บทที่ 219 หนึ่งหมื่นปะทะหนึ่งล้าน!
ในช่องการถ่ายทอดสด มีคอมเม้นวิ่งผ่านบนหน้าจอมากมาย
ไม่มีใครคิดว่าเจ้าเวรกรรมจะชนะได้ ทุกคนล้วนคิดว่าเป้าหมายหนึ่งหมื่นคนนี้จะต้องตายทุกคนแน่…
เพราะความแตกต่างมีมากเกินไป หนึ่งหมื่นกับหนึ่งล้าน นี่มันบ้าบออะไรกัน?!
แม้ว่าทุกคนจะได้รับการฝึกฝนจนมีความสามารถถึงขั้น 1 คน รับมือ 100 คนได้ แต่ว่าหนึ่งต่อร้อยกับหมื่นต่อล้านมันไม่เหมือนกันหรอกนะ…
การเปลี่ยนแปลงเชิงปริมาณทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ
เจ้าเวรกรรมฆ่าคนร้อยคนได้ ฆ่าคนนับพันได้ หลอกคนนับหมื่นไปตายได้ แต่ว่าเขาจะสามารถฆ่าคนนับล้านได้งั้นเหรอ?!
แน่นอนว่าไม่…
เจ้าเวรกรรมตายแน่ ต่อให้เป็นเทพเซียนมาจุติ ก็หมดหนทางแล้ว!
ในเวลานี้ สงครามเริ่มขึ้นแล้ว!
“ดาบพิชิตมังกร กระบี่สวรรค์ อยู่แค่เพียงเอื้อมมือ ทุกคน…บุก!”
เสียงตะโกนของผู้คนนับล้านสั่นสะเทือน แผ่บรรยากาศปกคลุมไปทั่วผืนฟ้า เมื่อเผชิญกับสถานการณ์นี้ ผู้คนนับหมื่นที่รอคอยในการต่อสู้เต็มรูปแบบ แต่ละคนต่างสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างต่อเนื่อง ระงับความตื่นตระหนกในหัวใจของเขาก่อนจะจับอาวุธในมือแน่น เหงื่อออกทั่วร่างกายอย่างประหม่า
แต่ไม่มีผู้ใดถอยแม้คนเดียว!
“พี่น้องทุกคน ฉันจะเริ่มบุกให้พวกนายเอง!”
ระยะห่างของทั้งสองทัพอยู่ที่สองพันเมตร ซูเย่โบกดาบเล่มเขื่องในมือ พลันส่งเสียงตะโกน แล้วขี่เฉิงหวงบุกเข้าไป
“เมามายหลับพับกลางสนามรบสหายอย่าได้นึกเยาะข้า แต่โบราณมามีกี่คนหนอกลับคืนเรือน ฮ่า…ๆๆ!”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วฟ้า หนึ่งคน หนึ่งสัตว์พาหนะ บุกทะยานเข้าสู่ทัพหนึ่งล้าน
ฉึก!
เสียงดาบดังขึ้น ท่วมท้นไปกับเสียงตะโกนสังหารและเสียงฝีเท้าของผู้คนนับล้าน
เสี้ยววินาทีทั่วทั้งผืนฟ้า ฟ้าร้องกึกก้อง อัสนีฟาดฟัน ดาบกระบี่พุ่งตรงมาประกายแสงพาดผ่าน ราวกับหยดน้ำในมหาสมุทรรวมตัวกันเป็นเกลียวคลื่น…พุ่งเข้าจู่โจมซูเย่ที่กำลังขี่เฉิงหวงอยู่
ทันใดนั้นภายใต้เงาดาบ หนึ่งคน หนึ่งสัตว์พาหนะราวกับเข้าสู่เมืองร้าง ทุกที่ที่ก้าวผ่าน…ก็มีประกายแสงเย็นวูบวาบ
หลายสิบคนถูกฟันร่างขาดในทันที ร่างกายจางหายไปจากที่เดิม พุ่งชนราวกับสว่านไฟฟ้าที่หมุนจนสุดขั้ว บดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เมื่อเห็นฉากที่ปรากฏเบื้องหน้า เป้าหมายหนึ่งหมื่นคนที่กำลังรอการต่อสู้ก็ถูกกระตุ้นจนเลือดในตัวของพวกเขาเดือดพล่านทันที บุกทะยานเข้าไปฆ่าหลายร้อยคน
ซูเย่หันกลับมาและพุ่งตัวออกจากฝูงชนนับล้าน
ในตอนที่ทุกคนคิดว่าซูเย่กำลังถอยหนี เขาก็พุ่งกายเข้าไปในกลุ่มคนอีกครั้ง
แล้วสังหารคนนับร้อย
ซ้ำไปซ้ำมา เป็นเช่นนี้ถึงสิบครั้ง…ยับยั้งฝีเท้าของทัพใหญ่ที่กำลังบุกเข้ามาได้
ครั้งที่ 11
ไม่ได้มีเพียงเขาเท่านั้น เบื้องหลังยังมีผู้คนนับหมื่นที่มีจิตวิญญาณการต่อสู้เต็มเปี่ยม ประกอบเป็นกระบวนทัพรูปแบบต่าง ๆ อยู่เบื้องหลังเขา
“ฆ่ามัน!”
