บทที่ 263
บทที่ 263
ชายร่างใหญ่จ้องมองชัวน่าทั่วเรือนร่าง ก่อนยื่นมือแล้วเดินเข้าไปหานาง “ข้าต้องการเจ้า !”
ลูคัสหุบยิ้มแล้วเดินออกมาขวางทางไว้ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “พวกเจ้ามาปล้นพวกพ่อค้าไม่ใช่หรือไง ?”
ชายร่างใหญ่หัวเราะแล้วบอกกับเขา “ข้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นคนจากเบสซ่าหรือไม่ และถ้าเจ้าต้องการจะทำลายแผนของข้า งั้นแล้วข้าก็จะฆ่าเจ้าด้วย !”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ขุนนางเบสซ่าทั้ง 4 ก็พากันเรียกเกราะกับอาวุธปราณออกมายืนคู่กับลูคัส
ชายร่างใหญ่ดูจะตะลึงไม่น้อยที่พวกคนตรงหน้าสามารถใช้อาวุธกับเกราะปราณได้ แถมยังดูเหมือนว่าจะทรงพลังเสียด้วย หากแต่ถึงจะเช่นนี้ ทว่าความงามของชัวน่ามันก็มากเสียจนทำให้ชายร่างกำยำไม่คิดไม่คิดหน้าคิดหลังอีกต่อไปแล้ว
ชายร่างใหญ่มองทั้ง 5 คนนั้นแล้วถอยหลังกลับมา “จ้านหู ! ฆ่ามันซะ !”
หลังสิ้นเสียง ก็เป็นชายร่างใหญ่ราวกับหมีที่เดินออกมาจากป่าด้านหลังนั่น
เขาเดินอย่างเชื่องช้าพลางถือค้อนยักษ์เอาไว้ในมือ ซึ่งแค่ด้ามจับก็หนามากแล้ว ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงตัวค้อนเลย ที่ทั้งหนา หนัก และใหญ่ยิ่งกว่า !!! และเมื่อผนวกเข้ากับพลังปราณที่ผสานเข้าไป มันก็ทำให้ทั้งค้อนกลายเป็นสีดำสนิทที่สะท้อนแสงแยงตา !!!
เมื่อเขาเดินออกมา หัวหน้าโจรก็พลันชี้ไปยังพวกลูคัส “จ้านหู ฆ่าพวกมันซะ !”
ชายร่างหมีคำรามแล้วพุ่งเข้าใส่ทั้ง 5 คนในทันที
ไม่รู้ว่าเพราะค้อนมันหนักหรือว่าร่างกายอันใหญ่โตเกินไปที่ทำให้พื้นดินสั่นไหวระหว่างวิ่งไป ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาละก็ พวกเขาก็น่าจะวิ่งหนีตายไปแล้วหากเจอคู่ต่อสู้แบบนี้
ถังหยินที่มองดูจากข้าง ๆ ก็ถึงกับตะลึงที่พวกโจรมีคนที่เก่งกาจแบบนี้อยู่ด้วย ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเอียงคอหันไปถามหยวนยู่ “เจ้านั่นแข็งแกร่งหรือไม่ ?”
ชายเลือดร้อนมองร่างใหญ่โตเพียงพริบตาก่อนจะพูดออกมา “ไม่เลวเลย มีพลังอยู่ในระดับปราณบรรพกาลเชียว”
ชายหนุ่มตื่นเต้นไปชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหัว “ข้าเกรงว่าพวกลูคัสจะสู้เจ้านั่นไม่ได้” จากนั้นเขาก็พลันยืนขึ้นพิงกับต้นไม้ เพื่อจะได้มองดูสถานการณ์ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
ลูคัสกับสหายต่างก็ตะลึงกับชายร่างหมี หากแต่พวกเขาก็ยังคงกำดาบไว้แน่นเตรียมพร้อมเข้าต่อสู้ !
