ตอนที่ 461 วาบหวามเกินไป + ตอนที่ 462 อย่ามาแตะ!

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 461 วาบหวามเกินไป

ฮุยหลางกับอิ่งอีด้านหลังเห็นหอตรงหน้า ในใจก็อดเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่รางๆ ไม่ได้ ทำไมการตกแต่งหอนี้ถึงคล้ายคลึงกับโรงค้าเด็กหนุ่มของเริ่นเสียงถึงเพียงนั้น? ที่นี่…คงไม่ใช่หอนางโลมหรอกกระมัง?

นึกถึงตรงนี้ริมฝีปากเขาก็ขยับ สีหน้าเปลี่ยนเป็นประหลาด อยากจะเอ่ยปาก แต่เห็นสีหน้าเฝ้ารอคอยของนายท่านแล้วปิดปากเงียบทันควัน ครั้นมองไปทางภูตหมอกลับเห็นบนหน้านางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เห็นเช่นนี้ เขาชำเลืองมองอิ่งอีอย่างอดไม่ไหว เห็นว่ายามนี้เห็นสหายจ้องมองหอนั้นอยู่เช่นกัน สีหน้าคล้ายกำลังครุ่นคิด

เขายกแขนเสื้อขึ้นเช็ดๆ เหงื่อที่ไหลซึมตรงหน้าผาก หวังก็แต่ว่าเขาจะเดาคิดผิดไป! ไม่เช่นนั้น…พานายท่านมาเที่ยวหอนางโลม? เขาไม่กล้าจินตนาการจริงๆ ว่าหลังจากนายท่านเข้าไปแล้วจะแสดงท่าทีเช่นไร?

ความคิดเช่นนี้เดาว่าคนทั่วไปคงคิดไม่ได้โดยแท้ แต่เมื่ออยู่กับคนที่นิสัยประหลาดอย่างภูตหมอ เรื่องพิลึกเช่นนี้จึงเป็นปกติอย่างยิ่ง

เขาว่าแล้ว ภูตหมอจะรับปากไปเดินเล่นรอบๆ กับนายท่านทั้งวันอย่างง่ายดายเพียงนั้นได้อย่างไร? ที่แท้ก็รอนายท่านอยู่ที่นี่เอง! หรือนางนึกว่าการส่งสาวงามสองสามคนให้แล้ว นายท่านจะหยุดความคิดที่มีต่อนางไป?

ต้องรู้ไว้ว่าสาวงามอะไรพวกนั้น ข้างในหอนารีวิไลของตำหนักยมราชยังมีมากกว่าสาวงามของที่ไหนๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นนายท่านมีใจให้ใคร หากนายท่านฆ่าเวลากับพวกสาวงามได้จริงคงไม่รีบเดินทางตั้งไกลมาหาภูตหมอ พูดขึ้นมาแล้วเขาก็ยังแปลกใจจริงๆ

นายท่านชอบภูตหมอตรงไหนกันแน่? พูดถึงเรื่องความงาม แม้นางจะงามล้ำล่มเมือง แต่สำหรับพวกเขาที่เคยเห็นสาวงามมาทุกประเภท เรื่องความงามอะไรนั่นไม่ควรค่าให้พูดถึงเลยจริงๆ

หากพูดถึงวรยุทธ์และพรสวรรค์? สตรีที่มีพรสวรรค์มากกว่าภูตหมอมีถมเถไป เพราะนางกลั่นยาเซียนปรุงยาเป็น? นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งนายท่านไม่ใช่คนที่มีความคิดตื้นเขิน จะชอบพอและตกหลุมรักนางเพียงเพราะเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร?

เช่นนั้น หรือว่านายท่านจะหลงรักนิสัยที่กลับกลอกเจ้าเล่ห์ราวจิ้งจอกและกลอุบายพิลึกพิลั่นนั่น?

นึกถึงตรงนี้แล้ว มุมปากเขากระตุกอย่างอดไม่ได้ นายท่านคงจะเป็นพวกที่ชอบความเจ็บปวดกระมัง! ยิ่งเสียเปรียบเพราะภูตหมอ เขายิ่งอยากกระโจนเข้าไปหา

“นายท่าน”

ทันใดนั้น เสียงอิ่งอีดึงจิตใจที่ล่องลอยของเขากลับมา เขาเหลือบมองอิ่งอีข้างๆ ก็เห็นว่ามือหนึ่งของอีกฝ่ายกุมท้องไว้ ใบหน้าเผยความเจ็บปวด “ข้าน้อยกินจนท้องเสีย ขอตัวก่อนได้หรือไม่ขอรับ?”

