล้ว มาดูกันว่าพวกเขาจะจัดการกับผู้จัดการของเธอยังไง”

 

 

“ฉันกลัวค่ะ… มันต้องไม่ง่ายขนาดนั้นแน่”

 

 

“ฉันรู้ว่ามันไม่ง่าย แต่อย่างน้อยเธอก็จะได้เห็นพวกเขาทะเลาะกันเอง ยังไงอีกเดี๋ยวเธอก็จะออกจากที่นั่นอยู่แล้ว” ถังหนิงว่าขึ้นเบาๆ ตอนที่เธอยังเป็นดาราอยู่ ถังหนิงมักจะคำนึงถึงตัวตนของตัวเองและให้ความสำคัญกับความเป็นมืออาชีพ ทว่าหลังจากผันตัวมาเป็นผู้จัดการ ความภูมิฐานในตัวเธอก็ฉายชัดขึ้น

 

 

“แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ…”

 

 

ซย่าหันโม่ครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนพยักหน้ารับ

 

 

เธอไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการเข้าร่วมงานในคืนนั้น แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นคนเย่อหยิ่งถังหนิงจึงขอให้หลงเจี่ยไปจัดการให้

 

 

ซย่าหันโม่ขับรถไปยังสำนักงานใหญ่ของเชียนหยิ่งมีเดียในเวลาต่อมา แม้ว่าจะเป็นเอเจนซี่ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงการนัก แต่ก็มีศิลปินที่มีชื่อเสียงที่เซ็นสัญญากับพวกเขาอยู่บ้าง

 

 

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในตึก เธอก็แจ้งเลขาของเจ้านายของตัวเองทันที “ฉันอยากขอพบประธานหลินค่ะ”

 

 

“โอเค ฉันจะสอบถามท่านประธานว่าเขาพอจะมีเวลาหรือเปล่าให้นะคะ” พูดจบเธอก็ต่อสายหาประธานหลิน

 

 

เธอต้องรออยู่กว่าสองชั่วโมงในท้ายที่สุด แม้ว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังลอดออกมาจากห้องทำงานของเขาอย่างชัดเจนก็ตาม ในที่สุดขีดความอดทนของเธอก็ขาดสะบั้นลงก่อนสาวเท้าตรงเข้าไปผลักประตู…

 

 

“ซย่าหันโม่ มีมารยาทบ้างหรือเปล่าเนี่ย” เจ้านายของเธอตะคอกใส่ในขณะที่หญิงสาวที่อยู่ข้างเขารีบออกจากห้องไป

 

 

เธอลังเลใจอยู่ชั่วครู่ก่อนเดินตรงไปและโยนหลักฐานที่มีลงบนโต๊ะของประธาน “ฉันอยากจะถามคุณว่าควรจะเก็บผู้จัดการที่ติดกล้องไปทั่วบ้านของฉันไว้อีกเหรอคะ”

 

 

ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นหลักฐานเขาก็อึ้งไปเล็กน้อย “เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”

 

 

“ถ้ารูปพวกนี้ถูกเปิดเผยกับสื่อ ฉันมั่นใจว่าเอเจนซี่ของคุณจะต้องได้รับผลกระทบแน่นอน ประธานหลินคะ ฉันอยากเปลี่ยนผู้จัดการและดำเนินคดีกับผู้หญิงคนนี้ค่ะ”

 

 

“เสี่ยวโม่ ทั้งหมดนี้เป็นการเข้าใจผิดหรือเปล่า”

 

 

“ไม่มีการเข้าใจผิดอะไรทั้งนั้นค่ะ คุณต้องทำตามที่ฉันขอหรือไม่เชียนหยิ่งมีเดียก็ต้องย่อยยับลงไปค่ะ” พูดจบซย่าหันโม่ก็ขยับไปด้านข้างและเอ่ยสำทับ “ฉันจะให้เวลาคุณหนึ่งวันในการให้คำตอบฉันนะคะ”

 

 

จากนั้นจึงก้าวออกจากห้องทำงานไป แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมถังหนิงถึงสั่งให้เธอทำแบบนี้ก็ตาม

 

 

หลังจากซย่าหันโม่จากไป ประธานหลินต่อสายหาผู้จัดการของเธอ “เธอถูกซย่าหันโม่จับได้แล้ว มาที่บ้านฉันคืนนี้”

 

 

ดูผิวเผินแล้วทั้งสองคนเป็นเพียงเจ้านายและลูกน้องกัน หากแต่ในความเป็นจริง… ทั้งคู่เป็นคู่รักกัน

 

 

เหตุผลที่ถังหนิงบอกให้ซย่าหันโม่เปิดเผยว่าตัวเองถูกแอบถ่ายเพราะจะได้เก็บหลักฐานที่ทั้งคู่แอบพบกัน หากเธอไม่ใช้โอกาสนี้ในการทำลายเชียนหยิ่งมีเดีย ซย่าหันโม่จะมีสิ่งที่ต้องกังวลไปตลอด

 

 

และที่สำคัญที่สุด เอเจนซี่นี้เคยมีเรื่องขัดแย้งกับเธอ

 

 

แม้ว่าเรื่องของสวี่ซินจะผ่านไปแล้ว แต่มันยังคงติดอยู่ในใจของถังหนิงและรายชื่อของคนที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ก็ประทับฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของเธอ

 

 

 

 

ในตอนนี้ไห่รุ่ยรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ลู่เช่อได้ยินเรื่องแผนของถังหนิงจากหลงเจี่ยและพูดถึงเรื่องนี้กับโม่ถิง “ท่านประธานครับ นายหญิงอยากจะแก้แค้นหรือครับ”

 

 

