ตอนที่ 266 อู๋เลี่ยนเยี่ยนไม่อยากโดดเดี่ยว

เจ้าสาวร้อยเล่ห์

“คุณหนูโม่!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนคารวะอย่างงดงามให้กับหญิงสาวที่แต่งตัวแปลกตาตรงหน้า แม้ว่าอนุภรรยาอู๋จะไม่ได้มีหน้ามีตาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เรื่องภายในจวนก็ยังคงสืบข่าวออกมาได้ ผู้หญิงตรงหน้านี้เพิ่งจะเข้าประตูมา พวกนางก็ไปสืบข่าวฐานะของนางมาทันที อนุภรรยาอู๋เพียงรู้สึกประหลาดใจเท่านั้น นางก็รู้จักอวี๋ฮวน ความแค้นในปีนั้นนางก็ได้ยินมาบ้างอยู่เหมือนกัน เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่หายตัวไปกว่าสิบปี จู่ๆ ศิษย์ของนางจะมาปรากฏตัวในตระกูลซั่งกวน และนางก็นึกขึ้นได้ว่าหวงฝู่เยวี่ยเอ้อย่อมต้องโกรธเคืองเป็นแน่ หลังจากตัวเองแอบรู้สึกดีใจบนความทุกข์ของผู้อื่นก็ไม่ได้สนอันใดแล้ว

แต่อู๋เลี่ยนเยี่ยนกลับไม่เหมือนกัน นางนึกถึงตอนแรกหลังจากที่ซั่งกวนเจวี๋ยถูกยา ‘หวงเหลียน’ ก็เห็นนางเป็นหญิงสาวในดวงใจคนหนึ่ง ทำให้นางสัมผัสถึงความทะนุถนอมอย่างถึงที่สุด หลังจากนั้นกลับฉุดนางลงจากก้อมเมฆสู่ฝุ่นผง จนถึงยามนี้ก็ยังไม่มีเรื่องให้พลิกตัวกลับขึ้นมา และหลังจากที่นางตรวจสอบผู้หญิงคนนั้นจากหลายๆ ด้าน ก็มั่นใจว่านางเป็นผู้หญิง ที่ลึกลับคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างแปลกประหลาดผู้นี้เป็นไปได้ว่าก็คือผู้หญิงที่ทำให้ซั่งกวนเจวี๋ยรักและหวงแหนผู้นั้น

นางคิดว่าการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้ เป็นสวรรค์ที่มอบโอกาสให้นาง หลังจากรู้เรื่องราวในปีนั้นมาจากอนุภรรยาอู๋ นางก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาโอกาสจะพบกันอย่าง ‘บังเอิญ’ กับคุณหนูสุรา

“เจ้าคือ…” คุณหนูสุรามองหญิงสาวที่สวมชุดหญิงที่แต่งงานแล้วตรงหน้า คิ้วก็ขมวดขึ้นอย่างเลือนราง นางกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าเยี่ยนมี่เอ๋อร์จะใช้เงื่อนไขอะไรมาเหนี่ยวรั้งนางไว้ และนางควรจะพูดคุยเงื่อนไขกับเยี่ยนมี่เอ๋อร์อย่างไร

“ข้าคืออู๋เลี่ยนเยี่ยน เป็นเมียบ่าวของคุณชายใหญ่!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ นางยังคงรู้สึกไม่พอใจกับฐานะของตัวเอง แต่ก็ได้ยอมรับไปแล้ว…ไม่ยอมรับแล้วจะทำอันใดได้อีก หากนางเผยความไม่พอใจหรืออาการอื่นๆ ออกไปแม้แต่น้อย ซั่งกวนเจวี๋ยก็สามารถส่งนางออกไปแต่งกับบ่าวคนอื่นได้ทันที ทั้งก็เป็นยามที่เรียนเรื่องกฎระเบียบกับแม่นมจ้าว นางจึงรู้ว่า หากเมียบ่าวทำให้เจ้านายไม่พอใจหรือเบื่อหน่ายแล้ว ก็สามารถส่งออกไปแต่งกับบ่าวคนอื่นได้ และด้วยเหตุนี้ นางจึงอยู่อย่างสงบเสงี่ยมมาเกือบสามปี

เมียบ่าว? คุณหนูสุราหรี่ตาเล็กน้อย ไม่เคยได้ยินว่าซั่งกวนเจวี๋ยมีอนุภรรยา เช่นนั้นเมียบ่าวคนนี้โผล่มาได้อย่างไรกัน?

