ตอนที่ 283 เป้าหมายปรากฏตัว!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

หลังจากนั้นบุคลิกใหม่ของลั่วล่างก็ปรากฏตัวขึ้นมา ไอชั่วร้ายกระหายเลือดปะทะเข้าใส่หน้า หลิงหลานคุ้นชินกับไอชั่วร้ายนี้มาก มันเป็นกลิ่นอายกระหายเลือดที่สั่งสมหลังจากที่ฆ่าฟันคนมานับหมื่นพัน…หรือว่าบุคลิกที่ลั่วล่างเปิดใช้งานในครั้งนี้คือบุคลิกวิถีสังหาร?

เป็นไปตามที่คาดไว้จริงๆ ลั่วล่างเงยหน้าขึ้นมาโดยที่ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ไอสังหารเย็นเยียบสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่หลิงหลาน และตอนนี้ลั่วล่างตั้งท่าต่อสู้ออกมา มันคือหมัดหนึ่งนิ้วที่ลั่วล่างเชี่ยวชาญอย่างยิ่งยวด

“ดูท่าบุคลิกที่มีสติจะรับมือได้ยากกว่าบุคลิกที่ไม่มีสติสินะ” หลิงหลานเห็นท่าทางของลั่วล่างในตอนนี้ไม่มีจุดอ่อนเลยสักนิดเดียว เธอก็รู้สึกยุ่งยากใจอยู่บ้าง เพราะว่าบุคลิกนี้ทำให้หลิงหลานรู้สึกได้ถึงแรงกดดันรางๆ เช่นกัน

เชี่ย มิน่าล่ะ อาจารย์หมายเลขหนึ่งถึงบอกว่าเธอสามารถปราบบุคลิกเหล่านี้ได้โดยอาศัยพลังของเขตแดนครึ่งก้าว พอคิดว่าถ้าหากไม่มีความสามารถของเขตแดนหลายสิบวินาทีนั่นในการต่อกรกับบุคลิกวิถีสังหาร ต่อให้เธออยู่ในขอบเขตขั้นสูงสุดของระดับพลังปราณโดยสมบูรณ์ หากอยากจะเอาชนะเขาเกรงว่าจะต้องสิ้นเปลืองกลยุทธ์เหมือนกัน

อย่างที่คิดเอาไว้เลย พอลูกน้องเก่งกาจมากเกินไป ลูกพี่ก็จะโดนกดดันอย่างหนัก! ไม่รู้ว่าลั่วล่างยังมีบุคลิกอะไรอีก โดยเฉพาะบุคลิกเย็นชาสุดขีดที่อาจารย์หมายเลขหนึ่งกล่าวถึง คิดๆ ดูแล้วมันก็ไม่ใช่บุคลิกที่คบหาง่ายเช่นกัน…พอคิดถึงตรงนี้ หลิงหลานก็รู้สึกว่าฟันตัวเองปวดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด การเป็นลูกพี่ของเธอไม่ง่ายเลย…

หลิงหลานทอดถอนใจเล็กน้อย ทำให้ไอพลังของเธอที่เดิมทีสมบูรณ์แบบคลายตัวลง สรุปคือบุคลิกวิถีสังหารรู้สึกว่ามีโอกาสแล้ว จากนั้นก็เห็นลั่วล่างสาวเท้าพุ่งปราดทีหนึ่งก็มาถึงตรงหน้าหลิงหลาน หมัดหนึ่งนิ้วที่เตรียมไว้นานแล้วโจมตีจากมุมองศาที่หลิงหลานรับได้ยากมากที่สุด

มุมองศานี้ทำให้หลิงหลานต้านทานได้ยากสุดขีด ถ้าหากเธอเลือกหลบก็จะถูกลั่วล่างที่อยู่ในวิถีสังหารคว้าความได้เปรียบ ต่อให้เป็นคนที่แข็งแกร่งอย่างหลิงหลานก็ยากจะชิงความได้เปรียบของตัวเองกลับมาในช่วงเวลาสั้นๆ นอกเสียจากจะใช้เขตแดนออกมา

เมื่อลั่วล่างที่อยู่ในวิถีสังหารคิดว่าทำสำเร็จแล้ว ฉากที่แปลกประหลาดสุดขีดก็ปรากฏขึ้นมา หลิงหลานบิดเอวทันใด หลบกระบวนท่าสังหารของลั่วล่างด้วยการบิดตัวราวกับงูที่ดูเหนือความเป็นจริงอย่างยิ่ง

