ทุกคนในร้านต่างตกตะลึง จนอ้าปากค้าง ในใจเต็มไปด้วย : ? ? ?
“นี่คือ หลินฟาน? หลินฟาน ขับรถซุปเปอร์คาร์?”
“ซุปเปอร์คาร์คันนี้คือ Bugatti Centodieci ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นรถอันดับต้นๆ ของโลก?”
“เป็นไปได้ไหมว่า หลินฟาน เป็นทายาทรุ่นสองของตระกูลที่ร่ำรวยมาก!”
“เฮ้ ตอนนี้.. ฉันตื่นแล้วใช่ไหม? บอกฉันที่ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตาจริงๆ?”
ผู้ดูแลระมัดระวังตัวมากขึ้น และมีปฏิกิริยาตอบสนองก่อนคนอื่น : “หลินฟาน รถคันนี้.. เป็นของคุณ? คุณมีซุปเปอร์คาร์ได้อย่างไร?”
หลินฟาน ยิ้ม และกล่าวไปว่า “ดูเหมือนว่าตัวตนของผม จะไม่สามารถเก็บซ่อนมันไว้ได้อีก ดังนั้นผมจะสารภาพกับทุกคน จริงๆ แล้วผมเป็นคนรุ่นสองที่ร่ำรวย”
ฝูงชนตกตะลึง
ผู้ดูแลพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “อะไรนะ, หลินฟาน คุณเป็นคนรวยรุ่นที่สองจริงๆ?”
ผู้ดูแลพูดอย่างแปลกใจออกมา : “คุณเป็นคนรุ่นที่สองที่ร่ำรวย แล้วคุณออกมาส่งอาหาร ทำไม?”
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา แล้วพูดไปว่า : “ก็ผมแค่ไม่ต้องการสืบทอดธุรกิจของครอบครัว.. ผมจึงวิ่งออกมาหางานทำด้วยตัวเอง แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ พวกเขากับบังคับผม ให้กลับไปสืบทอดทรัพย์สินของครอบครัว อนิจจา.. ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ แม้จะค้านอย่างรุนแรงออกไปก็ตาม พวกเขาก็ยังคงบังคับเอาทรัพย์สินของครอบครัวหลายร้อยล้านและรถคันนี้ มาให้ผม..”
ทุกคนคุกเข่าลงพร้อมกัน แล้วกู่ร้องคำรามขึ้นมาในใจ
พี่สาวแกเถอะ! พวกเราอิจฉาแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือดอยู่แล้ว คุณพูดอย่างกลับว่าไม่มีความสุข ที่จะได้สืบทอดทรัพย์สินของครอบครัวหลายร้อยล้าน? และดูเหมือนว่าพวกเขากำลังทำผิดต่อคุณ แล้วจากนั้นพวกเขาก็เลยมอบรถหรู ให้คุณขับ?
โลกของคนรวยรุ่นสอง แกล้งทำกันแบบนี้?
“พี่ฟาน รถของคุณคันนี้ ราคามันเท่าไหร่?” มีคนหนึ่ง ได้ถามออกไปพร้อมกับความสงสัย
หลินฟาน กล่าวว่า “มันไม่ได้แพงหรอก มันเพียงแค่ 70 ล้าน”
ฟิ้ว~
ฝูงชนอ้าปากค้าง
พวกเขาทุกคนคุกเข่าลงอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง
ดูคำพูดที่พูดน้อยแบบนี้สิ ฟังเสียงที่เสแสร้งพูดออกมาแบบสบายๆ แบบนี้สิ!
เขาไม่ใช่คนรวยรุ่นที่สองของตระกูลที่ร่ำรวย แต่เขาเป็นทายาทรุ่นที่สองของมหาเศรษฐี!
ไม่มีใครสงสัยอีกต่อไปแล้ว หลินฟาน ต้องเป็นรุ่นที่สองของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเอามากๆ!
“พี่ฟาน พี่หล่อมาก!”
“พี่ฟาน พี่หล่อมาก แล้ววันนี้ พี่เองก็หล่อเป็นพิเศษ!”
“พี่ฟาน พี่ยอมรับฉันเป็นน้องชายของพี่ไหม? ได้โปรดรับการคุกเข่าจากน้องชายคนนี้ด้วย!”
