ตอนที่ 457 อยากจะทำลายเธอจริงๆ... / ตอนที่ 458 เห็นใจเธอจริงๆ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 457 อยากจะทำลายเธอจริงๆ…

ทว่าคำพูดของฉีน่าก็ไม่อาจเปลี่ยนความตั้งใจของเจียงหรงหรงไปได้ เพื่อที่จะปกป้องเฉินเชียนโหรวอย่างสุดกำลัง เจียงหรงหรงถึงขั้นวางแผนให้คนในบริษัทจงใจลงไปให้สัมภาษณ์กับนักข่าว

“เนื้อเพลงเธอเป็นคนแต่ง? จี้อี้ไม่ส่งเพลงดีๆ ให้บริษัทมาหลายปีแล้วนะ จู่ๆ เธอก็มาบอกว่าเพลงของเชียนโหรวเป็นของตัวเอง? ฉันไม่รู้จริงๆ ว่านี่เกิดอะไรขึ้น แต่มันจะบังเอิญเกินไปไหม”

“จริงด้วย ไม่ช้าไม่เร็ว แต่ดันเป็นเวลานี้พอดีเป๊ะ…”

“เธอนี่แหละต้นแบบของคนที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าไม่ได้ โรคขี้อิจฉา ไม่ได้รับการรักษา!”

“น่าจะเป็นเพราะหลายปีมาแล้วที่บริษัทไม่เคยให้เงินซัพพอร์ต เธอเลยคิดแก้แค้นบริษัทล่ะสิท่า! จิตใจคนเราหนอ น่ากลัวจริงๆ!”

ทุกถ้อยคำล้วนแล้วแต่เป็นน้ำครำที่สาดใส่จี้อี้ถังแล้วถังเล่า

หนึ่งคนสองคนยังพอว่า แต่ถึงขนาดที่คนห้าหกคนพากันพูดเช่นเดียวกัน เช่นนั้นจี้อี้คนนี้ก็คงจะมีปัญหาจริงๆ!

เวลานี้คนที่อยู่ข้างจี้อี้บนอินเตอร์เน็ตเริ่มร่อยหรอลงไปทุกที จี้อี้ที่แต่เดิมก็หัวเดียวกระเทียมลีบอยู่แล้ว มาตอนนี้เธอยิ่งกลายเป็นผู้ต้องขังที่ปลดปล่อยตัวเองไม่ได้!

หนำซ้ำในตอนนี้ หายนะก็ได้ย่างกรายเข้ามาอีกครั้ง!

ในทุกแพลตฟอร์มดนตรีใหญ่ๆ ล้วนปรากฏให้เห็นเด่นชัดว่าผู้ประพันธ์เพลงนี้ขึ้นมาคือหลินสื่อเจีย และเฉินเชียนโหรวก็เพียงแค่มีส่วนร่วมในการเรียบเรียงทำนองเท่านั้น ดังนั้นแน่นอนว่านักข่าวส่วนหนึ่งจึงไม่อาจละเลยบุคคลสำคัญอย่างหลินสื่อเจียไปได้!

แรกเริ่มเดิมทีชาวโซเชียลก็โจมตีหลินสื่อเจียอยู่ไม่น้อย แต่หลินสื่อเจียก็ทำเพียงแค่ออกมาโพสต์ข้อความหนึ่งบรรทัดห้าตัวอักษรลงบนเว่ยป๋อเท่านั้น

[ชั่วดีอยู่ในอก!]

หลังจากนั้นนักข่าวที่เพ่งความสนใจไปยังหลินสื่อเจียมาตลอดก็พบว่า จู่ๆ เขาได้นัดพบกับทนายในร้านกาแฟ ทั้งยังเป็นทนายด้านการคุ้มครองสิทธิ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในผิงเฉิงอย่างทนายโจวเฟิงฟา!

เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง หลินสื่อเจียจึงถูกห้อมล้อมไปด้วยนักข่าวอย่างไม่ต้องสงสัย!

“โปรดิวเซอร์หลิน ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ ไม่ทราบว่าคุณออกมาพบทนายโจวเพื่ออะไรคะ”

“เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่จี้อี้คัดลอกบทเพลงครั้งนี้ไหมคะ”

“ในฐานะที่คุณเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ซื่อ คุณจะยื่นฟ้องคุณจี้อี้ไหมคะ”

หลินสื่อเจียขมวดคิ้ว “ผมเองก็ไม่มีทางเลือก ครั้งนี้จี้อี้วู่วามเกินไปแล้วจริงๆ ผมไม่มีทางรับในสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อดนตรีได้แน่นอน!”

“ชื่อเสียงกับดนตรี มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยสักนิด! แต่เธอ…กลับใช้ประโยชน์จากดนตรีเพื่อสนองความอยากดังของตัวเอง มันเป็นการทำให้ดนตรีต้องมัวหมอง! อุดมการณ์ต่างกัน อยู่ร่วมกันยาก ต่อให้เธอเป็นลูกสาวของอาจารย์ ผมก็ไม่ปล่อยไว้หรอก!”

