ตอนที่ 513 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (1) / ตอนที่ 514 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (2)

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 513 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (1) 

 

 

“ถังหยวนซือล่ะ เขารู้เรื่องที่เธอมานัดดูตัวหรือเปล่า” เหนียนเสี่ยวมู่ถามเสียงต่ำ 

 

 

พอได้ยินชื่อนั้น สีหน้าของซ่างซินก็เปลี่ยนไป 

 

 

เพียงแค่แวบเดียว ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วเอ่ยตอบ “รู้” 

 

 

“……” 

 

 

“พวกเธอน่าจะมีธุระต่อ ฉันไม่รบกวนเวลาแล้ว มีเวลาค่อยนัดกันใหม่นะ” มองดูแล้วเหมือนว่าซ่างซินไม่อยากพูดอะไรมากนัก 

 

 

หลังจากทักทายกันเสร็จ เธอก็เดินเข้าไปในร้านอาหารอย่างรวดเร็ว 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ไม่สบายใจอยากเดินตามเข้าไปถามให้รู้เรื่อง แต่อวี๋เยว่หานกลับรั้งเธอเอาไว้ “ดูทางนั้น” 

 

 

“……” 

 

 

หญิงสาวมองตามสายตาของเขาไปอีกทางด้านหนึ่ง 

 

 

ที่ลานจอดรถ มีรถคันหนึ่งเพิ่งขับแล่นเข้ามา 

 

 

ประตูรถถูกเปิดออก ไม่นานร่างสง่างามของถึงหยวนซือก็ปรากฏให้เห็นแก่สายตา 

 

 

สีหน้าของเขาขาวซีด แต่ว่าแววตามุ่งมั่น มองตามซ่างซินที่เดินเคียงคู่กับเซี่ยเฟิงเข้าไปในร้านอาหาร จากนั้นก็เดินตรงเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว 

 

 

ดูแล้ว เหมือนว่าน่าจะมาตามซ่างซิน 

 

 

เมื่อเห็นพวกเธออยู่ที่หน้าประตู ฝีเท้าของชายหนุ่มก็ชะงักไป พยักหน้าทักทายอวี๋เยว่หานเล็กน้อย จากนั้นก็เร่งฝีเท้าเดินตามเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน 

 

 

“ทีอย่างนี้ล่ะรีบร้อน ก่อนหน้านี้มัวไปทำอะไรอยู่ได้ตั้งนาน” เหยียนเสี่ยวมู่ชักสีหน้าตามแผ่นหลังของถังหยวนซือไป 

 

 

เมื่อนึกถึงความเจ็บปวดของซ่างซินก่อนหน้านี้ เธอก็รู้สึกสงสาร 

 

 

ตอนนี้ถังหยวนซือก็ควรจะได้ลิ้มรสชาตินั้นดูบ้างเหมือนกัน 

 

 

ขณะที่เหนียนเสี่ยวมู่กำลังบ่นอยู่ในใจ มือข้างหนึ่งก็กดลงมาที่ศีรษะของเธอ น้ำเสียงเคร่งขรึมลงเล็กน้อย 

 

 

“ถังหยวนซือไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดหรอก เขาไม่ได้อยากจะปล่อยซ่างซินไปแบบนี้ ถ้าเกิดเลือกได้ เขาก็คงไม่เลือกทางนี้หรอก” 

 

 

“……” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อยากจะถามว่าที่ชายหนุ่มพูดหมายความว่าอย่างไร แต่อวี๋เยว่หานก็หลบสายตาไปก่อน ไม่ยอมพูด ดันตัวเธอให้เดินออกไป 

 

 

 

 

 

ในร้านอาหาร 

 

 

ซ่างซินเดินตามเซี่ยเฟิงไปนั่งที่โซนวีไอพี สายตาของเซี่ยเฟิงนอกจากเมื่อครู่ที่ใช้มองอวี๋เยว่หานแวบหนึ่งแล้ว ก็เอาแต่มองจ้องมาที่เธอ 

 

 

ขนาดผู้หญิงงามอย่างเหนียนเสี่ยวมู่ เขายังไม่มองแม่แต่นิดหนึ่ง 

 

 

พอนั่งลง ก็หยิบเมนูอาหารยื่นไปตรงหน้าเธอ 

 

 

“อยากทานอะไรสั่งได้เลยครับ ถ้าคุณไม่มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษ เดี๋ยวให้พ่อครัวมาแนะนำให้ก็ได้” 

 

 

“……” 

 

 

มือที่ซ่างซินใช้กดโทรศัพท์เล่นอยู่ชะงักไป เธอเงยหน้ามองดูเขาแวบหนึ่ง 

 

 

เนื่องจากมีแว่นตากันแดดปิดปังอยู่ เซี่ยเฟิงจึงมองไม่เห็นแววตาโดดเดี่ยวของเธอ เธอเอ่ยขึ้นเสียงเรียบๆ “ฉันทานได้หมดค่ะ” 

