บทที่ 173 บูชาอู่

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 173 บูชาอู่
ฉินเทียนเข้ามาได้ประมาณ 100 เมตรกว่าๆ เพิ่งจะถึงกลางลานบ้าน

พานหลงตะโกนเรียกอย่างบ้างคลั่ง ห้องฝั่งตรงข้ามเปิดออก ชายชุดดำ 40 คนพุ่งออกมาจากข้างใน

ในมือของพวกเขาทุกๆคน ล้วนถือหน้าไม้กลของขงเบ้งที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ

ส่วนบนที่ติดตั้งก็คือหัวลูกธนูที่ทำมาจากเหล็ก

พวกเขาฝึกซ้อมมานานแล้ว และหลังจากที่หลั่งไหลกันออกมา ก็แยกกระจายกันไปเหมือนน้ำไหล รูปแบบล้อมรอบเป็นวงกลม ล้อมฉินเทียนไว้ตรงกลาง

หน้าไม้ที่อยู่ในมือ เล็งไปที่ฉินเทียน

มีความล้มเหลวของทีมก่อนเป็นตัวอย่างอยู่แล้ว พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้มาก ทุกๆคนเว้นระยะจากฉินเทียนประมาณ 10 เมตร

เว้นระยะห่างขนาดนี้ แม้ว่าความเร็วของฉินเทียนเร็วยิ่งขึ้น สามารถที่จะจู่โจมหนึ่งในนั้นอย่างฉับพลันได้ แต่ก็ไม่มีทางจะจู่โจมคนอื่นได้

แต่เพียงแค่พวกเขาดึงหน้าไม้ในมือ หัวธนูเหล็กภายใต้แรงกระตุกมหาศาล ความเร็วนั้นเทียบเท่ากับกระสุน

นี่ ก็คือมือปราบที่มีฝีมือจริงๆ

เห็นฉินเทียนนิ่งสงบไม่ขยับ พานหลงคิดว่าเขากลัวแล้ว หัวเราะลั่นอย่างภาคภูมิใจขึ้นมาอีกครั้ง

“แซ่ฉิน แหกตาต่ำๆของนายดูให้ดี!”

“พวกเขาทุกคน ล้วนเป็นพลหน้าไม้ที่มีความแม่นยำอย่างไม่มีข้อผิดพลาด”

“เพียงแค่กูสั่งคำเดียว นายก็จะถูกยิงกลายเป็นเม่น”

“ตอนนี้ ฉันให้โอกาสนายอีกครั้ง คลานมาอ้อนวอนขอชีวิตฉันสิ”

“ไม่แน่ว่าเมื่อฉันมีความสุขแล้วนายจะได้มีชีวิตอยู่ต่ออีก 2-3 วัน”

ฉินเทียนสีหน้าบูดบึ้ง หลังจากที่หยุดเดินลงสั้นๆ ก็สาวเท้าเดินอีกครั้ง เดินตรงไปยังข้างใน

“ไอ้สารเลว!”

พานหลงไม่คิดว่าฉินเทียนจะไม่กลัวตายอย่างนี้

เขากัดฟัน : “พวกนายใครสามารถยิงถูกเขาหนึ่งดอก ฉันจะตบรางวัลให้ 2 ล้าน!”

“ฟังคำสั่งฉัน ยิง!”

สิ้นเสียงคำสั่ง เสียงของหน้าไม้ที่ถูกงัดขึ้นราวกับปีศาจที่กำลังเป่านกหวีด

ลูกธนูสีดำ 40 ดอก ยิงไปยังฉินเทียนเหมือนภูตผีที่ต้องการชีวิต

“รีบหลบสิ!”มู่เฟยเฟยร้องตะโกนด้วยสัญชาตญาณ มือปิดตา จริงๆแล้วเธอทำใจไม่ได้ที่จะมองภาพที่น่าสยดสยองนั้น

ใครจะรู้ว่า ในภาพจอนั้น กลับไม่มีเสียงร้องขอฉินเทียนออกมา

ในเวลานั้น โลกทั้งใบล้วนเงียบสงัด

เกิดอะไรขึ้น กาลเวลาหยุดนิ่งแล้วเหรอ?

มู่แฟยเฟยลืมตาขึ้น มองดูภาพที่อยู่บนจอ อดไม่ได้ที่จะอ้าปากค้าง

เห็นเพียงแค่ฉินเทียนยืนนิ่งไม่ขยับ ธนู 40 ดอกนั้น ล้วนยิงไปที่บนร่างกายของเขา

เพียงแต่ว่าลูกธนูหยุดอยู่ที่บนเสื้อผ้า ยากที่จะเจาะเข้าไป

ตั้งใจดู เสื้อผ้าฉินเทียนทั้งตัว ตีขึ้นมาเหมือนกับใช้เครื่องปั่นลมยังไงอย่างนั้น

เกิดอะไรขึ้น?

