บทที่ 222 ซูเย่ VS ลูกรักสวรรค์ทั้งหก!
“รีบ ๆ ตายซะจะได้รีบหลุดพ้น!”
เหล่าซานกล่าวขณะเดินมาประจันหน้ากับซูเย่ ทันใดนั้นก็พุ่งร่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่พุ่งเข้ามา เหยียดเท้าไปข้างหน้า ร่างกายทั้งหมดก็กดถอยหลังอย่างรวดเร็ว กำจัดแรงต้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ พุ่งทะยานไปที่ร่างของซูเย่ด้วยฝีเท้าอันดุดันโดยทันที
เท้าเหยียบย่างอย่างมั่นคง ร่างกายเหยียดตรง รวบรวมแรงเฉื่อยอันทรงพลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นไปยังหมัดขวา และกระแทกไปที่ซูเย่อย่างรุนแรง
“หมัดตรง?” ซูเย่หรี่ตามอง
นี่คือกระบวนท่าสังหารของศิลปะการป้องกันตัวที่มักปรากฏในการแข่งขันการต่อสู้แบบโบราณ โดยทั่วไปศิลปะการป้องกันตัวประเภทนี้จะถ่ายทอดผ่านกังฟูรูปแบบต่างๆ คนทั่วไปไม่มีโอกาสได้เรียนแน่
ตอนแรกถูกหมายหัว ตอนนี้ก็มีผู้ฝึกยุทธ์ที่ไม่ธรรมดามาอีกแล้ว…
“มีคนอยากทดสอบขีดความสามารถของฉัน?” ซูเย่กระจ่างแจ้งโดยพลัน
ตั้งแต่โหมดไล่ฆ่าวันที่สองเป็นต้นมา เขาก็รู้สึกราวกับว่ามีคนกำลังจ้องมองตัวเอง
และความรู้สึกเช่นนั้น ในตอนนี้ก็ยังไม่หายไป
“เชิญทดสอบได้ตามใจ!” ซูเย่กล่าวเสียงเย็น พลันก้าวขาออกไปอย่างรวดเร็ว
พลั่ก!
การโจมตีของคู่ต่อสู้เป็นเพียงการเตะเบาๆ
ใบหน้าของเหล่าซานเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และจู่ ๆ ร่างของเขาก็พลิกไปด้านข้าง
หมัดที่รวบรวมกำลังทั้งหมดของร่างกาย เลื่อนเฉียดใบหน้าของซูเย่ไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ซูเย่ไม่แม้แต่จะขยับเท้าของเขา…
ในวินาทีถัดมา
พลั่ก!
ซูเย่สะบัดมือขวาของเขาหมัดตรงเข้าที่หน้าท้องส่วนล่างของคู่ต่อสู้อย่างดุดัน
พลังมหาศาลปะทุออกมา
เพียงหมัดเดียว ร่างอีกฝ่ายไม่ได้กระเด็นออกไป แต่ค่อย ๆ จางหายไปเบื้องหน้าซูเย่
ฆ่าภายในเสี้ยววินาที….
ทุกคนมองฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย
ในเวลานี้ ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง มองดูฉากนี้อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เพียงหนึ่งหมัด?
ขนาดเท้ายังไม่ทันได้ขยับด้วยซ้ำ แค่นี้ก็ฆ่าได้แล้วงั้นเหรอ?!
ไม่มีใครสู้คนเหล่านี้ได้ตลอดทาง ยอดฝีมือที่สังหารผู้เล่นฝึกยุทธ์หลายร้อยคน!
ตายไปแบบนี้เนี่ยนะ?
