บทที่ 58 เขาถูกหนานหว่านเยียนหลอกไปอีกครั้ง

ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้

อดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 58 เขาถูกหนานหว่านเยียนหลอกไปอีกครั้ง
“ตามที่ข้าน้อยดู นี่ก็คือยาพิษที่ธรรมดาที่สุด ทำให้คนไม่สบายเพียงครู่เดียว ไม่ได้มีอาการอย่างที่พระชายาพูด และไม่มีอาการผลค้างเคียงอะไรเลย”

พ่อบ้านกาวถามอีก “จริงหรือ?”

ซินแสพูดอย่างเคารพ “จริง ข้าน้อยช่วยท่านอ๋องจ่ายยาเดี๋ยวนี้ หลังดื่มยาไปแล้วครึ่งชั่วยาม ร่างกายของท่านอ๋องก็จะฟื้นฟูเป็นปกติ”

มองดูสีหน้าซินแสพูดอย่างมั่นใจ กู้โม่หานสีหน้าดำขึ้นทันที ใจที่กังวลอยู่ก็ปล่อยวางลงแล้ว แต่กลับยิ่งโกรธ

เขากลับถูกหนานหว่านเยียนหลอกอีกครั้งแล้ว! เดี๋ยวเขาต้องให้นางเจ็บปวดอย่างสิ้นหวัง!

พ่อบ้านกาวก็แอบโล่งใจ สายตาที่มองดูกู้โม่หานมีแววที่ไม่เข้าใจเลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว

…….

“เอา! ขนมสามถุง มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว!” ในเรือนเซียนหลิน เกี๊ยวน้อยมื้อข้างหนึ่งเท้าสะเอว หันหน้าหนียื่นขนมสามถุงที่ห่ออย่างประณีตให้กับอวี๋เฟิง

ยายเด็กน้อยโกรธจนหน้าแดง น้ำเสียงยังส่อแววไม่ค่อยเต็มใจ

อวี๋เฟิงมองดูเจ้านายน้อย รู้สึกระอาไม่รู้จะทำอย่างไร

ก่อนหน้านี้เขาช่วยเด็กสองคนลงมาจากหลังคาเรือนจู๋หลาน เกี๊ยวน้อยขัดขืนอยู่ในอ้อมกอดเขาทั้งต่อยทั้งถีบ ต่อยไปด้วยก็บ่นไปด้วย “เจ้าปล่อยข้าลงไป! ข้าจะช่วยท่านแม่แก้แค้น!”

เขาคิดไม่ถึง เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ร่าเริงสดใสสองคนนี้ จะเป็นปีศาจที่แอบซ่อน

วิชาตัวเบาของเขาถือว่าระดับสูง หลบเหล่าองครักษ์ที่ตรวจเวรกลับมาถึงเรือนเซียนหลินอย่างลำบาก สองตัวนี้ยังไม่ยอมหยุด

อวี๋เฟิงจึงทำได้เพียงสั่งสอนยายเด็กสองคนนี้อย่างจริงจังไปยกหนึ่ง พูดว่าจะบอกท่านแม่ของพวกนาง ซาลาเปาถึงได้ร้องขออย่างน่าสงสาร

เกี๊ยวน้อยนิสัยตรงไปตรงมาไม่กลัวเรื่อง หยิบของถุงหนึ่งออกมาจากห้องยื่นให้เขา ทำดีต่อเขา

อวี๋เฟิงไม่รับ ยังคงยืนยันจะบอกหนานหว่านเยียน

เกี๊ยวน้อยถึงได้ร้อนรนแล้ว หยิบขนมออกมาสามถุงเพื่อติดสินบน

อวี๋เฟิงมองดูหน้าของเกี๊ยวน้อยทั้งๆที่เสียดาย แต่สภาพที่พยายามอยากซื้อตัวเขาน่ารักอยากมาก หัวเราะออกมาเบาๆ

ซาลาเปาดึงชายเสื้อของอวี๋เฟิง “พี่ชายที่รัก อย่าบอกท่านแม่ได้ไหม? ข้ากับพี่สาวก็มีเท่านี้แล้ว ให้ท่านหมดเลย!”

อวี๋เฟิงทนไม่ไหว แต่รู้สึกเรื่องราวใหญ่โต ก็ลังเลขึ้นมา “แต่ว่า…….”

เกี๊ยวน้อยร้อนรนจนกระทืบเท้า นางร้อนรนจนพูดคำโหดต่ออวี๋เฟิง “ท่านเอาหรือไม่เอา! ไม่เอาข้าก็จะบอกท่านแม่ บอกว่าท่านรังแกพวกเรา! อย่างไรเสียตอนนี้พวกเราก็ล้วนเป็นจิ้งหรีดบนเชือกเส้นเดียวกันแล้ว!”

ซาลาเปาขยับเข้าใกล้หูของเกี๊ยวน้อยพูดกับนางว่า “พี่ คือตั๊กแตน…….”

“ตั๊กแตน! เป็นตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกันแล้ว! หากท่านบอกท่านแม่ พวกเราล้วนต้องถูกด่า!” เกี๊ยวน้อยแกล้งทำเป็นใจเย็น ทำเสียงเฮ้อไปทีหนึ่ง

อวี๋เฟิงเอือมระอา! คุณหนูน้อยสองคนนี้ช่างปรนนิบัติยากเหลือเกิน!

