บทที่ 217 ผู้เล่นระดับสูงเจอกัน

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 217 ผู้เล่นระดับสูงเจอกัน

ฟิ้ว!

ลูกศรสีดำพุ่งผ่านท้องฟ้า มันคือการโจมตีจากทรราชพายุเพลิง แต่ไนฟยกโล่ขึ้นและป้องกันไว้ได้

ตู้ม!

ลูกศรสีดำระเบิดขึ้น ทำให้โล่ของไนฟส่องแสง และเพราะใช้สกิลป้องกัน เขาจึงถอยไปเพียงหนึ่งก้าวและเสียพลังชีวิตเพียงเล็กน้อย ทว่าจืออี้ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เกิดอาการขวัญอ่อน เธอเลยทำการใช้สกิลโฮลี่ไลท์ให้เขา

ระยะการโจมตีของทรราชพายุเพลิงนั้นกว้างมากจนไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้ง่าย ๆ นอกจากต้องทนด้วยพลังชีวิตของพวกเขาเอง โชคดีที่ชุดที่ไนฟสวมใส่นั้นดีพอและพลังป้องกันของมันก็สูงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ประกอบกับบัฟของเซียวเฟิง ดังนั้นเขาจึงป้องกันการโจมตีได้อย่างไม่ยากเย็น

ฟิ้ว!

ในจังหวะเดียวกัน แสงเย็นก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเซียวเฟิง นั่นคือเซมบงซากุระที่แอบเข้ามาและเล็งไปที่เซียวเฟิงด้วย

เคร้ง!

“ปัดป้อง!”

ซือเยี่ยจิ๋งก็แอบเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน กริชหยุดมีดสั้นไว้ด้วยเสียงที่ชัดเจนของ ‘ปัดป้อง’ และดวงตาของเธอก็ได้สบกับดวงตาของเซ็มบงซากุระก่อนที่จะหายตัวไปในพริบตา

“ให้ตายเถอะ! นายมีศัตรูมากมายเลยเหรอ นายเป็นภัยพิบัติเดินได้หรือไง?”

หานเฟิงตะโกนออกมาเพราะโดนผลกระทบไปด้วย และรู้สึกเสียใจที่มาอยู่ใกล้กับเซียวเฟิง …ตอนนี้ผู้เล่นระดับสูงจำนวนมากกำลังจ้องมาทางนี้!

ในระหว่างที่หานเฟิงตะโกนออกมาดัง ๆ นั้น เขาก็ไม่ลืมที่จะตอบโต้ ขณะถอยเพื่อสร้างระยะห่างด้วยฝีเท้าลมกรด จากนั้นก็ยกแขนขึ้นเพื่อยิงลูกศรสองลูกขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง

หนึ่งในนั้นวกกลับมากลางอากาศและพุ่งไปหาธอร์

ในขณะนี้ ท่ามกลางระเบิดสายฟ้าที่ไม่มีวันจบสิ้น ธอร์ได้ปล่อยสกิลของเขาใส่เซียวเฟิงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็สังเกตเห็นลูกศรสองอันพุ่งมาที่ตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย และหายตัวไประหว่างแสงที่เกิดจากลูกธนูที่สะกิดร่างกายของเขาด้วยสกิลเทเลพอร์ต

พลาด!

พลาด!

การแจ้งเตือนความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีพลาดทั้งสองลอยขึ้นมากจากจุดที่ธอร์หายตัวไป

“เชี่ย! เขาหลบอัตราการโจมตีโดน 100% ของข้าได้ยังไง? ไอ้เวรนั้นมันต้องใช้ปลั๊กอินแล้ว”

หานเฟิงไม่เชื่อสิ่งที่เห็นและตะโกนออกมา อัตราการโจมตีโดน 100% เป็นหนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของกำไลเทพที่เป็นของสวมใส่ระดับเทพเจ้าที่เขาได้มาจากเครื่องสุ่มรางวัล แต่ตอนนี้ธอร์กลับหลบมันได้อย่างง่ายดาย?

มีเพียงเซียวเฟิงเท่านั้นที่ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ เพราะอัตราการโจมตีโดน 100% เป็นเพียงคำศัพท์ทางทฤษฎีเท่านั้น

อย่างมากก็ต่อเมื่อสกิลหรือการโจมตีที่ล็อกเป้าหมายเท่านั้นจึงจะโจมตีโดนสำเร็จได้

แต่ในความเป็นจริง สำหรับผู้เล่นระดับสูง พวกเขาสามารถหลบการโจมตีได้แม้ว่าจะถูกล็อกเป้าไว้ก็ตาม

เหตุผลนั้นง่ายมาก ลองนึกภาพว่าผู้เล่นโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาด้วยอาวุธที่มีระยะโจมตีหนึ่งเมตร แม้ว่าจะมีอัตราการโจมตีโดน 100% ก็ตาม คู่ต่อสู้ก็จะไม่ถูกโจมตีที่ระยะสองเมตรแน่นอน

ที่จริงแล้วธอร์ก็หลบหนีไปก่อนที่จะถูกโจมตีด้วยสกิลเทเลพอร์ต ทำให้ลูกศรทั้งสองที่มุ่งเป้าไปที่เขาพลาดอยู่ดี

แม้ว่าจะมีวิธีหลบหลายวิธี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณสมบัตินั้นจะเป็นเพียงป้ายกำกับที่ไม่มีค่า เนื่องจากมันเป็นของสวมใส่ระดับเทพเจ้า จึงไม่มีวิธีธรรมดาที่จะหลบมันพ้นได้ ยกเว้นบางอย่างที่ไม่ธรรมดา อย่างเช่น การสกัดกั้น

แม้แต่การปัดป้องที่ดีที่สุดของเซียวเฟิงหรือออลเรเลียสเต็ปก็ช่วยหลบได้เพียงเล็กน้อย ยังไงตัวผู้เล่นก็ต้องเผชิญกับมัน

“ไอ้โง่! คราวนี้มาดูกันว่าแกจะรอดจากมันได้ยังไง!”

เมื่อหานเฟิงออกไปได้ยะระไกลพอ เขาก็หันกลับมาและยืนอย่างมั่นคง จากนั้นเขาก็ยิงลูกศรขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ด้วยเสียงลูกศรคำรามมากกว่าหนึ่งโหล หานเฟิงได้ใช้คุณสมบัติพิเศษของสวมใส่ระดับพระเจ้า ด้วยการสละความเร็วในการเคลื่อนที่ และเพิ่มความเร็วในการโจมตี ทำให้โจมตีเป็นสิบครั้งได้ในเวลาไม่กี่วินาที

หานเฟิงเป็นเรนเจอร์ เป็นคลาสลับ ซึ่งเซียวเฟิงไม่ค่อยรู้ว่าเขามีพลังมากแค่ไหนและมีสกิลอะไรบ้าง แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าคลาสของหานเฟิงไม่จำเป็นต้องเล็งก่อนที่จะโจมตี เนื่องจากการโจมตีสามารถติดตามเป้าหมายได้โดยอัตโนมัติ

แน่นอนว่าหานเฟิงยิงลูกศรของตัวเองขึ้นไปบนท้องฟ้าแบบสุ่ม แต่ลูกธนูนับสิบดอกก็วกกลับมากลางอากาศ วกกลับมาและส่งเสียงคำรามลงมา

ธอร์ที่อยู่ในฝูงชนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเร็วที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าการโจมตีแปลก ๆ นี้มาจากไหน และเนื่องจากเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโจมตี จึงกลายเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

แต่มันไม่ใช่เวลามาฟุ้งซ่าน ธอร์ถอยกลับทันทีและไม่กล้ารับการโจมตี เพราะรู้ว่าตอนนี้ผู้เล่นของเขตฮัวเซียทุกคนได้บัฟอันทรงพลังจากนักบวชมา ดังนั้นพลังโจมตีของพวกเขาจึงแข็งแกร่งมากในขณะที่เขาเป็นเพียงนักเวทที่สวมเกราะผ้าที่เพิ่มค่าพลังเวทอย่างเต็มที่ ซึ่งพลังป้องกันและพลังชีวิตนั้นอ่อนแอเหมือนกระดาษ หากไม่สามารถหลบการโจมตีได้ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

ลูกธนูนับสิบคำรามจากอากาศถูกแยกออกเป็นสองกลุ่ม ครึ่งหนึ่งตามธอร์ไป อีกครึ่งพุ่งไปที่ทรราชพายุเพลิงที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง

หานเฟิงตระหนักได้ว่า ค่าความเสียหายต่อวินาทีในระยะไกลทั้งสองนี้เป็นภัยคุกคามหลัก ดังนั้นจึงพยายามปราบปรามจะพวกเขา

เมื่อสังเกตเห็นลูกธนูแถวหนึ่งพุ่งมาที่เขาราวกับมีตา ทรราชพายุเพลิงก็เปลี่ยนสีหน้าและถอยกลับทันที ลูกธนูแต่ละดอกที่ตกลงมาข้าง ๆ เท้าของเขามาพร้อมกับระเบิดขนาดใหญ่ตามมาด้วยคลื่นกระแทกที่พัดร่างออกไป ในขณะเดียวกัน ความคิดที่จะถอยกลับก็ถูกขัดขวางโดยผู้เล่นจำนวนมากของทีมเขตร่วม ซึ่งทำให้เขาเคลื่อนไหวท่ามกลางฝูงชนได้ยากขึ้น

แต่ทรราชพายุเพลิงก็เบิกตากว้างทันที เพราะพบว่ามีลูกศรแถวหนึ่งตามเขามาติด ๆ

“เวรเอ๊ย!”

ทรราชพายุเพลิงสาปส่ง แต่หานเฟิงไม่มีเวลาที่จะมาชักช้าและลังเล เขารีบยิงธนูที่ตามเขามาติด ๆ

ใช่แล้ว เขายิงสวนกลับไป เพราะลูกธนูของเขาใหญ่กว่ามาก ลูกธนูจากนักธนูทั่วไปมีขนาดเท่านิ้วก้อย ในขณะที่ลูกศรสีดำของทรราชพายุเพลิงนั้นมีขนาดพอ ๆ กับสองนิ้วประกบกัน

เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่ามาก ลูกธนูของทรราชพายุเพลิงจึงบินด้วยความเร็วต่ำ แต่คุณสมบัติระเบิดนั้นก็น่ากลัวมากเพราะมีความเสียหายที่สูงและมีการระเบิดของคลื่นกระแทกด้วย

ในขณะนี้ทรราชพายุเพลิงได้ยิงลูกศรไปทางลูกศรที่ไล่ตามเขา ลูกศรสีดำหนาของเขาชนกับของหานเฟิงอย่างแม่นยำ

ตู้ม!

ท่ามกลางระเบิดรุนแรงที่เกิดขึ้นกลางอากาศ ลูกธนูของหานเฟิงก็ถูกระเบิดไปทันที ซึ่งส่วนใหญ่สลายหายไป แต่ก็ยังมีศรที่อึดเป็นแมลงสาปรอดมาได้ มันอยู่ขอบของระยะระเบิดและพุ่งไปที่ทรราชพายุเพลิงอย่างแม่นยำ

และในระยะสั้นเช่นนี้ ทรราชพายุเพลิงทำได้เพียงเห็นตัวเองถูกโจมตีโดยไม่มีทางอื่นที่จะหลบหนีได้

-103!

-109!

ตัวเลขสามหลักที่สูงอย่างน่าตกใจ 2 ชุดบ่งบอกถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นเหนือหัวของทรราชพายุเพลิง ในขณะที่อยู่ภายใต้บัฟของเซียวเฟิง พลังโจมตีของหานเฟิงได้ไปถึงตัวเลขที่น่ากลัวซึ่งลดแถบพลังชีวิตของทรราชพายุเพลิงลงไปครึ่งหนึ่ง หมายความว่าการยิงสองนัดอาจทำให้เขาตายได้และนั่นทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนก

“แม่งเอ๊ย! ข้าเกือบจะฆ่าเขาได้แล้ว! มันไม่ติดคริติคอลได้ยังไงวะ!”

หานเฟิงสาปแช่ง แต่ก็ทำได้แต่มองทรราชพายุเพลิงหนีและหายตัวไปในฝูงชนของทีมเขตร่วม ด้วยความโกรธ เขาจึงหันกลับมาและยิงใส่ธอร์ด้วยลูกศรสองดอก ซึ่งทำให้อีกฝ่ายต้องถอนตัวออกไปเช่นกัน

เขาได้กดดันผู้เล่นระยะไกลชั้นยอดสองคนด้วยตัวคนเดียวจริง ๆ ซึ่งทั้งคู่เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นที่ทรงพลังที่สุดด้วยเพราะเป็นผู้เล่นสายสร้างความเสียหายต่อวินาทีในระยะไกลสูงที่สุดและยังเป็นผู้เล่นระดับเทพที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้เล่นของเขตร่วม

“เฮ้ย! ไอ้สารเลวตัวไหนเล่นสกปรกกันวะ!”

หานเฟิงที่กำลังกระโดดกลับไป จู่ ๆ ก็มีเงาดำปรากฏขึ้น และมีดสั้นในมือของเงานั่นก็ได้แทงขึ้นไปในอากาศ อีกฝ่ายคือเซมบงซากุระที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป้าหมายเสียเฉย ๆ

และเมื่อโจมตีพลาด เซ็มบงซากุระพลันกลับมาเคลื่อนไหวอย่างลอบเร้นอีกครั้ง

“เฮ้ย! ถ้านายเป็นผู้ชายก็ออกมาสู้กับข้าตรง ๆ สิวะ! จะซ่อนตัวหาพระแสงอะไร?”

หานเฟิงตะโกนไม่หยุดแต่ยังคงถอยออกไปอย่างรวดเร็วจนกระทั่งเขาเกือบจะออกจากแนวป้องกันของเขตฮัวเซีย เขาแอบมองซ้ายขวา และทันใดนั้น ก็กระโดดขึ้นไปและรัวยิงธนูออกไป 3 ดอกทันที

ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!

ลูกศรทั้งสามถูกยิงแต่ยังไม่พุ่งออกไป แต่พวกมันกลับบินเป็นวงกลมไปรอบ ๆ หานเฟิง ราวกับว่าจะปกป้องเจ้านายของพวกมัน

“เฮ้ เฮ้ เฮ้ เฮ้! ช่วยหน่อย! มีคนกำลังจะตายแล้ว!”

หานเฟิงตะโกนใส่เซียวเฟิง นักฆ่าคือความหายนะตามธรรมชาติของคลาสของเขา ซึ่งไม่สามารถล็อกเป้าได้เลย เหลือทางเดียวนั่นคือขอความช่วยเหลือ เมื่อเขาตะโกน เซ็มบงซากุระก็เผยตัวออกมาและปล่อยการโจมตีซึ่งถูกสกัดไว้โดยลูกธนูหมุนวนของหานเฟิง จากนั้นอีกฝ่ายก็กลับไปลอบเร้นอีกครั้ง แต่เป้าหมายของคนคนนี้ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งก็คือหานเฟิง!

ทว่าในตอนนี้ เซียวเฟิงเองก็เจอกับสถานการณ์ที่ลำบากมากกว่าและไม่มีเวลาดูแลหานเฟิงเลย

เนื่องจากทีมที่สร้างจากกลุ่มผู้เล่นชั้นนำได้บุกเข้ามา พวกเขาล้วนเป็นยักษ์ใหญ่ในรายชื่อเขต คนทั้งหมดแข็งแกร่งมาก ไม่เพียงแต่มีของสวมใส่ระดับสูงครบครัน แต่ยังทรงพลังระดับผู้เล่นชั้นนำอีกด้วย ผู้เล่นจากเขตฮัวเซียจึงถูกพวกเขาฉีกเป็นชิ้น ๆ และพวกเขาก็เข้าโจมตีเซียวเฟิงต่อทันทีโดยไม่รอช้า!

“ทนไว้ก่อน! อย่าถอย!”

“ช่วยด้วย!”

“เจ้าแห่งฮิลเลอร์ต้องการความช่วยเหลือ!”

ผู้เล่นระดับสูงหลายสิบคนล้วนมีเป้าหมายที่ชัดเจน นั่นคือเซียวเฟิง แม้ว่าบางคนจะถูกขวางไว้โดยผู้เล่นของเขตฮัวเซียที่กำลังมาช่วย แต่ก็ยังมีผู้เล่นอีกห้าหรือหกคนที่มาถึงหน้าเซียวเฟิงได้

“ช้าก่อน!”

ไนฟตะโกนออกมา เขาถือโล่ด้วยมือ ซ่อนทั้งตัวไว้ด้านหลังโล่ รับการโจมตีของผู้เล่นเหล่านั้นและตะโกน

ข้างหลังเขาคือเซียวเฟิง ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถถอยหลังได้เลย ในขณะที่เถียซูยืนเคียงข้างเขาอย่างมั่นคงและมุ่งมั่นที่จะต่อสู้จนตัวตาย เขากำลังต่อสู้กับนักรบคนอื่น แม้ว่าจะมีบัฟของเซียวเฟิง แต่เถียซูก็ยังอยู่ในจุดที่ไม่ได้เปรียบนัก

ผู้เล่นบางคนจากทีมของเถียซูล้อมนักรบเถื่อนผมสีน้ำตาลที่ถือดาบคู่ นักรบเถื่อนผมสีน้ำตาลคนนี้มีพลังมหาศาลและหมุนตัวด้วยดาบคู่ของเขาราวกับพายุขนาดใหญ่ จนคนล้อมเขาเห็นแต่รอยฟันของคมดาบเท่านั้น ในขณะที่พลังชีวิตของพวกเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

เจ๋าซือที่อยู่ข้างหลังก็สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง การโจมตีของเขาเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว เขาสามารถโจมตีเป้าหมายได้ 5 คนในคราวเดียว

และหากไม่ใช่เพราะถูกถ่วงโดยคนที่อยู่ใกล้เซียวเฟิงแบบนี้ พวกที่มาจากเขตร่วมก็อาจจะไปถึงตัวชายหนุ่มนานแล้ว!

ฟู่ ฟู่!

ผู้เล่นที่ผอมเพรียวเหมือนลิงเหยียบไหล่ของคนอื่นเข้ามาใกล้เซียวเฟิงด้วยความว่องไว เขาเป็นเด็กชายผิวดำตัวน้อยที่หน้าตาน่าเกลียด อย่างมากก็อายุ 12 หรือ 13 ปี ถือดาบโค้งทรงประหลาด กำลังยิ้มแปลก ๆ และวิ่งผ่านฝูงชนราวกับลิงกังในป่า

เมื่อเหยียบโล่ของไนฟ เด็กชายก็พลันกระโดดสูงไปทางเซียวเฟิง ก่อนจะง้างมือ… ทำการฟันไปยังเป้าหมายด้วยดาบโค้งของเขา!!

ชิ้ง!

ปัดป้อง!

เงาดำในอากาศปรากฏขึ้น เธอปัดป้องดาบโค้งด้วยมีดในมือขวา ก่อนจะแทงเด็กชายผิวดำตัวน้อยด้วยมีดในมือซ้าย เธอคือซือเยี่ยจิ๋ง!!

ซือเยี่ยจิ๋งไม่ได้รับมือกับเซ็มบงซากุระ เพราะสถานการณ์ตรงนี้อันตรายกว่ามาก และเต็มไปด้วยผู้เล่นระดับสูงมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นระดับสูงของเซิร์ฟเวอร์เกือบทั้งหมดได้เข้าร่วมในอีเวนต์นี้ ซึ่งจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังเหลืออยู่อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง!

ถึงตอนนี้เซียวเฟิงก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ชายหนุ่มแค่เคลื่อนที่ไปมาในขณะที่ขี่เสี่ยวเสวีย เขากำลังมองหามุม และหลังจากที่บัฟคูลดาว์นเสร็จ เขาก็ต้องทำให้แน่ใจว่าบัฟในรอบต่อไปจะครอบคลุมเพื่อนร่วมทีมมากขึ้น เพราะเมื่อบัฟหมดลง ผู้เล่นของเขตฮัวเซียที่ไม่มีบัฟก็จะพังทลายลงในชั่วพริบตาด้วยการโจมตีของกองทัพที่มีขนาดมากกว่า 10 เท่า

นอกจากนี้เซียวเฟิงกำลังรอโอกาสฆ่าด้วยการโจมตีครั้งเดียว หากไม่มีบัฟ วิธีเดียวที่จะกำจัดศัตรูด้วยการโจมตีครั้งเดียวก็คือค้อนแห่งการพิพากษา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพยายามรอให้ผู้เล่นเดินเข้ามาในระยะสกิลมากขึ้น