บทที่ 116 ความฉลาดของตระกูลหยาง

The king of War

เมื่อหยางเซี่ยงหมิงเห็นคนพวกนี้ ก็ตกใจ

เพราะคนพวกนี้ มาจากตระกูลที่เขาเคยทำด้วยผิดทั้งหมด นอกจากตระกูลเล็กๆ แล้วยังมีอีกหลายตระกูลใหญ่

“คิดบัญชี? คิดบัญชีอะไร?”

หยางเซี่ยงหมิงแสร้งทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แล้วตะคอกใส่ผู้ที่มาด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด

“ผู้นำตระกูลหยาง คุณนี่ผู้ดีแล้ววางมาดหยิ่งยโสนะ สามปีก่อน คุณใช่มั้ยที่จัดคนมาฆ่าพ่อของผม? แค้นนี้ คงยังไม่ลืมหรอกนะ? ”

“แล้วก็ตระกูลตระกูลหวงของผม ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลหยางของคุณแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม ตอนนี้ตระกูลชั้นนำของเมืองโจวเฉิง ก็จะไม่มีตระกูลหยางของคุณ แต่เป็นตระกูลหวงของผม!”

“อย่าลืมนะ ยังมีทายาทของตระกูลฉีของผม ก็เป็นคุณที่จัดคนไปฆ่าทั้งหมด!”

……

แว็บเดียวทุกคนได้พูดความแค้นของพวกเขาที่มีต่อตระกูลหยาง ออกมา

สีหน้าของหยางเซี่ยงหมิงแย่จนถึงขีดสุด ลูกหลานตระกูลหยางที่อยู่ข้างๆเขา ก็หน้าตาหวาดกลัว

แว็บเดียวมีตระกูลที่เป็นศัตรูมามากขนาดนี้ นี่มันไม่เหลือทางให้ตระกูลหยางได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วนะเนี่ย!

“พวกแกคิดว่าตระกูลหยางของฉันรังแกได้ง่ายๆงั้นเหรอ?” หยางเซี่ยงหมิงเกรี้ยวกราด

“หยางเซี่ยงหมิง อย่าเสแสร้ง แม้แต่เฉียนเปียวก็ไปแล้ว แล้วตระกูลหยางมีอะไรที่น่ากลัวอีก?”

วัยกลางคนคนหนึ่งดูแคลนพลางมองไปที่หยางเซี่ยวหมิง แล้วสั่งการทันใดว่า “ล้อมที่นี่ไว้ ฉันละอยากจะรู้ ว่าใครจะหนีไปได้!”

ทุกคนตระกูลหยางที่เมื่อกี้เตรียมที่จะหนี ทันใดนั้นก็ถูกหลายสิบคนห้อมล้อมไว้ตรงกลาง

หยางเซี่ยงหมิงหน้าเขียวหน้าดำ จ้องไปที่วัยกลางคนผู้นำนั้นอย่างไม่ละสายตา

เขากัดฟันด้วยความแค้น “เฉินเห้า ตระกูลหยางของฉันไม่มีความแค้นใดๆกับตระกูลเฉินของแก ตระกูลเฉินของแกเป็นตระกูลเศรษฐีต้นๆของเมืองโจวเฉิง แต่กลับออกโรงมาเป็นศัตรูกับตระกูลหยางตอนนี้ เกินไปมั้ย?”

“เกินไป?”

เฉินเห้าดูแคลน “หยางเซี่ยงหมิง ที่แท้แกก็รู้ ว่าตระกูลเฉินของฉันเป็นตระกูลเศรษฐีต้นๆของเมืองโจวเฉิงนี่หน่า? แต่แกเคยให้เกียรติตระกูลเฉินของฉันบ้างมั้ย?

ทันใดนั้นอารมณ์ของเฉินเห้าก็ระเบิดออกมา เกรี้ยวกราด “แกคิดว่าข้างๆมีเฉียนเปียวคอยปกป้องอยู่ แม้แต่เกียรติของตระกูลเฉินแกจึงมองไม่เห็น ตอนนั้นตระกูลเฉินของฉันจะปกป้องตระกูลเฉิน สุดท้ายคืนนั้น แกให้เฉียนเปียวมาฆ่าผู้นำของตระกูลเฉิน ถึงขั้นจัดยอดฝีมือของตระกูลหยาง นองเลือดตระกูลเฉิน แบบนี้ตระกูลหยางของแกไม่เกินไปงั้น?”