เจ้าตำหนักยมราชหันมาชำเลืองมองเขา แล้วเอ่ยเรียบๆ “ไปเถอะ!”

“ขอบคุณนายท่าน” อิ่งอีกล่าวจบก็หมุนตัวจากไปอย่างรวดเร็ว ฮุยหลางข้างๆ กันมองเสียจนตาค้างด้วยความตกตะลึง

เจ้า เจ้าบ้านี่หนีไปซะแล้ว?

ขณะเขากำลังคิดว่าต้องเรียนรู้การหนีเอาตัวรอดเป็นยอดดีจากสหายหรือไม่ ก็เห็นภูตหมอพานายท่านเดินเข้าไปเสียแล้ว เห็นเช่นนี้เขาจึงทำได้เพียงเดินตามหลังไปด้วยใบหน้าอึดอัดใจ

อาจเพราะกันผู้คนออกไปแล้ว ภายในหอจึงไม่ได้อึกทึก มีเพียงหญิงงามอายุราวสามสิบกว่าถือพัดคนงามบิดสะโพกส่ายเอวบางเดินเข้ามาต้อนรับ

“อุ๊ยตาย คุณชายทั้งหลายมาถึงเสียที เหล่าแม่นางในหอเตรียมตัวเรียบร้อยนานแล้วเจ้าค่ะ เมื่อครู่ยังมีบางคนถามว่าทำไมพวกคุณชายยังไม่มา”

หญิงงามวัยออกเรือนสวมชุดแพรไหมเบาบางสีแดงที่ค่อนข้างโปร่งแสง สะโพกผายเอวบางเสริมด้วยหน้าอกขาวราวหิมะที่วับๆ แวมๆ เหมือนจะกระเด้งออกมา ดูแล้วน่าเย้ายวนยิ่งนัก

มือหนึ่งของนางถือผ้าเช็ดหน้าสีแดงสะบัดลงบนร่างเฟิ่งจิ่วเบาๆ อีกมือใช้พัดบดบังริมฝีปากแดงสวยสดงดงามพลางหัวเราะเบาๆ เสียงนั้นฟังแล้วทำให้อิ่งอีด้านหลังเจ้าตำหนักขนลุกซู่ทั้งร่าง

วาบหวามเกินไปชัดๆ…

………………………………………………….

ตอนที่ 462 อย่ามาแตะ!

เวลานี้เอง เจ้าตำหนักยมราชมองเห็นภาพเช่นนี้ สีหน้ากลับหมองคล้ำ กลิ่นอายชั่วร้ายทั่วร่างกระจายออกมาพร้อมกัน ทำให้แม่เล้าที่เดิมอยากจะเข้าใกล้หยุดนิ่งอยู่กับที่ทันที และทำไม่ได้แม้แต่จะยิ้มหัวต่อ!

เขาจ้องเฟิ่งจิ่วข้างกายด้วยสีหน้าถมึงทึง เอ่ยถามขณะกัดฟันกรอดเบาๆ “จุดสำคัญที่เจ้าบอกคือสิ่งนี้หรือ?”

“ฮี่ๆ ไม่ใช่สิ่งนี้ เป็นด้านหลังพวกนั้นต่างหาก”

เธอคล้ายมองไม่เห็นความโกรธของเขา พยักเพยิดสื่อให้เขามองไปทางเหล่าหญิงงามชดช้อยที่กำลังลงมาจากชั้นสอง พลางบอกว่า “ข้าจ่ายเงินราคาสูงเพื่อให้แม่เล้าคัดเลือกพวกนางโลมมาโดยเฉพาะ ท่านลองดูว่ามีที่ถูกตาต้องใจหรือไม่”

เจ้าตำหนักจ้องนางพลางอดกลั้นความคิดชั่ววูบที่อยากจะบีบนางให้ตายไว้ จากนั้นสะบัดแขนเสื้อเดินออกไป

“คุณชาย…”

แม่นางพวกนั้นเร่งฝีเท้าเดินลงมา ตรงเข้าไปล้อมพวกเขาไว้ เหลิ่งหวาเห็นก็ตะโกนทันที มือชี้ไปที่ฮุยหลาง “เขาเป็นคุณชายใหญ่ เขามีเงิน”

ฮุยหลางฟังน้ำเสียงเย้ายวนของแม่เล้าเสียจนขนลุกชัน ขณะลูบๆ แขนอยู่เห็นนายท่านออกไปแล้วจึงจะตามไป ทว่าถูกเหล่านางโลมสิบกว่าคนที่สวมผ้าแพรบางล้อมไว้ เรือนร่างอวบอิ่มเรียบเนียนบีบเข้ามาหาเขา ลมเย็นที่เย้ายวนใจคนโชยมาแตะจมูก เขารู้สึกเพียงว่าหัวสมองระเบิด ความโกรธพุ่งขึ้นมา ใบหน้าพลันแดงก่ำ

“อย่ามาแตะข้า!”