 

 

เนื่องจากเซี่ยเฟิงดูจริงจังมาก เธอเลยเก็บโทรศัพท์มือถือในมือลง  

 

 

เลือกสั่งอาหารกับเขา 

 

 

ตระกูลเซี่ยไม่ใช่ตระกูลใหญ่โตอะไร แต่เซี่ยเฟิงเป็นคนที่ขยันและพยายามมาก 

 

 

จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง เป็นนักเรียนดีเด่นของสาขาการลงทุน 

 

 

เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ 

 

 

พ่อแม่ของเธอเห็นว่าเธอตามตื้อถังหยวนซือมาหลายปี นึกว่าชาตินี้เธอคงไม่มีทางกลับใจแล้ว พอได้ยินว่าเธอยินดีจะไปนัดดูตัว ก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องชาติตระกูลอะไรใดๆ ทั้งสิ้น 

 

 

ขอแค่เป็นคนนิสัยดี เอาใจใส่ดูแลทะนุถนอมเธอ แค่นี้ก็พอแล้ว 

 

 

พอนึกถึงเรื่องนี้ มุมปากของซ่างซินก็ยกขึ้นยิ้มเยาะตัวเอง 

 

 

เดิมทีเธอเคยคิดว่า การที่เธอยืดหยัดนั้นเป็นเรื่องที่ดูมีค่า แต่ความจริงแล้วในสายตาของทุกคน ก็เป็นเพียงการดื้อรั้นก็เท่านั้น 

 

 

ความรักที่เธอเคยศรัทธา พอเธอยอมปล่อยมือ มันก็มีค่าแค่นี้เอง 

 

 

“ซ่างซิน? ซ่างซิน?” 

 

 

“หืม?” เธอได้สติ เงยหน้าขึ้นมอง 

 

 

ก็พบกับสายตาห่วงใยของเซี่ยเฟิงที่ส่งมาให้ เธอถอดแว่นตากันแดดออก “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” 

 

 

“ไม่มีอะไรหรอก แค่จำได้ว่าคุณชอบทานของหวาน อยากลองชิมของหวานของที่ร้านนี้หน่อยไหม” เซี่ยเฟิงกลบรอยกังวลในแววตา แล้วถามออกมายิ้มๆ 

 

 

สิ้นเสียงพูด จู่ๆ ในสมองของซ่างซินก็มีเสียงพูดของคนคนหนึ่งดังนั้น 

 

 

“ทานของหวานเยอะๆ มันไม่ดีต่อร่างกาย เธอทานให้มันน้อยๆ หน่อย” 

 

 

“ทำไมเธอดื้ออย่างนี้นะ ต่อไปพี่คงต้องไปเรียนวิธีทำของหวานแบบที่ไม่ใส่น้ำตาลซะแล้ว” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 514 คุณคือคนที่สลักลึกอยู่ในใจ (2) 

 

 

“ตั้งชื่อว่าเสี่ยวซินซิน น่าจะตั้งผิดแล้ว เธอต้องคิดว่าชื่อตัวเองแปลว่าของกินเล่นแน่ๆ เลย ถึงได้ชอบกินของหวานขนาดนี้ ต่อไปเรียกว่าซินเอ๋อร์ดีกว่า” 

 

 

“……” 

 

 

น้ำเสียงของถังหยวนซือ ดังซ้ำไปมาข้างหูของเธอ 

 

 

ความอ่อนโยนและตามใจในวัยเยาว์ 

 

 

จุดเริ่มต้นของความรักเบ่งบานในตอนช่วงวัยรุ่น 

 

 

เขามีบทบาทในแทบทุกช่วงชีวิตของเธอ เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานและสำคัญมาก 

 

 

ดังนั้น เมื่อเขาจากไป ไม่ว่าทำอย่างไรเธอก็ลืมเขาไม่ได้ 

 

 

แม้ว่า คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นคนอื่น แต่คนที่เธอคิดถึงอยู่เต็มหัวก็ยังคงเป็นเขา…… 

 

 

“ไม่ต้องหรอก วันนี้ฉันไม่อยากทานของหวาน” ซ่างซินปิดเมนูอาหาร แล้วเอ่ยพูดเสียงนิ่งๆ 

 

 

เธอมองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย วินาทีนั้น ก็มองเห็นร่างที่คุ้นเคยค่อยๆ เดินเข้ามาด้านในร้านอาหาร 

 

 

ซ่างซินตะลึงงันไป 

 

 

เธอนั่งตัวตรงแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้ คิดว่าตัวเองคิดถึงเขามากไปจนเกิดเป็นภาพลวงตา เธอยังคงอยู่ในท่านั้นอยู่เป็นนาน ไม่มีการขยับตัวใดๆ ทั้งสิ้น 

 

 

มองดูถังหยวนซือค่อยๆ เดินมาทางเธอทีละก้าว 

 

 