หยางเซี่ยวหมิงกัดฟัน “ผู้ชนะทำอะไรก็ไม่ผิด ตระกูลเฉินไม่เคารพกฎกติกา แพ้แล้วไม่ยอมรับ กลับจะเป็นศัตรูกับตระกูลหยางของฉันอีก หรือฉันต้องทนงั้นหรือ?”

“ได้ผู้ชนะทำอะไรไม่ผิด ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นวันนี้ ฉันจะให้ตระกูลหยางของแกแพ้ราบคาบ!” เฉินเห้าโมโหกัดฟัน

“ฉันจะดูว่าใครกล้าทำ!”

หยางเซี่ยงหมิงเกรี้ยวกราด “ฉันยอมรับ ว่าการค้าของตระกูลหยางเผชิญกับปัญหา แต่ถ้าคิดจะล้างบางตระกูลหยาง งั้นก็ต้องประเมินกำลังของตัวเองด้วยนะ”

พูดจบ หยางเซี่ยงหมิงหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรออก “เฉียนเปียว ภายในสิบนาทีนี้ แกต้องกลับมา!”

ทุกคนของแต่ละตระกูลที่เมื่อกี้ยังมั่นใจว่าจะชนะ เมื่อเห็นหยางเซี่ยงหมิงโทรหาเฉียนเปียว แต่ละคนก็ต่างพากันตกใจ คนจำนวนไม่น้อยเริ่มล้มเลิกความคิด

เพราะชื่อของเฉียนเปียวก้องเกรียงไกร ที่เมืองโจวเฉิงคืออวตารกลับชาติมาเกิด ขอให้เป็นคนที่ตระกูลหยางต้องการฆ่า เพียงแค่ส่งเฉียนเปียวไป ก็ไม่เคยพลาดมาก่อน

ต่อให้เป็นเฉินเห้าทายาทตระกูลเศรษฐีต้นๆของเมืองโจวเฉิง ก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ยี่สิบนาทีก่อน หน้าหนึ่งของเจียงโจวจู่ๆก็ดันเรื่องการล่มสลายของตระกูลหยาง และข่าวการไปของเฉียนเปียว แต่กลับไม่มีใครยืนยันเรื่องนี้

เพื่อป้องกันการหนีของหยางเซี่ยวหมิง เฉินเห้าได้ให้คนมาที่ตระกูลหยาง ใช้ตำแหน่งตระกูลเฉินที่เมืองโจวเฉิง เรียกระดมพล ทันใดนั้นได้เรียกตระกูลเล็กที่มีความแค้นกับตระกูลหยางหลายตระกูลมาทั้งหมด

ตอนที่พวกเขาเห็นตระกูลหยางกำลังจะหนี ก็แน่ใจแล้ว ว่าตระกูลหยางล่มสลายแล้วจริงๆ ดังนั้นจึงกล้ามาล้อมตระกูลหยางไว้

ตอนนี้หยางเซี่ยวหมิงกลับโทรหาเฉียนเปียวต่อหน้าทุกคน แล้วยังให้เขากลับมาภายในสิบนาที ทันใดนั้นเฉินเห้าและคนอื่นๆเริ่มรู้สึกขี่หลังเสือแล้วลงจากหลังเสือยาก

“เฉียนเปียวอยู่ที่ตระกูลหยางเป็นเวลาแปดปี เพื่อให้เขาอยู่ข้างๆกายฉัน ฉันจึงทุ่มเทไปมากมาย แล้วพวกแกคิดว่าเขาจะไปจากตระกูลหยางง่ายๆงั้นหรือ?”

สายตาของทุกคนเปลี่ยนไป มองไปที่หยางเซี่ยงหมิงทั้งหมด เขาดูแคลน"ธุรกิจตระกูลหยางของฉันล้มเหลว แต่ก็ไม่เป็นไร ตระกูลหยางของฉันมีบุคลากร สักวันหนึ่ง ก็จะรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง"

พูดจบ หยางเซี่ยงหมิงมอบไปรอบๆ กล่าวอย่างสงบ "ฉันว่าพวกแกอย่างบุ่มบ่ามดีกว่านะ แม้เมื่อก่อนพวกเราเคยมีความแค้นกัน แต่ก็ผ่านไปแล้ว ถ้าตระกูลหยางของฉันจะล้างบางจริงๆ พวกแกยังมีชีวิตอยู่ถึงวันนี้ได้เหรอ?"

