บริษัทชิงเยว่
หลินฟาน เดินไปที่แผนกต้อนรับของบริษัท พร้อมกับถุงอาหาร และเห็นว่าหญิงสาวงามที่เป็นพนักงานต้อนรับ ดูไม่คุ้นหน้าเลย
“สวัสดีครับ มาส่งอาหารครับ” หลินฟาน ยิ้ม
พนักงานต้อนรับ ร้อง “อืม” ออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นคนส่งอาหาร เธอก็พูดออกมาอย่างเย็นชาไปว่า “ไม่ต้องมาบอกฉัน คุณไปติดต่อเอาเอง!”
ทัศนคติของผู้หญิงคนนี้ ..ค่อนข้างแย่
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา แล้วกดโทรไปหาเบอร์ลูกค้าที่ให้มาตามคำสั่งซื้อ : “สวัสดีครับ อาหารที่คุณสั่งมาถึงแล้ว โปรดออกมารับด้วยครับ”
หลังจากรอสิบนาที ก็เห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาอย่างช้าๆ
ทั้งสองมองหน้ากัน และนิ่งไปครู่หนึ่ง
“คุณ.. คุณคือ หลินฟาน!” ชายคนนั้นชี้ไปที่หลินฟาน และหัวเราะออกมาเสียงดัง “ฉันไม่ได้ดูผิดไปใช่ไหม? แล้วตอนนี้คุณกำลังส่งอาหารอยู่!”
หัวใจของ หลินฟาน จมลงในทันที จ้าวกัง เป็นเพื่อนร่วมงานที่วางแผนกลั่นแกล้งเขาในวันนั้น และทำให้เขาถูกไล่ออกจากบริษัท!
นี่มันเป็นถนนแคบสำหรับศัตรู(1)จริงๆ มันเป็นคำสั่งซื้อของ จ้าวกัง
หลินฟาน ทำหน้านิ่ง แล้วพูดไปว่า “นี่คืออาหารที่คุณสั่ง โปรดรับไป”
จ้าวกัง ไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของเขา แต่ชี้ไปที่ หลินฟาน แล้วหัวเราะ “เสี่ยวจาง คุณมาใหม่คุณยังไม่รู้ ผู้ชายคนนี้เคยเป็นเพื่อนร่วมงานของเรา แต่ตอนนี้เขาเป็นคนส่งอาหาร คุณไม่คิดว่ามันน่าสงสารงั้นเหรอ? ฮ่าๆ”
หญิงสาวพนักงานต้อนรับส่ายหน้า แล้วหัวเราะออกมา เธอกล่าวว่า : “มันก็ไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ทำไมเขาถึงกลับมาให้เสียหน้าได้นะ?”
หลินฟาน หัวเราะขึ้นมา แล้วพูดไปว่า : “คุณหญิงคนนี้ ไม่ว่างานสูงหรือต่ำมันก็ไม่แตกต่างกัน ผมพึ่งมือพึ่งเท้าของตัวเองทำเงิน ไม่ได้ขโมยหรือปล้นใครมา แล้วมันมีปัญหาอะไรไหม?”
พนักงานตอนรับทำหน้ามุ่ยในทันที และสายตาของเธอเหมือนจะดูถูก หลินฟาน ออกไปตรงๆ และเธอเองก็ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป..
จ้าวกัง ยิ้ม แล้วพูดไปว่า “คุณคิดผิดแล้ว ฉันคิดว่าพวกเราพนักงานปกขาวในบริษัทมีเกียรติมากกว่า คนที่ทำงานหนักเช่นคุณ คุณคิดว่าไง เสี่ยวจาง?”
พนักงานต้อนรับ คว้าโอกาสในการได้ชมเชย : “ผู้อำนวยการจ้าว พูดถูกแล้วค่ะ”
ผู้อำนวยการจ้าว? หลินฟาน ขมวดคิ้ว
จ้าวกัง ยิ้ม แล้วพูดไปว่า : “ใช่ ฉันลืมบอกคุณไปว่า ..ตั้งแต่ที่คุณถูกไล่ออก ฉันได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้อำนวยการ”
จ้าวกัง มีใบหน้าที่ดูภาคภูมิใจ ย้อนกลับไปในตอนนั้น เขาและ หลินฟาน กำลังแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้อำนวยการ เพื่อที่จะชนะ หลินฟาน เขาได้วางแผน และใส่ร้าย หลินฟาน หลินฟานไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้ และในที่สุดเขาก็ถูกไล่ออกจากบริษัท
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย “งั้นขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดถากถางของ หลินฟาน จ้าวกัง ก็รู้สึกไม่มีความสุขในใจ เขาเอื้อมมือไปหยิบกล่องอาหาร แล้วสัมผัสมัน : “ทำไมอาหารของฉันถึงเย็น? มันต้องเป็นเพราะคุณมาช้า!”
