บทที่ 65 การพบกันของผู้สืบทอดกายา จักรพรรดิและผู้สืบทอดจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ

จอมบงการเทพยุทธ์

ทุกสิ่งเป็นไปตามที่ฉันม่คาดไว้

เมื่อผู้ฝึกยุทธเผ่าพันธุ์มนุษย์จากกองกําาลังทั้งห้ากลับไปที่เมืองเชิงหยางและเผยแพร่สิ่งที่พบ บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับจอมจักรพรรดิอู่จื่อให้กับมนุษย์ทั้งหลาย อาการตกใจ ก็เป็นเพียงการเริ่มต้น

เป็นครั้งแรกที่ค่าว่า “จอมจักรพรรดิอู่อ” ดังขึ้นในหูของหมู่มวลเผ่าพันธุ์มนุษย์ และถูกยก ย่องสรรเสริญไปทั่ว

เพียงไม่กี่วัน ชื่อเสียงและผลงานที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิอู่จื่อ กระจายไปจนเกือบทั่วทั้งแดน ร้างตะวันออก

เขาเป็นผู้สืบทอดสายเลือดที่น่ายกย่องของจอมจักรพรรดิโบราณและผู้สําเร็จวิชากายาจักรพ รรดิ์

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสามจักรพรรดิ !

พรสวรรค์เหลือล้น พุ่งทะยานเหนือพิภพทองคํา กราบราชันผู้กําแหงทุกทิศ ดํารงยุทธ์ระดับ สุดยอดอย่างโดดเดี่ยว

ส่วนจักรพรรดินีนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าอย่างที่สุด กําราบห้าแดนสวรรค์ด้วยเพียงสองมือ ขจัดภัย คุกคามจากความไม่สงบทั้งหมด ผลักดันเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปสู่จุดสูงสุด

จักรพรรดิดึกดําบรรพ์ยังไม่อยากพบมนุษย์ชื่ออู่จื่อ

นี่เป็นการประเมินจอมจักรพรรดิอู่จื่อของจักรพรรดิเผ่าพันธุ์อสูรในอดีต

ก็พอจะจินตนาการได้ว่าจอมจักรพรรดิอู่อนั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน

ชื่อของเขาราวกับมีพลังแปลกๆ และมันทั้งหนักหน่วงและส่องประกายมากพอที่จะกดทับจัก รวาลอันเป็นนิรันดร์

ทุกเผ่าพันธุ์ในแดนร้างตะวันออกล้วนพูดถึงชื่ออู่จือ

ยังมีผู้ฝึกยุทธเผ่าพันธุ์มนุษย์บางส่วน ออกเดินทางสู่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อบูชาจอมจักรพรรดิ อู่จื่อ

ครั้งนี้ ไม่มีผู้ใดสงสัยว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เคยมีจักรพรรดิโบราณที่สามารถเปรียบเทียบได้กับจอม จักรพรรดิดึกดําบรรพ์ด้วยหรือไม่

เมื่อไม่นานมานี้ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสุดยอดของจอมจักรพรรดิอู่จื่อส่งเสียงเหง่งหง่าง สังหาร ราชันบรรพบุรุษทั้งห้า สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแดนางตะวันออก บางสิ่งได้รับการสรุปแล้วไม่ต้องรอ คอยอีกต่อไป

ไม่ว่าอย่างไรยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสุดยอดนั้น ผู้ที่ไม่มีพลังยุทธ์ระดับสุดยอดไม่อาจใช้งานได้

และไม่ได้เป็นอย่างที่เผ่าพันธุ์โบราณคาดหวังไว้ว่าทุกอย่างเป็นเพียงเกมที่กิ่งจักรพรรดิเผ่า พันธุ์มนุษย์ชักใยอยู่เบื้องหลัง

ในตอนนี้ ทั่วทั้งแดนร้างเปี่ยมไปด้วยคําสรรเสริญชื่อจักรพรรดิออ แผ่ขยายออกไปทั่วทั้ง พิภพ

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะการกําราบของจอมจักรพรรดิอู่จื่อ แม้ว่าเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนจะสูญเสียรา ชั้นบรรพบุรุษทั้งห้าและได้รับความเสียหายในแดนร้างตะวันออกอย่างต่อเนื่อง แต่ในเวลานี้ก็ยัง จ่าต้องแสดงท่าทีอันสงบเสงี่ยม ไม่ได้ดําเนินการใดๆกับเผ่าพันธุ์มนุษย์