เวลานี้ร่างกายอันยืดหยุ่นที่ทำให้อาจารย์หมายเลขสี่อยากได้จนน้ำลายหกแสดงพื้นฐานความสามารถของมันออกมาโดยสมบูรณ์ หลิงหลานที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างเต็มเปี่ยมยังคงรักษาความยืดหยุ่นที่มีเฉพาะเด็กผู้หญิงภายใต้การอบรมสั่งสอนด้วยความยากลำบากของอาจารย์หมายเลขเก้า เธอถึงทำให้ความยืดหยุ่นนี้แสดงศักยภาพออกมาได้จนถึงขีดสุด

หลิงหลานหลบกระบวนท่าสังหารของลั่งล่างแล้วก็ประจันหน้ากับลั่วล่างตรงๆ เหวี่ยงศอกทั้งสองข้างโจมตีใส่หน้าอกของอีกฝ่ายโดยพลัน

การตอบสนองของลั่วล่างรวดเร็วอย่างยิ่ง เมื่อเขาโจมตีพลาดก็รู้ว่าท่าไม่ดีแล้ว เขารีบถอยกลับไปแต่ก็ไม่ได้เร็วไปกว่าการโจมตีของหลิงหลาน

‘ผัวะ’ ข้อศอกทั้งสองข้างของหลิงหลานโดนหน้าอกของลั่วล่างทันที ทำให้เขาถอยหลังไปหลายก้าว เนื่องจากโดนจุดสำคัญตรงๆ ต่อให้หลิงหลานออมแรงไว้แล้วก็เพียงพอที่จะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บอยู่ดี มุมปากของลั่วล่างหลั่งเลือดออกมาเป็นสาย

“บุคลิกวิถีสังหาร? ฉันเป็นคนที่ฝ่าออกมาจากในวิถีสังหาร อยากเอาชนะฉันด้วยวิถีสังหารเหรอ ฝันไปเถอะ!” มุมปากของหลิงหลานเผยรอยยิ้มหยันออกมา

บางทีบุคลิกที่แข็งแกร่งอื่นๆ อาจจะทำให้หลิงหลานพะว้าพะวงอยู่บ้าง แต่บุคลิกวิถีสังหารกลับไม่ได้ติดอันดับนี้เลย หลิงหลานที่นับว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ในวิถีสังหารย่อมรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับวิถีสังหารดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงไอชั่วร้ายบนตัวลั่วล่างในตอนนี้ที่ห่างไกลจากไอชั่วร้ายที่ซ่อนลึกอยู่ภายในตัวหลิงหลานเลย พูดอีกอย่างก็คือ บุคลิกวิถีสังหารของลั่วล่างในเวลานี้ยังอ่อนไปเล็กน้อย บางทีรอให้ลั่วล่างเข้าไปสนามรบในอนาคต สังหารผู้คนสักหลายคนอาจจะทำให้บุคลิกวิถีสังหารนี้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

“ฉันจะให้นายรู้ว่า อะไรคือวิถีสังหารที่แท้จริง!” หลิงหลานผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา ไอชั่วร้ายกระหายเลือดที่เดิมทีซ่อนอยู่ภายในร่างกายทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความกระหายเลือดอันเข้มข้นทำให้อุณหภูมิทั่วทั้งห้องส่วนตัวลดฮวบลง และก็ทำให้บุคลิกวิถีสังหารที่ยืนอยู่ตรงข้ามหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย แววตาเผยร่องรอยความละโมบที่ไม่อาจปกปิดได้ออกมา

เนื่องจากบุคลิกวิถีสังหารใช้ไอชั่วร้ายกระหายเลือดมาบำรุง ในขณะที่ไอชั่วร้ายกระหายเลือดอย่างมหาศาลของหลิงหลานทำให้เขาหวั่นเกรง มันก็ดึงดูดเขาอย่างลึกล้ำเช่นกัน เขาดูดซับไอชั่วร้ายกระหายเลือดของหลิงหลานอย่างควบคุมไม่ได้แสดงสีหน้าเคลิบเคลิ้มออกมาเล็กน้อย เวลานี้ต่อให้เขารู้อยู่แก่ใจว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กลืนกินไอชั่วร้ายกระหายเลือดพวกนี้แล้วจะทำให้เขาถูกอีกฝ่ายควบคุม แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความเย้ายวนใจนี้ บุคลิกวิถีสังหารไม่อาจต้านทานได้เลย