กลุ่มเพื่อนร่วมงานต่างพากันโค้งคำนับบูชา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมกันไปหมดแล้ว ว่าก่อนที่ หลินฟาน จะมา พวกเขาเองก็ได้บ่น ดุด่า หลินฟาน ออกไปยังไง…
ผู้ดูแล ได้ถอนหายใจออกมาภายในใจของเขา ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไม หลินฟาน ถึงได้มีบุคลิกที่ดื้อดึงอย่างนี้ คนอื่นกลัวเจ้านาย แต่ หลินฟาน กลับไม่เคยกลัว และยิ่งกับภรรยาของเขา หลินฟาน มักจะมีปัญหาด้วยเสมอ
เขาคิดว่า เขาจะกลับไปรับมรดกทรัพย์สินหลายร้อยล้าน.. หากทำไม่ได้ มันก็จะเป็นได้แค่เรื่องตลก.. แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นความจริง สำหรับ.. หลินฟาน
ผู้ดูแลถอนหายใจออกมา และพูดว่า “หลินฟาน ที่คุณได้พูดออกมา ในกรณีนี้ รวมถึง.. คุณไม่สมควรมาทำงานที่นี่แล้ว ใช่ไหม?”
ทุกคนก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน หากพวกเขาได้รับมรดกของครอบครัวแล้ว พวกเขาจะยังต้องมาทำงานเป็นพนังงานส่งอาหารอยู่อีกทำไม!
หลินฟาน กล่าวว่า “มันไม่ใช่อย่างนั้น อย่างแรก ผมทนไม่ได้ที่จะจากทุกคนไป และอย่างที่สอง ตอนนี้ผมไม่มีงานอื่นทำแล้ว ผมเลยอยากจะทำงานที่นี่ต่อ”
อะไรนะ?
หลินฟาน ยังต้องการที่จะทำต่อ?
ผู้ดูแล กล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วฉันเองก็อยากจะให้คุณทำต่อ แต่ตอนนี้ เจ้านายหญิง บอกว่า เธอได้ตัดสินใจไล่คุณออกไปแล้ว…”
“ไร้สาระ!”
เสียงจากหญิงชรา หรือภรรยาของผู้ดูแล ขัดจังหวะออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้ผู้ดูแลตกใจ
เจ้านายหญิงผู้มีอำนาจหลัก ส่งยิ้มให้กับ หลินฟาน ทันที แล้วพูดไปว่า “เสี่ยวฟาน อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของเขา ฉันไม่เคยวางแผนที่จะไล่คุณออก ฉันชื่นชมคุณเสมอมา”
ทุกคนต่างพากันเหงื่อออก
นายหญิง คุณเพิ่งจะดุด่า หลินฟาน ออกไปเมื่อกี้ ทำไมคุณถึงกลายเป็นสุนัขเลียไปได้?
แน่นอนว่า เงิน ทำให้ ผี ทำโรงสี(1) ได้!
หลินฟาน กล่าวว่า “นายหญิง คุณเพิ่งโทรมาหาผม และบอกว่ามีคนโทรมาบ่นถึงผม …”
เจ้านายหญิง รีบพูดไปว่า : “มีที่ไหนกัน ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก! เป็นผู้ชายคนนั้นต่างหากที่สร้างปัญหาให้คุณ แล้วนี่จะไปโทษคุณได้อย่างไร? เสี่ยวฟาน เข้ามานั่งในนี่เร็วๆ มา คุณเองก็ทำงานหนักมาตลอด ฉันจะไปรินชาสักถ้วยมาให้เอง”
เจ้านายหญิง รีบเข้าไปดึง หลินฟาน เข้าไปในร้าน อย่างกระตือรือร้นและเทน้ำชาให้กับ หลินฟาน ด้วยตนเอง และด้วยท่าทางที่เคารพ มันไม่ต่างอะไรกับแม่บ้านเลย
ฉากนี้ทำให้ทุกคนดูมีความสุข
ความเคารพที่แสดงออกมานี้ มันคืออะไร? จะเรียกว่า เคารพจากอดีต หรือหลังจาก! ทุกคนพากันหัวเราะไม่ออก จริงๆ
ผู้ดูแลรู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาจึงต้องบอกความจริงออกไปว่า “ไอ จริงๆ แล้วมันเป็นแบบนี้ เมื่อวาน มีลูกค้าโทรมาร้องเรียนเกี่ยวกับ หลินฟาน ว่าไม่เพียงแต่อาหารจะเย็นเท่านั้น แต่ หลินฟาน ยังคงไปดุด่าลูกค้าด้วย และสำนักงานใหญ่เองก็ได้ตัดสินใจที่จะไล่ หลินฟาน ออก”
เจ้านายหญิง ตกตะลึงครู่หนึ่ง แล้วก็โกรธขึ้นมา : “ดูสิ่งที่คุณพูดสิ! สำนักงานใหญ่จะไปรู้เรื่องอะไร? ฉันไม่สน! หลินฟาน ต้องไม่ถูกไล่ออก ฉันไม่สนใจว่าคุณจะใช้วิธีการใด ติดต่อไปที่สำนักงานใหญ่ และจัดการเรื่องนี้ให้กับฉันซะ!”
