ตอนที่ 505 คู่รัก ‘เหนียนเหนียนมีอวี๋’ (3) / ตอนที่ 506 คู่รัก ‘เหนียนเหนียนมีอวี๋’ (4)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 505 คู่รัก ‘เหนียนเหนียนมีอวี๋’ (3)

 

 

เงาร่างเล็กนุ่มนิ่มกำลังนอนคว่ำอยู่ใต้ผ้าห่ม พร้อมเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก

 

 

ทันใดนั้นเด็กหญิงก็ยิ้มแป้น ก่อนจะโผเข้าหาชายหนุ่ม

 

 

“ปาปา!”

 

 

“…”

 

 

“เสี่ยวลิ่วลิ่วก็อยากนอนกับแม่คนสวย!”

 

 

“…”

 

 

ใบหน้าของใครบางคนดำคล้ำขึ้นเหมือนก้นหม้อในพริบตา!

 

 

ความหวานชื่นของสองคน กลายเป็นความอบอุ่นของสามคนในทันที

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กอดเสี่ยวลิ่วลิ่วไว้ แล้วใช้ผ้าขนหนูร้อนบิดหมาดเช็ดเม็ดเหงื่อบนใบหน้ารูปไข่เล็กจ้อยอย่างเบามือ

 

 

หญิงสาวพร้อมที่จะนอนไปกับเสี่ยวลิ่วลิ่วแล้ว

 

 

ฝ่ายอวี๋เยว่หานกอดอก เอนกายพิงหัวเตียง สีหน้าไม่พอใจนัก “เหนียนเสี่ยวมู่ ความจริงแล้วพวกเราให้เธอไปนอนกับคุณย่าก็ได้”

 

 

“…”

 

 

“คุณย่าอายุมากแล้ว ให้นอนคนเดียว ผมกลัวเธอจะหนาว”

 

 

“…” ไม่ฟังๆ พูดมั่วไปเรื่อย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เช็ดหน้าให้เสี่ยวลิ่วลิ่วเสร็จแล้ว ก็เช็ดมือและเท้าให้เด็กหญิงด้วย

 

 

เธอเห็นท่าทางนั่งนิ่งว่าง่ายอยู่ตรงหน้าของเจ้าตัวเล็กแล้ว ก็อดจินตนาการไม่ได้ ว่าตอนเพิ่งเกิดจะน่ารักขนาดไหน

 

 

ตอนหนึ่งขวบ

 

 

ตอนสองขสบ

 

 

ยิ่งคิด เธอก็ยิ่งอยากดีกับลูกสาวให้มาก

 

 

หลังจากจัดการเสี่ยวลิ่วลิ่วเรียบร้อยแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็กอดเด็กหญิงเอนลงบนเตียง ให้เจ้าตัวเล็กหนุนอยู่บนไหล่ของเธอ

 

 

แถมยังฮัมเพลงกล่อมเด็กอีกด้วย

 

 

ลืมอวี๋เยว่หานไปโดยสิ้นเชิง…

 

 

กลับเป็นเสี่ยวลิ่วลิ่วที่กำลังสะลึมสะลือ อยู่ๆ เธอก็นึกถึงเขาขึ้นมา จึงพลิกตัวร้องเรียกเขาเสียงเจื้อยแจ้ว “ปาปา”

 

 

ชายหนุ่มที่หน้าดำเป็นก้นหม้อและพิงหัวเตียงอยู่เมื่อครู่ ยันตัวขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงของลูกสาว

 

 

เขาเดินมานอนลงอีกด้านของเตียง “พ่ออยู่ตรงนี้”

 

 

เมื่อเห็นเสี่ยวลิ่วลิ่วหลับต่ออย่างมีความสุข เขาถึงจะชำเลืองมองเหนียนเสี่ยวมู่อย่างเย็นชาครั้งหนึ่ง “เหนียนเสี่ยวมู่ ลูกสาวผมยังใจดีกว่าคุณอีก!”

 

 

“…”

 

 

ทั้งๆ ที่มีลูกสาวใจดีขนาดนี้ แต่เขายังคิดจะทิ้งเธอไปให้คุณย่าอยู่เลยไม่ใช่เหรอ

 

 

เฮอะ!

