“หลิงชีเย่ว์ เธอคิดจะใช้ใบหน้าสะสวยนี้เข้าหาคุณชายตู้งั้นเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอหน้าเหมือนคนรักของคุณชายตู้หล่ะก็ ฉันคงไม่เปลืองแรงเอาเธอไปส่งถึงเตียงเขาหรอก”
หลิงอิ๋นโจวเมื่อเห็นน้องสาวของตนกลับไม่รู้ผิดชอบชั่วดี อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าไร้ความรู้สึกและความเห็นแก่ตัวของตนเอง.
ตอนนี้หลิงชีเย่ว์รู้สึกชาวาบไปทั้งใจ ที่แท้เธอก็เป็นแค่เครื่องมือของคนในครอบครัว ส่วนในสายตาของตู้เฉินก็เป็นเพียงคนที่ใช้ต่อรองกับพ่อแม่เท่านั้น
ช่างน่าตลกเสียจริง!
หลิงชีเย่ว์ที่กำลังสิ้นหวังกับครอบครัว รีบเร่งขับรถออกไปในทันที จนสุดท้ายเกิดอุบัติเหตุ แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หมอที่โรงพยาบาลกลับแจ้งว่า เธอกำลังตั้งครรภ์
เด็กคนนี้ไม่ได้มาจากการขอพรแต่อย่างใด แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนที่หลิงชีเย่ว์รักที่สุด เธอรู้ดีว่าตอนนี้ไม่อาจกลับไปที่บ้านของตนและบ้านตระกูลตู้ได้อีกแล้ว
ตู้เฉินคงจะไม่ให้เด็กคนนี้เกิดเป็นแน่ ฉะนั้นเพื่อหนึ่งชีวิตเล็ก ๆ ในท้องนี้ เธอจึงทำเรื่องที่บ้าคลั่งที่สุดในชีวิต เธอถอนเงินเก็บทั้งหมดที่มีออกมา และขึ้นเครื่องบินไปจากเมืองที่เธอเติบโต
หลิงชีเย่ว์ไปแล้ว หญิงที่ไม่มีใครอยากเอ่ยถึงได้จากไปแล้ว สำหรับตู้เฉินไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
ห้าปีต่อมา พ่อแม่ของตู้เฉินประสบอุบัติเหตุทางอากาศเสียชีวิต เขาได้เป็นผู้สืบทอดมรดกของตู้ชื่อทั้งหมด และกลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่อายุน้อยที่สุด
เมื่อได้เห็นข่าวตู้เฉินบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทั้งซูเจี้ยนจวินและหลีเหม่ยเจวียน พ่อแม่ของซูหว่านจึงได้หวนคิดอีกครั้ง
แม้ครอบครัวของตู้เฉินจะไม่อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นคนตัดสินใจเรื่องทุกอย่างในตระกูลตู้ ถ้าลูกสาวตนได้กลับไปคืนดี ชาตินี้คงได้ตายตาหลับแล้วหล่ะจริงไหม?
เรื่องนี้ไม่พูดคงไม่ได้ เขาสองคนได้คำนวณไว้เป็นอย่างดี ทว่าตู้เฉินไม่ใช่คนโง่เขลา เขาสามารถสืบเรื่องราวที่ทั้งสองเอาเงินไปในคราวนั้น แต่แล้วหลีเหม่ยเจวียนก็หาวิธีจนได้ เธอบังคับให้ซูหว่านทำตามที่เธอบอก โดยให้แกล้งแสดงต่อหน้าตู้เฉินเรื่องเงินในตอนนั้นว่าถูกตระกูลตู้กดขี่ “บีบบังคับ” และ “หมดหนทาง”
ซูหว่านเป็นคนที่ใจอ่อนง่าย ไม่ทักท้วงออกความเห็น เชื่อฟังแต่พ่อแม่ ยิ่งไปกว่านั้นแล้วที่ผ่านมาเธอไม่เคยลืมตู้เฉินได้เลย ยังคงเพ้อฝันถึงเขา ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วเธอจะพลาดได้อย่างไร?