อย่างน้อยมันก็เป็นเช่นนั้นเมื่อมองแค่ผิวเผิน

และในความสงบที่หายากนี้ ในบรรดาเผ่าพันธุ์มนุษย์ในแดนร้างตะวันออก มีหญิงสาวสองคน ที่กําลังเฉิดฉายราวกับดาวหาง ชื่อของพวกนางเริ่มเข้าหผู้แข็งแกร่งบางส่วน

คนแรกไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเย่หลิงเสวี่ยผู้สืบทอดผู้สืบทอดจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ

ตั้งแต่ที่นางสังหารหลี่หรูชางในเมืองหิมะน้ําแข็งในวันนั้นและดูดกลืนร่างเทพดาราของอีก ฝ่ายไป เย่หลิงเสวี่ยก็ได้เดินบนเส้นทาง กลืนสวรรค์ อย่างเป็นทางการ

ในการฝึกคัมภีร์มหายุทธ์กลืนสวรรค์ ต้องสัมผัสประสบการณ์การสังหารที่นับไม่ถ้วน สังหาร แย่งชิงแก่นแท้ของร่างกายพิเศษต่างๆ และรับพวกมันทั้งหมดมาไว้ ท้ายที่สุดก็จะบรรลุถึงความ เป็นนิรันดร์

นี่เป็นเส้นทางที่ยากเข็ญและนองเลือดอย่างยิ่ง มืดบอดและไร้ซึ่งความหวัง

ดังนั้นเย่หลิงเสวี่ยจึงออกจากสํานักหิมะน้ําแข็งอย่างเด็ดเดี่ยว เดินทางในแดนร้างตะวันออก อันกว้างใหญ่ สรรหาโอกาสและดูดกลืนร่างพิเศษต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง

เย่หลิงเสวี่ยไม่ได้สังหารโดยไม่เลือกหน้า เป้าหมายของนางโดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่เป็นสี่ งมีชีวิตเผ่าพันธุ์โบราณ

แม้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์มนุษย์อยู่บ้าง แต่คนเหล่านั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้ายเช่นหลี่ หวูชาง เป็นเพียงขยะของเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงไม่ต้องเสียใจอะไรหากตายไป

เช่นเดียวกับราชันผู้กําแหงเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่าร่างกายของฝ่ายตรงข้ามจะทําให้จิตใจของ เย่หลิงเสวี่ยสั่นไหว แต่นางก็จะไม่ลงมือ
ความปรารถนาของนางคือการปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์

ถ้านางไม่แยแสสิ่งใดเลย เพื่อที่จะพัฒนาพละกําลังของนาง ไม่ปล่อยแม้แต่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เช่นนั้นนางคงไม่สมควรได้รับมรดกของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญไม่ใช่หรอก?

แน่นอนว่าเส้นทางของเย่หลิงเสวี่ยไม่ได้ราบรื่น ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นางได้พบปะภยันอันต รายมากมายจนเจียนตาย

แต่สุดท้ายก็อาศัยวิชาลับที่บันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณมหายุทธ์กลืนสวรรค์หลบหนีออกมาได้ จนนางที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน

ชื่อของนางเริ่มมีการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่องในหมู่เผ่าพันธุ์มนุษย์ในแดนร้างตะวันออก

แน่นอนว่า เนื่องจากเป้าหมายที่เย่หลิงเสวี่ยเลือกนั้น ล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนหรือ ไม่ก็ขยะและคนชั่วในเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้ว่ามือของนางจะเต็มไปด้วยเลือดแต่ก็ถูกสรรเสริญโดย เผ่าพันธุ์มนุษย์ มีแต่ชื่อเสียงไม่มีชื่อเสีย
นอกจากเย่หลิงเสวี่ยยังมีหญิงสาวที่เจิดจรัสอีกคน นั่นก็คือหยุนรั่วซี

เมื่อเปรียบเทียบกับเย่หลิงเสวี่ย หยุนรั่วซีเป็นที่สนใจกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เนื่องจากการรับมรดกจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญโดยเย่หลิงเสวี่ยนั้นยังไม่มีผู้รู้เห็น

และหยุนรั่วซึมีเลือดของกายาจักรพรรดิไหลเวียนอยู่ในร่างกายของนาง เรื่องนี้ได้กระจายไป ทั่วแดนร้างตะวันออก

