บทที่ 277
บทที่ 277

หลังจากการมาถึงของถังหยิน กองทัพเทียนหยวนที่ได้พักผ่อนมาหลายวันก็เริ่มจัดระเบียบตัวเองใหม่และพากันเดินทัพไปทางใต้

ในเวลานี้เปิงเฮาฉูก็ได้แนะนำถังหยินว่ากองทัพทั้ง 4 แสนของพวกเขาไม่ควรรวมตัวกัน และไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น ด้วยปัจจุบันกองกำลังที่คุ้มกันเขตหลีฮูยังมีไม่ถึง 5 หมื่น จนทำให้การแบ่งแยกออกเป็น 3 กลุ่มกันเข้าโจมตี สร้างความได้เปรียบมากกว่า !

ถังหยินรู้สึกว่าคำแนะนำนั้นสมเหตุสมผลและยอมรับในทันที ทำให้กองทัพปิงหยวนจำนวนแสนคนที่นำโดยมูฉิง กับกำลังทหารจากกองทัพชานชุยที่เหลืออีก 5 หมื่นนายพากันเดินไปทางทิศตะวันตก ในขณะที่กองทัพฉีเฟิงจำนวน 1 แสน 5 หมื่นคนที่นำโดยเปิงเฮาฉูกับแม่ทัพอีกนายไปทางทิศตะวันออก !

ส่วนอีกแสนนายที่เหลือนั้น ก็ติดตามไปพร้อมด้วยทหารม้าเกราะหนักเบสซ่า 3 หมื่นนาย ซึ่งนี่ก็คือเส้นทางตรงกลางของแผนการโจมตีในครั้งนี้ !

กุนซือจากกองทัพเทียนหยวนและแม่ทัพจากกองดังกล่าวไม่ได้คัดค้านการเตรียมการของถังหยินแม้แต่น้อย ทำให้คำสั่งทางการทหารมีผลทันที ก่อนที่กองทัพเทียนหยวนจำนวน 4 แสนนายจะพากันเริ่มก่อตัวเป็นแนวต่อเนื่องกันจนกระทั่งมาถึงหลีฮู

ทันทีที่กองทัพเทียนหยวนปรากฏตัว ซ่งเทียนก็ทราบเรื่องราวต่าง ๆ ได้ในทันที

ในช่วงเวลาที่กองทัพเทียนหยวนเคลื่อนทัพออกจากเขตของเขา ซ่งเทียนก็พลันรีบเรียกหาจ้านอู่ฉางและจ้านอู่ตี้ 2 พี่น้องในทันทีเพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีจัดการกับศัตรู

ซึ่งตามความคิดของจ้านอู่ฉาง หลีฮูนั้นมีกำลังทหารน้อยกว่า 5 หมื่นเสียอีก ทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะป้องกันกองทัพเทียนหยวนได้เลย และแทนที่จะอยู่ในเขตและคอยป้องกัน มันจะเป็นการดีกว่าหรือไม่ที่จะคิดยอมแพ้ และล่าถอยออกจากเมือง ! …และเมื่อรวบรวมกำลังคนได้แล้ว ก็ค่อยเริ่มการต่อสู้ขั้นแตกหักระหว่างซ่งเทียนกับถังหยิน !

ทว่าความคิดนั้นก็ผิดกับซ่งเทียน ที่คิดว่าควรจะป้องกันเขตหลีฮูให้ดี ด้วยการอาศัยความได้เปรียบจากที่ตั้งให้เป็นประโยชน์ ! ซึ่งการทำเช่นนั้น มันก็จะทำให้กองทัพเทียนหยวนเหนื่อยล้า และกลายเป็นเป้าโจมตีที่ง่ายขึ้น !!

พวกที่ปรึกษาส่วนใหญ่พากันเชื่อจ้านอู่ฉางและจ้านอู่ตี้ ด้วย 2 พี่น้องมีเหตุผลและประสบการณ์ในด้านนี้ที่มากกว่า จนทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะทำตามคำแนะนำของจ้านอู่ฉาง คิดอยากให้ซ่งเทียนยอมส่งกองทัพของเขตหลีฮูกลับมาที่เมืองหยาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการป้องกัน

ทว่าซ่งเทียนกลับไม่ได้คิดฟังคำแนะนำของจ้านอู่ฉาง และก็ไม่คิดยอมรับข้อเสนอแนะของจ้านอู่ตี้ที่จะส่งคนไปที่เขตหลีฮูด้วย ดังนั้นเขาจึงหันไปถามเกิงฉวนเกี่ยวกับความตั้งใจของอีกฝ่าย ด้วยในความคิดของซ่งเทียน ไม่ว่าจะปรึกษาพูดคุยกันมากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ไม่สามารถเข้าใจถึงสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างแท้จริง !

ชายชราคิดไม่ผิดที่ถาม เพราะเกิงฉวนนั้นถือได้ว่าเป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ และด้วยความภักดีต่อซ่งเทียนนี่เอง ที่ทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ว่าเขต !