ทุกคนต่างโห่ร้องดังลั่น
แม้เสียงจะไม่ดังเท่าผู้ล่านับล้าน แต่บรรยากาศที่แผ่ออกมาไม่ต่างกันเลย แข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำ!
เพราะพวกเขาพร้อมที่จะสละแม้ชีวิต!
ตู้ม…!!!
สองทัพเริ่มปะทะกันอย่างดุเดือด
ที่ด้านหลัง…ไป๋จือหรานประกาศคำสั่งที่สอง ซึ่งประกาศได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า…
“กระบวนทัพนกเป็ดน้ำร่วมมือกับการโจมตีของกระบวนทัพรูปลิ่ม กระบวนทัพจันทร์เสี้ยวขยายแนวหน้าเพื่อต่อต้านศัตรูที่ล้อมรอบทั้งสองด้าน ห้ากระบวนทัพหานซิ่นตีกระบวนทัพฝ่ายตรงข้าม และกระบวนทัพจัตุรัสคอยร่วมมือกับกระบวนทัพอื่นๆ!”
ทุกคนเห็นแล้ว ผู้เล่นธรรมดาไม่เข้าใจ แต่หัวหน้ากระบวนทัพทุกคนเข้าใจได้ทันที…
สั่งกระบวนทัพของเขาอย่างรวดเร็วเพื่อแปรกระบวนทัพที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กระบวนทัพสี่เหลี่ยมจัตุรัสเล็ก ๆ ที่มีผู้คนเพียงหนึ่งหมื่น กลายเป็นหนามแหลมคมนับไม่ถ้วนในทันที และบุกทะลวงเข้าไปในกลุ่มผู้ล่าที่หนาแน่นอย่างดุเดือด
เสี้ยววินาที…เสียงร้องของความเจ็บปวดและความตื่นตระหนก และเสียงวิ่งหนี กลบเสียงแห่งการฆ่าฟันไปจนหมด…
ทุกคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสด พวกเขาต่างตกตะลึงกับฉากตรงหน้า
พวกเขาทั้งหมดเป็นคนสมัยปัจจุบัน เคยเห็นฉากรบพุ่งในสงครามโบราณเสียที่ไหน แต่ตอนนี้เบื้องหน้าพวกเขาราวกับการรบพุ่งในสนามรบสมัยโบราณอย่างสมบูรณ์แบบ…
ท่ามกลางการสู้รบอันดุเดือดระหว่างสองทัพ พวกเขาเห็นคนถูกตัดมือตัดเท้าฟันหัวขาด…!
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงเกม เป็นแค่ภาพลวงตา แม้ว่าผู้เล่นทั่วไปทุกคนจะไม่รู้สึกเจ็บปวดก็ตาม แต่ทว่าการต่อสู้อันดุเดือดที่ปรากฏต่อหน้าพวกเขายังคงทำให้ทุกคนตกใจอย่างสุดซึ้ง
พวกเขาเพิ่งเข้าใจ สงครามที่พวกเขาคิดเอาไว้ กับสงครามที่แท้จริงอันทรหดไม่เหมือนกันเลยสักนิด!
