“เจ้า เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงดูเหมือนกับข้าเช่นนี้ได้” ชีอ้าวชวางตกใจมากแต่แปลกที่นางไม่รู้สึกรังเกียจเลย นางแค่รู้สึกว่าสิ่งเล็กๆ นี้มีลมหายใจที่คุ้นเคยเหมือนคนที่รักหรือเหมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
“อึก…” เจ้าตัวเล็กสะอึกจากนั้นก็เคลื่อนจากไหล่ของชีอ้าวชวางเข้าไปในอ้อมแขนของนางชีอ้าวชวางเองก็เอื้อมมือมาจับเขาไว้
“ข้า ข้าเป็นใคร? ข้าเป็นต้นกำเนิดของสายลมวันนี้ข้าถูกรังแกโชคดีที่เจ้ามาที่นี่” ตัวเล็กพูดพร้อมกับส่ายหัว
ต้นกำเนิดของลม?!
ชีอ้าวชวางมองสิ่งเล็กๆ ที่แทบไม่มีน้ำหนักในมือด้วยความตกใจ นี่เป็นต้นกำเนิดของลมหรือ?! ต้นกำเนิดของลมจะปรากฏขึ้นที่นี่จริงหรือ จะเป็นไปได้อย่างไร
“สำหรับเรื่องรูปลักษณ์ที่เป็นแบบนี้ของข้า มันไม่มีทางเลือกน่ะ ก็ใครบอกให้เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ข้าพบล่ะ ก็ต้องเลียนแบบเจ้าน่ะสิ” ต้นกำเนิดลมพูดอย่างช่วยไม่ได้
“พบมนุษย์คนแรก” ชีอ้าวชวางจับข้อมูลสำคัญนี้ได้ทันทีในฐานะต้นกำเนิดลม ก็ต้องดำรงอยู่มานานมากแล้วสิ นางจะเป็นมนุษย์คนแรกที่เขาพบได้อย่างไร
“แค่กๆ อย่ามาทำเป็นตกใจไป ข้าเพิ่งหลุดออกมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โอ้ไม่สิ ข้าเพิ่งออกมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แล้วก็หลงทางมาที่นี่” ต้นกำเนิดลมดูเหมือนจะพูดติดขัดไม่เป็นธรรมชาติเลย
ชีอ้าวชวางเข้าใจทันทีว่าต้นกำเนิดลมที่อยู่ตรงหน้านี้ยังไม่เติบโตเต็มที่และแอบออกจากบ้านเกิดของมันมาต้นกำเนิดลมเป็นสายพันธุ์ที่ลึกลับมาก ไม่ใช่แก่นแท้ของลมแก่นแท้ของธาตุทั้งหมดเกิดขึ้นจากการรวมธาตุของสวรรค์และโลกเข้าด้วยกันแต่พวกมันจะเกิดขึ้นครั้งเดียวและหายไปหลังจากที่ถูกร่างกายมนุษย์ดูดซับเข้าไปเพื่อเสริมพลังแต่ต้นกำเนิดของธาตุนั้นแตกต่างกัน มันสามารถช่วยมนุษย์ในการเพิ่มพูนพลังและสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างต่อเนื่องการมีต้นกำเนิดของธาตุเพียงแค่หนึ่ง ก็เทียบเท่ากับการมีแก่นแท้ของธาตุจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วแก่นแท้ของธาตุเป็นที่หวงแหนมาก ครั้งล่าสุดที่ชีอ้าวชวางมาที่โลกแห่งนี้ก็คือเพื่อค้นหาแก่นแท้ของไฟ แต่ต้นกำเนิดของธาตุนั้นมีค่ายิ่งกว่า! เรื่องแบบนี้เดิมทีมีอยู่ในตำนานเท่านั้นแต่วันนี้ชีอ้าวชวางได้พบเจอแล้ว!