“ท่าสังหารของมันเมื่อครู่ มีจุดอ่อน ซึ่งก็คือฝีเท้า”
ซูเย่หันไปทางกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขาแล้วอธิบาย “ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะสามารถหยุดร่างกายที่พุ่งไปข้างหน้าได้ในทันที ซึ่งหมายความว่าขาและเท้าของคู่ต่อสู้มีพละกำลังมหาศาล แต่จริง ๆ แล้วนี่เป็นเพียงวิธีการปรับพลังเท่านั้น”
“ภายใต้การฝึกแบบนี้ พลังร่างกายจะห่อหุ้มแรงเฉื่อยของแรงผลักไปข้างหน้า และทุกอย่างก็ถูกถ่ายโอนไปยังหมัด ไม่ว่าฝีเท้าของเขาจะดูมั่นคงแค่ไหน แต่มันก็เป็นเพียงรูปลักษณ์ที่ไร้ประโยชน์”
“เมื่อพวกนายใช้ทักษะการต่อสู้ในอนาคต จงใส่ใจทั้งร่างกาย สนับสนุนทุกด้าน และอย่าใส่ใจเพียงด้านเดียวจนละเลยด้านอื่นๆ”
ภาพทั้งหมดเพิ่งปรากฏขึ้นในสมองของคนสามพันคนที่เหยียดมือออกและพยักหน้าเข้าใจ
บนสนามประลอง
สีหน้าของ อี เอ้อ ซาน อู่ ลิ่วทั้งห้าคนพลันเปลี่ยนเป็นความตกตะลึง!
ระดับความสามารถของเหล่าซานคือระดับที่สาม เปิดสามเส้นลมปราณ และพลังการต่อสู้ของเขาสามารถไปถึงจุดสูงสุดของระดับที่สามโดยเปิดสี่เส้นลมปราณ
ในโลกของเกมที่เต็มไปด้วยพวกกระจอก เขากลับถูกฆ่าด้วยกระบวนท่าเดียว?
แถมยังถูกมองทะลุถึงจุดอ่อนในคราวเดียวอีกด้วย?
“นี่ก็คือเหตุผลที่เรามาพร้อมกันหกคนงั้นเหรอ?” ลิ่วกล่าว
“ไอ้หมอนี่คงเก่งพอตัวจริงๆ” สายตาของทั้งห้าที่มองไปยังซูเย่ ฉายถึงแววความกลัวเล็กน้อย
“แบบนี้สิถึงจะน่าสนใจ” ซื่อแสยะยิ้มพลางเอ่ยพูด
“ฉันเอง!” เอ้อก้าวเท้าออกมา
ปรากฏว่า เมื่อก้าวออกไปได้หนึ่งก้าว ก็ถูกฝ่ามือของอีกดไหล่เอาไว้
“นายจัดการมันไม่ได้หรอก…ฉันเอง” เมื่อพูดจบ เขาก็ก้าวออกไปอย่างเย็นชา และเดินไปเบื้องหน้าของซูเย่
“โทษทีนะ” เมื่อเห็นอีก้าวออกมา ซูเย่ก็กล่าวขอโทษ “ฉันอยากจะแสดงให้นายขายหน้า ฉันไม่ได้ตั้งใจใช้แรงมากไป ดังนั้นฉันจะพยายามทำให้นายขายหน้าในครั้งนี้…”
เมื่อประโยคนี้จบลง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…!”
สามพันคนเบื้องหลังซูเย่หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
ที่แท้ที่ซูเย่บอกว่าจะทำให้ขายหน้าคือทำให้พวกนั้นขายหน้าต่างหาก
“ครั้งนี้แกไม่มีโอกาสปากดีอีกแน่!” อีกล่าวเสียงเย็นก่อนจะพุ่งตรงไปทันทีด้วยความเร็ว โดยใช้เทคนิคร่างกายที่ว่องไวเป็นพิเศษ ทั้งร่างดูเหมือนวานรที่ปราดเปรียว ในเสี้ยววินาทีเขาก็พุ่งเข้าไปถึงเบื้องหน้าของซูเย่ มือและเท้าของเขายื่นออกไปพร้อมกัน
พลั่ก! พลั่ก!
เสียงปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นทันที
มีแววความประหลาดใจพาดผ่านในดวงตาของซูเย่…
คนผู้นี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ ระดับสามเปิดสามเส้นลมปราณ ย่อมมีพลังต่อสู้ระดับสาม เปิดหกเส้นลมปราณ
แต่ว่าในสายตาของซูเย่ ทุกกระบวนท่าที่อีกฝ่ายใช้นั้นมีข้อบกพร่องอย่างมาก!