หนึ่งปีผ่านไป ซูหว่านตามพ่อแม่กลับไปยังเยี่ยนจิง ตอนนี้เงินที่ตู้เฉินได้ให้ไว้ถูกสามีภรรยาคู่นี้ใช้ตามอำเภอใจไปไม่น้อย ทั้งสามจึงได้แต่อาศัยในห้องเช่าเก่า ๆ ซูหว่านทำตามทุกสิ่งที่แม่เธอบอก จนในที่สุดเธอก็ได้กลับมาพบกับตู้เฉินอีกครั้ง
ในใจผู้ชายล้วนแต่มีคนที่รักแต่ไม่อาจครอบครองได้อยู่เสมอ
เมื่อตู้เฉินได้พบคนที่ตนรักจริง ๆ อีกครั้ง ก็อดที่จะใจเต้นไม่ได้
เหตุผลที่ซูหว่านจากไปในตอนนั้น แม้ตู้เฉินจะยังไม่เข้าใจ แต่เขากลับไม่ได้กังวลใจเลย ยิ่งตอนที่ได้เห็นว่าบ้านซูอยู่อย่างลำบากยากแค้น เขาจึงตัดสินใจพาซูหว่านและครอบครัวย้ายไปอยู่ที่บ้านตระกูลตู้
ตู้หันนั้นอยู่แต่ในห้องทดลองจึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน ในตอนนี้บ้านตระกูลตู้มีเพียงแค่ตู้เฉินเท่านั้น
หลังจากที่สองสามีภรรยาเข้าไปอยู่บ้านตระกูลตู้แล้ว ซูเจี้ยนจวินได้คิดหาวิธีหลอกเอาเงินจากตู้เฉิน อีกทั้งคิดหาทางให้ลูกสาวตนจับตู้เฉิน
ทว่าพักนี้ตู้เฉินค่อนข้างยุ่ง จึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน แม้กลับเข้าบ้านก็ล้วนแต่เป็นเวลาเช้าตรู่ทั้งนั้น
ซูหว่านอาศัยที่บ้านตระกูลตู้มาเป็นเวลาเกือบครึ่งปีแต่กลับไม่มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ ไม่ง่ายเลยที่จะรอจนถึงวันเกิดของตู้เฉิน ในวันนี้เองซูหว่านเตรียมพร้อมที่จะมอบกายของเธอให้กับเขา แต่ดันมีแขกไม่ได้รับเชิญมาที่บ้านตระกูลตู้เสียอย่างนั้น
แขกที่ไม่ได้รับเชิญท่านนี้อายุราว ๆ ห้าขวบ ใบหน้าเหมือนตู้เฉิน ทันทีที่เดินเข้าบ้านก็เรียกตู้เฉินว่าคุณพ่อ
ใช่แล้ว นี่คือลูกที่หลิงชีเย่ว์คลอดให้กับตู้เฉิน หลิงลี่ ชื่อเล่นว่าเทียนเทียน
ที่แท้ หลิงชีเย่ว์ที่อยู่เมืองนอกตลอดสองเดือนได้กลับมาแล้ว เธอกลับมาครั้งนี้เพื่อหย่ากับตู้เฉิน และจะพาลูกกลับไปเรียนเมืองนอกตามเดิม
แต่เทียนเทียนไม่ได้รับรู้การตัดสินใจของแม่ เขาแค่อยากมาบ้านตระกูลตู้เพื่อพูดเรื่อง “ผู้ชาย ๆ ” กับพ่อของเขาเท่านั้น
ใช่แล้วหล่ะ เทียนเทียนอายุเพียงแค่ห้าขวบ แต่เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์คนหนึ่ง
เขาอายุเพียงแค่ห้าขวบแต่สามารถพูดได้ถึงสิบแปดภาษา แถมยังรู้วิธีเล่นหุ้น รู้จักเรื่องการแฮ็กข้อมูล สามารถแฮ็กข้อมูลต่าง ๆ ได้โดยง่าย แถมยังช่วยทำงานให้พี่ใหญ่อีกด้วย