ในความเป็นจริงวันนี้เป็นโชคดีของชีอ้าวชวาง ร่างกายนี้เป็นธาตุลม มีพลังทางจิตที่แข็งแกร่งและเข้าใจภาษาของลมหากผู้คนที่เดินผ่านไปมาที่นี่ไม่ใช่ผู้ใช้ธาตุลมและไม่เข้าใจภาษาของลมก็เป็นไปไม่ได้ที่จะหาต้นกำเนิดลมพบด้วยเงื่อนไขทั้งสองนี้หากพลังทางจิตอ่อนแอเกินไปไม่เพียงแต่จะไม่สามารถรักษาต้นกำเนิดลมได้แต่จะถึงตายได้ต้องบอกว่าชีอ้าวชวางโชคดีเกินไปจริงๆ
ชีอ้าวชวางกำลังครุ่นคิดอยู่ในเวลานี้ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือ? ที่นั่นคือสถานที่ที่เป็นต้นกำเนิดองธาตุต่างๆ หรือ เจ้าตัวเล็กตรงหน้าแอบออกมาและตกอยู่ในอันตรายดังนั้นสายลมจึงขอให้ไปช่วยเขางั้นหรือ
ชีอ้าวชวางคาดเดาทั้งหมดนี้ด้วยความสับสนแล้วก็จบลง
“เจ้าหนูเจ้านี่ประหลาดนัก ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าวิญญาณของเจ้าไม่เข้ากับร่างกายของเจ้าเลย” ต้นกำเนิดลมมองขึ้นไปที่ชีอ้าวชวางและถามอย่างสงสัย
“เจ้าชื่ออะไร ดูดพลังเวทจากข้าไปตั้งมากแล้ว มีอะไรมาชดใช้หรือไม่” ชีอ้าวชวางไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามนี้อย่างเย็นชา
“อะแฮ่ม…ข้าดูดซับพลังเวทของเจ้าไปเยอะ…แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องตระหนี่ขนาดนั้นนี่…” ต้นกำเนิดลมพูดตะกุกตะกัก
“น่าจะเป็นข้านะที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้? ต้นกำเนิดลมที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่จะไม่ยอมรับหรือ” ชีอ้าวชวางเหลือบมองและพูดอย่างเย็นชาเพราะในบทสนทนาสั้นๆ เพียงไม่กี่ประโยคนั้น ชีอ้าวชวางก็รู้นิสัยของเจ้าตัวเล็กคนนี้แล้วว่าเป็นคนหยิ่งและทะนงตัวเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ แต่ในบางครั้งเขาก็เรียกแทนตัวเองอย่างยิ่งใหญ่นางจึงพูดสรรเสริญว่าเขากล้าหาญและยิ่งใหญ่ก่อนแล้วค่อยถามว่าเขาควรยอมรับใช่หรือไม่
“ไม่ได้สิ!” แน่นอนว่าต้นกำเนิดลมหน้าแดงทันทีและตอบโต้ “ตัวข้าชื่อฉางคงและข้าจะช่วยเจ้าฝึก รอให้เจ้าได้ทะลุผ่านโลกแห่งมิติสูญสลายเสียก่อนแล้วข้าจะจากไป!” ต้นกำเนิดลมตบหน้าอกของเขาเพื่อยืนยันให้แน่ใจ
โลกแห่งมิติสูญสลาย?! ดวงตาของชีอ้าวชวางสว่างขึ้นในทันที นางบีบต้นกำเนิดลมและพูดอย่างตื่นเต้น“เจ้าช่วยข้าฝึกฝนให้เข้าสู่มิติสูญสลายได้หรือไม่”
“เหลวไหลน่า! ต้นกำเนิดของธาตุอย่างเราได้รับประสบการณ์ความทรงจำเหล่านี้อยู่แล้วและโดยธรรมชาติแล้วมันก็มีประโยชน์มากกว่าของเจ้าด้วย พวกเจ้าก็เหมือนแมลงวันไร้หนทาง หลายคนพลาดท่าในขั้นตอนสุดท้ายและไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ ในความเป็นจริงขั้นสุดท้ายมันเปราะบางมาก แค่กระตุ้นมันก็แตกแล้ว! จริงสิ เจ้าชื่ออะไร” ฉางคงยืดอกของเขาให้ตรงและพูดอย่างมั่นใจ
“ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ข้าชื่อชีอ้าวชวาง” ชีอ้าวชวางถามอย่างกระตือรือร้น
“อืม…” ฉางคงกะพริบตาและมองไปที่ชีอ้าวชวางจากนั้นก็หรี่ตาลง “ข้าบอกไม่ได้หรอก บางคนไม่สามารถฝึกได้เลยชั่วชีวิตแต่บางคนก็เร็วมาก ส่วนเจ้า…ไม่น่าจะนานเกินไปนะ แต่ข้าแค่แปลกใจ จิตวิญญาณและร่างกายของเจ้าดูเหมือนจะไม่ตรงกันนะ…”