เกี๊ยวน้อยเห็นสีหน้าของเขาดึงสถานการณ์กลับมาแล้ว ใบหน้าก็มีรอยยิ้มทันที มองดูอวี๋เฟิงอย่างลึกลับ พูดกับเขาอย่างร่าเริง

“พี่อวี๋เฟิง ข้ากับซาลาเปารู้ว่าผิดแล้ว ท่านอภัยให้พวกเราได้ไหม? พวกเรารับรอง! ครั้งต่อไปจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีกแล้ว! เพราะฉะนั้นท่านอย่าบอกท่านแม่ ได้ไหมล่ะ?”

คำพูดก็พูดแบบนี้ แต่นางพูดแล้วก็ทำไม่ได้

วันนี้จัดการคนเลวนั่นยังไม่สะใจเลย! เป็นไปได้ยังไงว่าไม่มีครั้งต่อไป?

แต่ นางต้องผ่านด่านในวันนี้ไปก่อน มิเช่นนั้นท่านแม่ก็ต้องลงโทษนางแล้ว…….

“นี่……” อวี๋เฟิงลำบากใจ พูดก็ไม่ใช่ ไม่พูดก็ไม่ใช่

เวลานี้ซาลาเปาสายตาเฉียบคม มองเห็นร่างสีแดงอยู่ไกลๆคนหนึ่ง นางกดเสียงต่ำพูดกับเกี๊ยวน้อย “พี่ ท่านแม่กลับมาแล้ว!”

ได้ยินแล้ว เกี๊ยวน้อยไม่พูดอะไรก็ยัดขนมเข้าไปในแขนเสื้อของอวี๋เฟิง ทำหน้าผีใส่เขา “ซู๊ว์! รับขนมของข้าแล้ว! ก็เป็นจิ้ง……ตั๊กแตนขนเชือกเส้นเดียวกันแล้ว ห้ามพูดนะ!”

พูดจบ ยังยกกำปั้นเล็กๆของนางขึ้นมา แสดงสีหน้า “โหด” จูงมือของซาลาเปา วิ่งไปทางด้านหนานหว่านเยียน

อวี๋เฟิงยุ่งเหยิงอยู่กลางสายลม ทำอะไรไม่ถูก

นี่เขาถูก…….ถูกบังคับเข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้ว?

หนานหว่านเยียนตอนนี้พยายามปรับท่าทางของตัวเอง ให้ตัวเองดูไม่รันทดขนาดนั้น นางเห็นเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาวิ่งตามกันมาหานาง ในใจก็อดสงสัยไม่ได้

“ท่านแม่!” ซาลาเปาวิ่งอยู่ข้างหน้า เสียงหวานออดอ้อนทิ่มแทงใจหนานหว่านเยียน ความอบอุ่นเข้าสู่หัวใจของนาง

“คิดถึงท่านแม่ที่สุดเลย!” เกี๊ยวน้อยตามมาด้านหลัง สีหน้าไร้เดียงสาทำให้คนรักใคร่

แต่ด้วยความรวดเร็ว สองตัวน้อยก็ได้กลิ่นเลือดบนตัวหนานหว่านเยียน

เกี๊ยวน้อยสีหน้าเปลี่ยน “ท่านแม่บาดเจ็บแล้ว? คนเลวนั่นรังแกท่านแม่อีกแล้วใช่หรือไม่!”

ซาลาเปาน้ำตาคลอ ดึงมือของหนานหว่านเยียนอย่างระมัดระวัง “ท่านแม่ต้องเจ็บแน่เลย ข้าช่วยท่านแม่เป่า”

คนเลวนั่นดูแล้วยังกินน้ำล้างจานไม่พอ! กลับยังกล้ารังแกท่านแม่แบบนี้!

มองลูกพวกลูกสาวพอเห็นหน้าก็เป็นห่วงอาการบาดเจ็บของตัวเอง หนานหว่านเยียนรู้สึกมีความสุขอย่างเต็มที่ นางพยายามยิ้ม “แม่ไม่เป็นไร แต่ว่า พวกเจ้าตัวก่อกวนทั้งสองคนทำไม่ยังไม่นอน?”

เกี๊ยวน้อยส่งสายตาไปทางซาลาเปา ตาโตกะพริบมองไปที่หนานหว่านเยียน “ไม่มีท่านแม่กอด นอนไม่หลับ!”

หนานหว่านเยียนยังคงสงสัย ตามหลักแล้ว ถึงแม้เจ้าตัวเล็กสองคนยังไม่นอน ก็ไม่ควรอยู่ในสภาพเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้

แต่ว่านางก็คิดไม่ถึง พาสองพี่น้องเข้าไปในเรือน

ในเรือน อวี๋เฟิงมองเห็นเสื้อผ้าสีแดงเข้มของหนานหว่านเยียน ก็รู้แล้วว่าหลังจากเขาจากไปแล้วหนานหว่านเยียนต้องถูกลงโทษไม่เบา

เขาเข้าไปพูดอย่างเป็นห่วง “พระชายาบาดเจ็บแล้ว? สาหัสหรือไม่?”

หนานหว่านเยียนตอบไม่ตรงคำถาม เหมือนดั่งสงสัยอย่างมาก “ข้าไม่เป็นไร เจ้าสองตัวเล็กนี่ทำไมถึงอยู่กับเข้า? แล้วเจ้ากลับมาถึงเรือนเมื่อไหร่?”