แต่อย่างไรก็ตาม พลังในการโจมตีนั้นแข็งแกร่งมาก ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาคงไม่สามารถจะต้านทานมันได้
ซูชือและคนอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลังซูเย่ ต่างประจักษ์ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใด และถ้าให้พวกเขาไปประลองละก็…คงไม่สามารถรับการโจมตีของพวกมันได้แน่ๆ
ชั่วขณะหนึ่ง
ทุกคนไม่สนใจสถานการณ์ของการต่อสู้อีกต่อไป แต่มุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวของซูเย่ ดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนและศึกษาทุกการเคลื่อนไหวของซูเย่
ในตอนที่ทุกคนกำลังเดาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้
พลั่ก!
เสียงปะทะก็ดังขึ้นอีกครั้ง
เมื่อรับไปสิบกว่ากระบวนท่า หมัดของซูเย่เริ่มกระแทกหน้าอกของคู่ต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่า
เหมือนกับตอนก่อนหน้านี้ ด้วยหมัดเดียว ร่างของคู่ต่อสู้ก็หายไปในทันที
ส่วนอีกสี่คนที่เหลือเบื้องหน้า สีหน้าก็แปรเปลี่ยนโดยพลัน ขนาดคนที่เก่งที่สุดในกลุ่มพวกเขาก็แพ้งั้นเหรอ!
หมอนั่นมีความสามารถเท่าไหร่กันแน่?!
ทั้งสี่มองหน้ากันอย่างบูดบึ้ง และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าต้องการรวมพลังกันเพื่อจัดการกับซูเย่…
“โทษทีนะ กะแรงไม่ถูกเลย ครั้งนี้ฉันจะพยายามโยนนายออกไปก่อนให้ได้” ซูเย่กล่าวอย่างขอโทษขอโพยต่อคนทั้งสี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ใบหน้าของคนทั้งสี่เริ่มมืดมนมากขึ้น
ตอนที่เตรียมจะลงมือ พลันมีเงาร่างสองคนพุ่งออกมาจากภูเขาที่อยู่ไม่ไกล วิ่งมาด้วยความรวดเร็ว
ซึ่งสองคนนั้นคือซานและอีที่ถูกซูเย่ฆ่าเมื่อครู่นี้!
ทั้งสองรีบวิ่งมาที่นี่อย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนในที่เกิดเหตุรวมทั้งซูเย่ต่างฉงนใจ
“อะไรกัน ไม่ใช่ว่าพวกมันตายแล้วเหรอ?!”
“มีสิทธิพิเศษอะไร ตายแล้วทำไมเกิดใหม่ได้ล่ะ?”
“ทางการโกงนี่นา…นี่มันเกินไปแล้วปะวะ?!”
“ทำไมพวกมันถึงเกิดใหม่ได้ พวกเราตายแล้วต้องรอโหมดไล่ฆ่าสิ้นสุด?”
“คิดไม่ถึงว่าเล่นเกมยังต้องเจอคนมีเส้น ฉันต้องตรองดูใหม่แล้วว่าจะเล่นต่อไปดีไหม?!”
ทุกคนพากันส่งเสียงบ่น โดยเฉพาะคนสามพันคนที่ติดตามซูเย่ ต่างก่นด่าไม่หยุด
ซูเย่ยกยิ้มเย็นที่มุมปาก คนพวกนี้ไม่ใช่ผู้เล่นทั่วไปจริง ๆ ด้วย มาจากภายนอกงั้นเหรอ ใช่อัจฉริยะที่หวังห่าวเคยพูดถึงหรือเปล่า?
“กลับมาก็ดีแล้ว ครั้งที่แล้วฉันไม่ได้โยนนายออกไป ฉันจะพยายามให้ดีที่สุดครั้งนี้…” ซูเย่ยิ้มอย่างเฉยเมยพลางกล่าว “พวกนายหกคน เข้ามาพร้อมกันเถอะ”
ใบหน้าทั้งหกคนต่างบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บแค้น โดยเฉพาะอี
แต่เดิมคิดว่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นพวกความสามารถต่ำ การทำภารกิจให้ลุล่วงก็คงเป็นแค่เรื่องง่ายๆ
ปรากฏว่าไม่ถึงสิบกระบวนท่าก็เสร็จมันแล้ว!
โถ่เว้ย! นี่มันหยามกันนี่หว่า! พวกเขากลับถูกไอ้พวกกระจอกฆ่างั้นเหรอ!