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่สนใจเขา กอดเสี่ยวลิ่วลิ่วนอนต่อ

 

 

ไม่นานเสี่ยวลิ่วลิ่วก็หลับไปอย่างสบายใจ พร้อมอ้อมกอดทั้งด้านซ้ายและขวา

 

 

เมื่อครู่เหนียนเสี่ยวมู่ต่อสู้กับอวี๋เยว่หานด้วยสติปัญญาและความกล้ามาโดยตลอด จึงเหงื่อออกไปทั่วทั้งตัว ตอนนี้นอนลงแล้วรู้สึกเหนอะหนะอยู่บ้าง ทำให้นอนไม่หลับ

 

 

หญิงสาวเห็นสองพ่อลูกหลับไปแล้ว จึงแอบลุกขึ้น

 

 

หลังจากหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาแล้ว เธอก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะปิดประตูและ เริ่มเปิดน้ำในอ่างอาบน้ำ

 

 

ไม่นานเธอได้ยินเหมือนมีเสียงบางอย่างดังมาจากในห้อง

 

 

เธอยื่นมือไปปิดก๊อกน้ำตามสัญชาตญาณ เงี่ยหูฟังอยู่หลายวินาที แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่คิดว่าเพราะเป็นเวลากลางดึก แถมยังเงียบสงัดมาก จึงทำให้ตัวเองประสาทไวขึ้น

 

 

หญิงสาวทำปากจู๋ แล้วเปิดน้ำต่อไป

 

 

ครั้นน้ำเต็มอ่าง เธอถึงลงไปนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำอย่างสบายใจ

 

 

ในปากฮัมเพลงอยู่ตลอด “หมุนซ้ายสามรอบ หมุนขวาสามรอบ ถูทางนี้ ถูทางนั้น อาบน้ำเอ๋ย สบายจริงๆ…”

 

 

ขณะที่เธอกำลังอาบน้ำอย่างมีความสุข อยู่ๆ ไฟห้องน้ำก็ดับ!

 

 

เธอชะงักงัน ยังไม่ทันมีปฏิกิริยาอะไร ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเสียแล้ว

 

 

เงาร่างสูงโปร่งสายหนึ่งย่องเข้ามาจากข้างนอกอย่างไร้เสียง ก่อนจะพิงที่ผนังห้องน้ำ

 

 

เมื่อเธอกำลังจะกรีดร้อง ชายหนุ่มก็พูดเสียงเบา “ถ้าไม่กลัวปลุกเสี่ยวลิ่วลิ่ว คุณก็ร้องไปเถอะ”

 

 

“…” แค่คิดถึงเจ้าตัวเล็กของเธอ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ปิดปากตัวเองที่เพิ่งอ้าทันที

 

 

หญิงสาวเบิกตาโพลงมองชายหนุ่มตรงหน้า

 

 

เขาหลับไปแล้วไม่ใช่เหรอ

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา รีบเตรียมจะไปหยิบผ้าขนหนู เธอใช้มือคลำอยู่บนราวตากรอบหนึ่ง แต่ก็หาอะไรไม่เจอทั้งนั้น

 

 

ชุดคลุมอาบน้ำที่เธอเพิ่งนำเข้ามา ก็บินหายไปแล้วเช่นกัน!

 

 

“พอดีเลย วันนี้ผมก็ยังไม่ได้อาบน้ำ จะได้อาบด้วยกัน”

 

 

 

 

ตอนที่ 506 คู่รัก ‘เหนียนเหนียนมีอวี๋’ (4)

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองอวี๋เยว่หานที่เริ่มถอดเสื้อผ้าแล้ว ทำเอาเธอหนาวสั่นไปทั้งตัว!

 

 

เธอคงเป็นคนโง่ ถึงเชื่อว่าเขาแค่อยากอาบน้ำ

 

 

หญิงสาวตกใจจนลุกพรวดขึ้นจากในอ่างอาบน้ำ สาวเท้าคิดจะวิ่งหนี

 

 

แต่อวี๋เยว่หานยืนอยู่ที่หน้าประตู อย่างนั้นเท่ากับส่งตัวเองไปหาเขาโดยอัตฌนมัติ…

 

 

เขาลากเธอกลับมาโดยไม่พูดจา หญิงสาวยังไม่ทันได้ตะโกนส่งเสียง ก็ถูกชายหนุ่มกินจนหมดเกลี้ยงอยู่ในอ่างอาบน้ำ…

 

 

 

 

เช้าตรู่

 

 

อวี๋เยว่หานเพิ่งตื่นนอน ก็พบว่าคนข้างกายของเขาหายไปแล้ว

 

 

หัวเตียงเหลือเพียงกระดาษเขียนระบายความโมโหของใครบางคนก่อนจะออกไป…

 

 

เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะขยำกระดาษเป็นก้อนกลม แล้วโยนมันลงในถังขยะในคราวเดียว

 

 

หลังจากอุ้มเสี่ยวลิ่วลิ่วที่เพิ่งตื่นขึ้น เขาก็พาเด็กหญิงออกไปหาเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

แต่หาภายในที่ดินส่วนตัวรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็หาหญิงสาวไม่พบ

 

 

“คุณชายหาน ผมถามยามที่ตีนขามาแล้วครับ เขาบอกว่าคุณเหนียนออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว แถมยังกำชับไว้ว่าไม่ให้บอกคุณ ยามไม่กล้าขวางเธอ ก็เลย…” ผู้ช่วยรายงานพร้อมกับเหงื่อแตก

 

 

นี่เพิ่งวันที่สองหลังจากขอแต่งงานสำเร็จ ก็ถูกคู่หมั้นทิ้งเสียแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณชายอย่างเขาเลย

 

 

เดิมทีผู้ช่วยคิดว่าจะเห็นอวี๋เยว่หานโกรธ

 

 

แต่รออยู่ครู่หนึ่งแล้ว คุณชายของเขาไม่เพียงไม่โกรธ แต่ยังยิ้มออกมาอีกต่างหาก!