เพียงชั่วพริบตา จ้านหูก็มาถึงตรงหน้าพวกเขาแล้วพร้อมกับง้างมือฟาดค้อนเข้าใส่เป้าหมาย หากแต่ก็เป็นฟิลิปที่ถอยกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชักดาบฟันปะทะกับค้อนที่กำลังพุ่งเข้ามา
เคร้ง !
เสียงปะทะดังขึ้น ก่อนที่ค้อนจะถูกหยุดเอาไว้ หากแต่ถึงกระนั้น แรงกระแทกของมันก็ไม่ใช่อะไรที่จะหยุดยั้งเอาไว้ได้ !!!
ร่างของฟิลิปกระเด็นออกไป เช่นเดียวกับเกราะปราณที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา
เขาลอยออกไปไกลก่อนที่จะตกลงไปในน้ำ และก็เพราะกระดูกของเขาแตกทั่วร่างจึงไม่อาจลุกขึ้นไหว จนทำให้ชัวน่าที่เห็นแบบนั้นหน้าซีดเผือด รีบวิ่งเข้าไปดึงตัวฟิลิปออกมา
…แม้ว่าจ้านหูจะกระแทกชายคนหนึ่งปลิวไปแล้ว แต่แรงของเขาก็ยังไม่หมดลง จึงเป็นค้อนของเขาที่เหวี่ยงไปรอบตัว บีบให้ชายสองคนที่อยู่ในระยะต้องรีบกระโดดหลบออก ในขณะที่ลูคัสกับเกรย์พากันพุ่งเข้าใส่เป้าหมาย
ถึงจ้านหูจะตัวใหญ่แต่ก็มีความว่องไวอยู่บ้าง เขาเอียงตัวหลบดาบที่เข้ามาแล้วยกฝ่ามือตบเข้าไปที่ใบหน้าของเกรย์อย่างรวดเร็ว
ขุนนางหนุ่มตะลึงกับความรวดเร็วของอีกฝ่ายและรีบหลบทันที ทว่าฝ่ามือของอีกฝ่ายก็มาเร็วเกินไป มันกระแทกเข้ากับเกราะไหล่ของเขาอย่างจังจนทำให้เกราะปราณแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ และแม้ว่าร่างกายจะไม่ได้รับบาดเจ็บใด แต่มันก็ทำให้เขาหวาดหวั่นไม่น้อย
หมอนี่มันจะแกร่งเกินไปแล้ว ! ลูคัสกับคนอื่นตะลึงในใจ ด้วยมันเป็นเรื่องน่าแปลกที่พวกโจรจะมีคนที่เก่งกาจถึงขนาดนี้ !
เรียกได้ว่าชายร่างใหญ่ตรงหน้านั้นไม่จำเป็นต้องฝึกฝนทักษะการต่อสู้ใด ๆ เลยให้เสียเวลา ด้วยเพียงแค่ใช้พละกำลังที่มีก็เพียงพอแล้ว !!
ไม่มีเวลาให้คิดมาก เมื่อเห็นว่าเกราะของเพื่อนพ้องแตกออก ลูคัสและคนอื่นต่างก็พากันผนึกกำลังเข้าต่อสู้กับจ้านหูเพื่อถ่วงเวลาให้เกรย์ผู้เป็นสหายได้มีเวลาพักหายใจ
และแม้ว่าพวกเขาจะเข้าต่อสู้พร้อมกัน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มความได้เปรียบเลย ด้วยถึงแม้พวกเขาจะเข้าโจมตีในจังหวะเดียวกัน หากแต่ก็เป็นจ้านหูที่เหวี่ยงค้อนเข้ากระแทก ทำให้คนทั้งหมดต้องรีบถอยออกมาถ้าไม่อยากเจ็บตัว
ทั้ง 4 คนที่เหลือต่างก็ตะลึง ด้วยพวกเขาคาดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ !!!