ดังนั้นแล้วหลังจากได้รับคำสั่งของซ่งเทียน เกิงฉวนก็พลันทำการพิจารณาในทันทีว่าตัวเขานั้นจะสามารถต้านทานกองทัพเทียนหยวนได้หรือไม่ !

แม้ว่าพวกมันจะมีกำลังเยอะ แต่พวกเขาก็มีความได้เปรียบด้านพื้นที่ ดังนั้นแล้วถ้าเสริมการป้องกันดี ๆ งั้นแล้วพวกเทียนหยวนก็อาจไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาก็เป็นได้ !

เมื่อคิดได้แบบนั้น เขาก็พลันกล่าวประจบประแจงซ่งเทียน พร้อม ๆ กับทำการพูดจาดูถูกกองทัพเทียนหยวน ว่าด้อยกว่าสุนัขเสียอีก ก่อนที่ในท้ายที่สุดเขาจะเปิดเผยความมุ่งมั่นของตัวเอง กล่าววาจาสาบานว่าเขาจะไม่ถอยแม้ครึ่งก้าวในการต่อสู้ !

หลังจากได้เห็นท่าทีของเกิงฉวน ซ่งเทียนก็พยักหน้าชื่นชม ก่อนที่เขาจะหันไปพูดบอกกันคนอื่น ๆ ว่าการกระทำแบบนี้สิคือความภักดีที่แท้จริง !!

กองทหารของหลีฮูไม่ได้ออกไปไหน เช่นเดียวกับที่ในขณะนั้นเกิงฉวนก็กำลังทำการรวบรวมคนที่แข็งแกร่ง โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่ ! และหากใครกล้าหลบหนี คนพวกนั้นก็จะถูกฆ่าในทันที !!!!

ความสามารถของเกิงฉวนในการรวบรวมคนที่แข็งแกร่งนั้นเหนือกว่าซ่งเทียนมาก เพราะในเวลาเพียงไม่กี่วัน กองทัพกำลังจำนวน 3 หมื่นนายก็ได้ขยายออกเป็น 8 หมื่นนายแล้วในตอนนี้ !

ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะเขายังได้สั่งให้ปิดผนึกทั้งเมืองเอาไว้ และหากไม่มีคำสั่งของเขา ก็ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น !

…และนี่ก็คือการแสดงจุดยืนของเกิงฉวน ที่จะปกป้องเมืองไว้จนกว่าตัวตาย !!!

ทางด้านฝั่งของถังหยิน มาในตอนนี้พวกเขาก็กำลังอยู่ในระหว่างเดินทาง จนกระทั่งมาถึงทางแยก และหยุดทัพพักชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้หลีเทียนกับอัยเจียได้ไปรายงานข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขามีเกี่ยวกับพื้นที่ทางเหนือตอนบนแห่งนี้ !

เนื่องจากเกิงฉวนได้วางกองทัพส่วนใหญ่ไว้ในฝั่งตะวันตก กองกำลังทางตอนเหนือจึงค่อนข้างอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม มันก็มีคนราว 8 พันนายได้ที่ประจำการอยู่ !

หลังจากได้รับรายงานจากหลีเทียนและอัยเจีย ถังหยินก็พลันหัวเยาะเย้ยและพูดอย่างเย่อหยิ่งออกมา “ศัตรูที่แข็งแกร่งงั้นหรือ ? พวกมันก็มีเพียง 8 พันนายเท่านั้น ! กำลังนับแสนของเราสามารถบดขยี้พวกมันได้อย่างง่ายดายยิ่งนัก !”

“…จะว่าไป ใครเป็นผู้นำทัพของพวกมันกัน ?”

อัยเจียที่ตอบว่า “ผู้ว่าเขตชื่อเหมาอัน เขาถูกส่งไปยังชางเป๋ยโดยซ่งเทียนหลังจากการชิงบัลลังก์ ซึ่งข้าก็คิดว่าการที่เขาอยู่ในที่แห่งนี้นั้นเป็นความตั้งใจของซ่งเทียน”

“ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ของซ่งเทียนหรือไม่ก็ตาม แต่ใครก็ตามที่กล้าขวางทาง ข้าก็จะจัดการพวกมันให้หมด !” ถังหยินหันหน้าไปพูดกับชิวเจิ้น “ชิวเจิ้น จัดให้มีทูตมุ่งหน้าไป บอกให้เหมาอันยอมจำนน มิฉะนั้นมันได้ตายอย่างไร้ที่ฝังแน่ !”

“ขอรับนายท่าน !” ชิวเจิ้นพยักหน้า

ตามแผนของถังหยิน ชิวเจิ้นจะส่งพวกทหารระดับต่ำไปยังหลินเฉียวเมืองทางตอนเหนือ เพื่อให้เหมาอันยอมจำนน

เพียง 2 วันต่อมา ก็เป็นหน่วยเนตรนภาที่นำข่าวกลับมา โดยในขั้นต้นก็คือเหมาอันไม่ยอมรับฟังข้อเสนอ แถมยังสังหารทูตแล้วเอาศีรษะของเขาไปห้อยอยู่บนกำแพงเมืองอีกด้วย !

