“หลังหนึ่งเดือนก่อนที่ข้าฟื้นขึ้นมา ลืมเลือนความทรงจำก่อนหน้านี้ทั้งหมด เป็นไซฉีที่คอยดูแลข้าทั้งวันทั้งคืน เธอรู้วิชาแพทย์ ดังนั้นพิษบนตัวข้าเป็นเธอที่กำจัดออกไป ไซฉีปฏิบัติกับข้าไม่เลวทีเดียว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาจึงทั้งซาบซึ้งและหึงหวงไซฉีผู้นี้
เธอซาบซึ้งที่ไซฉีช่วยชีวิตอวี๋ หากเธอไม่ปรากฎตัวขึ้นทันเวลา ตอนนี้เธอคงไม่ได้เจอหน้าอวี๋
แต่เมื่อเธอได้ยินอวี๋เอ่ยพูด หนึ่งเดือนมานี้ต่างเป็นไซฉีที่คอยดูแลเขาทั้งวันทั้งคืน
ชายหญิงอยู่ร่วมกันเพียงลำพัง ต้องเกิดเรื่องที่เธอไม่อยากได้ยินขึ้นแน่
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยากังวลในใจ พลันกัดริมฝีปากแน่น ก่อนหยั่งเชิงเอ่ยถามขึ้น
“เช่นนั้นอวี๋ ท่านชอบไซฉีผู้นั้นหรือไม่!”
หลังเอ่ยจบ เล่อเหยาเหยาพลันกลั้นหายใจ ภายในใจคล้ายสั่นไหว กังวลไม่สบายใจ
สายตาที่มองเหลิ่งจวิ้นอวี๋แฝงด้วยความกังวลอย่างไม่ปิดบัง
แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋พลันกลับมองไม่เห็น พยักหน้าเอ่ยความจริงขึ้นมา
“ใช่ ข้าชอบไซฉี”
เสียง ‘ตูม’ ดังขึ้น หลังคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงร่างกายดุจถูกฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ สมองขาวโพลน
ร่างกายบอบบางนั้น รับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหวจึงล้มลงไป
อวี๋พูดว่า เขาชอบผู้หญิงคนนั้นหรือ!
นี่ จะให้เธอทนอยู่ได้เช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาปวดใจดังไฟแผดเผา
รู้สึกว่าสวรรค์กำลังเล่นตลกกับเธอ
ตนรอและตามหาชายหนุ่มมาหลายปี แต่เขากลับชื่นชอบหญิงอื่น เธอควรทำเช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ ใจของเล่อเหยาเหยาคล้ายถูกกดทับด้วยหินขนาดใหญ่ หนักหน่วงยิ่งนัก
และภายในลำคอของเธอ คล้ายถูกอุดด้วยสำลี ทำให้เธอพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
สีหน้าของเธอจากคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ พลันเศร้าโศกเสียใจ
ตงฟางไป๋ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้น ดวงตาเป็นประกายครู่หนึ่ง ก่อนอดปรากฎความกังวลขึ้นมาไม่ได้
กลับเป็นฉีอิงอิง ด้านข้าง หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ พลันลุกยืนขึ้นเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เล่อเหยาเหยา
“พี่เหลิ่ง เหตุใดท่านจึงชื่นชอบหญิงอื่นได้ ท่านไม่รู้พี่เหยาเหยาในใจมีเพียงท่าน ห้าปีแล้ว เธอรักท่านไม่เคยเปลี่ยนแปลง และพวกท่านมีบุตรด้วยกันพี่เหยาเหยาไม่ง่ายกว่าจะตามตัวท่านพบ เหตุใดท่านจึงชื่นชอบหญิงอื่น!”
ฉีอิงอิง เวลานี้ ตื่นตระหนกดุจแมวกำลังโมโหตัวหนึ่ง เอ่ยเรียกร้องต่อเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไม่หยุด
ใบหน้าจิ้มลิ้มนั้น เต็มไปด้วยความไม่พอใจและปวดใจแทนเล่อเหยาเหยา
เพราะเธอเห็นเล่อเหยาเหยาเป็นดังพี่สาวของตนจริงๆ
ตรงข้ามกับความโกรธเคืองของฉีอิงอิง เหลิ่งจวิ้นอวี๋เวลานี้เพิ่งได้สติกลับมา พวกเล่อเหยาเหยาเข้าใจคำพูดของเขาผิด ใบหน้าหล่อเหลาพลันตะลึงงันชั่วขณะ ทันใดนั้นรีบเอ่ยอธิบายขึ้น
“พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าหมายถึงชื่นชอบไซฉีเช่นน้องสาวพวกนั้น ไม่ใช่ความชื่นชอบระหว่างชายหญิง”
“จริงหรือ!”
หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ พลันดวงตาเปล่งประกาย ก่อนเอ่ยถามอย่างดีใจ
ฮ่า ๆ ที่แท้เธอเข้าใจอวี๋ผิด
ดีจริงๆ อวี๋ไม่ได้หวั่นไหวกับหญิงอื่น!
แต่…
“แต่อวี๋ ท่านมิได้ถูกกู่หนอนพิษลุ่มหลงหรือ เหตุใดจึงไม่ได้รักไซฉี!”
สำหรับคำถามนี้ สายตาเล่อเหยาเหยาอดมองไปยังตงฟางไป๋ที่อยู่ด้านข้างไม่ได้
เพราะในที่นี่สำหรับเรื่องพิษของอวี๋ มีเพียงตงฟางไป๋ที่เข้าใจมากที่สุด
ตงฟางไป๋เห็นสายตาที่เล่อเหยาเหยามองมายังตน รู้ว่าเธอต้องการถามสิ่งใด แต่เขาเพียงส่ายหน้า ก่อนเอ่ยตามจริง
“เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจนัก เพราะข้าไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านนี้”
“นั่นก็ถูก ดูแล้วผู้ใดผูก ผู้นั้นต้องเป็นผู้แก้ เช่นนั้นพวกเราไปหาไซฉีกันเถิด!”
เล่อเหยาเหยาเสนอความเห็น
เพราะการไปยังเผ่าเหมียวครั้งที่แล้ว ไซหย่าเคยพูดกับเธอว่าเผ่าเหมียวของพวกเธอ ถือกฎมีสามีภรรยาเพียงคนเดียว หากพวกเธอรู้ว่าความจริงอวี๋มีภรรยาแล้ว แม้ไซฉีนั้นจะชื่นชอบอวี๋ เธอก็ไม่สามารถใช้กู่หนอนพิษลุ่มหลงบังคับอวี๋ได้อีก!
พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาตัดสินใจไปพบไซหย่าที่บ้านอีกครั้ง
สำหรับข้อเสนอของเล่อเหยาเหยา ทุกคนต่างไม่คัดค้าน
ดังนั้น ตงฟางไป๋พลันให้คนจัดเตรียมรถม้า ก่อนพวกเขาจะนั่งบนรถม้าออกเดินทางสู่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่นั้น
…
“อะไรนะ ไซฉีขึ้นเขาหรือ!”
เมื่อมาถึงบ้านของไซฉี กลับได้รู้ว่าเธอขึ้นเขาไปแล้ว เล่อเหยาเหยาขมวดคิ้วมุ่น เพราะเธอรู้สึกว่าไซฉีผู้นี้กำลังหลบหน้าพวกเธอ
ความคิดนี้ ไม่ได้มีเพียงเธอ แต่เหลิ่งจวิ้นอวี๋ก็เช่นกัน
“ไซหย่า พี่สาวเจ้าจะกลับมาเมื่อใดหรือ”
“เรื่องนี้ท่านพี่ไม่ได้บอกไว้ เฮ้อ หลังท่านพี่กลับมาจากโรงน้ำชา ก็ขี่ม้าเข้าไปในหุบเขา และห้ามข้าตามไป ตอนนี้ข้ากังวลใจยิ่งนัก!”
พอเอ่ยถึงตรนนี้ ไซหย่ามีสีหน้ากังวลหลายส่วน
เหลิ่งจวิ้นอวี๋เห็นเช่นนั้น อดเม้มริมฝีปากแน่นเงียบงันชั่วขณะไม่ได้ กลับเป็นเล่อเหยาเหยาที่อยู่ด้านข้าง คล้ายนึกบางสิ่งขึ้นมาได้ จึงเอ่ยกับไซหย่าว่า
“ไซหย่า มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากถามเจ้า”
“พี่เล่อ เอ่อ พี่เหยาเหยา มีเรื่องใดเชิญถามมาเถิด หากข้ารู้จะบอกแก่ท่าน”
แม้จะรู้ว่าความจริงเล่อเหยาเหยาคือสตรี ไซหย่าเสียใจอยู่บ้าง แต่เธอชื่นชอบนิสัยของเล่อเหยาเหยาจริงๆ ดังนั้นจึงไม่สร้างความลำบากให้พวกเธอแน่
เห็นเช่นนั้น เล่อเหยาเหยาซาบซึ้งในใจ ก่อนเอ่ยปากถามออกมา
“ไซหย่า เมื่อครู่อวี๋พลันเจ็บปวดหัวใจ แต่บนร่างกายเขากลับไม่ปรากฎโรคใดขึ้นมา ดังนั้นอวี๋เขาถูกพิษใช่หรือไม่”
“เรื่องนี้ พวกท่านก็ทราบหรือ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเล่อเหยาเหยา ดวงตาคู่งามของไซหย่าเบิกกว้าง ก่อนมองพวกเล่อเหยาเหยาแวบหนึ่ง แม้ไม่รู้ผู้ใดบอกเรื่องนี้แก่พวกเขา แต่เมื่อพวกเล่อเหยาเหยารับรู้แล้ว จึงไม่ปิดบังอีกต่อไป ก่อนเอ่ยความจริงออกมา
“ถูกต้อง พี่เหลิ่งถูกพี่สาวข้าวางกู่หนอนพิษลุ่มหลง”
“ไซหย่า เจ้าช่วยเล่ารายละเอียดให้พวกเราฟังเกี่ยวกับกู่หนอนพิษลุ่มหลงนี้ได้หรือไม่”
เมื่อทราบว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ถูกกู่หนอนพิษลุ่มหลงจริง ในใจเล่อเหยาเหยายินดีอย่างยิ่ง จึงรีบเอ่ยปากถามขึ้น
“เรื่องนี้…”
เมื่อได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา ไซหย่าลังเลอยู่ชั่วขณะ
เพราะเรื่องวิชาพิษนี้ พวกเธอเผ่าเหมียวจะไม่บอกแก่คนภายนอก แต่ตอนนี้เมื่อเห็นสายตาวิตกกังวลหลายคู่มองมาที่ตน ไซหย่าชะงักงัน ก่อนถอนหายใจ และเอ่ยปากขึ้น
“ความจริงกู่หนอนพิษลุ่มหลง เป็นพิษที่พวกเราสตรีเผ่าเหมียวทุกคนต่างมี กู่หนอนพิษลุ่มหลงมีตัวแม่พิษ เพียงพวกเราที่เลี้ยงหนอนพิษลุ่มหลงชื่นชอบชายใด จะนำหนอนพิษใส่ลงไปในกายคนรัก ส่วนตัวแม่หนอนพิษตนจะกลืนกินเข้าไป และคนที่ถูกกู่หนอนพิษลุ่มหลง ไม่ว่าจะเป็นตัวแม่หนอนหรือลูกหนอน เพียงอีกฝ่ายชื่นชอบผู้อื่น จะถูกหนอนพิษกัดกร่อนร่างกาย เริ่มแรกจะปวดใจ คล้ายถูกแมลงกัดนับพันนับหมื่นตัว เจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิต”
ได้ฟังถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาขมวดคิ้วมุ่น พลันเอ่ยถามขึ้น
“เช่นนั้นจะกำจัดหนอนพิษลุ่มหลงนี้ได้อย่างไร!”
เพียงนึกถึงการถูกหนอนพิษกัดกร่อนจนปวดร้าวแทบขาดใจเมื่อครู่ของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ เล่อเหยาเหยากังวลใจอย่างหนัก แทบอยากจะแบ่งปันความเจ็บปวดของเขา
ไซหย่าได้ยินคำพูดของเล่อเหยาเหยา และเห็นท่าทางกังวลใจของเธอ และมองออกว่าเล่อเหยาเหยารักเหลิ่งจวิ้นอวี๋มากยิ่งนัก
แต่น่าสงสารพี่สาวของตน
พี่สาวดูแข็งแกร่ง แต่ความจริงนั่นเป็นเพียงเปลือกนอกเท่านั้น เพราะในใจพี่สาวเปราะบางยิ่งนัก
และเมื่อเป็นพี่น้องกันมาหลายปี ไซหย่าก็ทราบดีว่าพี่สาวเธอเป็นคนทุ่มเท เวลานี้ไม่ง่ายกว่าจะพบชายที่ทำให้ใจเต้น คิดไม่ถึง ชายผู้นี้กลับแต่งงานมีภรรยาแล้ว ตอนนี้ยังมีกระทั่งบุตรชาย
พวกเธอเผ่าเหมียว ถือกฎมีสามีภรรยาเดียว แม้ตนจะชื่นชอบคนผู้นั้นเช่นไร หากคู่สมรสของคนผู้นั้นยังไม่ตาย ไม่สามารถแต่งกับคนผู้นั้นได้
ดูแล้วพี่สาวและพี่เหลิ่งต่างไร้วาสนาต่อกัน
พอคิดถึงตรงนี้ ไซหย่าเหลือบมองเล่อเหยาเหยาแวบหนึ่ง ก่อนถอนหายใจออกมา
ตนเคยสัมผัสมาแล้วมิใช่หรือ!
เดิมทีคิดว่าในที่สุดตนเจอคนที่ชื่นชอบแล้ว คิดไม่ถึงอีกฝ่ายกลับคือสตรีผู้หนึ่ง!
พอคิดถึงตรงนี้ ไซหย่าผิดหวังในใจ
ทว่าตอนนี้เธอไม่ควรคิดมาก
เมื่อเห็นท่าทางวิตกกังวลเช่นนี้ของเล่อเหยาเหยา ความจริงเธอก็คิดอยากช่วยเธอ แต่…
“กู่หนอนพิษลุ่มหลงนี้ ข้าไม่รู้ต้องกำจัดเช่นไร เพราะหนอนพิษแต่ละตัวมีวิธีการสร้างแตกต่างกัน วิธีแก้มีเพียงคนที่เลี้ยงมันเท่านั้นจึงจะรู้ แต่ข้ารู้เพียงอย่างเดียวคือคนที่ถูกหนอนพิษ หากในใจไม่ได้คิดถึงหญิงอื่น จะไม่เกิดเรื่องใดขึ้น”
“แต่ความจริงนี้เป็นไปไม่ได้ หากชายที่ถูกพิษรักหญิงสาวอื่น เช่นนั้นเขาจะเป็นเช่นไร!”
ฉีอิงอิง ที่อยู่ด้านข้างได้ฟัง พลันเอ่ยถามคำถามที่พวกเล่อเหยาเหยาอยากรู้ทันที
ไซหย่าได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนลังเลชั่วขณะ แต่ยังเอ่ยปากขึ้น
“หากคนที่ถูกพิษ รักหญิงสาวอื่นจริงๆ มีเพียงจุดจบเดียว นั่นคือความตาย เพราะคนที่ถูกพิษ รักหญิงสาวอื่น เช่นนั้นคนผู้นั้นทุกวันต่างต้องเจอกับความเจ็บปวด เมื่อเจ็บปวดถึงครั้งที่เก้า คนผู้นั้นจะเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดจนเสียชีวิต เมื่อหนอนพิษตาย แม่หนอนพิษจะตายตามไปเช่นกัน”
“สวรรค์ นี่มันช่างน่าเศร้า ช่างโหดเหี้ยมเสียจริง นี่ไม่เท่ากับว่าตายไปพร้อมกันหรือ!”
เมื่อได้ยิน ฉีอิงอิง ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหู
เล่อเหยาเหยาที่อยู่ด้านข้างได้ยิน กลับมีสีหน้าเคร่งเครียดลง
เพราะไม่อยากให้อวี๋ตาย และไม่หวังให้ผู้ใดต้องตาย
เธอตามหาเขาอย่างยากลำบาก และไซฉีคือผู้มีพระคุณของอวี๋
เรื่องความรู้สึก ไม่ได้มีถูกหรือผิด และไม่สามารถบังคับกันได้
เธอรักอวี๋ และเธอก็รู้ว่าอวี๋รักเธอ มิฉะนั้นเมื่อครู่อวี๋คงไม่ถูกหนอนพิษกัดกร่อน นี่ยืนยันว่าแม้อวี๋จะสูญเสียความทรงจำ แต่ภายใต้จิตสำนึก หัวใจของเขามีเพียงเธอมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง
สำหรับเรื่องนี้ เล่อเหยาเหยาทั้งเศร้าใจและดีใจ
ดีใจเพราะอวี๋ยังรักเธอ
เศร้าใจเพราะหากอวี๋ยังคงรักเธอ จำต้องรับกับความเจ็บปวดหัวใจนี้ เธอทนไม่ได้จริงๆ
…………………………………………………………………………………..