บทที่ 147 เหยียนเยว่เอ่อร์หรือ
น้ำตกสูงชันร้อยฟุตที่พลุ่งพล่าน หลิวซัวตักน้ำขึ้นมาดื่มสองสามอึกที่แอ่งน้ำด้านล่างของน้ำตก
ทันใดนั้น รูม่านตาของเขาหดเล็กลงเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายชีวิตที่อ่อนมากสายหนึ่ง
แม้กลิ่นอายสายนี้จะอ่อนมาก แต่กลับรู้สึกคุ้นเคย
กวาดสายตามองโดยรอบ ไม่นานสายตาของหลัวซิวก็จับจ้องไปที่ถ้ำลับแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างแอ่งน้ำของน้ำตก
ผ่านไปสักพัก หลัวซิวเดินมาถึงภายในถ้ำ หรี่สายตาลงเล็กน้อย
เห็นเพียงผู้หญิงผมสีแดงคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นภายในถ้ำ ราวกับหมดสติ สีหน้าซีดขาว ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท กลิ่นอายชีวิตอ่อน ราวกับพร้อมที่จะตายทุกเมื่อ
หลัวซิวขมวดคิ้ว ถึงแม้จะโดนฝ่ามือตราแห่งความเป็นตาย แต่ด้วยความสามารถของเหยียนเยว่เอ่อไม่ควรสาหัสถึงขั้นนี้ถึงจะถูก
เขาไม่ได้สงสัยว่าเหยียนเยว่เอ่อร์คนนี้แกล้งหมดสติ เพราะลูกแก้วความเป็นตายไม่มีทางสัมผัสกลิ่นอายชีวิตผิด
“ท่านแม่…”
เหยียนเยว่เอ่อร์ที่หมดสติพูดละเมอออกมาอย่างกะทันหัน คิ้วของนางขมวดแน่น ท่าทางอ่อนแอไร้ที่พึ่ง ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะคิดสงสาร
หลัวซิวก้าวเท้าเดินเข้าไป เหยียนเยว่เอ่อร์ยังคงไม่รู้สึกตัว
ภายใต้สถานการณ์ที่อยู่ใกล้ หลัวซิวตรวจสอบด้วยการรับรู้พลังชีวิต พบว่าอาการบาดเจ็บบนตัวของเหยียนเยว่เอ่อร์หนักมาก มันมีสัญญาณของร่างเนื้อกำลังจะพังทลาย
และต้นตอของอาการบาดเจ็บพวกนี้ มันเป็นเพราะตัวหยั่งรู้ในดวงวิญญาณนางได้รับความเสียหาย!
เมื่อการรับรู้ของหลัวซิวสำรวจไปถึงตัวหยั่งรู้ในดวงวิญญาณของนาง เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของการสำนึกที่แรงกล้าสายหนึ่ง แม้มันจะอ่อนมาก แต่กลับมีความน่าเกรงขามของจักรพรรดิปกครองทั่วใต้หล้าที่ไม่สามารถคาดเดา
ความรู้สึกแบบนี้ หลัวซิวก็เคยสัมผัสถึงตอนโดนซูจิ้งหยุนยึดร่างในหุบเขากุ่ยอิน
“หรือว่าเหยียนเยว่เอ่อร์คนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ เป็นเพราะเทพจิตได้รับความเสียหายอย่างหนักจึงส่งผลให้ผลการฝึกตกลง?” หลัวซิวคาดเดา เมื่อเป็นแบบนี้ก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมนางถึงมีการสำนึกและครอบครองห้วงยุทธ์
แต่ไม่ว่ายังไง เหยียนเยว่เอ่อร์คนนี้แม้จะดูเหมือนอ่อนแอ แต่ในความเป็นจริงจิตใจของนางโหดเหี้ยม เพื่อที่จะเปิดแดนลับถึงขั้นยอมสังเวยเลือดของคนนับร้อย เพื่อต้องการแย่งหยกอสูร ถึงขั้นเคยลงมือคิดจะฆ่าเขา
แต่ทว่า เดิมทีนี่ก็เป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งเป็นเจ้า ผู้อ่อนแอเป็นมด ผู้ฝึกยุทธ์คนไหนบ้างที่ไม่มีจิตใจเยือกเย็นอำมหิต?
“ท่านแม่…เยว่เอ่อร์จะต้องแก้แค้นให้ท่าน! ……” เหยียนเยว่เอ่อที่กำลังหมดสติพูดละเมออีกครั้ง
“นางเป็นผู้หญิงที่มีอดีต”
ภายนอกแข็งแกร่ง ภายในอ่อนแอ เหยียนเยว่เอ่อในตอนนี้ทำให้หลัวซิวเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจอย่างช่วยไม่ได้
หลัวซิวขมวดคิ้ว สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เหมาะกับโลกใบนี้ อย่างเช่นคนของตระกูลกงซุนพวกนั้น ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ สุดท้ายเกือบจะโดนคนพวกนั้นลอบฆ่า
“โฮง!”
