บทที่ 369 ฉันดูไม่น่าเปิดตัวมากเลยหรือ? / บทที่ 370 เล่นเกินไป Ink Stone_Romance
บทที่ 369 ฉันดูไม่น่าเปิดตัวมากเลยหรือ?
เยี่ยหวันหวั่นเตรียมตัวอยู่นาน ในที่สุดก็พูดออกมา “เฮ้อ คืออย่างนี้ค่ะ ก่อนหน้านี้เพื่อกู้เยว่เจ๋อชายชั่วนั่นแล้ว ความสัมพันธ์ของฉันและพ่อแม่ย่ำแย่มาตลอด ครั้งนี้กลับไปบ้านเยี่ย ฉันคุยกับพ่อแม่ชัดเจนแล้ว เพื่อให้พวกเขาสบายใจ เชื่อว่าฉันคิดได้แล้วจริงๆ ฉันเลยเล่าเรื่องพวกเราสองคนให้พวกเขาฟัง…”
พูดมาถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นนิ่งไป ระหว่างที่สายตาสังเกตซือเยี่ยหาน เธอก็พูดไปด้วย “อีกทั้งพวกเราสองคนคบกันจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสองปีแล้ว ดังนั้น คุณอยากจะ… กลับไป… เจอพ่อแม่กับฉันไหมคะ?”
ที่เธอกังวลมากที่สุดก็คือวันไหนที่เรื่องของตัวเองและซือเยี่ยหานถูกพ่อแม่รู้เข้าโดยบังเอิญ ด้วยท่าทีของซือเยี่ยหานที่มีต่อพ่อแม่เธอแล้ว รวมถึงถ้าพ่อแม่รู้ว่าตอนแรกตัวเองโดนบังคับ ผลลัพธ์นี้เธอไม่กล้าคิดเลย…
ดังนั้นก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปจนถึงจุดที่แย่ที่สุด เธอจำเป็นต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับทั้งสองฝ่าย
ถ้าซือเยี่ยหานเห็นด้วย อีกทั้งถ้ายอมให้ความร่วมมือ นั่นเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก…
วินาทีที่เสียงเยี่ยหวันหวั่นสิ้นสุดลง เสียงอื่นๆ รอบตัวราวกับหดหายไปจากข้างหูอย่างน่าประหลาด ความสนใจทั้งหมดอยู่เพียงแค่ปฏิกิริยาของผู้ชายตรงหน้าเท่านั้น
นิ้วมือซือเยี่ยหานนี่ถือแก้วเหล้าอยู่นิ่งไป เพราะแสงไฟในบาร์มืดสลัว เลยมองเห็นสีหน้าเขาไม่ชัดเจน
เวลาแต่ละวินาทีผ่านไป…
“ไม่ได้หรือคะ?” เยี่ยหวันหวั่นเห็นท่าที เธอหลุบตาลงด้วยความหงอยเหงา สีหน้าเต็มไปด้วยเงียบงัน “ซือเยี่ยหาน… สำหรับคุณแล้วฉัน… เป็นแค่ของเล่นเท่านั้นเองใช่ไหม? คุณไม่พอใจ ก็ขังฉันไว้ อารมณ์ดี ก็ปล่อยฉันออกไปบินเล่นข้างนอก…
ฉันรู้ว่าคุณอาจจะไม่ชอบให้ฉันไปสนิทใกล้ชิดกับคนอื่น แม้กระทั่งพ่อแม่ฉัน… แต่ว่า… ถ้าคุณมีท่าทีแบบนี้ ไม่แน่พ่อแม่ฉันอาจจะคิดว่าฉันโดนคนไม่ดีจับตัวไป ที่แย่กว่านั้นคืออาจจะคิดว่าฉันถูกขังเอาไว้เลี้ยงดู…”
ซือเยี่ยหานสีหน้าขรึมไป เห็นแค่หญิงสาวยิ่งพูดยิ่งน่าสงสาร ดูเหมือนจะร้องไห้แล้ว “พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉัน และก็เป็นพ่อตาแม่ยายของคุณในอนาคตด้วย หรือว่าคุณคิดกับฉันแค่เล่นๆ ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับฉันหรือ…”
หลังได้ยินคำว่า ‘แต่งงาน’ สองคำนี้ ทันใดนั้นสีหน้าที่เย็นชาของซือเยี่ยหานดูเหมือนขยับเล็กน้อยโดยไม่ทันสังเกตเห็น จากนั้น ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมา “ได้”
วินาทีที่คำพูดซือเยี่ยหานสิ้นสุดลง ศีรษะเล็กของเยี่ยหวันหวั่นก็เหมือนดอกทานตะวันที่เบ่งบานหันไปหาดวงอาทิตย์ “ค่ะ! จริงหรือจริงหรือคะ? ถ้าอย่างนั้นถึงตอนนั้นแล้วคุณเปลี่ยนลุคหน่อยได้ไหม ให้ตัวเองดูน่าเกลียดขึ้นมาหน่อย เอ้อไม่ ดูแล้วอ่อนโยนมีคุณธรรม เอ้อไม่ ฉันหมายความว่า… ดูแล้วน่าปลอดภัยหน่อย!”