“โอเคๆ” ผู้ดูแล เช็ดเหงื่อเย็นออกไป เขาไม่เคยคิดฝันเลย ว่าวันหนึ่ง ภรรยาของเขา จะออกมาปกป้อง หลินฟาน
ก็นั่นสินะ หลินฟาน เป็นรุ่นที่สองของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยเอามากๆ และภรรยาของเขาเองก็ไม่ใช่คนโง่ เธอเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่โอบกอดต้นไม้ใหญ่เช่นนี้..
บางครั้งโอกาสที่จะเปลี่ยนโชคชะตา มันก็มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น.. ถ้าพลาดหมู่บ้านนี้ คงจะไม่มีร้านนี้อีกต่อไปแล้ว(2)
นายหญิง ไม่สามารถรอที่จะผูก หลินฟาน ติดกับร้านเอาไว้ด้วยเชือก ได้อีก
“เสี่ยวฟาน คุณสามารถทำงานที่นี่ได้อย่างสบายใจ คุณสามารถทำมันได้นานเท่าที่คุณต้องการได้ หรือคุณจะไม่ต้องทำงานก็ได้ ตราบใดที่คุณยังอยู่ที่นี่..” นายหญิง ได้กล่าวออกไปด้วยรอยยิ้ม
หลินฟาน พูดไม่ออก จู่ๆ เจ้านายหญิงที่ดูโหดร้ายก็กลายมาเป็นพูดดีมากเสียอย่างนั้น เขาไม่ชินกับมันจริงๆ
“อะไรนะ!”
จู่ๆ เพื่อนข้างๆ เขา ก็ได้ร้องออกมาด้วยความตกใจ
นายหญิง โกรธขึ้นมาทันที : “เอะอะอะไรกัน?”
เพื่อนคนนั้น กล่าวว่า : “จู่ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ ว่ามีวิดีโอสั้นๆ ในกลุ่มเมื่อวาน ว่ามีพนักงานส่งอาหารคนหนึ่งได้ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยไปทั้งถนน มันคงจะไม่ได้เป็น.. พี่ฟาน ใช่ไหม?”
นายหญิง ตบต้นขาของเธอ แล้วพูดไปว่า : “ใช่แล้ว ฉันลืมไปได้ยังไง! เสี่ยวฟาน นั่นคุณใช่ไหม?”
หลินฟาน ถอนหายใจออกมา “อืม.. ใช่ นั้นผมเอง”
“ให้ตายเหอะ! มันคือ พี่ฟาน จริงๆ!”
“ฉันเพิ่งพูดไปเมื่อคืนไง ว่ามันดูเหมือน พี่ฟาน มีเพียง พี่ฟาน เท่านั้นที่มีแผ่นหลัง ที่หล่อเหลาเช่นนี้ได้!”
“พี่ฟาน ในที่สุดเราก็พบคุณแล้ว พวกเราเองก็กำลังตามหาตัวคุณอยู่!”
หลินฟาน เหงื่อตก เมื่อคืน เขาก็ได้พูดในกลุ่มไปแล้ว.. ว่าเป็นเขา แต่คนพวกนี้กลับไม่เชื่อเขาเลยเมื่อวานนี้ และยังจะมาโทษเขาอยู่เลย
นายหญิง ยิ้ม แล้วพูดไปว่า “อ้อ ใช่แล้ว เสี่ยวฟาน ทำไมคุณถึงได้ซื้อของทั้งถนนแบบนั้นได้กัน? เห็นมีบางคนบอกว่าที่คุณทำแบบนั้นไป ก็เพื่อที่จะตบหน้าผู้หญิงที่บูชาเงินคนนั้น เรื่องนี้.. มันเป็นความจริงหรือเปล่า?”
หลินฟาน ไม่อยากจะพูดถึง จ้าว ซินเอ้อ ดังนั้นเขาจึงได้พูดไร้สาระออกไปว่า “ไม่หรอก ผมเองแค่กังวลว่าผมจะไม่รู้วิธีใช้จ่ายเงินในอนาคต ดังนั้นผมจึงแค่ ฝึกมือ เท่านั้น”
ทุกคนต่างพากันสูดหายใจเข้าลึกๆ!
การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ..มันก็เป็นเพียงแค่การฝึกมือ!
วูวูวู อย่ามาทิ้งระเบิดใส่ผู้คนแบบนี้สิ!
นายหญิง กำลังจะร้องไห้ มันจะดีแค่ไหนกัน ที่เธอจะได้รับเงินพวกนั้นบ้าง.. แล้วจากนั้นเธอก็ได้พูดออกไปด้วยรอยยิ้มว่า “เสี่ยวฟาน ครั้งต่อไปที่คุณเตรียมที่จะฝึกมือ ของคุณ ..หรือจะให้ฉันให้คำแนะนำแก่คุณ ก่อนดี..”