ในตอนนี้ หลังจากเกิดเรื่องจอมจักรพรรดิอู่จื่อ ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิที่ปรากฏขึ้นก่อนห น้านี้ย่อมถือว่าเป็นเรื่องจริง

ในวันนั้น ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิได้ถ่ายทอดวิชาให้กับหยุนรั่วซีก่อนจะจากไป ซึ่งไม่ได้ เป็นความลับ

ตอนนี้ หยุนรั่วซึมีสายเลือดกายาจักรพรรดิและถือครองมรดกของกายาจักรพรรดิ์ เป็นธรรมดา ที่นางจะได้รับความสนใจอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นเพราะพละกําลังของผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิ

ผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิสามารถเปรียบได้กับจักรพรรดิโบราณผู้ยิ่งใหญ่

ถ้าหยุนรั่วซี่สามารถเป็นกายาจักรพรรดิได้เช่นกันและเทียบกับจอมจักรพรรดิได้ สถานการณ์ ของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันจะกลับกันโดยสิ้นเชิง
มีผู้สําเร็จวิชากายาจักรพรรดิเขย่าพิภพ แม้ว่าจะเป็นพวกหมื่นเซียนก็ไม่กล้าที่จะรังแกเผ่า พันธุ์มนุษย์อีกต่อไป

เผ่าพันธุ์มนุษย์จะมีอนาคตและความหวังอย่างแท้จริง

และผลงานของหยุนรั่วซีก็ไม่ทําให้ผิดหวังและช่างน่าอัศจรรย์

นางเพิ่งฝึกได้ไม่ถึงเดือนก็ได้ก้าวผ่านถึงสองเขตแดน เขตแดนเสริมโลหิตและเขตแดนชําระ กระดูกตามๆ กันไป และมาถึงยังเขตแดนสะพานศักดิ์สิทธิ์ ราวกับเป็นตํานาน

ไม่เสียทีที่นางมีร่างกายเช่นนี้ หลังจากก้าวผ่านสู่เขตแดนสะพานศักดิ์สิทธิ์ในปีที่สอง นาง ก็ได้ต่อสู้กับเผ่าพันธุ์โบราณสองคนซึ่งมีระดับยุทธ์อยู่จุดสูงสุดของเขตแดนสะพานศักดิ์สิทธิ์ และ ในที่สุดด้วยพละกําลังอันแข็งแกร่ง นางก็ได้จัดการสิ่งมีชีวิตเผ่าโบราณทั้งสองและส่งกลับไปเกิด ใหม่

เมื่อเข้าสู่เขตแดนสะพานศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถจัดการสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์โบราณเขตแดนสะพาน ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดได้

ในตอนนี้ หยุนรั่วซีเมื่อมีร่องรอยของกระแสพลังนิรันดร์ระดับเดียวกันกับกายาจักรพรรดิแล้ว

การเติบโตของเย่หลิงเสวี่ยและหยุนรั่วซี อยู่ในสายตาของฉันม่

เขาก็พอใจอย่างมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหญิงสาวทั้งสองคนนี้เป็นทายาทที่เขาเลือกด้วยตัวเองสําหรับมรดกอันสูงส่ง

ยิ่งพวกนางทําได้ดียิ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าตัวเลือกของฉันม่นั้นถูกต้อง

และในขณะที่ทั้งสองเติบโตขึ้น ฉันม่ก็ให้ความสนใจกับตําแหน่งที่อยู่ของทั้งสอง

ถึงแม้การสังหารราชันบรรพบุรุษทั้งห้าโดยจอมจักรพรรดิอู่จื่อจะนํามาซึ่งช่วงเวลาสั้นๆแห่งความสงบและสันติของมวลมนุษย์

แต่ภายใต้แม่น้ําที่สงบนิ่งเป็นกระแสน้ําเชี่ยวกราดไม่สิ้นสุด

หญิงสาวทั้งสองมีชื่อเสียงในเผ่าพันธุ์มนุษย์ในตอนนี้อาจไม่ใช่เรื่องดี เกรงว่าจะมีผู้ไม่หวังดีจับตาดูอยู่

ในความมืดอันวุ่นวาย ฉินม่ถูกก็ประหลาดใจที่พบว่า หยุนรั่วซีและเย่หลิงเสวี่ยดูเหมือนจะมีความเข้าใจบางอย่างตรงกันและในที่สุดก็มาถึงเมืองเชิงหยางและพบกันที่นั่น