หลังจากคำพูดนั้นถูกเปล่งออกมา นักข่าวทุกคนก็ต่างพากันตะลึงงัน นี่มันควรเรียกว่าอะไร พี่น้องไม่สำคัญกว่าความถูกต้อง!

ในเวลานั้น นักข่าวที่รวบรวมสติกลับมาได้เร็วกว่าใครก็ได้เอ่ยถามขึ้น “ดังนั้น โปรดิวเซอร์หลิน คุณกำลังจะบอกว่าคุณมั่นใจเต็มร้อยและยืนยันว่าศิษย์น้องของคุณก่อเรื่องอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้เพราะถูกบริษัทกดขี่มาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นเธอจึงฉวยโอกาสที่ซิงเกิลใหม่ของเฉินเชียนโหรวกำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เอาคืนบริษัทเหรอครับ”

หลินสื่อเจียตีสีหน้าเคร่งขรึม “อันนี้ผมก็ไม่ชัวร์ ผมก็เคยได้ยินเธอบ่นๆ อยู่บ้าง แต่ผมก็คิดมาตลอดว่าเธอแค่บ่นๆ ไปอย่างนั้น อันที่จริงใครๆ ก็มีด้านลบกันทั้งนั้นนะครับ แต่ผมนึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะกลายเป็นแบบนี้! และผมก็เพิ่งจะตระหนักได้ในตอนนี้เองว่า เธอไม่ใช่น้องสาวที่ใสซื่อและแสนดีคนเดิมของผมอีกต่อไปแล้ว! น่าเสียดายจริงๆ…”

ว่ามาจนถึงตอนนี้ หลินสื่อเจียก็ดึงสีหน้าผิดหวังและจนใจอย่างถึงที่สุด

ข่าวนี้ถูกแพร่ออกไปผนวกกับกระแสจากนักเขียนที่หลินสื่อเจียแอบไปจ้างวานไว้อย่างลับๆ!

ดังนั้นนอกจากคนส่วนใหญ่จะไม่รู้สึกว่าเขาเป็นพวกเนรคุณที่ข้ามแม่น้ำเสร็จก็ทุบสะพานทิ้งแล้ว แต่การทิ้งพี่น้องไม่ทิ้งความถูกต้องเพื่อดนตรี และท่าทีปกป้องดนตรีของเขากลับทำให้เขาได้รับคำสรรเสริญไปเต็มๆ!

ตอนที่ 458 เห็นใจเธอจริงๆ

หลังจากที่จี้อี้เห็นวิดีโอบนโซเชียลแล้ว เธอก็แทบจะทรุดลงกับพื้นทันทีเมื่อรับรู้ว่าจู่ๆ หลินสื่อเจียก็ต้องการจะยื่นฟ้องเธอ!

เธอยกให้เขาเป็นคนเดียวในโลกที่เธอสนิทที่สุดและเชื่อใจที่สุด นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะเลือดเย็นได้ถึงขนาดนี้…

การโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาจี้อี้รับมือไม่หวาดไม่ไหว เดิมทีเธอเองก็ไร้ความสามารถที่จะตั้งรับอยู่แล้ว

คนที่เธอใกล้ชิดที่สุดเตรียมจะฟ้องร้องเธอ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ถูกเล่นงานหนักหน่วงขนาดนี้ อยากจะแก้ต่างให้ตัวเองแต่ก็อับจนหนทาง

ทุกคนต่างก็รอชมบทสรุปของเรื่องนี้อย่างเงียบเชียบ!

คำวิจารณ์ต่อต้านจี้อี้มีให้เห็นอยู่ทุกพื้นที่บนอินเทอร์เน็ต ซ้ำคำวิจารณ์เหล่านั้นยังรุนแรงขึ้นไปทุกที

แม้จะเกิดเหตุการณ์นี้ไป แต่กระแสความแรงของ ‘โตวซื่ออ้าย’ (รักทั้งสิ้น) ก็ไม่ได้ลดหย่อนลงไปแม้แต่น้อย ผ่านไปแล้วสามวัน ก็ยังคงครองอันดับต้นๆ ของทุกประเภทบนแพลตฟอร์มดนตรีหลัก รวดเร็วและไม่มีสิ่งใดเทียบได้

หลังจากที่รู้ข่าวว่าจี้อี้ถูกฟ้อง เพื่อความรอบคอบ เฉินเชียนโหรวจึงนัดเจอกับหลินสื่อเจียเป็นการส่วนตัว

เวลาห้าทุ่มกว่า เฉินเชียนโหรวและหลินสื่อเจียกำลังคิดเพลงใหม่สำหรับอัลบั้มต่อไป

เฉินเชียนโหรวนั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้ในห้องอัดเสียง เธอขมวดคิ้วแน่นมองหลินสื่อเจีย พลางเอ่ยถามขึ้นเสียงเย็น

“ทำไมจู่ๆ ถึงคิดจะฟ้องจี้อี้ล่ะ หลักฐานพร้อมแล้วรึไง”

เฉินเชียนโหรวหวั่นใจอยู่ช่วงหนึ่ง เธอเกรงว่าจะเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นมาอีกในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้!

