“เด็กน้อย ส่งเครื่องรางมาซะ หรือจะให้ฉันฆ่าแฟนของนายก่อนดี มาดูสิว่า เครื่องรางหรือแฟนแก อะไรจะสำคัญกว่ากัน !” นักบู๊หน้าตาอัปลักษณ์พูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว

ดวงตาของเฉินโม่เปลี่ยนเป็นเย็นชา จิตสังหารแผ่พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา เตรียมสังหารนักบู๊คนนั้นทิ้งซะ อู๋ไต้ซือที่อยู่ไม่ไกลพูดขึ้นมาว่า “เดี๋ยวก่อน พวกนายห้ามแตะต้องสาวน้อยคนนั้น หากเกิดมีรอยแผลขึ้นมาคงน่าเสียดายแย่”

ซุนจิ้งไฉรีบดึงมู่หรงยานเอ๋อร์ถอยห่างออกจากเฉินโม่ทันที “เข้าใจผิดแล้ว ยานเอ๋อร์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเด็กนั่น มันหน้าด้านตามเราขึ้นภูเขามาเอง ถ้าอยากได้เครื่องราง ก็ไปเอากับเจ้านั่นเอง !”

มู่หรงยานเอ๋อร์จ้องไปที่ซุนจิ้งไฉ อย่างไม่พอใจ: “คุณลุงท่านพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ? เฉินโม่กำลังจะตายนะ !”

เฉินโม่มองซุนจิ้งไฉด้วยสายตาเย็นชา

ในเวลานี้อู๋ไต้ซือกับพรรคพวกของเว่ยจื่อหยุนก็ได้เดินเข้ามา เหล่านักบู๊ต่างถอยออกหลีกทางให้กับ อู๋ไต้ซือ

ซุนจิ้งไฉโค้งคำนับอู๋ไต้ซือและกล่าวว่า “ซุนจิ้งไฉจากหลงฮั่วขอบคุณอู๋ไต้ซือที่ให้ความคุ้มครอง วันหน้าเราจะตอบแทนท่านอย่างงามแน่นอน !”

อู๋ไต้ซือฉีกยิ้มมองไปที่มู่หรงยานเอ๋อร์ “ไม่ต้องวันหน้าหรอก ฉันอยากได้สิ่งตอบแทนเดี๋ยวนี้”

มู่หรงยานเอ๋อร์ถึงกับก้าวถอย ไปหลบด้านหลังลูกน้องของซุนจิ้งไฉด้วยความกลัว “ปีศาจเฒ่า นายคิดจะทำอะไร ?”

ซุนจิ้งไฉรับรู้ถึงความตั้งใจของอู๋ไต้ซือจึงรีบมายืนขวางมู่หรงยานเอ๋อร์ไว้ เขามองไปยังอู๋ไต้ซือด้วยความหวาดระแวง “ท่านไต้ซือ นี่ท่านต้องการอะไรกันแน่ ? หากท่านต้องการหญิงสาวล่ะก็ รอออกจากที่นี่เมื่อไหร่ ท่านต้องการเงินเท่าไหร่ฉันก็จะให้ ยานเอ๋อร์ยังเด็ก ท่านจะมาทำอะไรนางไม่ได้ !”

อู๋ไต้ซือไม่สนใจ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หลีกไปให้พ้น !”

ซุนจิ้งไฉและคนอื่น ๆ ถอยออกมาสองสามก้าว พวกเขาตระหนักดีว่าอู๋ไต้ซือไม่มีทางปล่อยมู่หรงยานเอ๋อร์ไปแน่ จึงรีบตะโกนบอกอายู่ “อายู่ รีบพายานเอ๋อร์หนีไป !”

แต่ทว่า อายู่ได้แต่ยืนก้มหน้า ราวกับไม่รู้ไม่เห็นอะไร

ซุนจิ้งไฉโกรธจนหน้าแดงก่ำ “ฮ่าฮ่า เข้าใจแล้ว ที่แท้ฉันคนนี้คงตาบอด มองนายผิดไป !”

ความรู้สึกผิดแวบเข้ามาในแววตาของอายู่ “นายท่าน เมื่อก่อนท่านเคยมอบที่ซ่อนตัวให้แก่ฉัน ฉันก็คอยตอบแทนด้วยการปกป้องท่าน แต่พลังของอู๋ไต้ซือนั้นยิ่งใหญ่หาใครเทียบ เราไม่มีทางชนะแน่ ฉันแนะนำท่านส่งยานเอ๋อร์ให้กับอู๋ไต้ซือเถอะ แล้วฉันจะขอร้องอู๋ไต้ซือให้ไว้ชีวิตท่านเอง !”

ซุนจิ้งไฉด่าทอ “เจ้าคนทรยศ ฉันไม่ต้องการให้นายมาขอร้องแทนฉัน ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็ไม่มีทางส่งยานเอ๋อร์ให้กับมัน !”

ซุนจิ้งไฉหันไปตะโกนกับมู่หรงยานเอ๋อร์ “ยานเอ๋อร์ วิ่ง ! ลุงจะรั้งมันไว้เอง !”

มู่หรงยานเอ๋อร์ได้แต่หลั่งน้ำตา พรางส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ หนูจะไม่ทิ้งคุณลุงไปไหนทั้งนั้น !”

อู๋ไต้ซือถอนหายใจ และพูดว่า “ช่างซาบซึ้งกินใจข้าเป็นอย่างยิ่ง สาวน้อย เธอไม่ต้องกังวลไป ตราบใดที่เธอเชื่อฟังคำสั่งฉัน ฉันก็จะปล่อยคุณลุงของเธอไป ว่ายังไงล่ะ ?”

เดิมทีเฉินโม่ต้องการจะลงโทษซุนจิ้งไฉต่อ แต่ก็ไม่อาจทนเห็นมู่หรงยานเอ๋อร์เสียใจได้ จึงตัดสินใจจะจบเรื่องนี้ทั้งหมด

เฉินโม่พูดเบา ๆ “ฉันว่านายพอได้แล้วล่ะ !”

เสียงราบเรียบแต่กลับฟังได้อย่างชัดเจน จนดึงดูดความสนใจของทุกคนได้ทันที

เว่ยจื่อหยุนตะโกน “เจ้าเด็กน้อย นี่คิดว่าแค่รู้จักกับตระกูลจินแล้วจะมาพูดจาอวดดีต่อหน้าอู๋ไต้ซือได้งั้นรึ ! พลังของตระกูลจินอาจจะไม่ธรรมดาในโลกมนุษย์ แต่มันไม่ได้อยู่ในสายตาของอู๋ไต้ซือหรอก !”

อู๋ไต้ซือจ้องมองเฉินโม่ด้วยสายตาเย็นชา มองด้วยนัยน์ตาสีเขียวราวกับงูเห่าที่กำลังล่าเหยื่อ “เจ้าหนู แกกล้ามาขวางทางฉัน คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ ?”