หลินฟาน พูดไปว่า : “เฮ้ๆ จ้าวกัง ผมมาถึงก่อนแล้ว อย่าพูดเกินไป ผมโทรหาคุณเมื่อสิบนาทีที่แล้ว คุณมาสายเอง”
จ้าวกัง โกรธ และชี้ไปที่ หลินฟาน แล้วดุด่าไปว่า : “แกมันเป็นคนส่งอาหาร แกกล้าขัดฉันงั้นเหรอ ได้! ฉันจะโทรไปบ่นเรื่องแก! ฉันได้ยินมาว่าถ้ามีการร้องเรียนก็จะหักเงิน!”
หลินฟาน เป็นคนที่โต้แย้งด้วยเหตุผล แม้ว่าเขาจะใช้เงินเดือนเกือบทั้งหมด เพื่อส่งไปช่วยเหลือครอบครัวของเขา แต่เขาเองก็ไม่เคยกังวลเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนของลูกค้า
นอกจากนี้ ตอนนี้ ..เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย!
หลินฟาน มองไปที่ จ้าวกัง ด้วยแววตาที่ดูชั่วร้าย
จ้าวกัง คิดว่าเขาได้กุมชีวิตของ หลินฟาน เอาไว้ได้แล้ว เขาจึงหัวเราะออกมา แล้วพูดไปว่า “หลินฟาน ฉันจะให้โอกาสคุณในตอนนี้ คุกเข่าลง แล้วขอโทษฉันซะ และฉันจะไม่ร้องเรียนคุณ..”
ในเวลานี้ หลายคนสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่นี่ เลยพากันวิ่งมาดูด้วยความตื่นเต้น และมีเสียงพูดคุยมากมายเกิดขึ้น
“นี่! ไม่ใช่ หลินฟาน งั้นเหรอ นี่มันดูแย่มาก เขาไปวิ่งส่งอาหารได้ยังไง?”
“ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว มาตอนนี้นี่มันเป็นถนนแคบของคนทั้งคู่จริงๆ”
“พนักงานส่งอาหารกลัวการร้องเรียน ดังนั้นหาก หลินฟาน ไม่ต้องการถูกหักเงิน เขาก็ทำได้แค่คุกเข่า และขอโทษ!”
จ้าวกัง มองไปที่ หลินฟาน อย่างวางเฉย และรอให้ หลินฟาน คุกเข่า
ขณะที่ทุกคนรอดูการกระทำของ หลินฟาน หลินฟาน ก็ค่อยๆ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออกไป
“ฮัลโหล นั่นคือประธานจาง ใช่ไหม? ผมชื่อ หลินฟาน ใช่ หลินฟาน คนที่คุณเคยไล่ออกมาก่อน ก็ตั้งแต่คุณไล่ผมออก ผมก็กลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายร้อยล้าน ผมได้ยินมาว่าคุณจะขายชิงเยว่ ตอนนี้ผมเลยตัดสินใจจะมาซื้อ”
…
หลินฟาน ต้องการซื้อบริษัท ชิงเยว่!
ทันทีที่มีข่าวออกมา ทั่วทั้งบริษัทก็ต่างตื่นตระหนกในทันที และทุกคนต่างก็วิ่งมาดู แล้วตอนนี้มันก็ดูแออัดอย่างมาก
จาง ต้าฟู่ ประธานบริษัท ชิงเยว่ ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดของเขาคือเขาอยากขายบริษัท แต่หาผู้ซื้อไม่ได้ เขากังวลใจอย่างมาก จึงไปที่สถานีโทรทัศน์เพื่อให้ออกโฆษณา
เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์จาก หลินฟาน เขาก็กระโดดขึ้นด้วยความตื่นเต้น และรีบวิ่งออกมาในทันที
“หลีกไปให้พ้นทาง!”
