ซูฉิงไม่ได้สนใจถังรั่วอิงอีก แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เดินออกไปจากห้องท่านประธานใหญ่
แต่ภายในใจกลับรู้สึกเจ็บจี๊ด
ถังรั่วอิงเข้ามายั่วอารมณ์เธอไม่หยุด คิดจะทำอะไรกันแน่
ถังรั่วอิงไม่ใช่คบกับฮ่อหยุนเฉิงแล้วหรอ ทำไมยังจะมากลัวว่าจะเสียฮ่อหยุนเฉิงไปอีกละ กลัวจะถูกคนอื่นแย่งไปหรอ
ถ้าหากว่าถังรั่วอิงเป็นถังถังจริงๆ ละก็ เธอน่าจะมีความมั่นใจมัดใจฮ่อหยุนเฉิงไว้อยู่แล้วสิ
แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่เป็นอย่างนี้
ถังรั่วอิงกำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่
ซูฉิงคิดอยู่สักพัก ก็ส่งข้อความหาแอนโธนี่ [แอนโธนี่ ช่วยฉันสืบเรื่องคนคนหนึ่งหน่อย]
แอนโธนี่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว [สืบใคร ขออย่าเป็นอะไรถึงถังนั่นก็พอ]
ถังถัง………
ซูฉิงมกัดปากมองบนครุ่นคิด ก็สืบถังถังจริงๆ น่ะแหละ
แต่ว่า ตอนนี้ถ้าหากว่าสืบจากตัวถังรั่วอิง
ว่าถังรั่วอิงใช่ถังถังมั้ย……งั้นก็ต้องรอดูต่อไป
ซูฉิงยกยิ้มกระหยิ่มแล้วพิมพ์ข้อความส่งไปให้กับแอนโธนี่ [ช่วยฉันสืบเรื่องถังรั่วอิงหน่อย มีชื่อในวงการว่าAmgela เคยเป็นนักร้องนำที่บาร์ ฉันต้องการข้อมูลของเธอทั้งหมด]
พอส่งข้อความออกไป ซูฉิงก็ส่งข้อความเพิ่มเติม [โดยเฉพาะช่วงเวลาวันที่18เดือนที่แล้ว เกี่ยวกับถังรั่วอิง ว่ามีเรื่องอะไรพิเศษรึเปล่า]
วันที่18 เดือนที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่ซูฉิงกับฮ่อหยุนเฉิงจะจัดงานหมั้นกัน
วันนั้นถังรั่วอิงปรากฏตัวต่อหน้าของฮ่อหยุนเฉิง และทำให้งานหมั้นของเธอกับฮ่อหยุนเฉิงพังไม่เป็นท่า
อย่างที่ยวี๋น่าพูดไว้ ว่ามันบังเอิญเกินไปมั้ย
เรื่องบังเอิญอย่างนี้ เบื้องหลังจะต้องมีคนบงการแน่ ความรู้สึกบอกซูฉิงอย่างนั้น เรื่องที่ถังรั่วอิงปรากฏตัวขึ้น
จะต้องมีคนตั้งใจให้มันเกิดขึ้นแน่
[พี่ ada ผมจะช่วยสืบอย่างสุดความสามารถ] แอนโธนี่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
[ได้ ฉันรอข่าวจากนาย] ซูฉิงตอบกลับ
จากนั้นเธอก็วางโทรศัพท์ลง แล้วเดินออกมาจนถึงหน้าห้องท่านประธานใหญ่
พอคิดว่าจะต้องเจอกับฮ่อหยุนเฉิงซูฉิงก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้า ทำใจให้นิ่งจากนั้นก็ยื่นมือเคาะประตู
“เข้ามา” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงดังเล็ดลอดออกมา
จากนั้นซูฉิงผลักประตูเข้ามา
“ซูฉิงหรอ “ฮ่อหยุนเฉิงเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเป็นหุ่นเพรียวปรากฏต่อสายตาเขา แววตาที่เย็นชาก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาทันที
เขาลุกขึ้นยืน มองหน้าซูฉิง แล้วก็เอ่ยถาม”ซูฉิง เธอมาหาฉัน?”
“ใช่ “ซูฉิงพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินไปตรงหน้าโต๊ะทำงานของฮ่อหยุนเฉิง จากนั้นก็ยื่นเอกสารให้เขา “เกี่ยวกับโปรเจคน้ำแข็งและไฟ ฉันมีเรื่องจะต้องรายงานนาย”
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปยังเอกสารที่อยู่ในมือของซูฉิง
ซูฉิงเอ่ยต่อ “จากที่ฉันทราบมา บริษัทlove&love เจเวลรี่ ช่วงนี้ออกงานลอกเลียนแบบเยอะมาก ทำให้ส่งผลต่อคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟมาก ทำให้จำนวนการขายของเราในเดือนลดลงไปสองเท่า”
“เรื่องนี้ฉันรู้แล้ว ฉันได้ให้เฉินเหยียนเฟิงไปสืบแล้ว ” ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
ซูฉิงพยักหน้า “โอเค งั้นฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อน”
ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นผู้หญิงตรงหน้าทำหน้าเย็นชา ก็หน้าเคร่งขรึมขึ้น แล้วใช้มือไปคว้าเอวซูฉิงเข้ามากอดแน่น
ซูฉิงที่กำลังจะหันหลังเดินออกก็ได้รับแรงกอดจากด้านหลัง เธอที่ยื่นไม่นิ่งทำให้เสียหลังเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิง
จากนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็กดเธอลงโซฟาที่อยู่ข้างๆ
เขากดตัวลงไปมือสองข้างจับเข้าที่แขนทั้งสองข้างของซูฉิง ร่างของเขาก็กดเธอไว้จนขยับตัวไม่ได้
“มาหาฉัน แค่เรื่องงานหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างด้วยสายตานิ่งขรึม ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
ซูฉิงพยายามดิ้นขัดขืนแต่ไม่เป็นผล เลยย้อนถามกลับไป”แล้วไง”
ก็แค่เรื่องงานเท่านั้น……..
ฮ่อหยุนเฉิงเม้มปากเป็นเส้นตรง ใบหน้านิ่งขรึมบ่งบอกว่าตอนนี้เขาไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
บรรยากาศในห้องท่านประธานใหญ่ก็อึมครึมขึ้นมาเล็กน้อย
ท่ามกลางความเงียบ ฮ่อหยุนเฉิงก็เอ่ยถามเสียงเรียบ”ซูฉิง เธอไม่มีอะไรที่จะพูดกับฉันหน่อยหรอ”
“ไม่มี “ซูฉิงตอบเสียงเรียบ
“จะไม่ถามฉันหน่อยหรอ ว่าเมื่อคืนฉันไปไหน”พอเห็นซูฉิงทำท่าเหมือนไม่แคร์ ฮ่อหยุนเฉิงก็มีสีหน้าเครียดขึ้นมา
เมื่อคืนเขาไปหาถังรั่วอิง เธอจะไม่หวง ไม่ถามเขาหน่อยหรอ
ทำไมถึงได้ทำเป็นเหมือนทองไม่รู้ร้อนอย่างนี้
เธอไม่แคร์เขาจริงๆ หรอ
“เฮ่อ ๆ ถังถังของนายบอกฉันแล้ว “ซูฉิงยิ้มเยาะ
“ถังถัง เธอคุยอะไรกับเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงอึ้ง
ซูฉิงส่งเสียงเย็นชา เบี่ยงหน้ามองไปทางอื่นไม่มองเขาอีก
ฮ่อหยุนเฉิงหมายความว่ายังไง
เขายังทำให้เธอขับอายไม่พออีกหรอ
และทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะ จากนั้นก็เป็นเสียงของหลินเหยียนเฟิงที่ตะโกนเรียกอย่างมาอย่างไม่ถูกเวลา”ท่านประธานครับ”
ซูฉิงผลักฮ่อหยุนเฉิง ออก”มีคนมา ปล่อยฉันได้แล้ว”
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด แล้วปล่อยซูฉิง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ แล้วเอ่ยเสียงเรียบ”เข้ามา”
จากนั้นหลินเหยียนเฟิงก็ผลักประตูเข้ามา ก็เห็นซูฉิงอยู่ข้างในด้วย และท่านประธานของตนก็มีสีหน้าไม่สู้ดี
เอ่อ เหมือนเขาจะเข้ามาไม่ถูกเวลา…….