ชีอ้าวชวางเงียบ ไม่คิดว่าต้นกำเนิดลมจะรู้ได้ร่างกายนี้ไม่ใช่ของตัวเองจริงๆ
“เฮ้ อย่าท้อสิ เจ้ามีความสามารถที่ดีและมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก น่าจะสิบปีก็ได้แล้ว” ต้นกำเนิดลมเกาหัวและพูด
“สิบปี!” ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วนานเกินไป แบบนั้นมันนานเกินไป…
“อาจจะแปดปีหรือเจ็ดปีก็ได้ มันขึ้นอยู่กับความพยายามของเจ้าเอง แต่ถ้าเจ้าช่วยข้าได้มาก ข้าก็จะช่วยเจ้าแน่นอน” ฉางคงมองความเศร้าในแววตาของชีอ้าวชวางแล้วปลอบใจทันที ในขณะนี้ฉางคงและชีอ้าวชวางมีการเชื่อมโยงถึงกันที่ยอดเยี่ยมราวกับเป็นญาติสนิทเมื่อฉางคงเห็นความเศร้าของชีอ้าวชวางเขาก็จะรู้สึกอึดอัดในใจไปด้วย
“ขอบคุณ” ชีอ้าวชวางพยักหน้าแต่ก็ยังมองไปที่ผู้ชายตัวเล็กคนนี้อย่างซาบซึ้งพอเห็นว่าตัวเล็กมีรูปลักษณ์คล้ายกับนางชีอ้าวชวางรู้สึกแปลกๆ ในใจอยู่เล็กน้อย
“ที่นี่ที่ไหน เจ้าจะทำอะไรต่อไป” ฉางคงถาม
ชีอ้าวชวางปล่อยฉางคงให้ไปอยู่ที่ไหล่ของนางแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็เริ่มอธิบายอย่างช้าๆ ฉางคงเข้าใจแล้วว่าตอนนี้ชีอ้าวชวางกำลังเข้าร่วมการทดสอบอยู่
ชีอ้าวชวางยืนขึ้น นางรู้ว่าเวลาที่นางและฉางคงเสียไปที่นี่นั้นไม่น้อยเลย เพราะเห็นได้ชัดว่านางรู้สึกหิวแล้วนางจึงต้องหาของกินบางอย่างเพื่อเติมพลังตอนนี้ต้องรีบไปชั้นถัดไปให้เร็วที่สุดแล้วนางอยากเห็นชั้นเก้าจริง ๆหากผ่านการทดสอบระดับเก้าแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้เข้าไปในมิติสูญสลาย
ฉางคงนั่งบนไหล่ของชีอ้าวชวางและเชื่อฟังคำแนะนำของชีอ้าวชวาง ตอนเขากลายร่างเป็นตัวเฟร์ริตตัวน้อยๆ แล้ว แบบนี้ก็จะได้ดูเป็นธรรมชาติ ชีอ้าวชวางไม่อยากให้ใครเห็นแล้วเข้าใจผิดคิดว่านางมีลูกเล็กๆ…
มีข้อความจากสายลมว่ามีคนจำนวนมากกำลังเข้ามาในทุ่งหญ้าแห่งนี้แล้วและหลายคนก็เป็นนักเรียนระดับสูงการเติมเต็มและหมุนเวียนพลังเวทของชีอ้าวชวางและฉางคงนั้นทำให้ล่าช้าไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเลย
ชีอ้าวชวางพาฉางคงไปต่อ นางอยากรีบไปที่ชั้นถัดไปโดยเร็วที่สุดเมื่อพบใครบางคนชีอ้าวชวางก็พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและการเสียเวลาชีอ้าวชวางไม่อยากทำแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่อยาก
“คุณหนูเบธฟินนีย์ เจ้าเหนื่อยหรือไม่ อยากพักหรือไม่” เสียงที่ไพเราะดังก้องมาถึงหูของชีอ้าวชวาง
“คุณหนูเบธฟินนีย์ เจ้ากระหายน้ำหรือไม่ อยากดื่มน้ำหรือไม่” อีกเสียงก็เต็มไปด้วยความเอาใจเช่นกัน
ชีอ้าวชวางขมวดคิ้วเล็กน้อย คนตรงหน้าคือเบธฟินนีย์และเหล่าผู้พิทักษ์ของนางทั้งสองเสียงที่ชีอ้าวชวางได้ยินก็คือสองคนในร้านอาหารวันนั้นนั่นเอง
ก่อนหน้านี้เคยมีความไม่พอใจต่อกันมาก่อน ดังนั้นชีอ้าวชวางจึงไม่อยากพบกับพวกเขาและเพื่อไม่ให้เสียเวลาชีอ้าวชวางจึงพาฉางคงไปต่อ
“จี๊ดๆ…” ทันใดนั้นฉางคงก็ส่งเสียงต่ำๆ ออกมา เสียงนั้นก้องในความคิดของชีอ้าวชวาง “ว้าว ชีอ้าวชวางหุ่นของผู้หญิงคนนั้นดีมากๆ เห็นแล้วข้าใจเต้นเลย”
ชีอ้าวชวางอับอาย! เจ้าตัวเล็กนี่เจ้าชู้จริงๆ!
