ภาค 2 ใต้หล้ายังมีผู้ใดไม่รู้จักท่านอีกหรือ บทที่ 138 เร็วยิ่งกว่าเจ้า!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอพูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า “เหตุมาจากท่านพ่อของข้า ตระกูลเยี่ยนเกาะจ้าวของเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเยี่ยนเกาะนภากลางของข้า”

“เจ้าฝากตัวเข้าเป็นศิษย์ภายใต้ตำหนักอัสนีสวรรค์นั้นจริงอยู่ แต่ตำหนักอัสนีสวรรค์ก็ไม่เคยเอาชนะเขากว่างเฉิงของข้าได้”

“ส่วนตัวเจ้าเอง…” เยี่ยนจ้าวเกอส่ายหัว “ข้ามองไม่ออกเลยจริงๆ ว่าความมั่นใจที่เจ้าพูดถึงนั้นอยู่ที่ไหน”

เยี่ยนซ่านกล่าวอย่างสบายๆ ว่า “ความมั่นใจของข้า ก็อยู่ที่ความห่างชั้นระหว่างเจ้ากับข้า ที่ใกล้กันยิ่งนัก”

ระหว่างที่พูดอยู่นั้น เยี่ยนซ่านก็พลันยกมือขึ้น สำแสงสีม่วงสายหนึ่งสว่างวาบ

ราวกับภายใต้ค่ำคืนที่มืดสนิท พลันปรากฎสายฟ้าแลบวาดข้ามท้องฟ้า ทะลุผ่านผืนฟ้า ส่องสว่างปฐพีที่กว้างใหญ่!

วรยุทธ์สืบทอดหลักของตำหนักอัสนีสวรรค์แห่งอัสนีพิภพ กระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วง!

อาวุธวิญญาณระดับล่าง กระบี่อัสนีทองคำม่วง!

เยี่ยนซ่านลงมืออย่างฉับพลัน ลงมือเพียงครั้งเดียวก็เผยพลังทั้งหมด ทั้งยังใช้อาวุธวิญญาณอีกต่างหาก!

ชื่อของคน เงาของต้นไม้[1]

ช่วงนี้เยี่ยนจ้าวเกอมีชื่อเสียงเกริกก้อง แม้เยี่ยนซ่านจะยังไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระมัดระวัง

เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนซ่านต่างเหมือนกัน หลังจากที่บรรลุขั้นเคียงนภาแล้ว ก็ไม่เก็บรัศมีแสงเหนือศีรษะแต่อย่างใด ไม่เหมือนอาหู่ที่รัศมีแสงไม่ปรากฎออกมาภายนอก

เยี่ยนซ่านอ่านขาดได้อย่างชัดเจน ว่ายามนี้เยี่ยนจ้าวเกอเป็นจอมยุทธ์ปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาเหมือนเช่นเขาแล้ว

ขณะเดียวกับที่กำลังตกใจกับความรวดเร็วในการพัฒนาอย่างรุดหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ ภายในใจของเยี่ยนซ่านก็ยิ่งเปิดเผยเจตนาสังหารที่ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นในฐานะของศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์ หรือจะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลเยี่ยนจากเกาะจ้าว เขาล้วนไม่ยอมให้เยี่ยนจ้าวเกอพัฒนาเป็นใหญ่ต่อไปได้

มิเช่นนั้นด้วยความคืบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ เยี่ยนซ่านถึงขั้นไม่กล้าจะคิดถึงอนาคตภายภาคหน้าเลยทีเดียว

เยี่ยนผู้ไร้เทียมทานเพียงคนเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้ตำหนักอัสนีสวรรค์กับตระกูลเยี่ยนจากเกาะจ้าวกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว!

แม้ปากเยี่ยนซ่านจะกล่าวอย่างเหิมเกริมได้ใจ ทว่าพอลงมือจริงกลับไม่พะว้าพะวงเลยสักนิด

เขาสำแดงลักษณะเด่นของวิถีวรยุทธ์ของตำหนักอัสนีสวรรค์ ที่รุนแรงฉับไวประหนึ่งกับสายฟ้าฟาดออกมาได้อย่างถึงอกถึงใจ กระบวนท่าแรกก็เห็นได้ถึงความจริง ต้องการประลองตัดสินแพ้ชนะ!

