ชดใช้หนี้ (2)

 

 

“โอ้?” เด็กสาวเลิกคิ้วแล้วยิ้มกว้าง “จริงหรือ ถ้าแบบนี้ล่ะ”

 

 

พรึบ!

 

 

เศษกระดาษที่ปลิวอยู่ในอากาศก็ติดไฟแล้วไม่นานก็กลายเป็นเถ้าถ่าน หูโย่วอู่รู้สึกเหมือนหัวใจถูกทุบแล้วเขาก็เดือดดาล เขาจ้องหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

 

 

“แม่นาง เจ้าไม่ควรมายุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าใจร้าย!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงพิงชายหนุ่มด้านข้างอย่างเกียจคร้านแล้วส่งยิ้มงดงามแต่ยั่วโมโหไปให้เขา

 

 

“ข้าเสียใจด้วย ตอนนี้มันเป็นเรื่องของข้าแล้ว!”

 

 

“หูเหวินอู่ติดหนี้ข้า คนทั้งเมืองลั่วฮวาเป็นพยานได้!” ดวงตาของหูโย่วอู่มืดครึ้มแล้วพูดอย่างเย็นเยียบ “เขาปฏิเสธมิได้หรอก!”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงยกยิ้มบาง “ข้าขอถามว่าเหตุใดเขาต้องยืมเงินท่าน”

 

 

“ฮึ่ม อย่างที่ทุกคนรู้ว่าคนไข้คนนั้นตายจากการรักษาของเขา แล้วครอบครัวของคนตายก็ขอให้เขาชดใช้ โชคร้ายที่เขาทำได้แค่หันมายืมเงินข้า และเพราะความเป็นพี่น้อง ข้าจึงให้เขายืมเงินสิบล้านตำลึงเงิน!” หูโย่วอู่ส่งเสียงขึ้นจมูก “เขาไม่ควรไม่ใช้หนี้คืน!”

 

 

“ถ้าหากว่า…” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา “คนไข้ไม่ได้ตายล่ะ”

 

 

คนไข้ไม่ได้ตายงั้นหรือ

 

 

ฝูงชนส่งเสียงฮือฮาแล้วมองไปที่อวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนมองคนโง่ แม้แต่ตัวหูเหวินอู่ยังยอมรับเองว่าบุตรของโอวหยางเชียนหรานตายจริงแล้วเขาจะไม่ตายได้อย่างไร

 

 

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นประกายบางอย่างในดวงตาหูโย่วอู่เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง เขาพยายามสงบใจแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ “ไร้สาระ เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร คนไข้ตาย หูเหวินอู่ยอมรับด้วยตัวเอง! เจ้ากำลังจะบอกว่าตระกูลโอวหยางขู่เขางั้นหรือ”

 

 

เมื่อเขาพูดแบบนี้ก็หมายความว่าเขาไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ความจริงจะถูกเปิดเผยไป มันก็เป็นเพียงความผิดของโอวหยางเชียนหราน ไม่เกี่ยวกับเขา!

 

 

“เวลาใกล้หมดแล้ว…” อวิ๋นลั่วเฟิงมองไปยังทิศทางหนึ่ง “เขาควรกลับมาได้แล้ว”

 

 

เช้าตรู่วันนี้ ไหน่ฉารายงานนางผ่านจิตว่าพบเด็กชายแล้ว กำลังกลับมาที่เมืองลั่วฮวา…

 

 

“หูหลี” อวิ๋นลั่วเฟิงหันมาหาหูหลี “เอาตัวโอวหยางเชียนหรานมานี่! ตอนนี้ข้ากำลังจะเปิดการแสดงดีๆ ให้พวกเจ้าดู!”

 

 

หูหลีรู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งใจจะทำอะไร เขาจึงพยักหน้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ถนนบูรพาอย่างรวดเร็ว ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมลากโอวหยางเชียนหรานมาด้วย

 

 

“หูหลี เจ้าเด็กเลวทราม! บิดาเจ้าฆ่าบุตรชายข้าแล้วเจ้ายังมีหน้ามาทำร้ายข้าอีกหรือ ไปลงนรกซะ!”

 

 

“หุบปาก!”

 

 

หูหลีต่อยเข้าที่เบ้าตาของโอวหยางเชียนหรานจนตาข้างหนึ่งเป็นสีดำ เขาจ้องหน้าหูหลีอย่างเดือดดาลเหมือนต้องการฉีกหูหลีออกเป็นชิ้นๆ!

 

 

เมื่อเขามาถึงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง หูหลีก็โยนชายคนนี้ไปที่พื้นดวงตาเรียวเป็นประกายเย็นเยียบสีหน้าของเขาเฉยชา

 

 

“โอวหยางเชียนหรานใช่หรือไม่” อวิ๋นลั่วเฟิงยืดตัวลูบคางแล้วก้มมองเขาด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ถึงเวลาที่ข้าจะเปิดการแสดงชั้นยอดให้ดูแล้ว”

 

 

โอวหยางเชียนหรานลุกขึ้นจากพื้นอย่างโมโห “เจ้าเป็นใคร เจ้ากล้าพูดกับข้าอย่างนี้ได้อย่างไร”

 

 

ดวงตาหูหลีเย็นเยียบ ตอนที่เขากำลังจะตีโอวหยางเชียนหรานอีกครั้ง ร่างสีดำก็พุ่งเขามาเหมือนสายลมแรง ชายหนุ่มยกขาขึ้นเตะโอวหยางเชียนหรานออกไป