หลิงหลานเห็นแบบนี้ก็เลิกคิ้วน้อยๆ เธอจับจุดอ่อนของบุคลิกวิถีสังหารได้แล้ว มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย ไอชั่วร้ายกระหายเลือดที่ปล่อยออกมาถูกหลิงหลายเก็บกลับไปจนหมดฉับพลัน ทันใดนั้นบุคลิกวิถีสังหารที่กำลังดูดซับไอชั่วร้ายกระหายเลือดด้วยความมัวเมาพบว่าไอชั่วร้ายกระหายเลือดหายไปแล้วก็อดตะลึงงันไม่ได้ หลังจากได้สติกลับมา เขาก็มองหลิงหลานด้วยสายตาเศร้าสร้อย มีการติเตียนอย่างไร้คำพูดอยู่ภายในนั้น

ท่าทีเช่นนั้นทำให้หลิงหลานนึกถึงพวกลูกหมาน่ารักบนรูปภาพในชาติก่อน ท่าทีถูกแย่งของรัก ดูยังไงก็น่ารัก

หลิงหลานข่มกลั้นความขบขันในใจ มองดูบุคลิกวิถีสังหารด้วยสีหน้าเย็นชา ทำท่าฉันไม่อยากให้นาย นายจะทำอะไรได้

จิตสังหารพาดผ่านขึ้นในแววตาของบุคลิกวิถีสังหาร เขาอยากฆ่าอีกฝ่ายมากๆ แย่งชิงไอชั่วร้ายกระหายเลือดของอีกฝ่ายที่ทำให้เขาหลงใหลมาดูดกลืนให้จนหมด แต่เขาก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว ดูจากไอชั่วร้ายกระหายเลือดของฝ่ายตรงข้ามที่รุนแรงกว่าเขาร้อยเท่า กอปรกับการหลบหลีกที่แปลกประหลาดสุดขีดและการโจมตีที่มีประสิทธิภาพ เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฆ่าอีกฝ่ายเลย

แต่ไอชั่วร้ายกระหายเลือดเข้มข้นที่น่าลุ่มหลงนั้น จะให้เขาปล่อยไปแบบนี้ก็ทำใจไม่ได้เหมือนกัน…บุคลิกวิถีสังหารมองหลิงหลานด้วยสายตาซับซ้อน เอ่ยปากพูดว่า “ไม่นึกเลยว่า นายเป็นคนประเภทเดียวกับฉัน นอกจากนี้ยังแข็งแกร่งกว่าฉันด้วย!” ความปรารถนาฉายขึ้นในแววตาของบุคลิกวิถีสังหารแวบหนึ่ง

“อยากก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นใช่ไหม?” หลิงหลานเลิกคิ้วถาม

“ใช่!” บุคลิกวิถีสังหารตอบกลับอย่างเฉียบขาด ถ้าเกิดให้เขาดูดซับไอชั่วร้ายพวกนี้ต่อไปได้ละก็ เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นแน่นอน

“ถ้านายยินดียอมอยู่ใต้อำนาจบุคลิกหลักของนาย ฉันอนุญาตให้นายต่อสู้กับฉันอาทิตย์ละครั้ง” หลิงหลานยื่นข้อเสนอออกมาตรงๆ

ดวงตาของบุคลิกวิถีสังหารเผยความดูถูกออกมา เขาคิดว่าความสามารถของบุคลิกหลักอ่อนแอมากเกินไปจริงๆ ไม่คู่ควรพอที่จะบงการบุคลิกรองอย่างพวกเขาเลย บุคลิกหลักอ่อนแอ บุคลิกรองแข็งแกร่ง นี่ก็คือสาเหตุที่แท้จริงที่ลั่วล่างไม่สามารถควบคุมบุคลิกอื่นๆ ได้

“ไม่ยอมเหรอ? ฉันจะให้บุคลิกหลักของนายไม่เปิดใช้พรสวรรค์ตลอดไปเลยนะ” มุมปากของหลิงหลานเผยรอยยิ้มหยันออกมา “ให้นายขัดเกลาสิ่งที่นายเรียกว่าวิถีสังหารในเขตแดนจิตใจเองตลอดกาล บางทีถ้าเป็นแบบนั้น นายก็อาจจะแข็งแกร่งขึ้นได้เหมือนกันนะ” หลิงหลานเอ่ยเยาะหยัน เชี่ยเอ๊ย ไม่นึกเลยว่าบุคลิกรองพวกนี้จะกล้าดูถูกบุคลิกหลัก ไม่คิดกันเลยหรือไงว่าการออกมาของพวกเขายังต้องอาศัยบุคลิกหลักเปิดใช้พรสวรรค์นะ เป็นพวกสมองทึบกันจริงๆ

คำพูดของหลิงหลานทำให้สีหน้าของบุคลิกวิถีสังหารเปลี่ยนไปฉับพลัน นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาหวาดกลัวอย่างยิ่งเช่นกัน ถึงแม้ว่าสาเหตุส่วนใหญ่ที่บุคลิกรองอย่างพวกเขาไม่ยินยอมอยู่ใต้อำนาจของบุคลิกหลักเป็นเพราะว่าบุคลิกหลักอ่อนแอมากเกินไป ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กลัวว่าหลังจากที่บุคลิกหลักควบคุมพวกเขาได้แล้ว มีตัวเลือกแล้ว คนที่ค่อนข้างแย่อยู่บ้างก็จะไม่มีโอกาสออกมาได้เลย ดังนั้นพวกเขาถึงร่วมกันตัดสินใจไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อบุคลิกหลัก และต่อสู้แย่งชิงโอกาสหนึ่งในหลายสิบตอนที่บุคลิกหลักเปิดใช้พรสวรรค์

“คิดดูดีๆ ละกัน มีโอกาสรับอากาศบริสุทธิ์ทุกอาทิตย์ กับถูกขังอยู่ในเขตแดนจิตใจตลอดกาล คนฉลาดต่างรู้ว่าควรจะเลือกยังไง” หลิงหลานใจเย็นสุดขีด ตอนนี้อำนาจความได้เปรียบอยู่ในมือเธอ เธอไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็นด้วย ในเมื่ออยากแข็งแกร่งขึ้น เธอที่รู้จักวิถีสังหารเช่นเดียวกันคือคู่ต่อสู้ที่ประมือได้อย่างยอดเยี่ยม บุคลิกวิถีสังหารต้องการต่อสู้กับเธอเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของวิถีสังหาร

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังมีท่าไม้ตายอยู่นะ…ไอชั่วร้ายพวกนี้ก็คือของบำรุงอันยิ่งใหญ่ของบุคลิกวิถีสังหาร ถ้าหากอีกฝ่ายยินดีรับเงื่อนไขของเธอ เธอก็ไม่สนใจที่จะป้อนให้เขาอาทิตย์ละครั้ง ถึงยังไงไอชั่วร้ายกระหายเลือดของเธอสามารถได้รับจากในมิติการเรียนรู้ เธอไม่สนใจที่จะสิ้นเปลืองมันสักหน่อย

พอเห็นความหวั่นไหวในแววตาของบุคลิกวิถีสังหาร หลิงหลานก็ตัดสินใจโจมตีอีกครั้ง ปล่อยท่าไม้ตายของเธอออกมา “อีกอย่าง ถ้าเกิดนายทำตัวดี ฉันสามารถมอบไอชั่วร้ายกระหายเลือดให้นายได้นิดหน่อยทุกอาทิตย์นะ”

แววตาของบุคลิกวิถีสังหารส่องประกายขึ้นมา “คำพูดนี้เป็นความจริงเหรอ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว วิญญูชนพูดคำไหนคำนั้น!” หลิงหลานกล่าวพลางเชิดคางขึ้นอย่างทระนงตน เธอ…หลิงหลานจะหลอกลูกน้องของตัวเองได้เหรอ?

“ตกลง!” บุคลิกวิถีสังหารตอบอย่างเด็ดขาด การล่อลวงอันสุดท้ายนั้นเล่นใหญ่มากเกินไปแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถออกมารับอากาศบริสุทธิ์อาทิตย์ละครั้ง การยอมอยู่ใต้อำนาจบุคลิกหลักก็ไม่ได้นับว่าขาดทุนมากนักเหมือนกัน

“งั้นก็ให้บุคลิกหลักของนายออกมาเถอะ” หลิงหลานกล่าว

ไม่นานบุคลิกหลักของลั่วล่างก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากครั้งนี้บุคลิกวิถีสังหารยินดีให้ความร่วมมือ การสยบมันจึงง่ายดายอย่างยิ่งยวด ใช้เวลาไม่กี่วินาทีก็ทำสำเร็จแล้ว

เมื่อลั่วล่างได้ร่างคืนมาก็สัมผัสได้ถึงอานุภาพอันน่ากลัวของยาปลุก คราวนี้เขาไม่ต้องให้หลิงหลานสั่งก็ฉวยโอกาสตอนที่ตัวเองยังคงสติอันน้อยนิดสุดท้ายไว้ เปิดใช้พรสวรรค์อันต่อไปทันที