ด้านหลังลานบ้านแห่งหนึ่ง มีเสียงประหลาดใจดังขึ้นด้านในห้อง

“เอ๊ะ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกำลังภายใน”

มีอีกเสียงที่ทุ้มต่ำพูดขึ้น : “อายุยังน้อย คาดไม่ถึงว่าจะมีพลังกำลังภายในที่ทรงพลังเช่นนี้ สุดยอด”

มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาอีก : “ดูท่าแล้ว มีปล่อยกำลังภายในข้างนอกนั้นหมายความว่าได้มีความสำเร็จขั้นหนึ่ง”

“รอดูว่าเขาจะทำอย่างไรต่อไป”

พลหน้าไม้ 40 คนทั้งหมดตกใจ พอได้สติ ระหว่างตอนที่พวกเขากำลังเตรียมยิงลูกธนูดอกที่ 2

ทันใดนั้นร่างกายของฉินเทียนสั่นอย่างรุนแรง!

ลูกธนูที่ปักอยู่บนเสื้อผ้าของเขาเหล่านั้น เหมือนกับตั๊กแตนที่กระโดดย้อนหลับไป

เสียงตะโกนดังขึ้น

พลหน้าไม้ 40 คน ในเวลาเดียวกันได้ถูกลูกธนูยิงเข้าและล้มลงไปกับพื้น

ด้านหลังลานบ้าน ห้องที่มีเสียงดังลอดออกมาเมื่อกี้นี้ ขณะเดียวกันก็มีเสียงแสดงความอึดอัดออกมา

หลังจากนั้นก็เงียบสงัด ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่พูด

ดูเหมือนว่า จะถูกฝีมือฉินเทียนนี้ทำให้ตกใจแล้ว

ฉินเทียนสีหน้านิ่งเรียบ เดินเข้าไปข้างในอย่างต่อเนื่อง

พานหลงตกอยู่ในอาการช็อคพักใหญ่เพิ่งจะได้สติกลับมา

มองเห็นฉินเทียนที่ได้มาถึงลานบ้านด่านที่ 3 แล้ว

เขาตะโกนเรียกอย่างบ้าคลั่ง : “หน่วยกล้าตายอยู่ที่ไหน!”

“ฆ่าสิ!”

“ฆ่าเขาแล้ว ฉันจะตบรางวัล 1 ล้าน”

ในความมืดบริเวณรอบๆ ชายชุดดำ 20 คน สายตาที่ตายด้าน ราวกับว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่มีความรู้สึกใดใดอย่างนั้น พุ่งครงไปยังเทียน

การเคลื่อนไหวของพวกเขาไม่ได้เร็วที่สุด พลังก็ไม่ได้เยอะที่สุด

แต่ว่ารับมือได้ยากมากที่สุด

เพราะว่าพวกเขาไม่กลัวตาย

คนพวกนี้เป็นคนที่สมควรตายแต่ไหนแต่ไร ตระกูลพานใช้เส้นสายทุกทาง เพื่อช่วยพวกเขาออกมา ใช้ยาที่ปรุงมาเป็นพิเศษ ทำให้พวกเขาไม่มีความรู้สึกถึงการเจ็บปวด

บทบาทอย่างเดียวที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ในทุกๆวัน คือเวลาที่ตระกูลพานต้องการให้ตายไปพร้อมกันกับศัตรู

เพียงแค่จ่ายคืนด้วยชีวิต ภรรยาของพวกเขาก็จะได้เงินชดเชยก้อนใหญ่ สุขสบายไปตลอดชีวิต

ฉินเทียนขว้างมีดแทงเข้าไปที่ตรงหน้าอกของชายคนหนึ่ง ชายคนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ถอยเลยแม้แต่น้อย แต่กลับแสดงการจู่โจมเข้ามา พุ่งตรงไปข้างหน้าฉินเทียน ทำให้ดาบยาวเสียบเข้าไปในร่างของเขา

ในมือถือมีดสั้นคมกริบ พุ่งมาตรงที่หัวใจของฉินเทียนอย่างเงียบๆ

ฉินเทียนตกตะลึง ทำได้เพียงออกแรงที่ข้อมือ พลิกดาบยาวฟันจากตรงกลางของผู้ชายคนนี้แยกออกจากกัน

“โอ้!”

มองดูคนหนึ่งที่ยังดีดีอยู่ เพียงชั่วพริบตาก็กลายเป็นก้อนเนื้อสองซีกอย่างน่าสยดสยอง มู่เฟยเฟยตกใจจนกรีดร้องออกมา

การต่อสู้ที่โหดเหี้ยมเกินคำบรรยาย

แต่กลับเงียบสงบต่างจากปกติ

คนตายด้านเหล่านี้ ต่อสู้กับฉินเทียนจนกว่าจะตายกันไปข้าง ไม่สนว่าจะเจ็บหนักแค่ไหน ล้วนไม่ร้องออกมาสักนิด