ดวงตาของถังหยินเบิกกว้างจนลูกตาแทบจะออกมาจากเบ้า ก่อนที่ชายหนุ่มจะยกขาถีบโต๊ะจนกระเด็นไกลออกไปพลางกัดฟันแน่น และด้วยเหตุนี้ เขาก็พลันร้องสั่งให้ทั้งกองทัพเตรียมพร้อม ! เพื่อทำการมุ่งหน้าไปยังเมืองหลินเฉียวในทันที !!!

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชิวเจิ้นก็พยายามห้ามปราม “นายท่านอย่าเพิ่งผลีผลามขอรับ ที่อีกฝ่ายทำไปแบบนั้นก็เพื่อยั่วโมโหพวกเรา บางทีเขา… อาจจะวางแผนซุ่มโจมตีก็เป็นได้ขอรับ !”

“ซุ่มโจมตีงั้นหรือ ?” ถังหยินหัวเราะแล้วถาม “ศัตรูมีเพียงไม่กี่พันคน แต่กองทัพของเรามีแสนคน แม้ว่าศัตรูจะซุ่มโจมตี แล้วพวกเขาจะทำอะไรกับข้าคนนี้ได้กัน ?”

หลังจากฟังคำถามของเขา ชิวเจิ้นก็ไม่สามารถตอบได้ ด้วยการใช้กำลังหลักพันปะทะหลักแสนก็เป็นดั่งการเอาไม้ซีกงัดไม้ซุงเท่านั้น !

เมื่อเห็นชิวเจิ้นหน้ามุ่ยและไม่พูดอะไร ถังหยินก็พลันหันไปถามหลีเทียนและอัยเจีย “พวกเจ้าเห็นกองกำลังที่จะมาดักซุ่มโจมตีไหม ?”

หลีเทียนและอัยเจียมองหน้ากันก่อนส่ายหัวและพูดว่า “ไม่เลยขอรับ !”

“ฮึ !” ถังหยินหัวเราะเยาะ ด้วยหากไม่มีกองทหารที่ซ่อนอยู่ และถ้าเนตรนภาและเครือข่ายใยพิภพไม่มีข้อผิดพลาด งั้นแล้วพวกศัตรูก็คงซ่อนตัวอยู่ในเมืองแน่ ๆ ดังนั้นเขาจึงได้โบกมือสั่งว่า “บุกได้ !”

ตามคำสั่งของถังหยิน พวกทหารใต้บังคับบัญชาโดยตรงและทหารม้าเบสซ่าก็พากันออกเดินทาง มุ่งตรงไปยังหลินเฉียว !

ระหว่างทาง ภายใต้การนำของถังหยิน กองทัพผู้ใต้บังคับบัญชาก็ได้บุกทะลวง เข้าโจมตี และยึดครองหลากหลายเมืองในภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง

ถังหยินต้องการบุกเข้าไปในเมืองและจับเหมาอันเพื่อที่เขาจะได้ขจัดความเกลียดชังในใจ ดังนั้นแล้วเขาจึงได้สั่งให้กองทัพทั้งหมดรีบไป ในขณะที่เขานำพี่น้องตระกูลชางกวนกับกองทัพทหารม้าเบาอีก 1 หมื่นมุ่งไปด้านหน้า !

ภายใต้การอาละวาดของถังหยิน ความเร็วของกองทัพใต้บังคับบัญชาของเขาก็ดูจะรวดเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ทำให้เพียงไม่กี่วันก็มองเห็นตัวเมืองหลินเฉียวได้ลาง ๆ แล้ว ๆ

เมื่อเห็นเป้าหมาย ถังหยินซึ่งเป็นผู้นำที่นั่งบนหลังม้าก็พลันหัวเราะเยาะออกมา ก่อนที่เขาจะเอียงศีรษะและถามว่า “ใครกันที่จะเป็นคนแรกที่โจมตี ?”

ทันทีถังหยินพูดจบ หยวนเปียวก็รีบพุ่งไปข้างหน้า ก่อนยกหอกขึ้น แล้วโค้งหัวพร้อมกล่าวอย่างมั่นใจในทันที “ข้ายินดีที่จะไปขอรับ นายท่าน !”

“ดีมาก ! ข้าจะให้เจ้านำทัพ อย่าทำให้ข้าผิดหวังซะล่ะ !”

“ไม่ต้องห่วงนายท่าน ถ้าพวกมันกล้าที่จะออกมา งั้นแล้วข้าก็จะฆ่าพวกมันให้หมด !!! ” ชางกวนหยวนเปียวกล่าวพร้อมเขย่าหอกของเขา จนทำให้เกิดประกายสีเงินที่สาดกระจายไปทั่ว

“ฮ่า ฮ่า ดี ๆ ” ถังหยิน หัวเราะและพยักหน้าให้หยวนเปียว

ทว่าในขณะที่กำลังจะยกทัพเข้าบุกนั่นเอง ก็พลันมีเสียงตะโกนจากด้านหลังที่ดังขึ้น “รายงานขอรับนายท่าน ! มีข่าวร้ายขอรับ !”