"ตระกูลเฉินคือตระกูลเศรษฐีต้นๆ ไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกเขา ตระกูลหยางใจสู้แต่แรงไม่เป็นใจ แต่ถึงแม้แบบนี้ จะต่อกรกับตระกูลอื่น ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ง่ายดายอยู่ดี"

“ฉันจะบอกไว้ตรงนี้นะ ก่อนที่เฉียนเปียวกลับมา ตระกูลที่ออกไป ฉันตระกูลหยางจะคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน แต่ถ้าหลังจากที่เฉียนเปียวกลับมาแล้ว พวกแกยังอยู่ที่นี่ ก็อย่าโทษว่าฉันหยางเซี่ยงหมิงไม่ไยดีละกัน!”

หยางเซี่ยงหมิงในตอนนี้ บนใบหน้าไม่มีความกลัวแต่อย่างใด ยังคงมีท่าทางที่มั่นใจและโอหังอยู่เช่นเคย

เขาพูดจบ ก็มีคนถอยจากการล้อมวง กล่าวด้วยสีหน้าซีเรียสว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตระกูลหวงของฉันถอย!”

"ตระกูลฉีของฉันก็ถอย!"

"ตระกูลหลิวของฉันก็ถอย!"

……

หยางเซี่ยงหมิงพูดจบ เกือบสิบตระกูลที่มา นอกจากตระกูลเฉิน ตระกูลอื่นถอยหมด โดยไม่ลังเลใดๆ จากไปทันที กลัวจะต้องเผชิญหน้ากับเฉียนเปียวที่รีบกลับมาที่ตระกูลหยาง

“เฉินเห้า ฉันจะบอกแกไว้นะ เรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็อย่ายุ่ง ตอนนั้นที่ตระกูลหยางของฉันไม่ไว้หน้าตระกูลเฉินของแก แล้วยังไง?”

หยางเซี่ยงหมิงมองเฉินเห้าอย่างสัพยอกแล้วกล่าว “แกอย่างคิดว่าฉันไม่รู้ ช่วงหลายปีมานี้ ตระกูลเฉินของแกลอบกัดตระกูลหยางของฉันไม่น้อย ทุ่มเทอย่างมาก ถึงขั้นจ้างนักฆ่านานาชาติ แล้วสุดท้ายเป็นไง?ไม่ใช่ว่าก็ถูกเฉียนเปียวฆ่าหรอกเหรอ?”

“ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับตระกูลเฉิน ไม่ใช่เพราะฉันกลัว แต่ฉันไม่อยากทำลายตระกูลเฉินของแก แล้วตกเป็นเป้าโจมตีของทุกคน มิเช่นนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของเฉียนเปียว เข้าไปฆ่าตระกูลเฉินของแกตามลำพัง แล้วใครจะกล้าขวาง?”

สีหน้าของเฉินเห้าถอดสีทันใด ตาทั้งสองข้างมองไปยังหยางเซี่ยงหมิงอย่างไม่ละสายตา เกิดความลังเลขึ้นในใจ คนที่เขาพามานั้นก็ไม่มาก ถ้าลงมือ ฆ่าหยางเซี่ยงหมิงตอนนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่กลัวเฉียนเปียวกลับมานี่แหละ

“อีกสามนาที เฉียนเปียวน่าจะใกล้ถึงแล้ว” หยางเซี่ยงหมิงตั้งใจบอกเวลา แล้วกล่าวอย่างสงบ

“หยางเซี่ยงหมิง เป็นคนอย่างโอหังเกินไป มิเช่นนั้นวันหนึ่ง จะมีคนจัดการแก!”

เฉินเห้ากัดฟัน “พวกเราไป!”

พูดจบ ตระกูลเฉินตระกูลสุดท้าย ก็จากไปเช่นกัน

ทุกคนของตระกูลหยาง อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆ ในใจเลื่อมใสหยางเซี่ยงหมิงสุดๆ พวกเขารู้ดี ว่าเฉียนเปียวได้จากไปแล้ว แล้วจะกลับมาได้อย่างไร?

“ทุกคน รีบออกจากเมืองโจวเฉิงให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้นถ้าพวกมันรู้ว่าเฉียนเปียวไม่กลับมา พวกมันจะต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน!

หยางเซี่ยงหมิงสั่งการ ขึ้นรถแล้วเดินทางก่อน

ตอนที่แต่ละตระกูลของเมืองโจวเฉิง รู้ว่าถูกหลอก คนของตระกูลหยางได้หนีออกจากเมืองโจวเฉิงทั้งหมดแล้ว

เมืองโจวเฉิง ตระกูลเฉิน

ในคฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง ผู้นำของตระกูลเฉินเฉินซิงไห่ หลังจากที่รู้ข่าวการหนีออกจากเมืองโจวเฉิงของตระกูลหยางแล้วนั้น ก็เกรี้ยวกราด

“เพี่ยะ!”

