เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 969 ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ

แปลโดย iPAT

 

‘แม้ข้าจะมีวิญญาณอมตะระเบิดพลัง แต่พลังการต่อสู้ระดับเจ็ดยังไม่เพียงพอในสถานการณ์นี้ ทางออกที่ดีที่สุดยังเป็นสนามรบแห่งความโกลาหล ผู้อมตะภาคใต้ที่อยู่ด้านนอกไม่มีโอกาสได้รับสิ่งนี้ แต่ข้ายังมีความหวัง!’

 

‘ด้วยความช่วยเหลือจากสนามรบแห่งความโกลาหล ข้ายังมีความหวังที่จะหลบหนี มิฉะนั้นข้าต้องใช้วิญญาณกาลเวลาเท่านั้น!’

 

ฟางหยวนคิดอย่างรวดเร็ว โอกาสรอดเดียวของเขามีเพียงต้องยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหล

 

เขามีวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่ตอนนี้เขาปิดผนึกมิติช่องว่างไปแล้ว

 

หากเขาเปิดมันที่นี่ เขาจะมีชีวิตไม่ถึงสามลมหายใจเพื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณท่องแดนอมตะ

 

อย่างไรก็ตามวิญญาณกาลเวลาไม่ได้อยู่ในมิติช่องว่างแต่มันอยู่ในทะเลวิญญาณแรกของเขามาตลอด

 

ตอนนี้มันฟื้นตัวขึ้นแล้ว แม้มันจะถูกปิดผนึกอย่างแน่นหนาแต่มันยังกดดันทะเลวิญญาณของฟางหยวนอย่างต่อเนื่อง

 

ก่อนการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่ว่าฟางหยวนไม่เคยคิดถึงการใช้วิญญาณท่องแดนอมตะในสถานการณ์คับขัน

 

แต่ทะเลวิญญาณระดับมนุษย์ไม่สามารถรองรับวิญญาณอมตะได้ถึงสองดวง

 

‘แม้จะมีวิญญาณท่องแดนอมตะแต่ข้ายังเกรงว่า…’ ฟางหยวนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทั้งสิบทรงพลังเกินไป กระทั่งผู้อมตะภาคใต้ที่บ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งห้วงมิติก็ยังไม่สามารถทำสิ่งใด

 

เห็นได้ชัดว่ามันมีการป้องกันที่แข็งแกร่งและไม่มีช่องโหว่ให้ใช้ประโยชน์

 

กลุ่มผู้อมตะภาคใต้ยังตกตายลงอย่างต่อเนื่องภายใต้ภัยพิบัติที่ร่วงหล่นลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

ผู้อมตะระดับแปดเริ่มได้รับบาดเจ็บ พวกเขารู้ว่ายิ่งเวลาผ่านไป โอกาสของพวกเขาก็ยิ่งลดลง ดังนั้นผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่จึงต้องทำงานร่วมกัน

 

“พวกเจ้าคือแมลงวันที่ติดอยู่ในตาข่าย อย่าคิดว่าจะสามารถหลบหนี” ผู้อมตะชุดคลุมดำระเบิดกลิ่นอายอันทรงพลังออกมา

 

“สุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด!” เพิ่งซื่อหลงตะโกนด้วยความตกใจ

 

มวลอากาศเย็นแผ่กระจายออกมาและสร้างกำแพงน้ำแข็งสูงหลายสิบเมตรปิดกั้นกลุ่มผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่เอาไว้

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่สายฟ้าฟาดลงมาจากด้านบน

 

“ภัยพิบัติสายฟ้าสงคราม!”

 

สายฟ้าสงครามเป็นหนึ่งในสิบภัยพิบัติของสุดยอดกายา แต่สายฟ้าสมครามครั้งนี้กลับมีพลังอำนาจสูงกว่าปกติอีกนับสิบเท่า

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสายฟ้าสงครามโดยตรง โชคดีที่หนึ่งในสี่ผู้อมตะระดับแปดสามารถใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาและเปิดโอกาสให้พวกเขาหลบหนี

 

ภัยพิบัติสายฟ้าสงครามยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

 

ระหว่างเหตุการณ์นี้สายฟ้าหลายสายตกกระทบลงบนกำแพงน้ำแข็งและสร้างรูช่วงโหว่ขึ้น

 

“เจตจำนงสวรรค์!” ผีดิบอมตะสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืดเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยการแสดงออกที่ดุร้าย

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่เปลี่ยนทิศทางการหลบหนี

 

“พวกเจ้าจะไปที่ใด?” ผู้อมตะชุดคลุมดำอีกคนหัวเราะ

 

“บึม!”

 

การต่อสู้ปะทุขึ้นแต่ไม่สามารถหาผู้ชนะ

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ถูกปิดกั้นแต่ผู้อมตะชุดคลุมดำก็ไม่ได้มีช่วงเวลาที่ง่ายดายเช่นกัน

 

“สุดยอดกายาแก่นแท้แห่งปัญญา!”

 

นี่คือผีดิบอมตะหนึ่งในสิบสุดยอดกายา

 

“เจ้า…เจ้าคือเฉิงกุ้ยไช่แห่งตระกูลเฉิง!”

 

เพิ่งซื่อหลงขมวดคิ้วลึก

 

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลเฉิงและเรายังสนิทกัน! เจ้าเป็นสมาชิกตระกูลเฉิงแห่งฝ่ายธรรมะแต่กลับเข้าร่วมกับปีศาจร้ายที่นำหายนะมาสู่โลก ตอนนี้เจ้ายังสามารถกลับใจ มิฉะนั้นตระกูลของเจ้าอาจถูกลงโทษเช่นกัน!”

 

ผู้อมตะชุดคลุมดำหัวเราะด้วยความรังเกียจ “เจ้าจะไปรู้สิ่งใด? เฉิงกุ้ยไช่เป็นเพียงตัวตนที่ข้าใช้หลังจากยึดครองร่าง ตระกูลเฉิงจะเปรียบเทียบกับแผนการที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราได้อย่างไร?”

 

“เปรี้ยง!”

 

สายฟ้าฟาดลงมาที่ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ทำให้พวกเขาได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

 

“อย่ายุ่งกับเขา เปลี่ยนทิศทาง!”

 

“สายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ น้ำแข็งแห่งความมืด แก่นแท้แห่งปัญญา…การรวมตัวของสุดยอดกายามากมายเช่นนี้แทบไม่เคยปรากฏมาก่อน ข้าเกรงว่านี่จะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”

 

“ค่ายกลวิญญาณนี้น่าจะใช้สุดยอดกายาทั้งสิบเป็นจุดรวบรวมพลัง”

 

“นั่นหมายความว่าเขาคือจุดอ่อนเดียว”

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ลอบสื่อสารกันและมองไปที่อิงอู๋เซี่ย

 

ท่ามกลางกลุ่มผู้อมตะชุดคลุมดำ เขาเป็นคนที่แปลกประหลาดที่สุด

 

เขายังเป็นผู้อมตะที่มีชีวิตไม่ใช่ผีดิบอมตะ นอกจากนั้นกลิ่นอายของเขายังเผยให้เห็นว่าเขาไม่ใช่สุดยอดกายา

 

หัวใจของอิงอู๋เซี่ยสั่นสะท้านด้วยความลนลาน “จะทำอย่างไร? จะทำอย่างไร? พวกเขากำลังมา!”

 

“อย่ากังวล ใช้วิธีที่เจ้าถนัดที่สุด” ผู้อมตะชุดคลุมดำด้านข้างเตือน

 

“ข้าไม่ได้กังวล ข้าไม่ได้กังวล” อิงอู๋เซี่ยสูดหายใจลึกแต่เขายังรู้สึกกระวนกระวาย

 

เมื่อผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ใกล้เข้ามา อิงอู๋เซี่ยจึงคิดถึงฉากที่เขาถือกำเนิด

 

เขาเกิดจากอาณาจักรแห่งความฝัน

 

เมื่อเขาลืมตาขึ้น คนแรกที่เขาเห็นคือผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อ

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะเบาๆ น้ำเสียงของเขาไม่สามารถปกปิดความสุข “ดี ดี ดี กายาแห่งความฝัน เจ้าคือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในงานวิจัยบนเส้นทางแห่งความฝันของข้า เมื่อโป้ชิงตาย เจ้าจะมาแทนที่เขาและเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด”