จาง ต้าฟู่ แยกผู้ชมออก และในที่สุดก็วิ่งไปด้านหน้า เมื่อเขาเห็น หลินฟาน เขาก็ดูตกตะลึงไปทันที…
หลินฟาน ..ที่เขาเห็น ..คือคนใส่ชุดส่งอาหาร และถือถุงใส่อาหารอยู่ในมือ เพียงมองในแวบแรก มันก็คือ ..คนส่งอาหาร ชัดๆ
ดูเหมือน จาง ต้าฟู่ จะถูกเทน้ำเย็นราดลงบนศีรษะของเขา และใบหน้าของเขาก็ทรุดลงในทันที : “หลินฟาน คุณไม่ได้บอกว่าคุณกลับไป และได้รับสืบทอดทรัพย์สินหลายร้อยล้าน?”
จ้าวกัง หัวเราะออกมา แล้วพูดไปว่า : “คุณจาง คุณโดนผู้ชายคนนี้หลอกให้แล้ว เขาก็มีมรดกผายลมได้เท่านั้น แล้วตอนนี้เขาก็กำลังส่งอาหาร เขาจะไปมีเงินซื้อบริษัทได้อย่างไร!”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะเยาะออกมา คำพูดตลกของ หลินฟาน นั้นมันใหญ่เกินไปจริงๆ
จางต้าฟู่ ดูโกรธมาก : “หลินฟาน ถ้าคุณจะมาสร้างปัญหาให้กับที่นี่ ก็โปรดออกไปจากที่นี่ในทันที!”
หลินฟาน สงบสติอารมณ์ของเขาลง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า “ใครบอกว่ามหาเศรษฐีไม่สามารถส่งอาหารได้ ถ้าคุณจาง ไม่เชื่อว่าผมมีเงิน ได้ผมจะจ่ายเงินมัดจำให้กับคุณก่อนได้ คุณกำหนดราคามา”
จาง ต้าฟู่ ดูไม่อยากจะเชื่อ แต่เขาเองก็อดสงสัยไม่ได้ เมื่อเห็นความสงบของชายตรงหน้า : “คุณรวยจริงหรือ?”
หลินฟาน กล่าวว่า “ตอนนี้ไม่มีใครต้องการครอบครองชิงเยว่แล้ว คุณจาง ต้องรีบแล้ว ผมอาจจะเป็นโอกาสเดียวของ คุณจาง ถ้าคุณจางปฏิเสธที่จะลอง ผมจะออกไปในทันที”
จาง ต้าฟู่ ดูเป็นกังวลจริงๆ เขายังคงรอที่จะขายชิงเยว่ เพื่อเปลี่ยนมันเป็นเงินสด
จ้าวกัง หัวเราะออกมา อย่างอวดดี : “ฉันหัวเราะแทบตาย หลินฟาน หยุดหลอก คุณจาง สักที ถ้าคุณซื้อชิงเยว่ได้ ฉันจะคุกเข่า และเรียกคุณว่าพ่อ!”
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา แล้วกล่าวไปว่า “ทุกคนได้ยินนะ ว่าเขาอยากเป็นลูกชายของฉัน”
จ้าวกัง กล่าวว่า : “คุณจาง คุณไม่ควรเชื่อ แล้วนี้มันคือการบีบบังคับกันเห็นๆ แล้วมันก็อย่างที่คุณเห็น ที่ผมบ่นกับเขาไปก่อนหน้านี้ ตอนนี้ รีบเรียกให้ รปภ. มาไล่เขาออกไปเถอะครับ!”
จาง ต้าฟู่ ไม่ใช่ จ้าวกัง จ้าวกัง และหลินฟาน มีความแค้นส่วนตัวต่อกัน ดังนั้นเขาจึงต้องการขับไล่ หลินฟาน ออกไปโดยเร็ว แต่กลับเขา เขาต้องการเงิน เขาจะไม่พลาดโอกาสในการขายชิงเยว่ ในทันที แม้ว่าจะได้มาเพียงเล็กน้อยก็ตาม!
จาง ต้าฟู่ กัดฟัน แล้วตัดสินใจออกไป : “โอเค ฉันจะลองดู หลิน ฟาน คุณช่วยโอนเงินมัดจำมาให้ฉันก่อน 30 ล้าน ถ้ามันสำเร็จ ฉันจะเชื่อคุณ!”