หลินสื่อเจียอยู่ในชุดลำลองดูสุภาพ ตอนนี้เขาแสดงความสบายอกสบายใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

เขายิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“สองอัลบั้มที่จี้อี้ออกไปก่อนหน้านี้หรือแม้แต่ซิงเกิลของเธอ ก็ผ่านมือฉันมาแล้วทั้งนั้น!”

เขาว่าพลางถือไวน์สองแก้วตรงไปหยุดลงข้างๆ เฉินเชียนโหรว ก่อนจะส่งมันให้เธอแก้วหนึ่ง

เฉินเชียนโหรวเลิกคิ้วสูง เชิดหน้าขึ้นมองหลินสื่อเจียวูบหนึ่ง มุมปากของเธอกระตุกยิ้มเย็นชวนหลงใหลแล้วเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“แล้วยังไงต่อ”

เมื่อหลินสื่อเจียเห็นว่าขณะที่เธอรับแก้วไวน์ไปจากเข้านั้น นิ้วมือของเธอได้ลากผ่านนิ้วของเขาไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น รอยยิ้มพึงใจจึงปรากฏขึ้นชัดเจนภายใต้ดวงตาของเขา

เขาโน้มตัวลงนั่งข้างเธอ ดื่มไวน์ไปอึกหนึ่งแล้วพูดต่อ

“ตอนนั้นแค่อยากช่วยเธออย่างบริสุทธิ์ใจสักครั้ง ผลสุดท้ายหลังจากที่แก้ไขเสร็จ ทั้งเนื้อเพลง ทั้งการเรียบเรียง จึงล้วนแต่เป็นชื่อของเธอเพียงคนเดียว หากเรื่องนี้เข้าหูใครเข้า เธอจะมีหน้าอยู่ในวงการดนตรีต่อไปได้ยังไง ข้อหาขโมยผลงาน ในเมื่อจี้อี้พูดมันออกมาเอง สุดท้าย เธอก็ทำได้เพียงแบกรับมันเอาไว้เอง”

เฉินเชียนกระตุกมุมปากด้วยความกระหยิ่มใจ ก่อนเริดหน้าขึ้นกระดกไวน์ในมือ

“นายมั่นใจใช่ไหมว่าเรื่องนี้จะไม่มีอะไรผิดพลาด”

หลินสื่อเจียยิ้มอย่างจนใจ “อ่ายโยว แม่สาวน้อยของฉัน ถ้าฉันไม่ชัวร์ว่ามันจะไม่มีอะไรผิดพลาด แล้วฉันจะไปกล้าฟ้องเธอซี้ซั้วได้ยังไง เกิดเรื่องมันรั่วออกไป ฉันคงรับมือไม่ไหวหรอกนะ!”

ในตอนนั้นเฉินเชียนโหรวจึงได้รู้สึกวางใจ “เห็นทีฉันคงต้องกล่อมให้คุณย่ารีบเตะจี้อี้คนนี้ออกไปก่อนเสียแล้ว ปล่อยไว้ในบริษัทก็รกหูรกตา”

“อืม ถึงตอนนั้นฉันจะให้คนเอาหลักฐานไปปล่อยในเน็ตสักหน่อย หรือจะประกาศการแบนจี้อี้ไปเลยก็คงไม่ใช่ปัญหา…”

ได้ฟังหลินสื่อเจียพูดเช่นนั้น เฉินเชียนโหรวก็ขำขึ้นเสียงต่ำ เธอยกไวน์ขึ้นมากระดกจนหมดแก้วแล้ววางมันลงบนโต๊ะตรงหน้า ก่อนจะเอนกายพิงโซฟาแล้วหันมองหลินสื่อเจีย ส่ายหน้าพลางทำเสียงจุ๊ปาก “ว่าตามตรง ฉันล่ะเห็นใจจี้อี้จริงๆ เธอเชื่อใจนายขนาดนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายคนที่บีบคั้นเธอจนจนมุมจะกลายเป็นคนที่เธอเชื่อใจมาตลอดอย่างนาย”

หลินสื่อเจียกระตุกมุมปากและวางแก้วไวน์ลงเช่นกัน เขาเคลื่อนสายตาลงบนขาเปลือยเปล่าที่โผล่ออกมาก่อนจะยกมือขึ้นวางลงไปอย่างแผ่วเบา