ซึ่งเมื่อหัวหน้าโจรเห็นท่าทีแบบนั้น เขาก็พลันเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ ด้วยไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีกำลังหรือว่ามีพลังปราณกันมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถล้มจ้านหูของตนได้ ทำให้ตัวเขาย่ามใจ เดินเข้าไปชัวน่าโดยทิ้งคนเหล่านั้นไว้ข้างหลัง
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเข้ามา ชัวน่าก็พลันชักดาบออกมาพร้อมกับพวกองครักษ์หญิงที่เข้ามาอยู่ข้างกาย ทว่าผู้เป็นหัวหน้าโจรก็เพียงมองพวกนางแล้วหัวเราะออกมา “ข้าอยากได้พวกเจ้าทั้งหมดเลย !”
เขาเดินเข้ามาใกล้ ซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่องครักษ์หญิงทำการชักดาบพุ่งเข้าหา ทว่าหัวหน้าโจรผู้นั้นก็เพียงหัวเราะแล้วสะบัดดาบพุ่งเข้าใส่อย่างไม่หวั่นเกรง
พวกนางรู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เห็นหัวหน้าโจรพุ่งเข้ามาแบบนี้และรีบถอยกลับมาตั้งหลัก หากแต่เหล่าองครักษ์หญิงก็ไม่อาจหลบพ้น พากันโดนอีกฝ่ายต่อยเข้าไปที่หน้าท้องอย่างแรง จนหน้าซีดและหมดแรงล้มลงไปบนพื้น
สถานการณ์กำลังปั่นป่วนยิ่งนัก ด้วยกลุ่มของชัวน่ากำลังรับมือกับพวกโจรนับร้อยคนไม่ต่างอะไรจากพวกพ่อค้าเลย ส่วนพวกลูคัสเองก็กำลังต่อสู้กับเจ้าหมียักษ์นั่น ไม่อาจปลีกตัวมาช่วยได้
หัวหน้าโจรยังคงเดินเข้ามาหาชัวน่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฟิลิปที่เห็นแบบนั้นก็พยายามลุกขึ้นเข้ามาขวางทางเอาไว้ “เจ้าคิดจะทำอะไร ?”
ขุนนางหนุ่มชาวเบสซ่าผู้นี้ได้รับบาดเจ็บและยังไม่ฟื้นตัวดี จึงทำให้การตอบสนองเป็นไปอย่างเชื่องช้า และเมื่อชายผู้เป็นหัวหน้าโจรเห็นฟิลิปเข้าขวางแบบนั้น เขาก็พลันตะโกนบอกพร้อมวาดดาบเข้าใส่ “ขวางทางงั้นหรือ ? ตายซะ !”
ชัวน่าที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นดังนั้นก็คิดว่าไม่ดีแล้ว นางรีบชักดาบขึ้นปัดป้อง ทำให้คมดาบของอีกฝ่ายพลาดเป้าไปอย่างหวุดหวิด
“ฮ่า ฮ่า ไม่เลวเลยนี่นา ข้าชักจะชอบเจ้าเข้าจริง ๆ เสี…”
ก่อนจะทันได้พูดจบ เขาก็พลันได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมาเสียก่อน “ก่อนจะตายก็ยังหื่นกระหายอยู่อีกงั้นหรือ ? ช่างน่าเวทนาเสียจริง ๆ”
ชัวน่าคือคนที่ตะลึงที่สุด แต่นางก็ไม่จำเป็นต้องหันไปแต่อย่างใด ด้วยรู้แก่ใจดีอยู่แล้ว ว่าในที่สุดเขาก็ทำการเคลื่อนไหวแล้ว !
ซึ่งเจ้าของคำพูดนั่นไม่ใช่ใครอื่น …นอกเสียจากถังหยิน !!!!
หัวหน้าโจรมองถังหยินด้วยสายตาไม่พอใจ “เจ้าทาส เจ้าพูดอะไรของเจ้ากัน ?”
ชาวเบสซ่าชอบจับคนชาติอื่นมาเป็นทาสอยู่บ่อยครั้ง และทาสที่ว่านั่นก็รวมไปถึงชาวเฟิงด้วย ซึ่งเมื่อผนวกกับชุดขาด ๆ ที่ถังหยินใส่ มันก็ทำให้ชายผู้เป็นหัวหน้าโจรคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงแค่ทาสธรรมดาทั่วไปก็เท่านั้น !!