“ไม่มีปัญหา”
หลินฟาน พูดออกมาอย่างร่าเริง เพราะว่าตอนนี้เขามีเงินสดหลายแสนล้าน และ 30 ล้านก็เป็นแค่น้ำเพียงหยดเดียวในถังข้าวสาร แม้ว่าเขาจะโยนมันทิ้งลงทะเล เขาก็จะไม่กะพริบตา…
จาง ต้าฟู่ เรียกผู้ช่วยของเขาในทันที เพื่อให้เตรียมคอมพิวเตอร์ และขอให้ หลินฟาน โอนเงินเข้ามา
จ้าวกัง คิดว่ามันดูไร้สาระเกินไป จึงกล่าวไปว่า : “คุณจาง มีความจำเป็นต้องเสียเวลากับผู้ชายคนนี้? ดูเสื้อผ้าของเขา ดูรูปลักษณ์ที่เพรียวบางของเขา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับบรรพบุรุษชาวนารุ่นที่ 18(2) คุณกับไปเชื่อเขาจริงๆ งั้นหรือ แล้วคิดไปจริงๆ ว่าครอบครัวของเขาจะมีเหมือง?”
จาง ต้าฟู่ พูดออกมาอย่างเคร่งขรึมในตอนนี้ : “หยุดพูด ฉันได้ตัดสินใจแล้ว”
จาง ต้าฟู่ มีแผนของตัวเอง ถ้าหลินฟาน ไม่สามารถจ่ายเงินได้จริง ๆ เขาจะจัดการกับ หลินฟาน เองโดยที่ จ้าวกัง ไม่ต้องพูด
จ้าวกัง จ้องมองไปที่ หลินฟาน และยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “หลินฟาน ในเมื่อคุณต้องการทำให้ตัวเองอับอาย ฉันจะไม่หยุดคุณ และฉันเองก็พร้อมที่จะดูแลคุณ ..ในภายหลัง!”
คอมพิวเตอร์ถูกดึงออกมา ผู้ช่วยของนายจาง ได้ตั้งค่าเป็นหน้าโอนอย่างรวดเร็ว และหลินฟาน ต้องทำการโอน ..เท่านั้น
ทุกคนรู้สึกว่า หลินฟาน กำลังเล่นกล ดังนั้นพวกเขาจึงรอดูเรื่องตลก..
เพราะหลินฟาน เป็นคนแบบนี้ ไม่ว่าจะดูยังไง เขาก็ไม่ใช่คนรวยหรอก…
หลินฟาน เดินไปที่หน้าคอมพิวเตอร์ เข้าบัญชีธนาคารของเขา อย่างรวดเร็ว จากนั้นป้อนจำนวนเงินที่จะโอนไป 30 ล้าน
แน่นอน!
ผ่านไปแบบง่าย ๆ โอนเงินเสร็จสิ้นในทันที
บี๊บ!
เสียงบี๊บดังขึ้น
ผู้ช่วยก้มลงมอง และเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเขาดูสั่นเครือ.. “30 ล้าน ข..เข้าบัญชีมาแล้ว”
(1)[ถนนแคบสำหรับศัตรู (冤家路窄)] – หมายความว่า ศัตรูหรือคนที่ไม่อยากจะเจอ กับต้องมาพบเจอ
(2)[บรรพบุรุษชาวนารุ่นที่ 18 (十八代祖传农民吧)] – ก็คือ บรรพบุรุษชาวนา 18 ชั่วอายุคนครับ ในสังคมปัจจุบัน หลายคนต่างก็ “ดูถูก” ชาวนา นี่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ผิดรูปที่เกิดจากการแบ่งชนชั้นงานในสังคม
ต้องกล่าวถึงชาวชนบทที่มีส่วนร่วมในผลิตผลทางการเกษตรในพื้นที่ชนบท เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขา ในยุคแรกๆ ของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศได้อยู่อย่างเปล่าประโยชน์ และไม่มีฐานอุตสาหกรรมใดๆ เกิดขึ้น ประเทศได้เรียกเก็บภาษีเกษตรเป็นจำนวนมาก เพื่อรักษาเศรษฐกิจของประเทศ นี่จึงกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานของเกษตรกร
อันที่จริง ไม่มีคำว่า “สูงหรือต่ำ” ในการแบ่งชนชั้นของงานในสังคมของแรงงาน เกษตรกรนั้นยิ่งใหญ่พอๆ กับนักสังคมสงเคราะห์คนอื่นๆ และควรที่จะภาคภูมิใจ บทความนี้มาจาก – ฉันที่เป็นคนมาจากชนบท (我作为一个从农村)