 

 

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากดูสง่างามทีเดียว

 

 

“ปล่อยเธอไป ให้เธอออกไปทำตัวให้สบายใจ ตอนเย็นกลับบ้านมานอนตรงเวลาก็พอ”

 

 

ผู้ช่วย “…”

 

 

อีกด้านหนึ่ง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่โดนวอแวทั้งคืน จนกระดูกแทบจะแหลกสลาย

 

 

เธอนอนไม่หลับเพราะความป่วยเมื่อยไปทั้งตัว จึงถือกระเป๋าออกมาด้วยความโมโห

 

 

ทีแรกคิดจะแสดงท่าทีขัดขืน เอาชนะจนได้นอนแยกกันสักสองสามวันจะดีที่สุด แต่พอออกจากที่ดินส่วนตัวจริงๆ แล้ว อยู่ๆ ในหัวของเธอก็กระจ่างชัด นึกถึงเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งขึ้นได้

 

 

หญิงสาวเรียกแท๊กซี่ตรงดิ่งไปที่โรงพยาบาลซึ่งถานเปิงเปิงทำงานอยู่

 

 

ทว่าเพิ่งเดินไปถึงประตูห้องทำงานของเพื่อนสนิท เหนียนเสี่ยวมู่ก็เห็นเธอส่งคนไข้ออกมาพอดี “กินยาวันละสามครั้ง ครั้งละสองเม็ด แล้วก็อย่าอดหลับอดนอนอีก…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่รอจนเธอกำชับและส่งคนไข้ออกไปเรียบร้อย แล้วถึงเดินเข้าไปกอดเพื่อนสนิทจากข้างหลัง

 

 

เธอคิดว่าถานเปิงเปิงจะตกใจจนสะดุ้ง คิดไม่ถึงว่าใบหน้าของอีกฝ่ายไม่มีความประหลาดใจเลยสักนิด

 

 

กลับเป็นเสียงหัวเราะอย่างจนใจ และคำกล่าวยั่วเย้า “เธอยืนแอบฟังอยู่ที่มุมตรงนั้น ตัวก็ใหญ่ คิดว่าฉันจะไม่เห็นหรือไง ตอนนี้ฉันไม่มีคนไข้พอดี เข้ามาก่อนสิ”

 

 

ถานเปิงเปิงพูดพลางเปิดประตูห้องทำงาน

 

 

ทั้งสองคนเดินเคียงข้างเข้าไปด้วยกัน

 

 

ห้องทำงานสะอาดสะอ้านเต็มไปด้วยกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อ

 

 

อย่าได้มองว่าถานเปิงเปิงอายุยังน้อย เพราะการศึกษาและความสามารถของเธอล้วนเป็นที่หนึ่งหรือสองของโรงพยาบาลนี้

 

 

ด้วยเกิดในตระกูลของแพทย์ หญิงสาวจึงได้อ่านตำรามากมายมาตั้งแต่เด็กจนโต

 

 

เด็กคนอื่นเล่นโคลน แต่ถานเปิงเปิงเรียกกายวิภาคในห้องทดลองเสมือนจริง…

 

 

เพียงแต่เธอมีนิสัยเย็นชา ไม่ชอบพูดจา มีแค่ตอนที่อยู่กับเหนียนเสี่ยวมู่ เธอถึงจะยอมพูดมากขึ้น ถ้าเป็นเวลาอื่นก็แทบจะสนใจแต่การวิจัย

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ตามหลังเธอเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนจะเทน้ำให้ตัวเองแกวหนึ่ง

 

 

หลังจากดื่มน้ำไปอึกหนึ่งแล้ว ถึงจะเริ่มแขวะ

 

 

“เธอมองอวี๋เยว่หานผิดไปแล้วจริงๆ! เทพบุตรสูงส่งเย็นชาอะไรกัน คุณชายอันดับหนึ่งนั่นอีก เป็นแค่คำพูดของคนทั่วไปเท่านั้นแหละ!”

 

 

“…”

 

 

“ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยแล้ว ว่าวันนั้นเธอกินดื่มไปเยอะจนจำอะไรไม่ได้ เธอต่างหากที่เป็นคนโผเข้าใส่เขา ยังจะมาอ้างว่าเขาเอาเปรียบฉันอีก สุดท้ายก็หลอกตัวเอง!”