“ข้ารู้ว่าคุณหนูโม่อาจจะยังคงสงสัย แต่อู๋เลี่ยนเยี่ยนเป็นเมียบ่าวของคุณชายใหญ่จริงๆ” อู๋เลี่ยนเยี่ยนแย้มยิ้มเล็กน้อย “เพียงแต่สะใภ้ใหญ่เป็นคนขี้หึง น้อยครั้งที่จะอนุญาตให้อู๋เลี่ยนเยี่ยนปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าคุณชายใหญ่ ดังนั้นนอกจากแม่นมสาวใช้ที่รับใช้ภายในจวนแล้ว คนอื่นๆ ก็น้อยนักที่จะรู้จักตัวตนของเลี่ยนเยี่ยน!”

ที่แท้ก็เป็นเมียบ่าวที่ตกกระป๋องคนหนึ่ง ไม่รู้ว่ายามใดจะถูกสะใภ้ใหญ่ตระกูลซั่งกวนบีบให้ตายคามือ! แววตาดูแคลนของคุณหนูสุราปรากฏอยู่ในสายตาของอู๋เลี่ยนเยี่ยน ทำให้อู๋เลี่ยนเยี่ยนโมโหเป็นอย่างมาก แต่นางในยามนี้ไม่ใช่อู๋เลี่ยนเยี่ยนในปีนั้นแล้ว รู้จักว่าอะไรคือการอดกลั้น ใบหน้ายังคงแฝงด้วยรอยยิ้มบาง “คุณหนูโม่ย่อมคิดว่าไม่เร็วก็ช้าเลี่ยนเยี่ยนก็คงถูกไล่ออกไปแล้วกระมัง!”

“จะเป็นไปได้อย่างไร!” แม้คุณหนูสุราจะคิดเช่นนั้น ก็ไม่อาจพูดเช่นนั้นออกมาได้ นั่นไม่เท่ากับว่าตบหน้าผู้หญิงคนนี้ตรงๆ หรอกหรือ นางในยามนี้ นอกจากฐานะแขกของตระกูลซั่งกวนที่แทบคุ้มกันภัยไม่ได้ ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว ไม่อาจจะสร้างศัตรูไปทั่วได้

“คุณหนูโม่จะมีความคิดเช่นนี้ที่จริงก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่า…” อู๋เลี่ยนเยี่ยนคลี่ยิ้มบาง “เลี่ยนเยี่ยนไม่เหมือนกับเมียบ่าวทั่วไป คุณชายใหญ่เพิกเฉยต่อเลี่ยนเยี่ยน ส่วนสะใภ้ใหญ่ แม้ว่าเอาแต่คิดหาโอกาสไล่เลี่ยนเยี่ยนออกไปอยู่เรื่อยมา แต่กลับไม่อาจจะทำอย่างบุ่มบ่ามได้ คุณหนูโม่อยากรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด?”

คุณหนูสุรามองอู๋เลี่ยนเยี่ยนอย่างเรียบนิ่ง ยามนี้นางต้องขอร้องตัวเอง ไม่มีความจำเป็นที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายรุก!

“คาดว่าคุณหนูโม่คงเคยพบกับท่านป้าของข้าแล้ว!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนก็ไม่ได้ปิดบัง นางในยามนี้ไม่อาจจะใช้ประโยชน์จากการปิดบังได้ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านป้าของข้าคืออนุภรรยาอู๋ เป็นอนุภรรยาที่นายท่านเคยเห็นความสำคัญมากที่สุด จัดการดูแลภายในจวนมาเกือบยี่สิบปีแล้ว นับได้ว่าเป็นตำแหน่งที่มีความลำบาก แต่ก็สร้างผลงานได้อย่างใหญ่หลวง”

อนุภรรยาอู๋? คุณหนูสุรายังคงมีภาพจำเล็กน้อย วันนั้นผู้ที่ต้อนรับพวกเขาก็มีเพียงอนุภรรยาสองคน คนหนึ่งสกุลอู๋ อีกคนสกุลหวัง และลูกชายของอนุภรรยาหวังคนนั้นก็ยอดเยี่ยมไม่เบา เป็นเพียงลูกอนุภรรยาคนหนึ่งกลับได้แต่งกับมู่หรงชิงหวั่น คุณหนูลูกภรรยาเอกที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดของตระกูลมู่หรง จุดนี้นางกระจ่างแจ้งดี เพียงแต่อนุภรรยาอู๋คนนี้เหมือนว่าจะไม่มีทายาทสืบทอด!