หนึ่งนาที 10 นาที 30 นาที 1 ชั่วโมง……
ข้อความสั่งข้อความแรก 3 ข้อความ 6 ข้อความ 10 ข้อความ…
ผู้ชมทุกคนมองดูฉากเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย…หนึ่งหมื่นคนแม้ว่ากำลังคนจะเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ แต่กระบวนทัพยังคงไม่สั่นคลอน
ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะยืนหยัดได้นานขนาดนี้ ยิ่งไม่คิดว่าพวกเขาจะฆ่าศัตรูเลือดไหลนองเป็นสาย…
สองชั่วโมงผ่านไป… ยังคงไร้ผลแพ้ชนะ…
ระหว่างสงครามที่ดุเดือด…ค่ายกลนกเป็ดน้ำถูกตีพ่าย
จางจงหมิงอยู่ตรงกลาง ถือดาบมือใหม่อยู่ในมือ เผชิญหน้าหลายกับคนร้อยคนที่ปิดล้อมเขา แต่ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
“ฮ่า…ๆ วันนี้ฉันไม่ใช้ดาบเวหาหรอกนะ!”
“มาสิ มาฆ่าฉันสิ!”
“ดาหน้ากันเข้ามา!”
จางจงหมิงโบกดาบมือใหม่ในมือของเขาพลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลันทะยานเข้าไปในฝูงชนที่ปิดล้อมเข้ามา ปล่อยให้ทักษะการต่อสู้ที่ทรงพลังและน่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วนโจมตีตัวเขา เขายังโบกดาบในมือเพื่อฆ่าฟันคนจำนวนมาก จะตายก็ตายไปด้วยกัน!
ซูเย่อยากจะเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันเสียแล้ว และเมื่อเขาเห็นจางจงหมิงสู้จนตาย ดวงตาของเขาก็สั่นไหวอย่างรุนแรง เขารีบทะยานเข้าสู่กองทัพศัตรูอีกครั้ง ทุกที่ที่เข้าก้าวผ่านล้วนมีกองกระดูก!
ห่างออกไปไม่ไกล กระบวนทัพรูปลิ่มขนาดใหญ่ถูกล้อมโดยผู้คนนับไม่ถ้วนอย่างบ้าคลั่ง
กระบวนทัพรูปลิ่มพลันสลายตัวลงราวกิ่งไผ่ที่แตกหัก…
“กระบวนทัพรูปลิ่มถูกตีแตก เปลี่ยนไปตั้งกระบวนทัพนกเป็ดน้ำ!”
คำสั่งอันดับที่ 34 ของไป๋จือหรานส่งมาปรากฏบนท้องฟ้า…
กระบวนทัพรูปลิ่มที่เกือบจะมอดม้วย เริ่มสลายตัวลง ตั้งเป็นกระบวนทัพนกเป็ดน้ำหลายกระบวนทัพในทันที และพุ่งออกไปแต่ละทิศอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นก็มีคนหันมาโจมตีไป๋จือหรานในระหว่างการต่อสู้อันดุเดือด…
แสงดาบส่องผ่านดวงตาของไป๋จือหราน ในขณะที่หลบการโจมตีนั้น หน้ากากที่สวมบนใบหน้าของเธอหลุดออกมาเผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงามของเธอ
ในชั่ววินาทีนั้นเอง…ทุกคนที่พุ่งเข้าหาหยุดลงโดยพลัน แต่ละคนถูกใบหน้าของไป๋จือหรานทำให้ตกตะลึง!
ผู้ชมที่รับชมการถ่ายทอดสดถึงกับตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง
พวกเขาคิดไม่ถึงว่าหญิงสาวที่สร้างความประทับใจให้พวกเขาด้วยการออกคำสั่งที่เฉียบขาดเมื่อสองชั่วโมงที่แล้วจะสวยขนาดนี้!
