ไป๋ซู่ (3)

 

 

หูหลีระเบิดหัวเราะ “ข้าสามารถจัดการคนพวกนี้เองได้! อีกอย่าง นายท่านอวิ๋นเซียวไปไหนหรือ”

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดแล้วตอบ “เขามีเรื่องเร่งด่วนบางอย่างต้องไปทำ หูหลี จัดการพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!”

 

 

“ได้”

 

 

หูหลีจ้องหน้าศัตรูเบื้องหน้าเขาแล้วค่อยๆ ทำใจให้เย็นลง ความเดือดดาลในดวงตาจะถูกแทนที่ด้วยความมั่นใจ

 

 

“หูหลี เดี๋ยวจะได้รู้กันว่าเจ้าจะยังปากดีอยู่หรือไม่” หูโย่วอู่หัวเราะแล้วสั่งให้ผู้ติดตามเขาทั้งหมดโจมตีหูหลี…

 

 

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ดูการต่อสู้แต่มองไปที่ท้องฟ้าสีฟ้าด้านบน ดวงตาสีนิลของนางเต็มไปด้วยความกังวล

 

 

อวิ๋นเซียว เจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัย!

 

 

 

 

หน้าประตูเมือง

 

 

ไป๋ซู่มองประตูเมืองตรงหน้าเขาแล้วดวงตาร้ายกาจขอองเขาก็เป็นประกายบางอย่าง “จิ่นอวี้ ตอนนี้พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ!”

 

 

หูหลีคนเดียวอาจไม่พอต่อกรกับตระกูลหู ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงต้องอยู่ด้านหลังคอยช่วยเขา เท่าที่เขารู้จักอวิ๋นเซียว เขาไม่มีทางทิ้งอวิ๋นลั่วเฟิงไว้คนเดียว ดังนั้นเขาต้องคอยอยู่เคียงข้างนางแน่

 

 

สิ่งที่ไป๋ซู่บอกหูโย่วอู่ถูกเพียงส่วนเดียว เขารู้ว่าตระกูลหูไม่สามารถเอาชนะอวิ๋นเซียวได้ เช่นนั้นเขาจึงไม่อยู่ในเมืองลั่วฮวานาน เพราะหากชายคนนั้นหาเขาเจอ…

 

 

เขายังไม่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเขาต้องซ่อนตัวจากอวิ๋นเซียว! เมื่อใดที่เขาได้พลังกลับคืนมา เขาจะมาสู้ศึกตัดสินกับอวิ๋นเซียว!

 

 

ทว่า…ในตอนที่ไป๋ซู่กำลังจะก้าวเท้าออกจากประตู ชายหนุ่มสวมอาภรณ์สีดำก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ชุดคลุมสีดำของเขาสะบัดไปตามแรงลม ใบหน้าเย็นชายังคงตึงเครียด ดวงตาสีนิลของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

 

 

ไป๋ซู่ชะงักลง

 

 

พวกเขามองหน้ากันแล้วกลิ่นอายทรงพลังก็ถูกปล่อยออกมาจากร่างทั้งคู่ ทันใดนั้นสายลมแรงก็พุ่งขึ้นแล้วเมฆฝุ่นก็ลอยขึ้นไปในอากาศ

 

 

“อวิ๋นเซียว” ดวงตาของไป๋ซู่ส่องประกายชั่วร้ายเขาจ้องชายหนุ่มเบื้องหน้าเขาอย่างเย็นชา “เหตุใดเจ้าไม่อยู่กับอวิ๋นลั่วเฟิง”

 

 

เสียงของชายหนุ่มยังคงเย็นชาและแหบเหมือนเดิมแต่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในตัวหญิงสาว

 

 

“คนพวกนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง!”

 

 

เขาเชื่อในตัวอวิ๋นลั่วเฟิง!

 

 

ถึงแม้อวิ๋นลั่วเฟิงจะยังไม่ผ่านด่านระดับราชันปราชญ์ เขาก็คิดว่าคนพวกนั้นทำอะไรนางไม่ได้

 

 

ไป๋ซู่หัวเราะ “อวิ๋นเซียว ดูเหมือนว่าข้าจะดูถูกเจ้ามากเกินไป แต่ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะหยุดข้าได้! ถ้าข้าต้องการไปก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดข้าได้!”

 

 

อวิ๋นเซียวมองไป๋ซู่อย่างเฉยชา “เจ้ายังคิดว่าสตรีที่อยู่ข้างเจ้าจะพาเจ้าหนีไปได้อยู่อีกหรือ”

 

 

หลายปีมานี้ไป๋ซู่หนีไปได้หลายครั้งก็เพราะสตรีข้างตัวเขา ไม่อย่างนั้นเขาคงสามารถสังหารไป๋ซู่ได้ตั้งนานแล้ว!

 

 

“นายท่านเจ้าคะ” สีหน้าของจิ่นอวี้มืดครึ้ม นางมองอวิ๋นเซียวอย่างระมัดระวัง “ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ ข้าจะพาท่านออกไปให้ได้แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม!”

 

 

พรึบ!

 

 

ตอนนั้นเองชายหนุ่มก็ลงมือ เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็มาปรากฏตัวหน้าจิ่นอวี้เหมือนสายลม

 

 

ตูม!

 

 

ก่อนที่จิ่นอวี้จะทันได้ตั้งตัว นางก็ถูกโจมตี ร่างของนางปลิวออกไปอย่างรวดเร็วแล้วตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง เลือดพุ่งออกมาจากปาก

 

 

“นายท่าน รีบไปเจ้าค่ะ!” จิ่นอวี้ร้องอย่างกังวลดวงตางดงามของนางเต็มไปด้วยความร้อนรน

 

 

“อวิ๋นเซียว” ไป๋ซู่เยาะเย้ย “เจ้ากล้าโจมตีสตรีได้อย่างไร เจ้าไม่คิดว่าตัวเองหยาบช้าเกินไปหน่อยหรือ”