“เป็นเพราะเราประมาทเกินไป” ทั้งหกเดือดดาล แล้วเริ่มลงมือพร้อมกันจู่โจมซูเย่อย่างบ้าคลั่ง ทุกคนต่างใช้กระบวนท่าสังหาร
ซูเย่ไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยและพร้อมเผชิญหน้ารับการโจมตีอยู่ภายใต้การล้อมของทั้งหกคน พร้อมกับจับสังเกตจุดอ่อนของพวกเขาแล้วโจมตีพวกเขาออกไปทีละคน…
หลังจากการต่อสู้เป็นไปหลายสิบกระบวนท่า ซูเย่ก็ทุบฝ่ายตรงข้ามทั้งหกทีละคนไม่กี่ครั้ง…
ในตอนที่ทั้งหกคนร่วมมือกันเพื่อฆ่าเขา ฝันไปเถอะ!
“ดูให้ดีนะ ต่อไปจะโยนแล้ว” ซูเย่ตะโกน
เขาคว้าขาของลิ่วแล้วขว้างออกไป
“ตึง!”
กระแทกลงอย่างแรงบนก้อนหินที่อยู่ห่างออกไป ตาย!
“คนที่หนึ่ง” ซูเย่ยิ้มเย็น หลบการโจมตีของอู่ แล้วคว้าคอของเขาโยนออกไปทันที
“คนที่สอง”
ใบหน้าของอีกสี่คนที่เหลือเปลี่ยนไปทันที แล้วออกโจมตีอีกครั้งอย่างรุนแรงกว่าเดิม
แต่มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงสำหรับซูเย่ที่เข้าใจกลยุทธ์ของพวกเขาอย่างกระจ่างแจ้ง! เขาตั้งรับการโจมตีของซานและชื่อ ตามด้วยคว้าข้อมือของทั้งสองคนแล้วจับกระแทกกันอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาเสียการควบคุมชนกันหน้าหงาย
“อ๊าก!” ทั้งสองกรีดร้อง แต่ก่อนจะจบ ซูเย่ก็คว้าคอของทั้งสองคนแล้วโยนออกไปหลายสิบเมตร กระแทกลงบนก้อนหินจนตาย!
“คนที่สาม คนที่สี่…” ซูเย่มองไปที่อีและเอ้อ
ใบหน้าของทั้งสองมองมาที่ซูเย่อย่างเจ็บแค้น พวกเขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งขนาดนี้…ไม่สามารถเอาชนะได้เลย!
มันไม่เพียงแต่ไม่กลัวการโจมตีของพวกเขาทั้งหกคนเท่านั้น แต่เขายังโจมตีไล่พวกเขาออกไปได้!
นี่มันหยามหน้ากันชัดๆ!
“สู้ตาย!”
อีคำรามและเอ้อเปิดตัวการโจมตีครั้งสุดท้ายของเขาซึ่งเป็นท่าไม้ตาย
ร่างหนึ่งเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ซูเย่อย่างรวดเร็ว ราวกับเป็นภาพลวงตา และทันใดนั้นขาข้างหนึ่งก็โจมตีไปที่หัวของซูเย่
และอีกคนหนึ่ง โจมตีด้วยหมัดเร็วระรัว ทันใดนั้นหมัดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นและพุ่งโจมตีทางหน้าอกของซูเย่ ความเร็วของหมัด เร็วกว่าก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก
“ระวัง!” ไป๋จือหรานตะโกนเตือน
พวกเขาตกใจอกสั่นขวัญแขวน แต่มุมปากของซูเย่กลับยกขึ้น แล้วเคลื่อนฝีเท้าของเขาไปทางขวา
“พลั่ก!” ซูเย่คว้ามือและข้อเท้าของคนทั้งสอง เมื่อเห็นว่าการโจมตีล้มเหลว สีหน้าของคนสองคนก็เปลี่ยนโดยพลัน
ทันใดนั้นก็มีแรงมหาศาลแทรกมา และทั้งสองก็กระแทกลงกับพื้นทันที และความเจ็บปวดของอวัยวะภายในที่ถูกกระแทกลามไปทั่วทั้งร่างกายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีแรงมหาศาลอีกสายหนึ่ง ร่างของทั้งสองราวกับถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
สวบ…!
ซูเย่โยนคนสองคนออกไปกระแทกก้อนหินตาย!