“ท่านป้าไม่มีบุตร ดังนั้นจึงรับเลี่ยนเยี่ยนเข้ามาในจวน เลี้ยงดูอยู่ข้างกาย!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนย่อมกระจ่างใจว่าคุณหนูสุรากำลังคิดอะไรอยู่ กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ภายหลังเพราะมีชะตาข้องเกี่ยวกันอย่างบังเอิญ เลี่ยนเยี่ยนจึงกลายเป็นคนของคุณชายใหญ่ แต่สะใภ้ใหญ่กลับจิตใจคับแคบ มากวิธีการทั้งเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเป็นได้เพียงเมียบ่าวมาโดยตลอด ไม่ได้เลื่อนเป็นอนุภรรยา!”

“ข้าเห็นว่าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าใจกว้างมีคุณธรรม อบอุ่นใจดี เหตุใดจึงจะเป็นคนจิตใจคับแคบไปได้?” ในสายตาคุณหนูสุรา เยี่ยนมี่เอ๋อร์ก็เป็นเพียงคนที่น้อยเนื้อต่ำใจในตัวเอง ขี้ขลาด ทั้งน่าสงสารอยู่บ้าง แม้จะไม่แน่ว่าเป็นคนที่มีคุณธรรม แต่ชาติกำเนิดของนางทำให้นางเป็นได้เพียงคนที่มีคุณธรรมเท่านั้น มิเช่นนั้นอาจจะไม่มีตำแหน่งใดให้อยู่เลย

“ใจกว้างมีคุณธรรม อบอุ่นใจดี?” อู๋เลี่ยนเยี่ยนหัวเราะอย่างเย็นเยียบ “ไม่รู้ว่าคุณหนูโม่รู้จักทั่วป๋าฉินซิน คุณหนูสี่ของตระกูลทั่วป๋าหรือไม่ นางนับได้ว่าชื่นชอบคุณชายใหญ่อย่างสุดหัวใจ ตั้งแต่เพิ่งจะรู้ความก็คิดอยากจะแต่งให้คุณชายใหญ่แล้ว ฮูหยินใหญ่ก็สนับสนุนงานแต่งครั้งนี้อย่างสุดกำลัง แต่ยามนี้เล่า? ทั่วป๋าฉินซินจำต้องแต่งให้กับลูกอนุภรรยาของตระกูลซั่งกวน ผู้ที่นางไม่เคยมองอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เจ้าคิดว่าภายในนี้จะไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเลยหรือ?”

“เจ้าหมายความว่า…” คุณหนูสุรายากที่จะเชื่อ แม้ว่าเยี่ยนมี่เอ๋อร์จะเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลซั่งกวน แต่เหตุใดนางจึงสามารถทำให้คุณหนูชาติตระกูลดีตกต่ำไปถึงจุดนั้นได้?

“เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของสะใภ้ใหญ่พวกเราที่มักจะแย้มยิ้มคนนั้น นางเผยยิ้มขึ้นมากลับดูอ่อนโยน แต่เมื่อโหดเหี้ยมขึ้นมาก็แทบไม่มีคนเทียบเทียมได้เช่นกัน กล่าวว่าภายนอกนางดูเป็นคนดีภายในคิดร้ายก็ไม่เกินไปแต่อย่างใด!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนพูดได้ว่าเกลียดเยี่ยนมี่เอ๋อร์เข้ากระดูกดำ เพราะนาง ตระกูลอู๋จึงกลับไปสู่สถานการณ์ยากลำบากเหมือนเมื่อยี่สิบปีก่อน เพราะนาง อนุภรรยาอู๋จึงสูญเสียอำนาจในการควบคุมเรื่องภายในบ้าน และนางยิ่งรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ไม่มีวันได้เชิดหน้าชูตา หลายปีมานี้นางเอาแต่จับตาดูเยี่ยนมี่เอ๋อร์อย่างระแวดระวัง หวังว่าจะมีวันหนึ่งที่สามารถโต้กลับได้ ตัวเองก็จะพลิกกายขึ้นมาได้เช่นกัน

ภายนอกดูเป็นคนดี ภายในคิดร้าย? ถึงขนาดนั้นเลยหรือ? คุณหนูสุราไม่คิดว่าเช่นนั้น ก็แค่หญิงสาวบอบบางคนหนึ่ง จะเก่งได้ขนาดไหนกันเชียว?