การที่มีอาวุธวิญญาณอยู่ในมือ สำหรับจอมยุทธ์ระดับปรมาจารย์ ยิ่งเป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงที่ยากจะต้านทานได้โดยง่าย

ต่อให้เป็นคู่ต่อสู้ที่มีระดับวรยุทธ์เท่าเทียมกัน แม้จะมีอาวุธวิญญาณคุ้มกาย แต่ถ้าตั้งรับได้ไม่ทันท่วงทีหรือโต้ตอบไม่ทันกาล ก็จะถูกเยี่ยนซ่านสังหารในพริบตาด้วยกระบี่เดียวในทันใด!

จอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ประมือกับผู้อื่นเป็นเวลานานน้อยนัก หลายครั้งไม่กี่ยกก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว!

เป็นตายแพ้ชนะ เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น!

โลกแปดพิภพ เป็นที่รู้กันดีว่าท่ามกลางหกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ จอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์เชี่ยวชาญการใช้กลยุทธ์ผู้อ่อนแอเอาชนะยอดฝีมือมากที่สุด

มีบางครั้งที่คู่ต่อสู้ที่มีพลังความสามารถโดยรวมเหนือกว่าจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ แต่กลับถูกจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ที่เทียบเขาไม่ได้โจมตีจนพ่ายแพ้ โดยไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากคำว่า ‘เร็ว’ คำเดียว!

กระบี่รุ้งสะท้านวิชชุม่วง วรยุทธ์สืบทอดหลักของตำหนักอัสนีสวรรค์ วิถีกระบี่ทั้งหมดมีเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือกระบวนท่าชักกระบี่!

กระบี่หนึ่งออกจากฝัก ปรากฎความสวยงามอ่อนช้อย รวดเร็วดุจสายฟ้าแลบ!

วิถีกระบี่นี้ไม่ได้รวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ช่วงที่เร็วที่สุดของกระบี่ ก็คือกระบี่แรกที่ชักออกมาจากฝักนี้!

กระบี่นี้มีความเร็วจนถึงขั้นที่จอมยุทธ์ระดับต่ำกว่าขั้นเคียงนภาลงไป ยากจะสัมผัสรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวออกกระบี่ของเยี่ยนซ่านได้

เกรงว่ากระทั่งกระบี่ปลิดชีพไปแล้วก็ยังไม่อาจเข้าใจได้เลยด้วยซ้ำ ว่าแท้จริงแล้วเยี่ยนซ่านปลิดชีพตนได้อย่างไร!

ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลากลางวัน แต่เยี่ยนจ้าวเกอที่เผชิญหน้ากับปลายกระบี่ของเยี่ยนซ่านโดยตรงกลับมีความรู้สึกหนึ่งขึ้น

ความรู้สึกนั้นคล้ายกับว่าเบื้องหน้าไม่มีแสงสว่างแม้สักนิด จนกระทั่งเกิดสายฟ้าหนึ่งฟาดลงมาท่ามกลางค่ำคืนอันมืดสนิท

แสงสว่างทั้งหมดล้วนรวมอยู่บนสายฟ้าสีม่วงสายนี้!

จิตสังหารอันหนาวสะท้านทำให้สายฟ้าไม่นำพาความรุ่มร้อนสักนิด แต่เป็นความหนาวเหน็บเข้ากระดูก!

ทว่าสายฟ้านี้กลับไม่ได้รวดเร็วไปกว่าขีดการมองเห็นด้วยดวงตาทั้งสองของเยี่ยนจ้าวเกอ

ร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหวฉับพลันทันที ไม่ช้าไปกว่าเยี่ยนซ่านแม้แต่น้อย!

พลังลมนภา คัมภีร์วายุจิตรา!

ท่าวายุอัคคี พลังลม!

ด้วยพลังลมนภาจากคัมภีร์วายุจิตรา และการเคลื่อนไหวกายด้วยพลังลม พลังเพลงกระบี่มังกรลอดเมฆที่เดิมทีก็รวดเร็วฉับไวอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งเร็วมากขึ้นอีก!

ประหนึ่งกับมังกรผ่านฟ้า พริบตาเดียวไปไกลถึงหมื่นลี้!

ครั้นเยี่ยนจ้าวเกอเคลื่อนไหว เบื้องหน้าเยี่ยนซ่านก็พลันขมุกขมัวเช่นกัน!

ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตที่สายตามองเห็น หรือจะท่ามกลางสัมผัสจิตอันว่องไวที่สัมผัสฟ้าดินได้เป็นอันดับแรกของตน เยี่ยนจ้าวเกอล้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

เยี่ยนซ่านตื่นตกใจ กระบี่อัสนีทองคำม่วงในมือสั่นสะท้านอย่างรุนแรง!