เธอต้องการที่จะทำให้สถานีส่งอาหารแห่งนี้ใหญ่ขึ้นมานานแล้ว แต่เธอเองก็ขาดเงินทุน แต่ตอนนี้.. เธอมีต้นไม้ใหญ่อย่าง หลินฟาน แล้ว จู่ๆ เธอก็เริ่มคิดแผนการอย่างรอบคอบ
หลินฟาน กล่าวว่า “เอ่อนี่.. ตอนนี้ผมยังไม่ต้องการ”
นายหญิง ยิ้มขึ้นมา และพูดไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวฟาน ไม่ต้องรีบ คิดช้าๆ คุณเองก็ยังต้องทำงานที่นี่”
เธอได้วางแผนเอาไว้แล้ว หลังจากนี้เธอก็จะทำทุกอย่าง เพื่อเอาใจ หลินฟาน ในอนาคต และทำตัวเหมือนเป็นบรรพบุรุษของ หลินฟาน
หลินฟาน เองก็ไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถมองทะลุผ่านมันได้อย่างรวดเร็ว แต่เขาเพียงแค่ไม่ได้จริงจังอะไรกับมัน ..เท่านั้น
ขณะที่นายหญิง และหลินฟาน กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น พนักงานส่งอาหารต่างก็ได้พากันหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเริ่มถ่ายรูป และอัปโหลดมันเข้าไปยังกลุ่มแชท
หลังจากความร้อนระอุเมื่อคืนนี้ กลุ่มพนักงานส่งอาหารที่สงบ ก็ได้ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง…
“ให้ตายเหอะ! ทำไมจู่ๆ ถึงได้มีรูปรถหรูๆ เยอะจัง”
“นี่มัน Bugatti! ยังคงเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ดูเหมือนว่า.. มันจะมีราคาอยู่ที่ 70 ล้าน!”
“ให้ตายเหอะ! 70 ล้าน บรรพบุรุษมัน!”
“นายไปเอารูปนี้ มาจากไหน!”
เมื่อเห็นคำอุทานเหล่านี้ เพื่อนร่วมงานของ หลินฟาน ก็สงบลง
“คุณต้องเดาไม่ออกแน่ว่ารถคันนี้เป็นของใคร?”
“จำคนส่งอาหารที่ซื้อของทั้งถนนได้ไหม? เรารู้แล้วว่าเป็นใคร!”
“คนส่งอาหารคนนั้น ก็คือเจ้าของรถคันนี้ และตอนนี้เขาก็ได้อยู่กับเราแล้ว!”
คำพูดของพวกเขา ได้กระตุ้นความอยากรู้ไม่รู้จบของสมาชิกในกลุ่มทันที และสมาชิกในกลุ่มทั้งหมดก็ได้พากันคุกเข่าลง
“พี่ชาย ได้โปรดเถอะ บอกพวกเราเร็วๆ!”
“ขอร้องล่ะ! ตอนนี้ฉันกำลังคุกเข่า ร่วมกับพี่น้องสองสามคน!”
“ปัง ปัง ปัง คนดี มักจะมีชีวิตที่ปลอดภัย!” ทุกคนพากันคุกเข่า และร้องตะโกน
เพื่อนร่วมงานของ หลินฟาน เป็นเหมือนญาติพี่น้องกันมาระยะหนึ่งแล้ว และพวกเขาเองก็ได้รับคำเยินยอมานับไม่ถ้วน หลังจากที่พวกเขาสนุกกันมากพอแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเปิดเผยความลับ
ชั่วขณะหนึ่ง ที่ฝูงชนทั้งหมดก็เกือบจะเป็นอัมพาต
ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง พนักงานส่งอาหารทั่วทั้งหยุนเฉิง ก็ได้รู้เรื่องนี้กันทั้งหมดแล้ว ว่าคนส่งอาหารที่ได้ซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยทั้งถนน ไปนั้น ชื่อ หลินฟาน!
(1)[เงินทำให้ ผี ทำโรงสีได้ (有钱能使鬼推磨)] – ดังคำกล่าวที่ว่า ในสมัยก่อนเงินมีอำนาจทุกอย่าง เป็นที่เข้าใจได้โดยสัญชาตญาณว่า “ตราบเท่าที่คุณยินดีที่จะจ่ายเงิน ใครบางคนก็จะทำทุกอย่างเพื่อคุณ” ซึ่งมันมีความหมายไปในทางที่เสื่อมเสีย
(2)[ถ้าพลาดหมู่บ้านนี้ คงจะไม่มีร้านนี้อีกต่อไป (过了这村,没有这店)] – เป็นคำอุปมา สำหรับโอกาสที่หายาก และไม่ควรพลาด หากจะกล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ การหวงแหนโอกาสที่จะมีอยู่ข้างหน้า