“คุณหนูโม่ไม่เชื่อ?” อู๋เลี่ยนเยี่ยนรู้ว่าเป็นเรื่องยากที่คุณหนูสุราจะเชื่อคำพูดเพียงด้านเดียวของตัวเอง แต่ก็ไม่โกรธเคือง กล่าวยิ้มๆ “ข้าก็ไม่ได้ขอร้องให้คุณหนูโม่เชื่อคำพูดของเลี่ยนเยี่ยนในทันที เพียงแต่หวังว่าคุณหนูจะระวังรอบคอบ ไม่ใช่ถูกคนอื่นหลอกก็ยังไม่รู้ตัว”

“เจ้าพูดเรื่องพวกนี้กับข้าทำไม?” สีหน้าของคุณหนูสุรามืดมนลงเล็กน้อย “ข้าแค่เป็นแขกที่ตระกูลซั่งกวนไม่กี่วันเท่านั้น หลังจากสองวันก็จะออกไปแล้ว นิสัยสะใภ้ใหญ่ของเจ้าจะเป็นอย่างไรข้ากลับไม่สนใจแม้แต่น้อย!”

“หรือคุณหนูโม่ไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อคุณหนู?” อู๋เลี่ยนเยี่ยนกล่าวด้วยยิ้มบาง “ก่อนที่จะพูดคุยเรื่องงานแต่งกับสะใภ้ใหญ่ คุณชายใหญ่ได้คิดหาวิธีมากมายที่จะถอนหมั้น หากไม่ใช่เพราะว่าฮูหยินใช้ความตายมาข่มขู่ ตำแหน่งสะใภ้ใหญ่ของตระกูลซั่งกวนจะเป็นหญิงสาวที่มีชาติกำเนิดเป็นลูกพ่อค้าวาณิชได้อย่างไร? คุณหนูโม่รู้หรือไม่ว่า เหตุใดปีนั้นคุณชายใหญ่จึงอยากถอนหมั้น?”

“ทำไมเล่า?” คุณหนูสุราสงสัยเป็นอย่างมาก เรื่องที่ซั่งกวนเจวี๋ยอยากถอนหมั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ

“เป็นเพราะหญิงงามคนหนึ่ง หญิงงามผู้นั้นเป็นคนที่คุณชายใหญ่และพวกคุณชายมู่หรงได้รู้จักที่งานประลองยุทธ์ หากเลี่ยนเยี่ยนเดาไม่ผิดละก็ คนผู้นั้นคงเป็นคุณหนูโม่นั่นแหละ!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนถึงกับเตรียมพร้อมมากมายเพื่อวันนี้ เรื่องในปีนั้นก็ตรวจสอบมาอย่างดี หลังจากวิเคราะห์เบาะแสภายใน ก็รู้สึกว่าเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นหญิงสาวตรงหน้า

“พวกเรานั้นรู้จักกันในงานประลองยุทธ์” จุดนี้คุณหนูสุรากระจ่างใจดี ในใจยิ่งหวาดหวั่นขึ้นเรื่อยๆ หากเป็นเช่นนั้น …ตัวเองก็อาจจะต้องคิดแต่งเข้าตระกูลซั่งกวนอย่างจริงๆ จังๆ ได้แล้ว แต่ต้องเป็นตำแหน่งภรรยาเท่านั้น

“ข้าก็เดาว่าอย่างนั้น” อู๋เลี่ยนเยี่ยนถอนหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดครั้งนี้นางก็พนันถูก กล่าวยิ้มๆ “คุณหนูรู้หรือไม่ว่าอาจารย์ของท่านและนายท่านมีความสัมพันธ์อย่างไรกัน?”

“อาจารย์ข้าและผู้นำตระกูลซั่งกวนเป็นเพียงสหายเก่าเท่านั้น มีความสัมพันธ์ธรรมดาทั่วไป!” คุณหนูสุราไหนเลยจะรู้เรื่องพวกนี้ ซั่งกวนเจวี๋ยเพียงเปิดเผยว่าอาจารย์ของคุณหนูสุราและซั่งกวนฮ่าวเคยรู้จักกัน แต่รู้จักกันแบบไหนกลับไม่ได้พูดอย่างละเอียด และนางก็ทำได้เพียงถามอย่างอ้อมๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่สืบมาได้ก็มีไม่มาก