“มีอะไร”ฮ่อหยุนเฉิงถามอย่างหมดอารมณ์แล้วก็ปลดคลายเนกไท แล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม ถามหลินเหยียนเฟิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินเหยียนเฟิงก็รีบเดินไปหาเขา โค้งคำนับแล้วเอ่ยรายงานอย่างจริงจัง “ท่านประธาน ผมไปสืบข่าวlove&love เจเวลรี่ได้บ้างแล้วครับ”
“พูดมา”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ
หลินเหยียนเฟิงเปิดเอกสารที่อยู่ในมือ แล้วยื่นให้กับฮ่อหยุนเฉิง แล้วพูดอธิบายเสริมว่า”หลังจากเรื่องลอกเลียนแบบครั้งที่แล้ว love&love เจเวลรี่ ไม่เพียงแต่เปลี่ยนชื่อยังเป็นบริษัท ทุกฝ่ายล้วนจัดตั้งขึ้นใหม่ เงินลงทุนก็ขาดอยู่ในช่วงวิกฤต”
ซูฉิงได้ยินอย่างนั้น ก็ถามอย่างสงสัย “ในเมื่อlove&love เจเวลรี่ ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ ตอนนี้ทำไมถึงมาทำร้ายบริษัทได้งั้นหรอ”
“เพราะว่ามีคนเข้ามาซื้อ love&love เจเวลรี่ “หลินเหยียนเฟิงเหล่มองซูฉิงแล้วเอ่ยตอบ
“เข้ามาซื้อ love&love เจเวลรี่งั้นหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยถามย้ำ ด้วยน้ำเสียงแปลกใจ
ซูฉิงเองก็สงสัยเช่นกัน
ใครกันที่เข้ามาซื้อบริษํทที่สินค้าลอกเลียนแบบและเหมือนบริษัทจะล้มละลายแล้วไม่ใช่หรอ
“ใช่ครับ “หลินเหยียนเฟิงพยักหน้าตอบ
ฮ่อหยุนเฉิงถามอย่างเย็นชา “คนที่เข้ามาซื้อ love&love เจเวลรี่เป็นบริษัทไหนกัน”
หลินเหยียนเฟิงชี้ไปที่เอกสารข้อมูลที่อยู่บนโต๊ะ “เป็นบริษัทที่ออสเตรเลีย มีชื่อว่าBaxter Pty Ltd มีชื่อย่อว่า BPL ”
ออสเตรเลียงั้นหรอ??
ซูฉิงรู้สึกตงิดใจ เหมือนได้กลิ่นตุๆ แปลกๆ
ถ้าหากว่าเธอจำไม่ผิดละก็ ก่อนที่เธอจะโดนโคมไฟหล่นลงมาทับ คนที่ทำขาโคมไฟนั้น มีชื่อว่าหวังเจิงชี่ เป็นพนักงานซ่อม และเขาก็เกิดอุบัติเหตุที่ออสเตรเลีย
ตอนนี้ก็เข้ามาซื้อ love&love เจเวลรี่ก็เป็น Baxter Pty Ltd ก็อยู่ที่ออสเตรเลีย
เรื่องนี้ทำไมบังเอิญจังเลย