แต่ปัญหามันอยู่ที่เสียงร้องของฉางคงเบธฟินนีย์มองมาทางนี้ และเมื่อมองมานางก็เห็นเฟร์ริตตัวน้อยสีขาวน่ารักบนไหล่ของชีอ้าวชวาง
“เฟร์ริตตัวน้อยนั้นช่างน่ารักจริงๆ เลย!” เบธฟินนีย์พูดอย่างยินดี
ชีอ้าวชวางแอบบ่นในใจแล้วเอื้อมมือไปเคาะฉางคงและสื่อสารกับฉางคงในใจ “ตอนนี้เป็นปัญหาแล้ว”
“เพื่อนร่วมชั้นโปรดรอก่อน! เจ้าช่วยเอาสัตว์เลี้ยงของเจ้ามาให้เราได้หรือไม่ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลย” แน่นอนว่ามีเสียงที่ไม่พอใจดังขึ้นมาทันที
“ถ้าเจ้าไม่ต้องการเงินก็พูดในสิ่งที่เจ้าต้องการมา เราทำให้เจ้าพอใจได้เช่นกัน” เสียงของอีกฝ่ายก็เต็มไปด้วยความไม่ยอม
“เหอะๆ สาวสวยสนใจข้าแล้ว…” ฉางคงพูดในความคิดของชีอ้าวชวาง
ชีอ้าวชวางเงียบไป…
“ไม่แลกเปลี่ยนอะไรทั้งนั้น” ชีอ้าวชวางรีบพูดและไม่ได้หันกลับไป นางต้องการจะออกจากสถานที่นี้โดยเร็วที่สุด
“เดี๋ยวก่อน!” มีประกายตรงหน้าชีอ้าวชวาง และทั้งสองคนก็หยุดอยู่ตรงหน้าชีอ้าวชวางอย่างรวดเร็ว
ชีอ้าวชวางมองไปที่ผู้ชายสองคนที่อยู่ตรงหน้า เวลานี้ทั้งสองสวมชุดนักเรียนและมีดาวสีทองทั้งเจ็ดที่หน้าอกแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งหมดมีความแข็งแกร่งระดับเจ็ดดาว
ทั้งสองคนมาหาชีอ้าวชวางแบบตัวต่อตัวแล้วจึงเห็นชีอ้าวชวางอย่างชัดเจน จากนั้นพวกเขาก็ประหลาดใจ “เจ้า?”
“ข้าเอง ดังนั้นเจ้าควรรู้ดีว่าข้าจะไม่แลกเปลี่ยน” ชีอ้าวชวางพูดเบาๆ และเดินผ่านคนทั้งสองไป นางยังคงเดินหน้าต่อไปโดยที่ฉางคงนั่งลงบนไหล่ของนางและมองย้อนกลับไปที่เบธฟินนีย์อย่างไม่เต็มใจ
“ลองพิจารณาดูหน่อยสิ บางที…” หนึ่งในนั้นยังคงไม่ยอมแพ้และพูดอยู่ด้านหลัง
“พอแล้ว อีกฝ่ายไม่ยอมก็ช่างเถอะ ข้าก็ไม่ได้พูดว่าจะต้องเอาให้ได้นี่” เบธฟินนีย์พูดอย่างแผ่วเบา
ผู้คนที่อยู่ด้านหลังหยุดตามแล้วแต่ชีอ้าวชวางรู้สึกได้ถึงดวงตาที่แผดเผาสองดวงจากด้านหลัง ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ว่าคือสองคนนั้นนางหักหน้าพวกเขาต่อหน้าเบธฟินนีย์ผู้งดงามถึงสองครั้ง แถมนางยังเป็นนักเรียนใหม่ด้วย เกรงว่าในใจของอีกฝ่ายคงจะรอไม่ไหวที่จะสั่งสอนนางอย่างรุนแรงแล้วส่วนเบธฟินนีย์คนนี้ แม้จะหยิ่งแต่ก็ไม่ถึงขั้นไม่มีเหตุผลในการประเมินของชีอ้าวชวางถือว่าเบธฟินนีย์คนนี้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว