บทที่ 69 การคาดเดาของเย่หลิงเสวี่ยเกี่ยวกับตัวตนของฉันมู่

จอมบงการเทพยุทธ์

ทั้งเมืองเงียบสงัด

เฉินม่สังหารศัตรูที่ทรงอานาจด้วยตัวคนเดียวได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทําให้ผู้ฝึกยุทธ์เผ่าพันธุ์มนุษย์ในเมืองเชิงหยางหลายคนต้องตกตะลึง

สองราชันศักดิ์สิทธิ์ หกจอมยุทธ์ผู้ทรงอานาจ ผู้ที่มีพลังมหาศาลเช่นนี้ถูกสังหารไปได้อย่างง่ายดาย

“ไม่อยากจะเชื่อเลยนี่ราวกับจอมราชันที่ไม่มีใครเทียบได้เลยจริงๆ”

ทําไมไม่เคยได้ยินมาก่อน ?

เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนในเมืองต่างก็ตกตะลึง ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกสับสน

“ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ปรากฏตัวขึ้นในแดนร้างตะวันออกของเผ่าพันธุ์มนุษย์พลังของเขาราวกับทะเลลึกมันยากจะหยั่งถึงเขาทําราวกับว่าเขากําลังฆ่าไก่”

แต่ในขณะเดียวกัน ผู้คนต่างก็เกรงขามต่อฉินมู่เพิ่มมากขึ้น

“แม้แต่ราชันศักดิ์สิทธิ์ก็ยังถูกเหมารวมไว้ด้วยกัน ร่างในชุดสีขาวผู้นี้อาจจะมีเขตแดนพลังยุทธ์ที่เกินขอบเขตราชันศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วก็ได้”

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ+2433 จาก จ้าวจงชาง !”

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ+1888 จากหยูเฟิง !”

“เจ้าได้รับแต้มตกใจ+41551 จากหยุนรั่วซี ! ”

ฉันม่ยืนขึ้น มองดูแต้มตกใจที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องบนหน้าจอระบบด้วยใบหน้าที่ไม่แยแส”หลังจากสังหารศัตรูที่ทรงอํานาจไปมากมาย”ฉันก็ไม่หยุด

เขาก้าวไปข้างหน้า ร่างกายของเขายักย้ายไปมา และปรากฏตัวขึ้นในความว่างเปล่าทันทีที่เขาเอื้อมมือออกไปความว่างเปล่าก็เปิดออกเขาจับร่างหนึ่งออกมาจากความว่างเปล่า

ร่างนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว ร่างกายของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลาเห็นได้ชัดว่ามีความหวาดกลัวต่อฉันม่เป็นอย่างมาก

และภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์ เผ่าพันธุ์มนุษย์บางคนดขุ่นเคือง เพราะพวกเขารู้จักตัวตนของร่างนั้น

นั่นคือกเหวยเฉินแห่งนิกายเทียนเฉิน

เหวยเฉินถูกดึงออกมาโดยฉินมู่ เขาสูญเสียจิตวิญญาณและพึมพํากับตัวเอง

เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าแผนลอบสังหารที่จัดวางไว้อย่างระมัดระวังจะได้ผลลัพธ์เช่นนี้

ในการเดินทางครั้งสุดท้ายเพื่อไปยังภูเขาศักดิ์สิทธิ์ นิกายเทียนเฉินอยู่ในความดูแลของผู้นํานิกายและแล้วเขาก็ถูกเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่าด้วยกระแสพลังปราณแห่งความโกลาหล

แต่ก่เหวยเฉินเอาชีวิตรอดกลับมาได้

หลังจากกลับไปที่นิกายเทียนเฉิน เขาไม่สามารถสงบลงได้เลย

นิกายเทียนเฉินมีรากฐานที่ประสมประสาน มีหลากหลายกลุ่มคน และส่วนใหญ่เป็นคนที่คลั่งไคลมากเกินไป

คนที่ถูกโจมตีและสังหารในวันนี้ล้วนแต่เป็นพวกที่ศรัทธาและบ้าคลั่งในนิกายเทียนเฉินและหลักคําสอนของเหล่าผู้นํานิกายนั้นถูกลบล้างอย่างหนักหากเผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็นกายาจักรพรรดิในโลกนี้อีกครั้งนิกายเทียนเฉินก็จะยิ่งสูญสิ้นศรัทธามากขึ้นกว่านี้
เกรงว่านิกายโบราณจะล่มสลายไปทั้งหมดเพราะเหตุนี้

คู่เหวยเฉินเป็นผู้ศรัทธาที่บ้าคลั่งของนิกายเทียนเฉิน และเขาไม่ต้องการเห็นการล่มสลายแบบนี้ดังนั้นหลังจากที่เขาแจ้งเรื่องผู้นําสูงสุดของนิกายเทียนเฉินให้กับทุกคนแล้วลูกศิษย์คนอื่นๆของนิกายเทียนเฉินก็รวมตัวกันวางแผนโจมตีภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์เป็นการส่วนตัว

และยังมีผู้ที่แข็งแกร่งที่มีความเกลียดชังต่อเย่หลิงเสวี่ยอยู่บ้าง ดังนั้นก่เหวยเฉินจึงรวมตัวกับเหล่าผู้แข็งแกร่งแห่งนิกายเทียนเฉิน นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมรูปแบบในการโจมตีและการสังหารในปัจจุบันถึงยอดเยี่ยมเช่นในวันนี้

เดิมที่ คู่เหวยเฉินซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อชมการแสดง เขาไม่ได้วางแผนที่เปิดเผยตัวตนแต่ความจริงมันเกินความคาดหมายของเขาไปมากการสาปแช่งหยุนรั่วซีและเย่หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่เกิดขึ้นแต่พวกเขากลับโดนโจมตีและถูกสังหารจากผู้แข็งแกร่งจนเสียชีวิตทั้งหมด

คนที่พลิกสถานการณ์และก่อเรื่องทั้งหมด คือผู้ชายคนนี้ !

ก่เหวยเฉินหันไปมองที่ฉินมู่ ร่างกายสั่นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความกลัว

“ยกโทษให้ข้าด้วย ! ผู้นํานิกายเทียนเฉินของข้าได้เสียชีวิตไปแล้วข้าสามารถช่วยให้เจ้าได้เป็นผู้ควบคุมจอมยุทธ์ของนิกายเทียนเฉินได้รับอํานาจและความมั่งคั่งอย่างไม่รู้จบ ! ”

คู่เหวยเฉินขอความเมตตา

“อํานาจและความมั่งคั่ง”

ฉันมู่เหลือบมองไปยังภู่เหวยเฉินและส่ายศรีษะเล็กน้อย “นิกายเทียนเฉินของเจ้าจะจบลงในวันพรุ่งนี้”
สอง หนึ่ง

กระแสพลังแห่งพลังศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในมือฉันม่ถูกเทลงที่ศรีษะของคู่เหวยเฉิน
ทันทีหลังจากนั้นพลังอันศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดความผันผวน และร่างของกู่เหวยเฉินก็ระเบิดอย่างรุนแรงและตายในที่สุด !

“ขอบคุณท่านราชันที่ช่วยชีวิต”

เย่หลิงเสวี่ยและหยุนรั่วซึมองไปทางฉินมู่ ดวงตาที่สวยงามของพวกนางเปี่ยมไปด้วยความตื้นตัน

หากฉันม่ไม่ปรากฏตัวขึ้น ทั้งสองคนอาจไม่สามารถหนีจากทางตันนี้ได้

“ไม่เป็นไร เศษสวะของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทุกคนสามารถสังหารมันได้

ฉันม่ตอบอย่างเฉยเมย

หลังจากนั้น เขาก็มองไปทางหยุนรั่วซีและเอ่ยปากพูด

“สายเลือดกายาจักรพรรดิที่อยู่ในตัวของเจ้านั้นแข็งแกร่งกว่าร่างกาย อย่าพึ่งพลังของร่างกายมากเกินไปเป็นการยากที่จะก้าวไปถึงจุดสูงสุดด้วยพลังยุทธ์ทั้งสอง”

“ขอบคุณท่านราชันสําหรับค่าสอน”

ดวงตาหยุนรั่วซึฉายแววถึงความตกใจ

นางไม่คิดว่าจอมราชันที่ไม่มีใครเทียบได้ตรงหน้า จะมีความเข้าใจอย่างชัดเจนถึงร่างกายของกายาจักรพรรดิ

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ราชนที่อยู่ตรงหน้าของนางได้ติดต่อกับกายาจักรพรรดิคนอื่นแล้ว

ในโลกนี้ยกเว้นนาง ยังมีกายาจักรพรรดิที่เคยติดต่อกับกายาจักรพรรดิอื่นๆอีกงั้นรึ?

หยุนรั่วซีตกใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

แต่นางไม่เห็นเย่หลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆ นาง และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เย่หลิงเสวี่ยมองเข้าไปในดวงตาของฉันมู่แล้วก็เปี่ยมไปด้วยความตกใจ

และสิ่งที่ทําให้เธอตกใจนั้น หนักยิ่งกว่าหยุนรั่วซีอีกด้วย

เย่หลิงเสวี่ยฉลาด

นางกําลังคิดอยู่ในตอนนี้ว่า ทําไมราชันผู้นี้จึงปรากฏขึ้นโดยบังเอิญและช่วยให้พวกนางรอด

หากเพราะอีกฝ่ายอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ เหตุผลนี้มันไกลเกินไป

เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะให้ความสนใจนางและหยุนรั่วซีเสมอ นี่จะเป็นเหมือนการปรากฏตัวที่ช่วยให้พวกนางเอาชนะสถานการณ์ที่สิ้นหวังนี้ได้

แต่ทําไม อีกฝ่ายถึงทําเช่นนี้?

ตอนแรก เย่หลิงเสวี่ยคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะเห็นอกเห็นใจ

แต่ทันใดนั้นเอง

ดวงตาของเย่หลิงเสวี่ยก็กวาดไปบนมือของฉันมู่โดยไม่ได้ตั้งใจ และทันใดนั้น ทั้งร่างของนางก็รู้สึกเหมือนกับถูกฟ้าผ่าและตกลงไปในหุบเหวมันน่าตกใจอย่างยิ่ง

นั่นเป็นเพราะว่า

ระหว่างนิ้วของฉันมีสวมแหวนสําริดที่ดูแปลกตา

นั่นคือแหวนสําริดของจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ

หัวใจของเย่หลิงเสวี่ยเต้นแรง

นางมองไม่ผิดแน่นอน แหวนสําริดวงนี้คือแหวนสําริดที่ถูกทิ้งไว้โดยจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญภายนอกเมืองหิมะน้ําแข็ง !

วันนั้น เย่หลิงเสวี่ยพบแหวนสําริดนี้ในเทือกเขาเทียนตวน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดตํานานดินแดน

แต่สุดท้าย หลังจากดินแดนลับเคลื่อนย้ายนางออกไป ไม่ว่าจะมองหามันอย่างไรก็ไม่มีร่องรอยของแหวนสําริดเลย

เย่หลิงเสวี่ยไม่คิดว่าวันนี้นางจะได้เห็นแหวนสําริดอีกครั้ง

มันถูกสวมโดยราชันเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ลึกลับผู้นี้

แหวนสําริดของจักรพรรดินี ตอนนี้มันอยู่ในมือของราชันในชุดขาว

เพราะฉะนั้นเขาจะต้องรู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ

และแม้กระทั่ง เขาอาจมีความสัมพันธ์กับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญก็ได้ !

หรือบางทีเขาอาจจะรู้ว่าตัวเองได้รับมรดกของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญหรือไม่?ในตอนนี้เย่หลิงเสวี่ยมีความคิดทุกรูปแบบอยู่ภายในใจ

คงไม่ต้องพูดถึงความลับที่เกี่ยวกับกายาจักรพรรดิ ผู้ที่ถือแหวนสําริดของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ

ราชันในชุดขาวนี้ เป็นใครกันแน่

เขามีสายเลือดเดียวกับกายาจักรพรรดิและจอมจักรพรรดิหรือไม่ พวกเขาเกี่ยวข้องกันอย่างไร

ในตอนนี้ ภาพของฉันม่ ในความคิดของหลิงเสวี่ยกลายเป็นเรื่องลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