ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 64

ลิเลียนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและเธอก็รู้ว่ามันค่อนข้างสมเหตุสมผล หากนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ซิมเมอร์ล้มละลายเธอก็จะไม่มีชีวิตที่สนุกสนานอีกต่อไป

“ตกลง” หลังจากคิดได้สักพักลิเลียนก็พยักหน้าเห็นด้วย

“ไม่มีทาง!” ในที่สุดฮาร์วี่ย์ที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นอีกครั้ง

ในขณะนั้นทุกคนจ้องไปที่ฮาร์วี่ย์ด้วยความโกรธรวมทั้งลิเลียนด้วยเช่นกัน

ทุกคนได้พูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ‘ทำไมลูกเขยคนนี้ถึงมาสร้างความวุ่นวายอีก เขาไม่เจียมตัวเองสักนิดเลยหรือ? ‘

ลิเลียนพูดอย่างเยือกเย็น “ฮาร์วี่ย์ นายไสหัวออกไปซะ! นี่ไม่ใช่ที่ ๆ นายจะมาความคิดเห็นได้!”

“คุณแม่ครับ ผมขอพูดในนามของแมนดี้! ผมต้องการสิ่งที่ถูกต้องให้เธอ! ตอนแรกเธอเป็นคนได้เซ็นสัญญา ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แต่ตระกูลซิมเมอร์กลับไม่สนใจเรื่องนั้นเลยและพวกเขาเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ ตอนนี้ความร่วมมือตามสัญญานั่นทั้งหมดถูกปฏิเสธและตระกูลซิมเมอร์ยังต้องการให้แมนดี้เข้ามาแก้ไขด้วยตนเอง นั่นมันหมายความว่าไง?”

ฮาร์วี่ย์พูดอย่างสุดทน “คุณปู่ไม่จำเป็นต้องให้คำอธิบายกับเธอเลยงั้นหรือ? อย่าบอกนะว่าเมื่อแมนดี้ทำสำเร็จและได้รับเงินลงทุนนั้นมาคุณปู่ก็จะเปลี่ยนผู้รับผิดชอบอีกครั้ง เป็นแบบนั้นใช่ไหม? แมนดี้เป็นใครสำหรับคุณปู่? เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เพียงแค่คอยจัดการธุระต่าง ๆ ให้คุณปู่ใช่ไหม?”

“ฮาร์วี่ย์ นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร? นายกล้าสงสัยอะไรคุณปู่ได้ยังไง!” ในที่สุดแซ็คก็ได้โอกาสต่อว่าฮาร์วี่ย์เสียงดังด้วยความโกรธ แต่แท้จริงแล้วแซ็คมีเจตนาเช่นนั้น หากแมนดี้ได้รับเงินลงทุนเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบแทนที่เธออีกครั้ง เพราะด้วยผู้อาวุโสซิมเมอร์โปรดปรานเขามากที่สุด

ลิเลียนก็มีบางอย่างในใจของเธอเช่นกัน เมื่อกี้นี้เธอลืมที่จะคิดถึงความเป็นไปได้ในข้อนี้ไปลยด้วยซ้ำ

“ฮาร์วี่ย์ นายไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรที่นี่ ตอนนี้นายไสหัวไปจะดีกว่า ถ้าไม่ไก็อย่ามาโทษว่าเราหยาบคายกับนาย!” ฌอนพูดอย่างเคร่งเครียด เมื่อกี้เขาแทบเดาหาเหตุผลมาสมทบสิ่งที่ฮาร์วี่ย์พูดไม่ได้ และในตอนนั้นรู้สึกใจตระหนกเป็นอย่างมาก

ฮาร์วี่ย์ไม่ต้องการจะยุ่งวุ่นวายกับพวกเขา เขาเพียงแค่จับจ้องไปที่ผู้อาวุโสซิมเมอร์และพูดต่อว่า“ผู้อาวุโสซิมเมอร์ จากสถานการณ์ในตอนนี้ จริงใช่ไหมที่มีเพียงแค่แมนดี้เท่านั้นที่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?”

ผู้อาวุโสซิมเมอร์หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็พูดว่า “นั่นเป็นเรื่องจริง แล้วอย่างไรล่ะ? แมนดี้เป็นหนึ่งในตระกูลซิมเมอร์ เธอก็เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของผลประโยชน์ของตระกูลซิมเมอร์ นอกจากนี้ทุกสิ่งที่เธอมีหรือใช้ก็เป็นของตระกูลซิมเมอร์ทั้งนั้น นายก็เหมือนกันแม้ว่านายจะเป็นลูกเขย ทุกสิ่งที่นายมีหรือใช้ก็เป็นของตระกูลซิมเมอร์ ในตอนนี้เช่นนี้เดียวกัน ถ้าเธอดำเนินการในนามของตระกูลซิมเมอร์ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”

“นั่นไม่ใช่ปัญหาอย่างแน่นอนหากเธอดำเนินการในนามของตระกูลซิมเมอร์ แต่คุณปู่ต้องเข้าใจด้วยว่าทุกคนต้องการเหตุผลที่สมเหตุสมผลหากพวกเขาถูกขอให้ทำบางสิ่ง!” ฮาร์วี่ย์พูดอย่างใจเย็น “จะมีประโยชน์อะไรถ้าคนธรรมดาจากตระกูลซิมเมอร์ไปที่ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ เพื่อเจรจาเรื่องสัญญานั่น? แต่ถ้าหากเป็นประธานของซิมเมอร์ไปที่นั่นด้วยตนเองเพื่อขอโทษพวกเขา ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ อาจคิดว่าคุณปู่จริงใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้จริง ๆ ”

“นาย…” ผู้อาวุโสซิมเมอร์ตกใจ ฮาร์วี่ย์กล้าพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไง? เขาจะร้องขอตำแหน่งประธานซิมเมอร์ได้อย่างไร? ช่างไร้ยางอายจริง ๆ!