 

“ท่านคือผู้ใดและข้าคือผู้ใด?” อิงอู๋เซี่ยถาม

 

“ข้าก็คือเจ้า เจ้าก็คือข้า ข้าชื่อม่านเยี่ยนซื่อ และเจ้า…ข้าจะเรียกเจ้าว่า อิงอู๋เซี่ย” ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อหัวเราะเบาๆ

 

ชายชราโบกมือและถ่ายทอดความคิดมากมายเข้าสู่จิตใจของอิงอู๋เซี่ย

 

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกได้ถึงข้อมูลมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาในใจโดยตรง

 

‘เวลามีจำกัด ข้าสามารถส่งมอบท่าไม้ตายให้เจ้าเท่านั้น แม้มันจะไม่มีพลังทำลายล้าง แต่มันก็เป็นการโจมตีบนเส้นทางแห่งความฝันบนจุดสูงสุดของห้าภูมิภาคในยุคนี้ กระทั่งวังสวรรค์ก็ยังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เรียนรู้มันอย่างถี่ถ้วน เมื่อเจ้ากลายเป็นผู้อมตะ ข้าจะมอบชุดวิญญาณที่เหมาะสมให้กับเจ้า’

 

ความทรงจำของอิงอู๋เซี่ยหยุดลงที่จุดนี้

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ใกล้เข้ามาแล้วโดยมีเคียววายุเจียอี้เป็นผู้นำกลุ่ม

 

ดวงตาของอิงอู๋เซี่ยส่องประกายคมชัด

 

เขากล่าวช้าๆ “ท่าไม้ตายอมตะ นำ.วิญญาณ.สู่.ฝัน!”

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลงและระวังตัวอย่างมาก

 

อย่างไรก็ตามมันกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

“เด็กน้อย กล้าหลอกพวกเรางั้นหรือ?” เพิ่งซื่อหลงกำลังจะโจมตีด้วยความโกรธ

 

แต่ในจังหวะนี้ผู้อมตะระดับแปดเคียววายุเจียอี้กลับร่วงลงจากท้องฟ้า

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เพิ่งซื่อหลงกับคนอื่นๆรู้สึกมึนงง

 

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาส่งพลังโจมตีพุ่งไปที่เจียอี้

 

แต่เจียอี้กลับไม่ขยับเขยื้อนขณะที่การป้องกันของเขาเริ่มสลายไป

 

ผู้อมตะระดับแปดอีกสามคนต้องปกป้องเขาจะการโจมตีของศัตรู

 

เจียอี้ยังคงร่วงหล่นลงจากท้องฟ้า

 

“ครอก…ครอก…”

 

เขาหลับไปแล้ว!

 

“เป็นฝีมือของเด็กนั่น!” การแสดงออกของเหรินไห่หยางกลายเป็นเคร่งเครียด

 

ศัตรูเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เจียอี้กลับถูกโจมตีโดยไม่สามารถต่อต้าน

 

ยิ่งไปกว่านั้นการป้องกันของเขายังไม่ทำงาน

 

มันคือท่าไม้ตายชนิดใด!?

 

“ระวัง!” เพิ่งซื่อหลงอุทาน

 

สายฟ้าสงครามพุ่งลงมาที่กลุ่มผู้อมตะภาคใต้อีกครั้ง

 

ภายใต้พลังอำนาจของภัยพิบัติครั้งนี้ ผู้อมตะของภาคใต้ส่วนใหญ่เสียชีวิต

 

กระทั่งผู้อมตะระดับแปดเคียววายุเจียอี้ที่มีชื่อเสียงมาตลอดหลายร้อยปียังกลายเป็นฝุ่นผงร่วงหล่นลงมา

 

เพิ่งซื่อหลงกับคนอื่นๆแทบไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเวลาดูแลผู้อื่น

 

“เราจบแล้ว” ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามรู้สึกสิ้นหวัง

 

ความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยเหนือกว่าจินตนาการของผู้อมตะระดับแปดทั้งสามไปไกลมาก

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันไม่เคยปรากฏมาก่อน มันสามารถส่งเจียอี้เข้าสู่ห้วงนิทราได้โดยที่เขาไม่สามารถต่อต้าน

 

การเสียชีวิตของเจียอี้ทำให้ความหวังของคนที่เหลือลดลงอย่างมาก

 

‘หือ!’ บนภูเขาอี้เทียน ฟางหยวนรู้สึกกังวลมากเช่นกัน

 

กระทั่งเขาจะสามารถครอบครองสนามรบแห่งความโกลาหล แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขาเพียงลำพัง มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะสามารถกระตุ้นการทำงานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องมีพันธมิตร

 

ยิ่งได้รับพลังงานอมตะมากเท่าใด คฤหาสน์วิญญาณอมตะก็ยิ่งสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจได้มากเท่านั้น

 

ฟางหยวนเพียงคนเดียวไม่สามารถปลดปล่อยพลังอำนาจของมันออกมา

 

เมื่อเวลาผ่านไป ความแข็งแกร่งของผู้อมตะระดับแปดก็ลดลงเรื่อยๆ สำหรับผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาทำได้เพียงหลบหนีอย่างสิ้นหวัง

 

เหรินไห่หยางเสียชีวิตลงในภัยพิบัติครั้งต่อมา นี่ทำให้ผู้อมตะระดับแปดอีกสองคนที่เหลืออยู่สูญสิ้นความหวังไปอย่างสมบูรณ์

 

‘มันจบแล้ว’ ฟางหยวนรู้สึกเจ็บปวด ‘เห้อ…ตอนนี้ข้าทำได้เพียงปลอมตัวต่อไปและหวังว่าจะไม่ถูกค้นพบ’

 

แต่เมื่อผู้อมตะระดับหกกับระดับเจ็ดทั้งหมดเสียชีวิตและเหลือผู้อมตะระดับแปดเพียงสองคน ภูเขาอี้เทียนกลับเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างกระทันหัน

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” แรงสั่นสะเทือนดึงดูดความสนใจของผู้อมตะระดับแปดทั้งสอง

 

“สนามรบแห่งความโกลาหลถูกยึดครองโดยเจ้างั้นหรือ?” ผู้อมตะระดับแปดมองหน้ากันและกล่าวด้วยความประหลาดใจ

 

ทั้งคู่มึนงงและตระหนักว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา

 

ร่างกายของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขายังไม่ได้ยึดครองสนามรบแห่งความโกลาหลเช่นกัน แล้วฝีมือผู้ใด?

 

“บึม!”

 

เกิดการระเบิดขึ้นบนภูเขาอี้เทียนขณะที่ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดทะยานร่างขึ้นมา

 

เขาถูกปลดปล่อยจากสนามรบแห่งความโกลาหล!

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฟางหยวนจะสามารถตอบสนอง เสียงอันเย็นเยียบกลับดังขึ้น “พวกเจ้าคิดหลบหนีจากโชคชะตาต่อหน้าพวกเรางั้นหรือ? ตาย!”

 

ลำแสงสายหนึ่งพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้า หอคอยดวงตาสวรรค์!

 

วังสวรรค์มาถึงแล้ว!

 

ลำแสงสีขาวพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทั้งสิบและกำจัดผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้สองคนที่เหลือในเวลาเดียวกัน

 

“บัดซบ!” ผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปดไม่สามารถหลบ เขาทำได้เพียงส่งเสียงคำรามก่อนถูกทำลายและกลายเป็นฝุ่นผงไปในพริบตา

 

ลำแสงสีขาวยังพุ่งต่อลงมาบนภูเขาอี้เทียน

 

‘ข้ากำลังจะตาย…’ ฟางหยวนกัดฟันแน่น

 

การโจมตีอย่างเต็มรูปแบบจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าไม่มีทางป้องกัน

 

เขามีเพียงวิธีเดียวที่เหลืออยู่ วิญญาณกาลเวลา!

 

“บึม!”

 

ฟางหยวนระเบิดตัวเอง

 

แต่มันล้มเหลว!

 

จักจั่นไม้แห่งกาลเวลาแบกจิตวิญญาณของฟางหยวนออกเดินทางก่อนจะร่วงลงสู่สายธารแห่งกาลและระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

ฟางหยวนตาย!?