เพียงแค่ไม่ตาย ก็จะสู้สุชีวิตเพื่อฆ่าฉินเทียนให้ตายอย่างไม่หยุดหย่อน

ฉินเทียนมีเพียงแค่ส่งพวกเขาทั้งหมดกลับสู่สวรรค์อย่างไม่มีทางเลือก

ศพร่วงลงมาทีละศพทีละศพ

เลือดสาดกระจายเต็มท้องฟ้ายามราตรี

พระจันทร์เสี้ยวที่ขอบฟ้า ดูเหมือนว่าก็เปลี่ยนเป็นสีเลือด

ในที่สุด การต่อสู้ไร้เสียงที่น่าเวทนาก็ได้สิ้นสุดสุง

เสื้อที่เปื้อนเลือดทั้งตัวของฉินเทียน มือถือดาบที่อาบด้วยเลือด เดินเข้าไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

เขาเคยพูดไว้ คืนนี้ไม่มีใครที่จะหยุดเขาให้ฆ่าพานหลงได้

รวมถึงพระเยซู

ในตอนนั้น พานหลงกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ

แนวป้องกันทั้ง 3 ด่านที่เขาได้จัดเตรียมไว้ ภายในเวลาอันสั้น ก็ได้ถูกฉินเทียนเอาชนะได้ทั้งหมด

เขาทำได้เพียงเริ่มใช้ไพ่คิงใบสุดท้ายอย่างไม่มีทางเลือก

“ท่านฉี พวกนายเห็นหมดแล้วหรือยัง?”

“พวกนานทั้ง 5 คน เข้าไปพร้อมกัน จะสามารถฆ่าเขาได้ไหม?” เขาใช้วิทยุสื่อสารถามด้วยความหวาดกลัว

ในวิทยุสื่อสาร เสียงที่ขอความคิดเห็นเมื่อสักครู่นี้นั้นได้ดังขึ้น

เสียงทุ้มต่ำและแหบแห้ง ราวกับปีศาจกัดฟันโต้เถียงกันอย่างไร้สาระในกลางดึก

“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงที่ยังดูหนุ่มคนหนึ่ง เหนือความคาดหมายจริงๆ”

“แต่คุณชายพาน โปรดวางใจเถอะ พวกเราทั้ง 5 คนกินเงินเดือนของพวกคุณตระกูลพาน ควรทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ”

“ดี!”

“เพียงแค่ทำให้ได้ ฉันจะตบรางวัล 5 ล้าน”

“หลังจากนี้อุปกรณ์ที่พวกนายใช้ในการฝึกฝนวิชาทั้งหมด ตระกูลพานจะจัดให้โดยไม่มีข้อแม้!”

ดังคำกล่าวที่ว่า ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหรับคนที่เป็นนักบู๊ที่แท้จริงแล้ว อยากที่จะก้าวไปอีกขั้น ต้องได้รับสนับสนุนจากทรัพยากรอันมหาศาล

อย่างเช่น สมุนไพรล้ำค่าหลากหลายชนิด และอาวุธหายากหลากหลายแบบ รวมถึงวิธีการฝึกฝน

มีนักบู๊มากมายที่ไม่มีเงิน ด้วยเหตุนี้พวกเขามาหานักธุรกิจร่ำรวยเหล่านี้

นักธุรกิจร่ำรวยมีเงิน แต่ที่กลัวที่สุดคือชีวิตสูญสิ้น ทั้งสองฝ่ายไปกันได้ดี จ่ายเงินเชิญนักบู้ยอดฝีมือเพื่อมาเป็นของเซ่นไหว้ในตระกูล

นักบู้ยอดฝีมือได้รับเงินแล้ว ก็ต้องปกป้องเจ้าของเงินให้ปลอดภัย ในเวลาที่ขับขันก็ต้องแลกชีวิตเพื่อเจ้าของเงินได้

นี้คือความสัมพันธ์ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน

ตระกูลพานที่ทรงพลัง แน่นอนว่าต้องมีบูชาอู่เป็นของตัวเอง

มีทั้งหมด 5 คน นั้นก็คือ 5 ยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ที่พานหลงให้พานหู่เรียกเข้ามา

คนแรก แซ่ฉีมีชื่อว่าฉีจิ่นชุน เป็นผู้อาวุโสที่ดูผอมแห้งไปหน่อย

เขาขวางหน้าฉินเทียน ยิ้มอย่างเยือกเย็น : “นายเป็นปรมาจารย์ดินแดนขั้นสูงดูหนุ่มที่สุดในบรรดาที่ฉันเจอมา”

“แต่ว่าพ่อหนุ่ม นายผิดที่รนหาที่ตายเอง นายไม่ควรทำให้ตระกูลพาลรุกรา ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ควรมาตัวคนเดียว ”

“เพื่อศักดิ์ศรีครั้งสุดท้าย นายฆ่าตัวตายเถอะ”

“คนเรียนวิชาบู๊เหมือนกัน ผมรับประกันได้ หลังจากที่นายตาย จะไม่ทำลายศพของนาย ”