“เป็นอาจารย์ท่านที่กล่าวกระมัง” อู๋เลี่ยนเยี่ยนคิดว่าเป็นเช่นนั้น “ข้าได้ยินมาว่าในปีนั้น อาจารย์ของท่านเป็นสาวคนสนิทของนายท่าน หากไม่ใช่เพราะสาเหตุบางอย่างที่ไม่อาจรู้ได้ อาจารย์ของท่านอาจจะแต่งเป็นภรรยาให้แก่นายท่านแล้วก็เป็นได้! ดังนั้น นายท่านจึงรู้สึกผิดกับอาจารย์ของท่าน ย่อมต้องมีความเมตตาต่อท่านมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น! คุณหนูสุรารู้สึกว่าการสรุปเช่นนี้สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง หากเป็นเช่นนั้น ตัวเองจะแต่งเป็นภรรยาให้ซั่งกวนเจวี๋ยก็ย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปได้เช่นกัน! จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าอากาศสดใสขึ้นมาทันตา อารมณ์ก็ดีตามไปด้วยเช่นกัน

“ดังนั้นขอเพียงแค่คุณหนูมีความรู้สึกเล็กๆ ต่อคุณชายใหญ่ มีความพยายามเล็กน้อย ก็สามารถรั้งตัวอยู่ได้แล้ว ข้าว่าคุณชายใหญ่ย่อมจะแต่งคุณหนูเข้ามาในฐานะภรรยา!” อู๋เลี่ยนเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“เจ้ามาหาข้าพูดเรื่องพวกนี้เพราะมีแผนอันใด?” คุณหนูสุราก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมาก เพียงแต่ไม่เข้าใจในสถานการณ์เท่านั้น ดังนั้นจึงสับสนมึนงงอยู่บ้าง นางคิดว่าอู๋เลี่ยนเยี่ยนย่อมต้องการอะไรสักอย่าง

“หากคุณหนูสามารถเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลซั่งกวน อย่างไรขอคุณหนูอย่าได้ลืมเลี่ยนเยี่ยนด้วย พูดคำพูดสวยหรูต่อหน้าคุณชายใหญ่ ให้เลี่ยนเยี่ยนได้สามารถออกมาเชิดหน้าชูตา กลายเป็นอนุภรรยา!” คำร้องขอของอู๋เลี่ยนเยี่ยนไม่ได้สูงมาก ทั้งไม่กล้าที่จะหวังสูง อนุภรรยาหนิงเป็นคนข้างกายของฮูหยินใหญ่ ทั้งกำเนิดลูกสาวและลูกชายให้กับซั่งกวนฮ่าว ก็ยังเป็นได้เพียงอนุคนหนึ่ง เมื่อก่อนนางถูกปิดหูปิดตา คิดว่าตัวเองทำถูกมาตลอด แต่หลังจากนี้นางไม่อาจจะทำผิดซ้ำเดิมได้แล้ว

“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะไม่สนใจเจ้าหรือ?” หลังจากคุณหนูสุราครุ่นคิดแล้วก็ไม่ยอมรับ นางไม่อยากเพิ่มคู่ต่อสู้อีกคนให้ตัวเอง โดยเฉพาะคู่ต่อสู้ที่มีท่าทีเก่งกาจเป็นอย่างมากเช่นนี้

“หลังจากคุณหนูโม่ได้เห็นความร้ายกาจของสะใภ้ใหญ่ย่อมจะนึกถึงอู๋เลี่ยนเยี่ยนอย่างแน่นอน” อู๋เลี่ยนเยี่ยนกลับไม่กังวลแม้แต่น้อย แม้ว่าคุณหนูโม่ผู้นี้จะได้รับความสำคัญจากนายท่านและคุณชายใหญ่ แต่กลับไม่แน่ว่าจะได้รับความโปรดปรานจากฮูหยิน อีกอย่างหญิงสาวที่คลุกคลีกับยุทธภพเช่นนางนี้ คิดอยากจะอยู่ในตระกูลใหญ่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ไม่หาพรรคหาพวก รอนางประสบความยากลำบาก ยามที่ไม่อาจสู้กับเยี่ยนมี่เอ๋อร์ได้ ก็ย่อมจะหันมาขอร้องตน ร่วมมือกับตน

“อู๋เลี่ยนเยี่ยน ข้าจะจำไว้!” คุณหนูสุราไม่ได้พูดอย่างเต็มปากเต็มคำ เพียงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเท่านั้น และเป้าหมายของอู๋เลี่ยนเยี่ยนก็บรรลุผล เผยยิ้มออกมา หลังจากทิ้งวิธีติดต่อไว้ก็จากไป นางไม่อยากจะถูกเยี่ยนมี่เอ๋อร์จับจุดอ่อน ทั้งถูกเตะออกไปก่อนที่ละครฉากใหญ่จะเริ่มขึ้น…