“ฆ่ามัน!” ไป๋จือหรานสั่งเสียงเย็น ไม่ไว้ไมตรีไม่แต่น้อย นำกระบวนทัพนกเป็ดน้ำพุ่งเข้าไปฆ่าคนที่กำลังตกตะลึง ไม่ละเว้นแม้เพียงคนเดียว
ห่างออกไปไม่ไกล เหล่าผู้เล่นฝึกยุทธ์ที่มีชื่อสีแดงกำลังเครื่องร้อนได้ที่ พากันบุกฆ่าอย่างไร้ความขลาดกลัว…
บริเวณรอบ ๆ มีสหายร่วมรบถูกสังหารโดยผู้คนนับไม่ถ้วน…
มีศัตรูถูกตัดศีรษะโดยสหายร่วมรบ…
ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าล้วนกระตุ้นเลือดในหัวใจให้เดือดพล่านอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะผู้เล่นฝึกยุทธ์ที่บาดเจ็บบางส่วน ภายใต้ความเจ็บปวดที่รุนแรง พวกเขาก็ระเบิดพลังอันน่าเหลือเชื่อออกมาต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง
คนที่ยังสู้ไหวก็รีบเร่งสังหาร…คนที่ไม่ไหวแล้วก็จริง แต่ก็ไม่แสดงความหวาดกลัวต่อความตายออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
แต่ละฉากที่ปรากฏ ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์ที่กำลังดูต้องเบิกตาอ้าปากค้าง มองดูจนเลือดในกายเดือดพล่าน
คนดูอยากให้คนชื่อสีแดงเป็นฝ่ายชนะโดยไม่รู้ตัว และอยากเห็นพวกเขาปราบศัตรูที่ยากจะต่อกรได้!
ซูชือ ซึ่งเดิมเป็นหัวหน้ากระบวนทัพรูปลิ่มได้รีบไปที่กองทัพศัตรูเพียงลำพังหลังจากที่กระบวนทัพแยกตัวลง
สมาชิกกระบวนทัพของเขาตายอย่างอนาถ ไม่สามารถตั้งกระบวนทัพขึ้นใหม่ได้
“ฉันเคยตายไปแล้วครั้งหนึ่ง คิดว่าฉันจะกลัวตายอีกครั้งหรือไง?”
เสียงคำรามเขย่าท้องฟ้า
ซูชือกำมือแน่นและใช้หมวยจีนโบราณ บรรยากาศรอบตัวของเขาพุ่งสูงขึ้น ทะยานเข้าไปในฝูงชนอย่างบ้าคลั่งต่อสู้กับคนมากกว่า 30 คนด้วยตัวคนเดียว
เมื่อหมดแรงก็หัวเราะรอความตาย
แต่ว่า…สหายร่วมรบของของจะยอมได้อย่างไร!
เฉินเซียนเยว่แห่งพรรคถูโช่วจย้าเทียน นำค่ายกลนกเป็ดน้ำรุดมาช่วยซูชือที่เกือบพลีชีพในสนามรบ
ในอีกด้านหนึ่ง
จินฟานที่อยู่ในห้ากระบวนทัพหานซิ่น รีบเข้าไปท่ามกลางศัตรูเพื่อตีกระบวนทัพของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทันทีที่เขาเข้าสู่กระบวนทัพฝ่ายตรงข้าม ก็ถูกโจมตีจากผู้คนจำนวนมาก
“ฟังฉันให้ดี ต่อให้ตายก็ต้องรักษาเส้นแนวนี้ไว้ ต่อให้ตายก็ต้องฆ่าล้างพวกมันไปด้วย!”
จินฟานกำมือแน่นตะโกนขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่ต้านศัตรูรอบตัวเขาอย่างดุเดือนเลือดพล่าน โดยไม่สนใจว่าศัตรูที่อยู่ห่างออกไปจะโจมตีเขายังไง
ความเจ็บปวดรวดร้าวซึมเข้าสู่ความรู้สึกครั้งแล้วครั้งเล่า มันเจ็บปวดมากจนแทบจะทนต่อไปไม่ไหว…
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้เขาก็ยังจะยืนหยัด พิทักษ์เส้นแบ่งใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา โจมตีศัตรูทุกคนที่พยายามจะเข้าใกล้ แม้ว่าร่างกายของเขาจะสั่นเทาด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงไม่ถอย!
เขายืดหยัดอยู่เป็นเวลานาน
“ที่เหลือฝากด้วยนะ…”
ในที่สุด จินฟานที่ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วก็ล้มลง มองผู้คนหลายสิบคน โบกอาวุธมีคมจากหลายทิศทาง พุ่งมายังร่างของตัวเอง
เขารู้ดีว่าตัวเองกำลังจะถูกฉีกกระชากออกจากกัน
แต่ในตอนนี้เอง
“ฉัวะ!”
ประกายแสงเย็นพาดผ่าน ผู้คนหลายสิบคนที่ปิดล้อมเขาหายไปในทันทีหลังจากนั้น เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกจับยกขึ้น…
เป็นซูเย่…!
สวบ…!