“แน่นอน หากคุณปู่คิดว่าตำแหน่งนี้สูงเกินไป แต่ท้ายที่สุดเราก็เป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์” ฮาร์วี่ย์ยิ้มอย่างมีความสุข

“หยุดฝันกลางวันซะ!” ฌอนที่ยืนอยู่ด้านข้างตะคอกด้วยความโกรธ ฌอนเป็นประธานของ ซิมเมอร์และดูเหมือนว่าฮาร์วี่ย์มุ่งจับตามองตำแหน่งของฌอนในตอนนี้

“หุบปาก!” ผู้อาวุโสซิมเมอร์หายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็มองไปที่ลิเลียนและพูดว่า “ลิเลียน ฉันมั่นใจว่าไอ้คนไม่มีอะไรดีคนนี้ไม่สามารถพูดสิ่งเหล่านี้ได้ นี่คือความคิดของเธอใช่ไหม?”

ตอนแรกลิเลียนต้องการที่จะต่อต้าน แต่เมื่อเธอนึกถึงตำแหน่งประธานของซิมเมอร์ เธอก็ฝืนยิ้มและพูดว่า “ผู้อาวุโสซิมเมอร์ ฉันเพียงแค่พิจารณาความอยู๋รอดของตระกูลซิมเมอร์”

“ถ้าเธอต้องการให้แมนดี้ได้ตำแหน่งนั่น แค่ขอให้เธอไปดำเนินการรับเงินลงทุนนั้นมาซะ ถ้าเธอทำได้ เธอจะได้เป็นประธานของเราในอนาคต” ผู้อาวุโสซิมเมอร์หายใจเข้าลึก ๆ และตัดสินใจอย่างรวดเร็วโดยไม่มีช่องว่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

“ขอบคุณผู้อาวุโสซิมเมอร์!” ฮาร์วี่ย์ยืนอยู่ด้านข้างยิ้มอย่างมีความสุขและพูดมันออกมา

ที่ห้องนั่งเล่นภายในบ้านแมนดี้

ลิเลียนเจ้องมองพิจารณาฮาร์วี่ย์ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดว่า “บอกฉันมาสิ ใครสั่งให้นายพูดอะไรแบบนั้นต่อหน้าผู้อาวุโสซิมเมอร์เมื่อกี้นี้?”

แมนดี้มองสามีของเธอที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาอย่างสงสัยด้วยเช่นกัน ที่เธอจำได้มันเป็นครั้งแรกที่เขาแสดงท่าทางที่แข็งแกร่งและภูมิฐานได้ขนาดนี้

“แม่ครับ ผมแค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่แมนดี้จะได้รับเงินลงทุนนั้นมา แต่ผลงานต่าง ๆ ของเธอกลับถูกแซ็คแย่งไป ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเรา ดังนั้นผมจึงพูดออกไปในนามของเธอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?” ฮาร์วี่ย์พูดพร้อมรอยยิ้ม

ลิเลียนขมวดคิ้วและพูดว่า “ถ้าเราจะต้องต่อสู้เพื่อสิ่งต่าง ๆ เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ลูกเขยอย่างนายมีสิทธิ์พูดได้อย่างไร? คนอื่น ๆ อาจคิดว่าฉันไม่เข้มงวดกับนายและไม่ได้ดูแลกำกับนายให้ดี ฉันขอเตือนนายนะ. อย่าทำแบบนี้อีกในอนาคต ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะฉีกปากของนายออกเป็นชิ้น ๆ !”

ฮาร์วี่ย์ยิ้มจาง ๆ แต่เขาก็ไม่นึกสนใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว เขาเคยชินกับเรื่องพวกนี้มาตลอดในช่วงสามปีที่ผ่านมา

ถึงอย่างนั้นแมนดี้ก็พูดว่า “แม่คะ ครั้งนี้ฮาร์วี่ย์ทำถูกต้องแล้ว หากเราไปที่ ยอร์ก เอนเทอร์ไพรส์ เพื่อคุยเรื่องรับเงินลงทุนโดยไม่มีเหตุผลที่ดีพอรองรับและหากแซ็คอ้างเครดิตสำหรับความพยายามของเราในครั้งนี้อีกครั้ง เราจะต้องโกรธมากอย่างทำอะไรไม่ได้แน่นอน

“ตอนนี้ หนูจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นซีอีโอของซิมเมอร์ตราบเท่าที่หนูสามารถได้เงินลงทุนนั้นมา วิธีนี้ก็ไม่เลว”

แมนดี้ไม่ได้โง่ เธอเข้าใจดีว่าถ้าเธอไม่คว้าโอกาสที่จะได้รับสิทธิได้เสียงในตระกูลซิมเมอร์ ครอบครัวของพวกเขาอาจถูกไล่ออกจากตระกูลได้ในอนาคต

ลิเลียนพูดไม่ออก เธอถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าลูกคิดแบบนั้นก็ดี แม่จะไม่พูดอะไรอีกแล้ว แมนดี้ พ่อของลูกทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศ เขาจะไม่อยู่บ้านช่วงระยะหนึ่ง เราทำอะไรก็แล้วแต่กับพวกซิมเมอร์ต้องทำอย่างระมัดระวัง”

สิ่งเดียวที่มักเกิดขึ้นในครอบครัวใหญ่ หากใครไม่ระวังอาจถูกทำลายหรือได้รับบาดเจ็บจากสมาชิกในตระกูลของพวกเขาเอง