เสียงอสูรคำรามดังมาจากนอกถ้ำอย่างกะทันหัน มีอสูรหลายตัวพุ่งเข้ามา แต่ละตัวแยกเขี้ยวที่น่ากลัว ดวงตาที่ดุร้ายแดงก่ำ
แววตาของหลัวซิวเย็นชาลง ชี้นิ้วออกไป ปราณกระบี่เปลวเพลิงสีดำควบแน่น สังหารพวกอสูรที่ที่พุ่งเข้ามาก่อนหลายตัวตายทันที
ในบรรดาอสูรสี่ตัว มีอสูรเพียงตัวเดียวที่กลายเป็นลูกแก้วโลหิต
กลิ่นคาวเลือดที่อบอุ่นลอยคลุ้ง อีกไม่นานจะดึงดูดอสูรมากกว่านี้มาที่นี่
“ช่างเถอะ ข้าจะขอเป็นคนดีอีกครั้งก็แล้วกัน”
แม้จะรู้ว่าการเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ท้ายที่สุดหลัวซิวเป็นเพียงเด็กหนุ่มอายุสิบสี่ปี ภายในใจยังคงมีร่องรอยของความเมตตา
หลังจากดีดเพลิงมรณะหลายลูกออกเผาซากของอสูรสามตัวกลายเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นยกแขนขึ้น ปราณแท้พุ่งออกไปกวาดต้อนกลิ่นคาวเลือดที่อยู่ภายในถ้ำหายไปกับอากาศ
หลังจากนั้นหลัวซิวหยิบผังค่ายออกมาวางไว้ตรงทางเข้าของถ้ำ
นั่งขัดสมาธิลงที่ด้านข้างของเหยียนเยว่เอ่อร์ หลังจากที่ผ่านการสำรวจอาการบาดเจ็บ หลัวซิวรู้ซึ้งถึงความสามารถของตัวเอง เขายังไม่สามารถรักษาแผลแห่งเทพจิต
แต่เขาสามารถใช้วิธีการซ่อมแซมเส้นชีวิต ทำให้ร่างเนื้อที่กำลังจะพังทลายของนางคงที่ เพื่อระงับอาการบาดเจ็บและแพร่กระจายของเทพจิต
ประคองเหยียนเยว่เอ่อร์ที่หมดสติลุกขึ้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของหลัวซิวประทับลงบนแผ่นหลังของเหยียนเยว่เอ่อร์ พลังแห่งความเป็นตายสองระดับกลายเป็นพลังชีวิตภายในร่างกาย ไหลผ่านฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าไปในร่างกายเหยียนเยว่เอ่อร์ เริ่มทำการซ่อมแซมเส้นชีวิตที่กำลังจะพังทลายในร่างกายของนาง
……
ในขณะที่กำลังหมดสติ จิตสำนึกของเหยียนเยว่เอ่อร์จมอยู่ในโลกที่ว่างเปล่าและมืดมิดแห่งหนึ่ง
หลังจากที่ต่อสู้กับเด็กหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า‘หลัวซิว’ นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าด้วยความสามารถของนางในตอนนี้ จะโดนเด็กหนุ่มแดนพรสวรรค์ขั้นสามคนหนึ่งโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ
ดูจากภายนอกก็เหมือนไม่ได้สาหัสอะไรมากมาย แต่มันกลับไปกระตุ้นโดนแผลแห่งจิตเทพที่ระงับอาการเอาไว้ ภายใต้สถานการณ์ที่ปะทุขึ้นอย่างเต็มกำลัง ทำให้ทะเลแห่งการสำนึกของนางแทบจะพังทลาย เมื่อร่างเนื้อไม่มีจิตเทพที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุนก็แทบจะพังทลายลงเช่นกัน
นางรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในความฝันที่ยาวนานมาก ฝันเห็นภาพตอนเด็กขณะที่เห็นแม่ของตัวเองโดนคนอื่นฆ่าต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นฝันเห็นตอนที่ตัวเองกำลังฝึกฝนอย่างหนักทั้งหมดก็เพื่อวันหนึ่งจะสามารถแก้แค้นให้กับแม่ด้วยมือตัวเอง
ในเวลาสามร้อยปี ในที่สุดนางก็สามารถฝึกฝนมาจนถึงระดับแดนจักรพรรดิ์ยุทธ์ ติดหนึ่งในสิบจักรพรรดิยุทธ์ของประเทศเทียนหวู!
ถึงจะเป็นแบบนั้น นางยังคงไม่มีกำลังพอที่จะแก้แค้น และตระกูลของนางก็คิดอยากให้นางแต่งงานกับลูกชายของศัตรู!
ชั่วขณะหนึ่ง นางรู้สึกเหมือนฝันเห็นตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่ นั่นเป็นช่วงเวลาของความอบอุ่นและความสุขเพียงน้อยนิดในช่วงชีวิตสามร้อยปีของนาง
ในขณะที่ไม่รู้สึกตัว จิตสำนึกของนางเริ่มตื่นขึ้นทีละนิด พลังที่สูญเสียไปราวกับกำลังกลับมาทีละนิด……
“ข้าต้องตื่นขึ้นมา ข้าต้องแก้แค้น!” ภายในจิตใจของนางราวกับกำลังส่งเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง
เพื่อที่จะรักษาอาการบาดเจ็บให้เหยียนเยว่เอ่อร์ หลัวซิวเผาผลาญผลการฝึกไปจำนวนมาก
เขาไม่กล้าผลาญผลการฝึกจนหมด ไม่อย่างนั้นเมื่อไหร่ที่ผู้หญิงคนนี้ตื่นขึ้นมา ถ้าหากนางมีเจตนาที่คิดจะฆ่าเขา เกรงว่าเขาคงไม่มีพลังที่จะโต้ตอบ
ดังนั้น ทุกครั้งที่ผลการฝึกเผาผลาญไปถึงครึ่ง หลัวซิวจะนำหินพลังจิตออกมาจากแหวนเก็บของเพื่อฟื้นฟูผลการฝึกตน
โชคดีที่เขาขายกระบี่ยุทธ์และวิชาระดับล่างไปจนหมด ทำให้เขามีหินพลังจิตอยู่ในมือจำนวนมาก
การรักษาครั้งนี้ดำเนินไปถึงเจ็ดวันเต็ม ในที่สุดหลิวซิวก็สามารถฟื้นฟูเส้นชีวิตที่กำลังจะพังทลายของเหยียนเยว่เอ่อร์เสร็จสมบูรณ์ สามารถทำให้อาการคงที่ได้ชั่วคราว การปะทุของแผลแห่งจิตเทพก็คงที่ชั่วคราว
แต่นางจะลงมือสู้กับคนอื่นไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแผลแห่งจิตเทพของนางก็จะปะทุอีกครั้ง
จิตสำนึกที่กำลังหลับใหลเริ่มฟื้นฟูกลับมา กลิ่นอายเปลวเพลิงที่ร้อนระอุกำลังเพิ่มขึ้นในร่างกายของเหยียนเยว่เอ่อร์
“บูม!”
เปลวไฟปราณแท้โหมกระหน่ำบนร่างกายของนาง ชุดยุทธ์รัดรูปถูกเผาไหม้กลายเป็นเถ้าธุลีในพริบตาเดียว ผิวขาวเรียวราวกับหยก เปิดเผยต่อหน้าหลัวซิว
ในขณะเดียวกัน เหยียนเยว่เอ่อร์ลืมตาที่ปิดสนิทขึ้นทันที
วินาทีที่ตื่นขึ้น การสำนึกของนางแผ่ขยายออกเป็นวงกว้าง สัมผัสได้ถึงหลัวซิวที่อยู่ด้านหลังของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็รู้ ที่นางสามารถฟื้นขึ้นมาได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจากคนคนนี้
เพียงแต่ทันทีที่นางเริ่มใช้กันสำนึก รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ทะเลแห่งการสำนึกแทบจะพังทลาย ส่งเสียงครวญครางออกมาเล็กน้อย รีบดึงการสำนึกที่กระจายออกไปกลับมาทันที
ทันทีที่เหยียนเยว่เอ่อร์ตื่นขึ้น หลัวซิวเองก็รีบถอยหลังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย “แผลแห่งเทพจิตของเจ้าคงที่ชั่วคราว ถ้าหากเจ้าใช้การสำนึกอีก เมื่อไหร่ที่ทะเลแห่งการสำนึกพังทลาย ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าเป็นครั้งที่สองแล้ว”
หลังจากได้ยินคำพูดประโยคนี้ เหยียนเยว่เอ่อร์ขมวดคิ้ว ในขณะเดียวกันก็พบว่าเรือนร่างของตัวเองไม่มีอะไรปิดบังแม้แต่ชิ้นเดียว ในแววตาเริ่มปรากฏให้เห็นความเขินอาย
หุ่นของนางโค้งเว้านูนได้สัดส่วน ผิวขาวเนียนราวกับหยก สามารถเรียกได้ว่าเป็นความงามอันไร้ที่ติที่ผู้ชายนับไม่ถ้วนต่างฝ่ายหา วินาทีนี้ เป็นครั้งแรกที่โดนผู้ชายเห็นหมดทุกอย่าง
ในแหวนเก็บของก็มีพวกเครื่องนุ่งห่ม แต่ตอนนี้กลับไม่สามารถใช้ปราณแท้การสำนึก จึงไม่สามารถนำออกมาได้
ในขณะที่นางไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง หลัวซิวนำเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาส่งให้นาง “นี่เป็นเสื้อผ้าของข้า เจ้าเอาไปใส่ก่อนเถอะ”
เมื่ออยู่ในร่างที่เปลือยเปล่า ภายในจิตใจสามร้อยปีของเหยียนเยว่เอ่อร์เกิดความรู้สึกวุ่นวาย