เยี่ยนซ่าน จอมยุทธ์ปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาพลันมีปฏิกิริยาตอบโต้ไม่ทันท่วงที ทว่ากระบี่อัสนีทองคำม่วงที่เป็นอาวุธวิญญาณกลับมีปฏิกิริยาตอบโต้ออกมา

กระบี่อัสนีทองคำม่วงที่มีสติปัญญามากเกิดการกระตุ้นในทันที แสงกระบี่กลายสภาพเป็นเส้นโค้งครึ่งวงกลม

ในตอนนี้เอง เยี่ยนซ่านถึงรู้สึกได้ว่าเส้นผมด้านหลังศีรษะของตนลุกซู่ทั้งหมด คล้ายกับว่ามีความหนาวเหน็บที่ไร้ขีดจำกัดรวมอยู่ตรงนั้น ทั้งยังทำให้รู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง

เยี่ยนซ่านไม่กล้าลังเลแม้แต่นิดเดียว พลังกระบี่หรือการเคลื่อนไหวล้วนเคลื่อนไปตามการนำของกระบี่อัสนีทองคำม่วง หันกายกลับนำกระบี่ปะทะทางด้านหลัง

เขากัดฟันกรอด กระบี่อัสนีทองคำม่วงในมือสั่นระริก

วิชาสืบทอดของตำหนักอัสนีสวรรค์ กระบี่สายฟ้าเจ็ดสิบสองกระบวนท่า การสืบทอดของตำหนักอัสนีสวรรค์!

แสงกระบี่ที่บ้าคลั่งถี่ยิบดุจฝนพรำ รวดเร็วประหนึ่งสายฟ้าแลบ ชั่วพริบตาเดียวด้านหน้าก็กลายเป็นแหสายฟ้า แสงสีม่วงแผ่ไปทั่วทุกหนแห่ง ปิดฟ้าพรางดิน

ถึงกระนั้นบริเวณกลางแหสายฟ้าแสงสีม่วงนั้น พลันมีแสงสีเขียวแสงหนึ่งทะลุผ่านแสงสีม่วงถี่ยิบ ส่องทะลุลอดออกมา!

สถานการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่ากระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอรวดเร็วยิ่งกว่า!

ครู่ต่อมา แสงสีม่วงทั่วท้องฟ้าก็สูญสิ้น

บัดนี้เสียงลมคำรามเพิ่งดังเข้าไปยังหูของเยี่ยนซ่าน เขารู้สึกเพียงว่าเหมือนกับถูกลมที่โหมพัดอย่างบ้าคลั่งโอบล้อมเอาไว้

เยี่ยนซ่านมองดูประกายกระบี่ที่ตนปล่อยออกไปทั้งหมดสูญสิ้น ลูกตาดำก็พลันหดเล็กลงทันที รีบเปลี่ยนกระบวนท่าอีกครั้ง

ทว่าครั้งนี้ แสงกระบี่ที่คล้ายกับสายฟ้าสีม่วงกลับไม่ได้ปรากฏอีกครั้ง

เขาชะงักค้าง จากนั้นก็เห็นแขนข้างหนึ่งหลุดขาด ในกำมือยังคงถือกระบี่ยาวแสงม่วงเล่มหนึ่งอยู่ ลอยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า

บริเวณที่แขนขาดมีโลหิตสดไหลหยดลง พรมลงบนพื้นหิมะสีขาวสะอาด

ร่างกายเยี่ยนจ้าวเกอปรากฎขึ้นอีกครั้ง มือขวาถือกระบี่วิญญาณมังกรมรกต มองดูคู่ต่อสู้ของตนอย่างสงบนิ่ง

ตอนนี้เองเยี่ยนซ่านถึงได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ส่งผ่านมาจากต้นแขนขวา ครั้นก้มศีรษะลงไปมอง มือขวาที่เขาถือกระบี่อยู่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฟันขาดด้วยกระบี่เดียวแล้ว!

กระบี่นี้ของเยี่ยนจ้าวเกอรวดเร็วยิ่ง ถึงขั้นที่เยี่ยนซ่านไม่ทันจะสัมผัสได้ ก็ถูกกระบี่ตัดแขนขาดเรียบร้อยแล้ว!