ราวกับทุกสิ่งกำลังเอนเอียง ซูเย่ส่งจินฟานไปที่กลุ่มด้านหลัง
“ดูดซับหยกปราณ ฟื้นฟูเลือดก่อน!”
ซูเย่โยนหยกปราณธรรมดาชิ้นหนึ่งให้จินฟาน จินฟานรีบรับมาทันที
สงครามยังคงดำเนินต่อไป…สนามรบเต็มไปด้วยซากศพที่ยังไม่ทันได้จางหายไป ความจริงไม่มีหยดเลือดให้เห็นเลยแม้แต่หยดเดียว…
แต่จำนวนคนลดลงอย่างเห็นได้ชัด
…ผู้ฝึกยุทธ์ชื่อสีแดงหมื่นคน หลังจากการรบอย่างดุเดือด เหลือเพียงสามพันคน
ทางด้านผู้ล่าซึ่งมีอยู่เกือบหนึ่งล้านคน ได้เสียชีวิตไปแล้วสี่ถึงห้าแสนคน
การต่อสู้แพ้ 50 ต่อ 70!
สัดส่วนของผู้คนในสนามรบยังคงไม่สมดุลกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเนื่องจากการปะทะที่รุนแรงก่อนหน้านี้
ผู้เล่นฝึกยุทธ์ชื่อสีแดงบ้าคลั่งมากขึ้นยามที่พวกเขาต่อสู้ ความหมดหวังที่พร้อมสละแม้ชีวิตของพวกเขา ทำให้แม้แต่ผู้ชมก็รู้สึกหวาดกลัว
ผู้ล่าหลายแสนคนก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเองก็หวาดกลัว ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าอีกต่อไป…พวกเขาเห็นซากศพจำนวนมากอยู่รอบ ๆ ตัวพวกเขา และศพเหล่านี้ก็ค่อย ๆ สลายไป
ถ้าหากซากศพไม่สลายไป เบื้องหน้าพวกเขาในยามนี้คงเป็นภูเขาซากศพ!
ซูเย่ยืนอยู่ต่อหน้าคนที่เหลือเพียงสามพันคน…!
เขาได้รับข้อความส่วนตัวจากไป๋จือหราน และคำสั่ง 35 ข้อความถูกใช้หมดแล้ว
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ยกดาบเล่มใหญ่ในมือขึ้น
“พี่น้อง…!”
เขาจ้องมองไปที่ผู้คนหลายแสนคนที่ยังคงเหยียบย่ำซากศพนับไม่ถ้วน แล้วตะโกน “บุก!”
สามพันคนตอบกลับพร้อมกัน
“บุก!!” พวกเขาพุ่งทะยานไปตามหลังซูเย่
พวกเขาพร้อมสละชีวิต! พี่น้องรอบตัวพวกเขาตายไปแล้ว พวกเขายังต้องฆ่าต่อ…ฆ่าให้มากกว่านี้!
ทุกที่ที่ย่าวก้าวไปถึง…ล้วนปรากฏแต่กองศพ
มันไม่เหมือนการฆ่าฟัน…มันเหมือนราวกับกำลังเก็บเกี่ยวข้าวสาลี และทุกคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพวกเขาก็ถูกเก็บเกี่ยวลงมา
วินาทีนี้ ในบรรดาผู้คนนับแสนที่เหลือ พวกเขาทั้งหมดเริ่มตื่นตระหนกและเสียใจ
ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? ทำไมถึงอยากเป็นศัตรูกับคนบ้าพวกนี้?
ไปฟันมอนสเตอร์อัพเวลมันไม่ดีตรงไหน? ทำไมถึงอยากมาหาความท้าทายที่นี่ด้วย ทำไมต้องเผชิญกับความน่ากลัวนี้ด้วย?
ท่ามกลางความตื่นตระหนก ในบรรดาผู้ล่าหลายแสนคน มีหนึ่งกลุ่มที่หันหลังหนี
แล้วก็กลุ่มที่สอง…กลุ่มที่สาม…
ความหวาดกลัว แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว…
พวกเขาสูญเสียจิตวิญญาณในต่อสู้ และจิตใจที่ถูกความกลัวกัดกินทำให้พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องจริง พวกเขาไม่อยากตาย พวกเขาต้องหนี!
ผู้เล่นชื่อสีแดงสามพันคน ตามไล่ฆ่าคนนับแสน!