นี่ก็คือลูกที่เกิดจากคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
อย่าอิจฉาไปเลย อิจฉาไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ใครคิดจะแต่งงานใหม่คงต้องคิดดี ๆ แล้วหล่ะ
ความสามารถของเทียนเทียน ทำให้ตู้เฉินประหลาดใจไม่น้อย และเป็นเหตุให้เกิดรอยร้าวระหว่างซูหว่านและตู้เฉิน
ซูหว่านรับไม่ได้ที่ตู้เฉินมีลูกโตขนาดนี้ และหลังจากที่ตู้เฉินรับเทียนเทียนเป็นลูกแล้วก็เห่อเขาเป็นอย่างมาก ยิ่งทำให้ซูหว่านเกิดความริษยา
แน่นอนว่า ครั้งนี้ซูหว่านไม่ได้เกิดความริษยาถึงขั้นฝังลึกลงไปในสมอง เธอลองเปิดใจให้เทียนเทียน และพยายามปฏิบัติต่อเขาในฐานะแม่ แต่การเอาใจลูกที่เกิดจากคุณผู้หญิงจะเหมือนเด็กทั่วไปได้อย่างไรกัน
เทียนเทียนเมื่ออยู่ต่อหน้าตู้เฉินมักจะทำตัวน่าเอ็นดูน่าสงสาร แต่พออยู่ต่อหน้าซูหว่านมักจะตั้งใจพูดถากถางให้เธอระคาย และตู้เฉินจะบังเอิญเห็นเข้าพอดีทุกครั้ง ทำให้ซูหว่านพูดไม่ออก
ด้วยเหตุนี้เอง การที่เทียนเทียนขัดขวางแผนการของซูหว่าน ทำให้ “คนรักมือที่สาม” อย่างเธอค่อย ๆ หายไปจากใจตู้เฉิน และแผนการของเทียนเทียนทำให้ซูหว่านพ่ายแพ้ถึงขั้นชวดเงินก้อนโต ที่จริงแล้วพวกเขาวางแผนจะขโมยรูปที่แพงมากของบ้านตระกูลตู้ไปขาย แต่ถูกจับได้เสียก่อน แล้วเรื่องขโมยเงินในอดีตก็ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วเรื่องเป็นเช่นนี้ ตู้เฉินเลิกกับซูหว่าน ครอบครัวซูถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลตู้ จากนั้นซูหว่านก็ล้มป่วยครั้งใหญ่ เมื่อเธอหายป่วยก็กระวนกระวายเอาแต่มองหาตู้เฉิน แต่ภาพที่เห็นกลับเป็นตู้เฉิน หลิงชีเย่ว์ และเทียนเทียน ได้อยู่กันเป็นครอบครัวอย่างสมบูรณ์
ซูหว่านที่รับไม่ได้กับภาพนั้น รีบพุ่งตรงเข้าไปในทันที และพูดกับหลิงชีเย่ว์ว่า “เมียน้อย”
หลิงชีเย่ว์ในตอนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนแต่ก่อน และจัดการกับเรื่องไร้สาระโดยเธอเพียงแค่โชว์แหวนขึ้นมาและพูดว่า “ฉันกับตู้เฉินเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุณซูคะ ใครกันแน่ที่เป็นเมียน้อย ต้องให้พูดไหม?”