ลั่วล่างเปิดใช้พรสวรรค์ไปมารับบุคลิกเช่นนี้เอง ส่วนหลิงหลานก็ลงมือปราบปราม ล่อลวง หลอกต้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า…อย่างไรเสีย ขอเพียงสามารถทำให้บุคลิกรองเหล่านี้ยินยอมอยู่ใต้อำนาจบุคลิกหลัก พูดได้ว่าหลิงหลานใช้กลอุบายทุกอย่าง กำหนดขีดจำกัดล่างของเกียรติยศศักดิ์ศรีตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หลิงหลานลอบทอดถอนใจว่าเธอไม่ใช่คนดีอะไรเลยจริงๆ…

ไม่รู้ว่าเธอช่วยลั่วล่างปราบบุคลิกเช่นนี้ไปมากเท่าไหร่แล้ว หลิงหลานรู้สึกเหน็บกินบ้างแล้ว ส่วนท้องฟ้าก็ค่อยๆ เผยแสงแรกรุ่งออกมาเล็กน้อย ฟ้าใกล้สว่างมากขึ้นเรื่อยๆ เสี่ยวซื่อที่ชมดูอยู่ด้านข้างก็อดลอบร้อนใจขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน

เนื่องจากหากคิดจะลอบกลับไปยังหอพักอย่างเงียบเชียบในตอนกลางวัน ต่อให้มีเสี่ยวซื่อช่วยเหลือก็ยังยากสุดขีดอยู่ดี เสี่ยวซื่อไม่รู้ว่าตัวเองต้องใช้วิธีการสร้างลูกพี่กับลั่วล่างออกจากบ้านพักมาฝึกซ้อมวิชาต่อสู้ในหอต่อสู้ตั้งแต่เช้าหรือเปล่า?

เอาเถอะ ยังมีช่วงเวลาสุดท้ายเหลืออยู่นิดหน่อย เสี่ยวซื่อตัดสินใจอดทนรอต่อไป ถ้าหากฟ้าสว่างแล้วจริงๆ ละก็ เขาจะถามลูกพี่ของเขาดูว่าต้องทำแบบนี้หรือไม่

และในตอนนี้เอง ลั่วล่างเปิดใช้งานบุคลิกใหม่อีกครั้ง การปรากฏตัวของบุคลิกนี้นำพากลิ่นอายเย็นเยียบสุดขีดมาด้วย ทำให้อุณหภูมิของห้องส่วนตัวลดลงไปบ้างอย่างรวดเร็ว

การปรากฏตัวของความเย็นยะเยือกนี้ทำให้จิตวิญญาณของหลิงหลานปั่นป่วนฉับพลัน หรือว่าบุคลิกเย็นชาสุดขีดที่เธอเฝ้ารอคอยมาตลอดก็โผล่ออกมาแล้วในที่สุด?

จากนั้นก็เห็นลั่วล่างกวาดสายตามองเข้ามาด้วยความเย็นชา เมื่อเขาเห็นหลิงหลานก็เอ่ยพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ที่แท้ก็เป็นนายนี่เอง”

หลิงหลานอึ้งไป เธอเคยเจอบุคลิกนี้มาก่อนเหรอ? ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าบุคลิกนี้เคยปรากฏตัวขึ้นมาบนการประลองต่อสู้เดิมพันกับเหลยถิงเมื่อไม่นานมานี้ เขาวางแผนอย่างสมบูรณ์แบบด้วยความเยือกเย็นสุดขีด ใช้แขนเป็นค่าชดเชยในการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่านี่ย่อมเป็นบุคลิกที่โหดเหี้ยมต่อตัวเองอย่างยิ่งยวดเพื่อชัยชนะ

“ตัดเจ็ดอารมณ์หกปรารถนาของตัวเองซะ ให้ตัวเองเหลือแค่บุคลิกเย็นชาอย่างที่ไม่มีขีดจำกัดเท่านั้น ค้นหาและคำนวณทุกอย่างที่มีความเป็นไปได้ในการได้รับชัยชนะ นายน่าจะเป็นบุคลิกที่เย็นชาสุดขีดคนนั้นสินะ” หลิงหลานคิดว่าอีกฝ่ายก็คือเป้าหมายที่เธอตามหา เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะจัดการจริงๆ ด้วย

“ถูกต้อง ไม่นึกเลยว่านายจะรู้เบื้องลึกของฉันด้วย ไม่ธรรมดาจริงๆ มิน่าล่ะ บุคลิกหลักถึงยอมรับนายเป็นลูกพี่” บุคลิกที่เย็นชาสุดขีดตอบกลับเรียบๆ แน่นอนว่ายังคงมองเห็นร่องรอยความเหยียดหยามที่ซ่อนลึกอยู่ด้านในรางๆ