“ไสหัวออกไป!”

“อย่าเข้ามาใกล้!”

“ออกไป!”

เขาโดนหญิงสาวสิบกว่าคนที่มีสัดส่วนงดงามล้อมไว้ บางคนโอบเอวเขาพลางสัมผัสสะเปะสะปะบนร่าง บางคนกอดคอแล้วโน้มเข้ามาใกล้หน้าเขา บ้างก็จับมือเขากดลงบนส่วนที่อ่อนนุ่ม เขาเพียงรู้สึกว่าร่างกายไม่สบายตัวในทันใด…

“ไสหัวไป!”

เสียงตะโกนเกรี้ยวอย่างโกรธเคืองนี้แฝงด้วยแรงกดดันพลังวิญญาณ พอเปล่งเสียงแรงกดดันก็กระเพื่อมออกไปปานลายน้ำ สะบัดเหล่านางโลมที่เกาะตัวและโอบรอบเอวเขาจนกระเด็นในพริบตา ชั่วเวลานั้นเสียงร้องครวญดังขึ้นโกลาหลภายในหอ

“พวกเจ้า พวกเจ้าคิดจะทำลายความบริสุทธิ์ของข้า!”

ฮุยหลางแทบจะร้องโหยหวนขึ้นมาแล้ว เขาที่ไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้ใบหน้าแดงฉานไปหมด ถูกหญิงสาวสิบกว่าคนทั้งกอดทั้งรัด ไม่ทันไรยังมีคนจับมือเขาไปกดตรงหน้าอกนุ่มนิ่มของพวกนาง ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!

ครั้งนั้นเขาโดนนายท่านลงโทษส่งไปโรงค้าเด็กหนุ่มและถูกเจ้าเด็กเริ่นเสียงบังคับให้เปลี่ยนมาใส่ชุดโปร่งบาง แต่ก็เพียงเพื่อเชยชม ไม่ยอมให้แตะต้อง ไหนเลยจะเหมือนหญิงพวกนี้ แขกมาคนหนึ่งก็ทำเอาตกใจราวกับหมาป่าหิวโหยตะครุบเหยื่อ คนพวกนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!

ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังผู้สง่างามเช่นเขา นึกไม่ถึงว่าจะโดนหญิงในหอนางโลมพวกนี้เอาเปรียบ พอคิดๆ ดูก็มีแม้กระทั่งใจที่อยากจะฆ่าคนแล้ว

ฮุยหลางจ้องเหลิ่งหวาที่ยืนอยู่ข้างๆ อย่างขุ่นเคือง ทั้งหมดเป็นเพราะเขา หากไม่ตะโกนเช่นนั้น ผู้หญิงพวกนี้คงไม่พุ่งมากันหมด

ไม่ทันไร เขามองไปทางเฟิ่งจิ่วอยากระบายอารมณ์ใส่ แต่สุดท้ายกลับบอกเพียงว่า “เจ้าทำร้ายจิตใจนายท่านเกินไปแล้ว เขาจริงจังกับเจ้านะ” กล่าวจบก็หันตัวจากไป

เขาไม่เข้าใจเลย นายท่านยอดเยี่ยมเพียงนั้น ทำไมภูตหมอถึงไม่หวั่นไหว? นายท่านทำตัวออกนอกหน้าถึงเพียงนั้น ลดความถือตัวลงครั้งแล้วครั้งเล่า นางกลับผลักไสเสียทุกครั้งไป

จิตใจของสตรีช่างเหมือนเข็มในมหาสมุทรจริงๆ คาดเดายากและไม่อาจไขว่คว้า สงสารก็แต่นายท่านกับเขาที่โดนเอาเปรียบไปด้วย

เมื่อเห็นพวกเขาออกไป เหลิ่งหวาหยิบเงินออกมาจ่ายค่าทำขวัญ แล้วเดินออกจากหอบุปผาไป เห็นนายท่านมีสีหน้าไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่ไม่แยแสอะไร ใจเขาจึงบีบรัดเล็กน้อย

นายท่านไม่ได้ไม่สนใจเสียหน่อย…