ตอนนั้นเองซูหว่านรู้สึกว่าตัวเองโง่มาก ในวันที่เธอเลิกกับตู้เฉิน ซูเจี้ยนจวินกลัวเธอตกใจจึงปิดบังเรื่องตู้เฉินแต่งงานไม่ให้เธอรู้
ซูหว่านเพิ่งได้รู้ในตอนนี้เอง ที่แท้ในปีที่พวกเขาเลิกกัน ตู้เฉินแต่งงานไปนานแล้ว เด็กที่อยู่ตรงหน้าก็คือลูกของตู้เฉินจริง ๆ และก็ไม่ได้เกิดจากลูก “ชู้” อย่างที่ตนคิด
ลองคำนวณจากอายุของเด็กคนนั้นแล้ว ในตอนที่เธอออกมาจากเยี่ยนจิง เด็กคนนั้นเกิดขึ้นแล้ว นี่หมายความว่าอะไรกัน?
ซูหว่านที่กำลังรู้สึกว่าโดนทุกคนหลอก เพราะรู้สึกผิดหวัง ท้ายที่สุดจึงเลือกทางผิด
การตายของซูหว่านไม่ได้ทำให้ตู้เฉินรู้สึกเสียใจนานนัก ด้วยมีลูกที่ฉลาดอย่างเทียนเทียน ตู้เฉินจึงค่อย ๆ เห็นความดีของหลิงชีเย่ว์ และในตอนที่หลิงชีเย่ว์กำลังจะเซ็นชื่อหย่าอยู่นั้น สองพ่อลูกจึงทำให้เธอหยุดความคิดนั้น
สุดท้ายความอัจฉริยะของลูกชาย ทำให้ตู้เฉินขายทรัพย์สินที่มีและกลับไปเริ่มต้นใหม่กับภรรยา อยู่กันเป็นครอบครัวสามคนพ่อแม่ลูกอย่างสมบูรณ์
นี่ช่างเป็นเรื่องที่ซาบซึ้งกินใจเสียจริง ๆ
ถ้าซูหว่านไม่ใช่คนแบบนั้นหล่ะก็
ในห้องที่ซูเจี้ยนจวินและหลีเหม่ยเจวียนกำลังทะเลาะกันอย่างรุนแรงอยู่นั้น
“หยุดนะ ทั้งสองคนนั่นแหละ!”
จู่ ๆ ซูหว่านก็ลุกขึ้นมา กวาดสายตามองไปยังสองคนที่ยืนอยู่ในห้อง “ตอนนี้กลับมาทำนิสัยเดิมอีกแล้วเหรอ? ตอนอยู่บ้านตระกูลตู้ไม่เห็นเป็นแบบนี้กันเลย”
“เสี่ยวหว่าน?”
ซูเจี้ยนจวินและหลีเหม่ยเจวียนหยุดทะเลาะกันอย่างพร้อมใจ สองสามีภรรยามองลูกสาวด้วยสีหน้าที่ตกใจ นี่เรื่องปาฏิหาริย์อะไรกัน?
เสี่ยวหว่านกลับไม่เหมือนคนเดิมที่เคยเป็น
เมื่อได้เห็นคนสองคนมองตนอยู่นั้น ซูหว่านยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อยากกลับไปบ้านตระกูลตู้อยู่ไหมหล่ะ?”
“เสี่ยวหว่าน ลูกมีวิธีเหรอ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวหว่าน ซูเจี้ยนจวินและหลีเหม่ยเจวียนก็ตื่นเต้นขึ้นมาทั้นที ขณะนั้นพวกเขาไม่ได้สนใจลูกสาวแม้แต่น้อย เพียงได้กลับไปใช้ชีวิตหรูหรา จะสนใจอะไรกันอีก
“หนูมีวิธีอยู่แล้ว แต่พ่อกับแม่ต้องเลิกยุ่งเรื่องนี้ รอให้หนูได้โอกาสก่อน”
ซูหว่านตอบกลับในขณะที่ตาของสองคนนั้นเป็นประกาย
คนที่เธอรออยู่นั้น แน่นอนว่าคือตู้หัน
กลับไปบ้านตระกูลตู้ครั้งหน้า ใครเป็นเจ้าของบ้านใครเป็นแขก เดี๋ยวก็ได้รู้กัน!