“ตราบใดที่เธอมีความสุข” โม่ถิงเอ่ยเสียงเรียบ “ตรวจสอบโดยละเอียดว่ามีแผนของเธอมีช่องโหว่ตรงไหนและจัดการกันไม่ให้ผิดแผน ฉันไม่อยากให้คนนอกสายตาแบบนี้มาทำให้เธอโมโห”

 

 

หลังจากได้ยินลู่เช่อก็ถอนหายใจออกมา

 

 

ในโลกของโม่ถิง ถังหนิงคือคนที่สำคัญที่สุดอยู่ตลอดเวลาอย่างที่เป็นมาเสมอ ไม่มีใครสามารถแทนที่เธอได้

 

 

หากถังหนิงต้องการเซ็นสัญญากับซย่าหันโม่ ก็ไม่สำคัญว่าเธอจะล้างมลทินให้อีกฝ่ายได้หรือไม่ ก่อนอื่นเธอต้องทำให้ซย่าโม่หันเป็นอิสระจากเอเจนซี่ปัจจุบันของเจ้าตัวก่อน และกำจัดพวกเขาไปในทีเดียวจะเป็นการดีที่สุด

 

 

ภาพลักษณ์ของซย่าหันโม่เป็นเรื่องที่พักไว้ก่อนได้ แต่เชียนหยิ่งมีเดียต้องถูกกำจัดเป็นอันดับแรก

 

 

 

 

ตกดึกคืนนั้น…

 

 

ผู้จัดการของซย่าหันโม่แอบเข้ามาในบ้านของประธานหลิน ทันทีที่เจอหน้ากันพวกเขาก็แสดงความรักกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนเริ่มคุยเรื่องจริงจังกัน

 

 

“ทางผู้จัดงานเอาคนอื่นมาแทนซย่าหันโม่ที่งานคืนนี้…ฉันไม่รู้ว่าและไปโผล่ที่งานอยู่คนเดียว น่าอายจริงๆ ”

 

 

“เราจะเก็บซย่าหันโม่ไว้ไม่ได้แล้ว สัญญาของเธอกำลังจะหมดลง กอบโกยผลประโยชน์จากเธอมาจนวินาทีสุดท้ายแล้วกำจัดเธอทิ้งซะ” ประธานหลินว่าขึ้นขณะโอบไหล่หญิงสาวข้างกาย “ใครบอกให้เธอทำพลาดกันล่ะ”

 

 

“หึ! นังนั่นกล้ามาต่อว่าฉันได้ยังไงกัน ไม่มีใครในปักกิ่งชอบเธอเลยด้วยซ้ำเธอก็ยังจะดันทุรังอีก” ผู้จัดการสาวเยาะเย้ย “ฉันละอยากจะเห็นว่าเธอจะถูกแอนตี้แฟนทำลายจนไม่มีชิ้นดีขนาดไหนหลังจากออกจากเอเจนซี่ของเราแล้วไปเข้าสังกัดอื่น”

 

 

“เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ นอกจากเราแล้วใครจะกล้าเซ็นสัญญากับเธออีก”

 

 

คนฟังหัวเราะออกมาก่อนที่จะตกอยู่ในห้วงรักกับเขาอีกครั้ง หากแต่พวกเขาไม่รู้ว่าทุกความเคลื่อนไหวของตัวเองถูกบันทึกไว้จากอีกฝั่งของรั้วบ้าน

 

 

ส่วนคำถามที่ว่าจะมีใครกล้าเซ็นสัญญากับซย่าหันโม่หรือเปล่านั้น…

 

 

คำตอบก็เห็นๆ กันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ

 

 

ถึงแม้ซย่าหันโม่จะโด่งดังขึ้นมาได้จากเรื่องฉาวโฉ่ของเธอแต่ก็ยังถือว่ามีชื่อเสียงในปักกิ่งไม่น้อย ด้วยถังหนิงไม่เคยทำตัวเหมือนอย่างคนอื่นๆ เธอจึงไม่ได้เกลียดชังเจ้าตัว

 

 

ฉะนั้นแล้วคู่รักน่ารังเกียจคอยดูว่าแผนของใครจะเด็ดกว่ากันได้เลย

 

 

แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นคงต้องผ่านความเห็นของสาธารณชนไปเสียก่อน…

 

 

[ซย่าหันโม่น่าขยะแขยงจริงๆ!]

 

 

[เหตุผลน่ะไม่มีหรอก ฉันก็แค่ไม่ชอบเธอ!]

 

 

[ฉันไม่มีความเห็น รู้แค่ว่าเธอทำเรื่องน่าอายมาเยอะ]

 

 

[เธอก็แค่นมใหญ่ สมองกลวง และยังชอบอ่อยไปทั่ว!]

 

 

อันที่จริงพื้นที่สมองครึ่งหนึ่งของซย่าหันโม่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกอ่อนไหวและไม่มีพื้นที่เหลือสำหรับสิ่งอื่นอีก แม้แต่ในขณะนี้เธอก็ยังไม่รู้แผนของถังหนิงและนั่นเป็นความตั้งใจของถังหนิงที่จะไม่บอกให้เจ้าตัวรู้

 

 

วันถัดมา ผู้จัดการของซย่าหันโม่ติดต่อช่างภาพคนเดิมพร้อมข่าวใหญ่ และรูปเปลือยจำนวนมากในมือ…

 

 

ทว่าเขากลับได้รับการติดต่อจากถังหนิงมาก่อนแล้ว เขาจึงเสนอที่จะซื้อทุกรูปในคราวเดียว

 

 

ผู้จัดการตกลงอย่างง่ายดาย อย่างไรเองเธอก็ต้องการที่จะเปลี่ยนมือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อยู่แล้ว ก่อนจะแยกตัวมาจากยัยสมองกลวงนั่น อีกอย่างนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะทำแบบนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเก็บรูปพวกนี้เอาไว้