เยี่ยนซ่านร้องอย่างน่าเวทนา มือซ้ายกุมปากแผลที่ต้นแขนขวา ร่างถอยโซซัดโซเซไปข้างหลัง

กระทั่งถึงตอนนี้ คนอื่นที่มุงดูอยู่โดยรอบถึงได้เหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน แต่กลับไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด

ในสายตาของผู้คนเกือบทั้งหมด เบื้องหน้ามีเพียงความขมุกขมัวเท่านั้น ราวกับว่ามีประกายกระบี่สองวิถี ม่วงและเขียวสว่างวาบ

จากนั้นก็เห็นแขนข้างหนึ่ง พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!

ตอนที่ประมือ คล้ายกับว่ามีระยะเวลาแค่พริบตาเดียวเท่านั้น

เยี่ยนหมิ่นและคนอื่นเบิกตาโพลง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ เหตุการณ์ถึงได้กลายเป็นเช่นนี้

“ความห่างชั้นระหว่างข้ากับเจ้านั้นใกล้กันยิ่ง” เยี่ยนจ้าวเกอมองไปทางเยี่ยนซ่านที่ล้มอยู่บนพื้นด้วยความสงบนิ่ง “แล้วอย่างไรเล่า”

เยี่ยนซ่านใช้มือห้ามเลือดตนเองอย่างเร่งด่วน

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความรู้สึกยากจะปักใจเชื่อ

ถึงแม้ว่าจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์จะป่าวประกาศอย่างภาคภูมิใจเสมอมา ว่าวิชาวรยุทธ์ทั่วหล้ายิ่งว่องไวก็ยิ่งมีชัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจอมยุทธ์ตำหนักอัสนีสวรรค์ที่มีระดับวรยุทธ์เท่ากันจะไร้เทียมทานจริงๆ

เป็นที่รู้กันดีในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใหญ่ทั้งหกว่า ศิษย์ตำหนักอัสนีสวรรค์เอาเปรียบผู้สืบทอดดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ไปไม่น้อย ทว่าก็เสียเปรียบไม่น้อยเช่นกัน

เคยมีศิษย์เขาไร้พรมแดนกล่าวติดตลกเอาไว้ว่า ตำหนักอัสนีสวรรค์มีความคมกริบแค่เพียงยามเพิ่งลงมือเท่านั้น หากไม่สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว ภายหลังก็เป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อย

ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับใช้ความแข็งแกร่งเอาชนะความแข็งแกร่งได้ เอาชนะกระบี่ออกจากฝักและความเร็วที่เยี่ยนซ่านภาคภูมิใจมากที่สุดไปได้!

นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่เยี่ยนซ่านยากจะยอมรับได้!

ไม่เพียงแค่พ่ายแพ้ ทว่ายิ่งพ่ายแพ้ยับเยิน!

เยี่ยนหมิ่นและคนของตระกูลเยี่ยนจากเกาะจ้าวคนอื่นๆ ยิ่งหน้าซีดดุจขี้เถ้า

เพราะเยี่ยนซ่านคือจอมยุทธ์อัจฉริยะ ที่โดดเด่นที่สุดในตระกูลเยี่ยนจากเกาะจ้าวของรุ่นนี้!

เขาที่ผ่านการอบรมบ่มเพาะจากตำหนักอัสนีสวรรค์ ยิ่งเป็นหนึ่งในบุคคลที่เป็นอัจฉริยะที่สุด ในบรรดารุ่นเยาว์ของตำหนักอัสนีสวรรค์แห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์อัสนีพิภพ

เขาซึ่งเป็นปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะต้น อย่าได้กล่าวว่าจอมยุทธ์ตระกูลเยี่ยนเกาะจ้าวระดับวรยุทธ์เดียวกันจะไร้ผู้เทียมทาน กระทั่งแม้แต่จอมยุทธ์ตระกูลเยี่ยนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์ขั้นเคียงนภาระยะกลางต่างก็ต้องยอมศิโรราบ

ถึงกระนั้นบุตรสวรรค์ที่เป็นที่โปรดปรานเช่นนี้ เพียงช่วงพริบตาเดียว ก็ถูกเยี่ยนจ้าวเกอโจมตีจนปราชัย!

………………..

[1] ชื่อของคน เงาของต้นไม้ หมายถึง ชื่อเสียงมีมาก ผู้เล็กผู้น้อยก็สามารถมาพึ่งพิงบารมีของคนผู้นั้นมาปกป้องตนเองได้ เงาต้นไม้มีมากก็ให้ความร่มเย็นกับกลุ่มผู้ประสบกับความร้อนผ่าวได้