เฉินซิงไห่ตบไปที่หน้าของเฉินเห้าหนึ่งฉาด อย่างโมโห “แกไอ้สวะ พาคนไปแล้วแท้ๆ ยังให้คนของตระกูลหยางหนีไปได้ทั้งหมดอีก แกทำอะไรได้บ้างเนี่ย?”

“พ่อ ผมก็ไม่คาดคิด ว่าตระกูลหยางจะล่มสลายแล้วจริงๆหนิ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเฉียนเปียวออกไปจากตระกูลหยางแล้วจริงๆ” เฉินเห้ากล่าวด้วยใบหน้าสับสน

“ในเมื่อตระกูลหยางไปแล้ว งั้นเรื่องนี้ก็ต้องมีคนแฉ” เฉินซิงไห่สายตาเคียดแค้น

“ความหมายของพ่อคือ?” เฉินเห้าถามอย่างระมัดระวัง

“ตระกูลหยางไปแล้ว แต่ธุรกิจของตระกูลหยางยังมีอยู่ไม่ใช่เหรอ?ไม่ว่าใครได้ทุกอย่างของตระกูลหยางไป ต้องแย่งกลับมาให้หมด!”

เฉินซิงไห่กล่าวด้วยสีหน้าเลือดเย็น “เมืองโจวเฉิง เป็นถิ่นของตระกูลเฉินของฉัน ใครกล้าแย่งกับตระกูลเฉิน?

……

หยางเฉินเพิ่งรับลูกสาวและภรรยากลับถึงยอดเมฆา จู่ๆลั่วปิงก็โทรเข้ามา “ท่านประธาน คนของตระกูลหยาง หนีไปจากเมืองโจวเฉิงทั้งหมดแล้ว!”

“เหรอ?แล้วตระกูลพวกนั้นที่เมืองโจวเฉิง ปล่อยตระกูลหยางไป?”

ข่าวนี้ อยู่เหนือความคาดหมายของหยางเฉิน

ลั่วปิงรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่ตระกูลหยาง ให้ฟังทั้งหมด

เมื่อฟังการรายงานจบ หยางเฉินหลับตาลงช้าๆ “หยางเซี่ยงหมิงนี่มัน จอมฉวยโอกาสจริงๆ ในเมื่อหนีไปได้ ก็ถือเป็นความสามารถของมัน งั้นก็เหลือทางให้พวกมันได้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็แล้วกัน! ”

“นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีอีกเรื่องที่จะรายงานท่านครับ เมื่อกี้นี้ ตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองโจวเฉิง เข้ามายุ่งเรื่องกิจการของตระกูลหยาง” จู่ๆลั่วปิงก็พูดขึ้นมาอีก

“ฉกอาหารจากปากเสือ?ไม่คิดหน่อยเหรอ ว่าทำไมตระกูลหยางถึงได้ล่มสลาย โง่จริงๆ คุณวางใจได้ พรุ่งนี้ผมจะส่งเฉียนเปียวไปเมืองโจวเฉิง”

หยางเฉินไม่กังวลใดๆ ในเมื่อชื่อของเฉียนเปียว มีพลังที่เมืองโจวเฉิงมากขนาดนั้น งั้นก็ให้เขากลับไปก็แล้วกัน

“หยางเฉิน พ่อให้ฉันหายไปหลายวันแล้ว คุณช่วยใช้คอนเน็คชั่นมาช่วยตามหาหน่อยได้มั้ย?”

หยางเฉินวางสายไป จู่ๆฉินซีก็เดินเข้ามา กล่าวด้วยความกังวล

ก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้ามาที่ยอดเมฆา ฉินต้าหย่งก็ไม่กลับบ้านตลอด พวกเขาอยู่บ้านใหม่มาสองวันแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ข่าวของฉินต้าหย่ง

หยางเฉินพยักหน้า “ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้!”

เขากำลังจะกดโทรออก โทรศัพท์ของฉินซีก็ดังขึ้น รับสาย ฟังไปไม่กี่ประโยค ฉินซีก็หน้าถอดสี “โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ขอบคุณค่ะ!”

“เกิดอะไรขึ้น?” หยางเฉินถาม

“เพื่อนของฉันที่เมืองคิง เจอพ่อของฉันแล้ว บอกว่าเขากำลังเล่นพนันอยู่”

ฉินซีพูดน้ำตาคลอเบ้า ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล