ตอนที่ 443 อับอายขายขี้หน้าจนป่นปี้
“พวกนายพอได้แล้วหรือยัง? ถ้าอยากออกจากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็ออกไปสิ พี่เยียนไม่ได้ติดค้างอะไรพวกนายนี่นา ต่อให้แข่งกันหลอกๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกนายเลยสักนิดเดียว!” เฮ่อเล่อเฟิงโมโหจนหน้าแดงก่ำ ตวาดด่าทอคนในทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อด้วยโทสะ
แข่งกันหลอกๆ แล้วจะทำไม เกี่ยวอะไรกับพวกเขาด้วย?!
ตัวเองห่วย พอออกจากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อแล้วก็ไม่มีทีมอื่นอยากรับตัวพวกเขาไว้ นั่นมันปัญหาของพวกเขาเอง แต่ตอนนี้กลับโยนความผิดให้คนอื่นเสียอย่างนั้น
“เสี่ยวเฟิง มันเกิดเรื่องอะไรกันแน่” หลินเยียนมองเฮ่อเล่อเฟิงด้วยใบหน้าปราศจากความรู้สึก
การแข่งกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูครั้งนั้นไม่ใช่การแข่งแบบหลอกๆ หลินเยียนรู้อยู่แก่ใจมากที่สุด ถ้าแค่ทีมระดับดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูก็ยังต้องมาแข่งกันแบบหลอกๆ ชาตินี้อย่าแตะต้องรถแข่งไปเลยจะดีกว่า นี่ไม่ใช่แค่ดูถูกเธอเท่านั้น แต่ยังดูถูกรถแข่งกับสนามแข่งอีกด้วย
แน่นอนหลินเยียนขี้เกียจจะไปอธิบายอะไรกับนักแข่งทีมตระกูลเฮ่อพวกนี้
“พี่เยียน…อันที่จริงมันก็แค่มีการตั้งข้อสงสัยกันภายในวงการนิดหน่อย พูดว่าทีมตระกูลเฮ่อไม่มีทางเอาชนะทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูได้เลยอะไรต่อมิอะไรนั่นล่ะ ที่ผลการแข่งออกมาเป็นแบบนี้ต้องมีการเล่นตุกติกกันแน่ แถมแฟนคลับจำนวนมหาศาลของทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูก็เข้ามาผสมโรงอีก เลยทำให้มีการตรวจสอบจากผู้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการภายในประเทศครับ” เฮ่อเล่อเฟิงพูดอธิบายให้หลินเยียนฟังเสียงเบา
เมื่อได้ฟังถึงตรงนี้ หลินเยียนก็มีท่าทีเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
เรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ หลินเยียนไม่ได้รู้สึกเหนือความคาดหมายเช่นเดียวกัน ถ้าลองคิดในมุมกลับดู จู่ๆ มีทีมรถแข่งเกรดต่ำระดับธรรมดาๆ ทีมหนึ่งลงสนามแข่งกับแชมป์เวิลด์แชมเปียนชิปลีก 1 มิหนำซ้ำยังเอาชนะได้อีกต่างหาก หากเป็นหลินเยียนเองก็คงไม่เชื่อเหมือนกัน
เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรู้สถานะของเธอ
ดังนั้นเพราะสาเหตุนี้ แต่เดิมพี่หลิงคิดจะใช้เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้เธอ แต่หลังจากที่หลินเยียนใคร่ครวญเป็นอย่างดีแล้วก็ตัดสินใจว่าอย่าเอาเรื่องรถแข่งเข้ามาเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงจะดีกว่า
“อีกอย่างนะครับ พี่เยียน ก่อนหน้านี้มีคนแชร์คลิปการแข่งของทีมเรากับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู มีคนดังในวงการหลายคนวิเคราะห์คลิปเฟรมต่อเฟรม…ผลการวิเคราะห์ออกมาว่า…ผลงานบนสนามของพี่เยียนมันไม่ใช่การแข่งขันเลยสักนิด แต่…เหมือนกำลังแสดงโชว์อยู่ชัดๆ …” เฮ่อเล่อเฟิงเอ่ย
เมื่อได้ฟังหลินเยียนก็มีท่าทีครุ่นคิด
ใช่ เธอไม่เคยเห็นทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอยู่ในสายตาเลย ดังนั้นการแข่งขันกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูจึงถือว่าเป็นการแสดงโชว์อย่างหนึ่งได้จริงๆ
“ดังนั้นเลยมีคนหลายคน หรือแม้กระทั่งบรรดาผู้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการต่างคิดว่าที่จริงแล้วพี่เยียนไม่ได้ขับรถเก่งกาจอะไรนักหนา ก็แค่แสดงโชว์การขับรถแข่งเอาชนะทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูหลังจากฝึกซ้อมบนสนามมาแล้วเท่านั้นเอง…ถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็คือไปนัดแนะกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูหรือแม้แต่ทีมซีเอ็ชวันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว…ว่าจะจงใจแข่งขันกันแบบหลอกๆ น่ะครับ” เฮ่อเล่อเฟิงถอนหายใจ
ถ้าเขาไม่ได้รับรู้ฝีมือการขับรถของหลินเยียนด้วยตัวเองตั้งแต่แรก เกรงว่าแม้แต่ตัวเองเองก็ต้องกังขาเช่นเดียวกัน
นั่นเพราะทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูเป็นหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ถึงแม้จะไม่ได้แข็งแกร่งหรือสุดยอดมากที่สุดก็ตาม แต่ก็เป็นทีมในระดับแนวหน้า และคนที่ยังไม่ได้เป็นแม้แต่นักแข่งมีอาชีพอย่างหลินเยียนจะไปเอาชนะนักแข่งจากทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูทั้งทีมได้อย่างไรกัน
“ตอนนี้มีคนในวงการหลายคนคาดเดากันว่าเพราะพี่เยียนเป็นคนในวงการบันเทิง อาจนัดแนะกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูหรือแม้กระทั่งทีมซีเอ็ชวันเอาไว้เรียบร้อย จงใจแข่งขันกันแบบหลอกๆ เพื่อทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักมากขึ้นครับ …”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฮ่อเล่อเฟิง กลับปราศจากความรู้สึกใดๆ ภายในดวงตาหลินเยียน
“แต่ที่น่าโมโหมากที่สุดก็คือพอมีข้อกังขาเรื่องการแข่งหลอกๆ ฝั่งทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เหมือนนิ่งเงียบยอมรับอย่างนั้น…ตอนนี้เสียงด่าทอทั้งหมดเลยพุ่งเป้ามาที่ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเรา มิหนำซ้ำสปอนเซอร์ซึ่งแต่เดิมเราได้มาสามรายก็หายไปสอง นักลงทุนเองก็เริ่มลังเล เตรียมที่จะถอนทุนออกไปเพราะเรื่องนี้แล้วครับ…” เฮ่อเล่อเฟิงพูดต่อไป
“ฉันเข้าใจแล้ว”
หลินเยียนพยักหน้าเล็กน้อย
หลินเยียนคาดไว้อยู่แล้วว่าทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูจะไม่พูด
ลองคิดดูสิ ทีมใหญ่ระดับแถวหน้าของประเทศอย่างดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูกลับแพ้ให้กับทีมรถแข่งที่ไม่มีชื่อเสียงทีมหนึ่ง เดิมทีนี่ก็เป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้าจนป่นปี้อยู่แล้ว
ตอนที่ 444 สถานที่ที่ฉันอยู่ก็คือจุดสูงสุดของโลก
การเกิดข้อกังขาเรื่องแข่งขันกันแบบหลอกๆ ในตอนนี้ถือเป็นสิ่งที่ทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูอยากให้เกิดขึ้นมากจริงๆ
มิหนำซ้ำหลังจากนั้นทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็แข่งรายการเล็กๆ พ่ายแพ้ติดต่อกันหลายสนามอีก ดังนั้นจึงโดนตีตราว่าจัดการแข่งขันกันหลอกๆ ไปเรียบร้อย
สิ่งที่ทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูต้องทำคือแค่อยู่เงียบๆ ไว้ก็พอ ทั้งไม่ยอมรับว่าตัวเองแข่งขันหลอกๆ และไม่ปฏิเสธเรื่องที่ตัวเองแข่งหลอกๆ อีกด้วย นี่ถือเป็นการกลบเกลื่อนความอัปยศของทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู
“เหอะๆ ฉันก็ว่าทำไมเธอถึงมีความสามารถมากขนาดนี้ได้ คนเดียวเอาชนะทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูได้ทั้งทีม พอใช้สมองคิดแล้วก็เป็นไปไม่ได้ คิดอยู่ครึ่งค่อนวัน ที่แท้ก็นัดแนะเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะแข่งกันหลอก เพื่อเพิ่มชื่อเสียงในวงการบันเทิงให้ตัวเอง แต่ดันลากทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อมาเดือดร้อนด้วย” เนวิเกเตอร์ทีมตระกูลเฮ่อคนหนึ่งจ้องมองหลินเยียนด้วยใบหน้าถมึงทึง
“ถ้าคุณหลินเยียน มีความสามารถระดับนี้จริงยังต้องล้มลุกคลุกคลานอยู่ในวงการบันเทิงอีกหรือไง” ชิงหลี่ที่อยู่ด้านข้างพูดจาเย้ยหยัน
อย่างไรก็ตามหลินเยียนกลับไม่แยแสคำเยาะเย้ยถากถางจากคนโดยรอบ นักแข่งรถกับเนวิเกเตอร์ระดับอย่างพวกเขาไม่คู่ควรให้หลินเยียนไปถกเถียงอะไรด้วย
เรื่องเร่งด่วนที่สุดคือจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ไม่ใช่ใช้ปากพูดอธิบาย และคงไม่มีใครเชื่ออีกด้วย
ถ้ามีคนพูดว่าเธอทำไมได้
ไม่จำเป็นต้องไปโต้เถียง สิ่งที่ต้องทำคือแค่ใช้การกระทำของตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ทั้งหมด
มันก็แค่นี้เอง
“พี่เยียน ตอนนี้ข้อกล่าวหาเรื่องจัดการแข่งขันแบบหลอกๆ ของผู้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการยังไม่ได้เปิดเผยออกไป วันไหนผู้จัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการโพสต์ประกาศ นั่นเท่ากับว่าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเราจบเห่แล้วจริงๆ ครับ…” เฮ่อเล่อเฟิงเอ่ย
“คุณตา หลังจากนี้ยังมีการแข่งอีกหรือเปล่าคะ” สายตาหลินเยียนไปอยู่ที่ร่างเฮ่อติ้งคุน
ครั้นได้ยินคำพูดหลินเยียน เฮ่อติ้งคุนก็ผงกศีรษะพร้อมตอบว่า “ยังมีสนามเล็กๆ อีกไม่กี่สนาม”
ตอนนี้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อยังเป็นทีมรถแข่งระดับต้น ดังนั้นโดยปกติแล้วการลงสนามแข่งจึงต้องแข่งกับทีมที่อยู่ในระดับเดียวกัน
“ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจะแพ้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้แล้ว” หลังจากหลินเยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงเอ่ยปากพูดอย่างแช่มช้า
ด้วยมาตรฐานทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อในปัจจุบัน ต่อให้ไม่มีเรื่องการแข่งขันแบบหลอกๆ นี้เกิดขึ้นก็ตาม หากแพ้ต่อไปเรื่อยๆ สปอนเซอร์กับนักลงทุนจะต้องหนีไปไกลแน่นอน
“พี่เยียน พวกเราก็อยากชนะนะครับ เพียงแต่…ความสามารถของพวกเราพอเทียบกันแล้วก็แข็งแกร่งสู้ทีมพวกนั้นไม่ได้ ต่อให้มีอุปกรณ์พอๆ กัน อยากจะชนะ…ก็ยังยากมากเลย” เฮ่อเล่อเฟิงถอนหายใจ
หลินเยียนรู้ระดับฝีมือการแข่งรถของทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเป็นอย่างดี หากจะให้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อเอาชนะการแข่งขันด้วยความสามารถ เหมือนจะทำให้พวกเขาลำบากอยู่บ้างจริงๆ นั่นล่ะ
เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
ไม่อย่างนั้น…
ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องยุบทีม
ถ้าความสามารถของฮาร์ดแวร์ไม่พอ งั้นคงทำได้แค่เปลี่ยนฮาร์ดแวร์เท่านั้น
เปลี่ยนนักแข่งทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อที่มีความสามารถไม่เพียงพอพวกนี้ใหม่ทั้งหมด!
ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อต้องการสายเลือดใหม่
อันที่จริงหลินเยียนมีแผนการนี้อยู่ในใจมานานแล้ว
กลางดึกภายในห้องเฮ่อติ้งคุน เหลือเพียงหลินเยียน เฮ่อติ้งคุน และเฮ่อเล่อเฟิงเท่านั้น
“พี่เยียน พี่พูดอะไรนะครับ…เปลี่ยนสมาชิกทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อพวกนั้นใหม่ทั้งหมดเลยเหรอ?” เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้าแปลกประหลาด
“ถ้าสมาชิกทีมรถแข่งไม่มีความสามารถที่จะควบคุมสนามแข่งได้ ต่อให้ทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อจะมีชื่อเสียงอีกสักแค่ไหนก็จะแข่งแพ้ไปตลอด ถูกทีมอื่นดีดออกนอกสนามไป แล้วมันจะมีความหมายอะไรกันล่ะ” หลินเยียนตอบ
อันที่จริงเฮ่อเล่อเฟิงกับนายผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนจะไม่เข้าใจคำพูดหลินเยียนได้อย่างไร
เพียงแต่พวกเขาจะมีความสามารถเปลี่ยนสมาชิกทีมยกชุดได้ยังไงกันล่ะ?
ไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาไม่มีเงินทุนมหาศาลขนาดนั้น ต่อให้มี แล้วคนที่มีความสามารถมากๆ จะมาอยู่ทีมรถแข่งเล็กๆ ระดับล่างที่ไม่มีชื่อเสียงอย่างทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อได้อย่างไรกัน
หลินเยียนเอ่ยปากพูดอย่างแช่มช้า “ไม่มีใครปฏิเสธที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก”
“จุดสูงสุดของโลก?”
นายผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนกับเฮ่อเล่อเฟิงสองคนต่างตะลึงงัน ไม่เข้าใจนัยยะของหลินเยียนแม้แต่น้อย
“พี่เยียน จุดสูงสุดของโลกคือที่ไหน? ที่พี่หมายถึงคงไม่ใช่ตระกูลเฮ่อหรอกนะครับ…” เฮ่อเล่อเฟิงมีสีหน้ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ถ้าทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อคือจุดสูงสุดของโลก อย่างนั้นโลกนี้คงมีสภาพทุเรศจนทนดูไม่ได้แล้วล่ะ
“สถานที่ที่ฉันอยู่ก็คือจุดสูงสุดของโลก”
หลินเยียนเอ่ยปากพูดเนิบๆ