ซือเยี่ยหาน “…”
สีหน้าซือเยี่ยหานที่เพิ่งดูอบอุ่นขึ้นมาดูราวกับลมเหนือพัดมาทันที เสียงก็เยือกเย็นราวน้ำแข็ง พูดเน้นย้ำทีละคำ “ฉันดูไม่น่าเปิดตัวมากเลยหรือ?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบส่ายหน้าเหมือนกลองรัวๆ “เป็นไปได้ยังไงๆ! เพียงแต่คุณก็รู้นี่ หลังเรื่องกู้เยว่เจ๋อ พ่อแม่ฉันก็กลัวว่าฉันจะโดนหลอกมาตลอด หล่อเกินไปรวยเกินไปกลัวว่าฉันจะเอาไม่อยู่ กลัวว่าอีกฝ่ายจะทิ้งฉัน นอกใจฉันอะไรเทือกนี้ ยิ่งไปกว่านั้นฉันดันหาคนที่ร่ำรวยล้นฟ้าระดับประเทศ!
ถ้าฉันบอกพวกเขาตรงๆ คิดว่าพวกเขาจะต้องเป็นห่วงจนนอนไม่หลับ!
ดังนั้น ก่อนที่ฉันจะสามารถทำให้พวกเขาไว้วางใจได้ทั้งหมด ฉันยังไม่สามารถบอกสถานะของคุณกับพวกเขา… ดังนั้น… จึงต้องรบกวนคุณหน่อยนะคะ…”
เหมือนซือเยี่ยหานถูกทำให้โมโหจนขำออกมา มองหน้าเธอด้วยสีหน้าทั้งเคร่งขรึมและใจดีในเวลาเดียวกัน “เธอจะเอาปลอดภัยแค่ไหน”
เยี่ยหวันหวั่นแอบหยิบมือถือออกมา เปิดหารูปในนั้นออกมารูปหนึ่ง “ประมาณระดับนี้ก็ได้แล้วค่ะ…”
…………………………………………………
บทที่ 370 เล่นเกินไป
เยี่ยหวันหวั่นพูดไป ก็พลางส่งรูปให้ซือเยี่ยหานดู
เห็นคนในรูปดูเหมือนนักแสดงตลกคนหนึ่ง สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีแดงและกางเกงขายาวทรงกระบอกสีเขียวเหมือนหลุดมาจากยุค 80 ใส่แว่นตากรอบหนาสีดำ ผิวสีคล้ำ ฟันหน้าซี่ใหญ่ อีกทั้งยังหัวล้านด้วย ลักษณะนั้นเกินจะบรรยาย
เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความตื่นเต้น “เป็นยังไงคะ? ดูปลอดภัยมากเลยใช่ไหม?”
ไม่เพียงแค่ปลอดภัย คิดว่ามาส่งถึงหน้าประตูยังไม่มีสาวคนไหนต้องการเลย!
สมบูรณ์แบบจริงๆ!
อีกทั้งไม่มีใครดูออกว่าเป็นใครด้วย!
สีหน้าซือเยี่ยหานที่เห็นรูปใบนั้นไร้อารมณ์
เยี่ยหวันหวั่นน่าจะรู้สึกตัว คิดว่าให้ซือเยี่ยหานหน้าตาหล่อขั้นเทพแบบนี้ไปแต่งตัวตามรูปนี้น่าจะยากอยู่หน่อย เลยถอยออกมาก้าวหนึ่ง “แหะ สามารถมีผมได้ค่ะ…”
“ถ้าคุณรังเกียจว่าเสื้อสีแดงดูเด่นเกินไป งั้นเปลี่ยนเป็นสีเขียวให้คุณ?”
“แว่นก็เอาทิ้งไป? อืม ไม่ได้ๆ ดวงตาคุณเด่นเกินไป เอาแว่นออกไม่ได้…”
……
เห็นสีหน้าซือเยี่ยหานยิ่งทียิ่งไม่น่ามองแล้ว เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลาย พูดด้วยความจริงใจหนักแน่น “ที่รักคะ ฉันก็ไม่อยาก ใครให้ใบหน้าคุณมองไปแล้วช่างเหมือน…”
ซือเยี่ยหานสีหน้าราวน้ำค้างแข็ง “จะนอกใจ?”