ขณะที่เธอกำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มก็เพียงแค่มองดูเธอแวบหนึ่งเท่านั้น ราวกับว่าแค่บังเอิญมาเจอกันเฉยๆ แล้วพยักหน้าทักทาย 

 

 

จากนั้นก็นั่งลงตรงโต๊ะข้างๆ โต๊ะของพวกเธอ 

 

 

“……” 

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอเจอหน้ากัน หลังจากที่แยกจากกันที่โรงแรมคราวนั้น 

 

 

ซ่างซินไม่นึกมาก่อนว่าจะมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ 

 

 

เธอก็ไม่เคยคิดด้วยว่า เขารู้ว่าเธอจะมานัดดูตัว แล้วยังจะตามมาอีก…… 

 

 

“ประธานถัง บังเอิญจังเลยครับ” เซี่ยเฟิงไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของเธอ พอจำถังหยวนซือได้ก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร 

 

 

สายตาของถังหยวนซือผละออกจากใบหน้าของซ่างซิน มองดูชายหนุ่มแวบหนึ่ง “ไม่บังเอิญหรอก ร้านนี้ผมมาบ่อย” 

 

 

เซี่ยเฟิง “……” 

 

 

ซ่างซิน “……” 

 

 

พอสบเข้ากับสายตาของเซี่ยเฟิง ซ่างซินก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย กำผ้าเช็ดมือไว้แน่น 

 

 

ที่เธอเลือกมาที่ร้านอาหารแห่งนี้ ก็เป็นเพราะว่าถังหยวนซือมักจะพาเธอมาที่นี่เป็นประจำ เซี่ยเฟิงถามว่าเธออยากทานอะไร เธอก็นึกถึงที่นี่ออกมาตามสัญชาตญาณ 

 

 

เพียงแต่เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะได้พบกับเขาที่นี่ 

 

 

เขาไม่ได้มาที่นี่เพราะเธอ เป็นแค่การพบกันโดยบังเอิญเท่านั้น…… 

 

 

ความหวังเล็กๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจเมื่อสักครู่ ถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว 

 

 

หญิงสาวยิ้มขมขื่น 

 

 

เธอยังคาดหวังอะไรอีก หลังจากผ่านคืนนั้นไปแล้ว ทุกอย่างมันก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือไง 

 

 

ระหว่างพวกเธอสองคน ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว 

 

 

มันก็แค่สิ้นสุดลงเท่านั้น 

 

 

“ประธานถัง ดื่มอะไรดีคะ” พอได้ยินเสียงพนักงานเอ่ยถามขึ้น ซ่างซินก็รีบหลบสายตา แกล้งทำเป็นพูดคุยกับเซี่ยเฟิงเหมือนว่าไม่ได้ใส่ใจอะไร 

 

 

เซี่ยเฟิงเป็นคนละเอียดอ่อน 

 

 

แม้ว่าจะมองออกว่าระหว่างถังหยวนซือกับซ่างซินดูแปลกๆ แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา 

 

 

คีบอาหารส่งไปให้เธออย่างอ่อนโยน รำลึกความหลังช่วงที่พวกเขายังเรียนมหาวิทยาลัยกันอยู่ 

 

 

“ตอนนั้น คุณนิสัยเด็ดขาดมากเลย พูดคำไหนคำนั้น พวกเรายังนึกกันอยู่เลยว่าถ้าจบแล้วคุณอาจไปเป็นตำรวจหญิง นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะเข้าวงการบันเทิงแทน แถมยังเป็นนางแบบอันดับหนึ่งซะด้วย” 

 

 

เซี่ยเฟิงพูดไป พร้อมรำลึกความหลังไปด้วย 

 

 

สายตาที่มองไปยังซ่างซิน สื่อชัดถึงความรู้สึกที่มี 

 

 

เมื่อก่อน เธอไม่ได้พูดน้อยแบบนี้ 

 

 

เธอร่าเริงและใจดี 

 

 

ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอมักจะเสนอตัวช่วยเป็นคนแรก 

 

 

รอบตัวเธอมักจะมีรัศมีของความสง่างามสูงส่งอยู่ ขนาดคนในวงการบันเทิง ยังหาคนที่งดงามเทียบกับเธอไม่ได้เลย 

 

 

คนพิเศษแบบเธอ ไม่แปลกหรอกที่จะได้รับสมญานามว่าเป็นนางฟ้าของประชาชน 

 

 

“……ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน” 

 

 

พอได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม แววตาของซ่างซินก็มีความเศร้าปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง 

 

 

ทุกคนต่างก็นึกว่าเธอถูกแมวมองทาบทาม แล้วตัวเองก็ชอบการเป็นนางแบบถึงได้เข้าสู่วงการนี้ 

 

 

มีแต่ตัวเธอเท่านั้นที่รู้ดี ว่าตอนแรกที่เธอเลือกเป็นนางแบบ มันเป็นเพียงเพราะอยากจะยั่วโมโหถังหยวนซือ