ทั้งสนามเงียบกริบ…
พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงกับความสามารถที่ซูเย่แสดงให้เห็น คนทั้งหกที่สังหารผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากได้ถูกฆ่าโดยเจ้าเวรกรรม!
เขาแข็งแกร่งมากแค่ไหนกันแน่?
ณ สถานที่แห่งหนึ่ง
“บ้าจริง เกิดมาไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย ฉันจะไปฆ่ามัน!”
“พวกเราเปลี่ยนสถานที่ ไปรุมมัน!”
คนทั้งหกที่ออกจากโลกของเกมหลังจากถูกฆ่า โกรธแค้นจนอยากจะเข้าเกมอีกครั้งเพื่อฆ่าเจ้าเวรกรรม แต่พวกเขาได้รับการแจ้งเตือนว่าพวกเขาถูกห้ามไม่ให้เข้า
“แม่งเอ้ย!” ในตอนนี้ทั้งหกต่างสบถอย่างไม่พอใจ
เหนือท้องฟ้าขึ้นไป
ผู้บัญชาการใหญ่ทั้งหกที่เฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้ต่างก็ประหลาดใจกับความแข็งแกร่งที่ซูเย่แสดงออกมา
พวกเขาไม่คิดว่าซูเย่จะชนะ ส่วนทั้งหกคนนั้นจะแพ้หมดรูปแบบนี้…
“เด็กคนนี้เป็นผู้ฝึกปราณโบราณจริง ๆ ไม่อย่างนั้นระดับสอง เปิดหนึ่งจุดลมปราณคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังต่อสู้อันทรงพลังขนาดนี้”
เยี้ยนตี้ ผู้บัญชาการเขตฮัวเป่ยขมวดคิ้วและกล่าว “คนทั้งหกนี้ได้รับการฝึกอบรมในรูปแบบรวมซึ่งด้อยกว่าการฝึกปราณโบราณ…”
ผู้บัญชาการคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย
“และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่ระดับสองเปิดหนึ่งจุดลมปราณแน่ ๆ ปราณในร่างกายของเขาจะไม่น้อยเหมือนระดับสองเปิดหนึ่งจุดลมปราณ! และเขาใช้ปราณมากกว่าหกคนนั้นแน่” จ้าวตงหลิน ผู้บัญชาการเขตตงเป่ยกล่าว
“น่าสนุกจริง ๆ ฉันอยากเห็นว่าถ้าให้เขาได้พบกับอัจฉริยะเหล่านั้นมันจะเป็นอย่างไร?!” หลานหลานผู้บัญชาการเขตซีเป่ยกล่าว
“มันยังไม่จบ การต่อสู้โหมดไล่ฆ่ายังเหลืออีกสองชั่วโมง ฉันอยากรู้เสียจริงว่าซูเย่จะผ่านมันไปได้จนจบได้หรือไม่…” เจียงซาน ผู้บัญชาการเขตฮัวตงกล่าวด้วยดวงตาเป็นประกาย
ในยามนี้
“เขตปลอดภัยจะทำการย่อลงภายในห้านาที ผู้เล่นทุกคนกรุณาเตรียมตัวให้พร้อม รีบมุ่งไปยังเขตปลอดภัยโดยเร็วที่สุด”
บนท้องฟ้า มีประกาศย่ออาณาเขตเด้งมาอีกครั้ง
ยังเหลืออีกสองชั่วโมง ระบบเริ่มทำการจับเวลา
เป้าหมาย : สามหมื่น
ผู้เล่นฝึกยุทธ์ที่อยู่รอบ ๆ ซูเย่รีบหาที่กำบังเพื่อซ่อน
ผู้เล่นคนอื่น ๆ ออกมาจากทุกมุมและขยับเข้าใกล้ศูนย์กลางเขตปลอดภัยมากขึ้น
ภายในห้ากิโลเมตร คนที่เหลือสามหมื่นคน มองปราดเดียวก็เห็นชัดเจน ยกเว้นผู้ที่อาศัยภูมิประเทศเพื่อซ่อนกาย
ด้านนอก ผู้เล่นธรรมดาทยอยเดินเข้ามาเรื่อยๆ
ซูเย่นำคนสามพันคนยืนอยู่ตรงกลาง…