เยี่ยหวันหวั่นรีบพูด “เป็นไปได้ยังไง! ที่รักจิตใจที่คุณมีต่อฉัน ฉันจะไม่รู้ได้ยังไง! คุณเห็นหน้าตาอัปลักษณ์ที่สุดของฉันมาแล้วยังไม่เคยรังเกียจเลย! ฉันแค่กลัวว่าพ่อแม่จะพูดด้วยความเป็นห่วง…”
สุดท้าย เยี่ยหวันหวั่นพูดจนริมฝีปากใกล้จะแตกแล้ว ก็ยังคงพูดไม่สำเร็จ…
ที่ว่านจิ่งหมิงหยวน
หลังกลับมาที่ห้องพัก เยี่ยหวันหวั่นก็ยังดื้อดึงไม่เลิก
“เฮ้อ ที่รัก คุณคิดแบบนี้สิ ถ้าคุณหน้าตาน่าเกลียด ข้างกายกลับมีหญิงงามคนหนึ่ง คนอื่นจะต้องคิดว่าคุณรวยแน่นอน! ความรู้สึกนี้โดนเย้ยหยันมาก! เอ่อ เหมือนมีตรงไหนไม่ถูกต้อง… เดิมทีคุณก็รวยอยู่แล้ว…”
เยี่ยหวันหวั่นหมดหวังแล้ว
หลังส่งเยี่ยหวันหวั่นที่หน้าประตู ซือเยี่ยหานไม่คิดแม้แต่จะเข้าไปข้างใน หันหลังเดินออกไปทันที
เยี่ยหวันหวั่นร้อนใจ รีบไปขวางข้างหน้าซือเยี่ยหาน ใช้แรงดันเขาเข้าไปในห้อง “ทำไมคุณถึงไม่ฟังเหตุผลบ้างเลย? ฉันแต่งตัวอัปลักษณ์เพื่อคุณตั้งหลายครั้ง คุณทำเพื่อฉันครั้งเดียวไม่ได้เชียวหรือ?”
ซือเยี่ยหานถูกดันมาที่ขอบโซฟา ดวงตาสองข้างหรี่ลง เหมือนว่ากำลังจะขยับ แต่ว่า วินาทีต่อมา ไม่รู้ว่าเห็นอะไรอยู่ด้านหลังเยี่ยหวันหวั่น จู่ๆ ไม่ขยับแล้ว ปล่อยให้เยี่ยหวันหวั่นที่ทำท่าทางเหมือนสาวบริสุทธิ์ที่ชอบใช้กำลังกดเขาอยู่ข้างใต้
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ได้ล่ะ?” ซือเยี่ยหานถามอย่างสบายอารมณ์ ดวงตาที่ผสานหิมะน้ำแข็งสองข้างนั้นดูยั่วยวนถึงขีดสุด
เยี่ยหวันหวั่นโดนแสงประกายสวยของดวงตาทำเอาละลายไปหนึ่งวินาที อีกทั้งความรู้สึกมุ่งมั่นที่ไม่สามารถปล่อยให้เขาเปิดเผยใบหน้าจริงได้ปรากฏออกมา ดังนั้น เลยผลักชายหนุ่มลงไปบนโซฟา ใช่เข่าด้านหนึ่งกดที่ด้านล้างลำตัวเขา “วันนี้ คุณต้องยอม ถึงไม่ยอม ก็ต้องยอม!”
วินาทีที่สิ้นสุดเสียงเยี่ยหวันหวั่น มีเสียง ‘แอ๊ด’ ดังขึ้นมา…
ตามมาด้วยเสียง ‘โพละ’…
จู่ๆ ที่ด้านหลังก็มีเสียงประหลาดสองเสียงติดต่อกันดังขึ้นมา
ในใจเยี่ยหวันหวั่นรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีมากขึ้นมาทันใด หลังแข็งทื่อหันกลับไป จากนั้นก็เห็น…
หานเซี่ยนอี่ที่ใส่ชุดนอนสวมรองเท้าแตะยืนอยู่ที่โถงทางเดินสีหน้าอึ้งด้วยความตกใจ ที่ข้างเท้ามีเบียร์กระป๋องลังหนึ่งตกอยู่ที่พื้น…
ที่ทำให้เยี่ยหวันหวั่นสิ้นหวังไปกว่านั้นคือ ข้างหานเซี่ยนอี่มีเงาของหนุ่มน้อย… ปรากฏว่าเป็นลั่วเฉิน…
เด็กน้อยที่น่าสงสารยืนตะลึงงันไปหมดแล้ว เล่มบทละครกระจายอยู่เต็มพื้น…
ฉิบ…หาย
เกิดอะไรขึ้น!
………………………………………………..