บทที่ 274-2 บุรุษ...ก็ต้องเร็ว (2)

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

บทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (2)

ก่อนหน้านี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแค่พุ่งเข้าไปในกองทัพผีร้าย ก็ทำให้พวกมันโกรธกันมากแล้ว

หากไม่ใช่เพราะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนออกมือช่วยด้วยตนเอง ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคงไม่ได้ออกมาง่ายขนาดนั้น

ตอนนี้เสิ่นเทียนยังกล้าประมาทเช่นนี้ จึงทำให้ผีร้ายทั้งหมดโมโหทันที

อู้~

เสียงผีร้องไห้แหลมเล็กดังมาจากกลางเมฆร้ายสีดำ

ใบหน้าผีร้ายที่ดูน่าเวทนา อัปลักษณ์ และน่าสยดสยองลอยขึ้นมาจากเมฆชั่วร้ายช้าๆ ทั้งยังรวมพลังชั่วร้ายเป็นดาบ กระบี่ ขวาน และกริชกลางอากาศ แผ่พลังชั่วร้ายอันน่าพรั่นพรึงพลางพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียน

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เสิ่นเทียนเสี่ยงตายเช่นนี้เลยหรือ”

“นั่นมันผีร้ายแก่นพลังทองหลายหมื่นนะ นี่ไม่ใช่ว่ารนหาที่ตายหรือ!”

“น่าเสียดายกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะได้บุตรแห่งโชคมาไม่ใช่ง่ายๆ วันนี้กลับต้องเสียไปรึ”

เสียงผู้คนร้องเสียดายดังขึ้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมมุมปากกระตุก “เจ้าเด็กบ้า เมื่อครู่ข้าก็ลองมาแล้ว มีคนควบคุมผีร้ายพวกนี้ในเงามืด พวกมันเข้ากันดีมาก ใช้กำลังคนเดียวทำลายไม่ได้เลย นี่มันก่อเรื่องชัดๆ ไม่ใช่หรือ!!”

สีหน้าของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน “ศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เรียกเทียนเอ๋อร์กลับมาเถอะ นี่มันเสี่ยงเกินไป”

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ตอนนี้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนไม่มีความกังวลใดๆ เลย

ประกายเซียนบนผิวกายเขากระเพื่อมเบาๆ “ไม่เป็นไร เทียนเอ๋อร์เป็นบุตรแห่งโชค มีสวรรค์คอยปกป้อง จะไม่เป็นอะไรแน่นอน พูดได้ว่าหัวใจสำคัญของการทำลายเขตแดนนี้อยู่ที่ตัวเทียนเอ๋อร์แล้ว”

หัวใจสำคัญในการทำลายเขตแดนอยู่ที่เสิ่นเทียนหรือ

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนโดยรอบขมวดคิ้วเล็กน้อย

เสิ่นเทียนเป็นเพียงผู้จริงแท้ระดับกายทอง อายุยังเทียบกับเศษอายุพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

ในสถานการณ์วิกฤตที่ผีร้ายระดับกายทองหลายหมื่นตนปิดล้อม พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเสิ่นเทียนจะฝ่าพวกมันด้วยตัวคนเดียวอย่างไร

“รอดูเถอะ! เมื่ออยู่ต่อหน้าบุตรแห่งสวรรค์ ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยเสียงเฉยชา ไม่มีคำพูดโน้มน้าวใดๆ เลย แต่คำพูดเขากลับมีความแน่ใจและมั่นใจมาก

ตอนนี้เองมีเสียงร้องดังขึ้นกลางเมฆชั่วร้ายมืดฟ้ามัวดินนั้น

อ๊าก!

เสียงร้องดังขึ้นก่อนจะมีร่างหนึ่งตกลงมาจากเมฆชั่วร้าย

เสิ่นเทียนรึ

ทุกคนเพ่งสายตามองไปทางร่างเงานั้น พบว่านั่นไม่ใช่เสิ่นเทียน แต่เป็นร่างคนสวมชุดคลุมดำคนหนึ่ง

มือถือธงประหลาดสีดำอันหนึ่งไว้ ผืนธงเต็มไปด้วยอักขระ ดูมืดทึมมาก

“เป็นยอดฝีมือลัทธิวิญญาณร้าย เขาซ่อนในผีร้ายพวกนี้ ใช้ธงหมื่นภูตผีควบคุมผีร้ายเสีย!”

ลัทธิวิญญาณร้ายกับฝ่ายเซียนสู้กันมานานเป็นหมื่นปี ฝ่ายเซียนจึงเข้าใจในกลอุบายมากมายของลัทธิวิญญาณร้าย

ธงหมื่นภูตผีในนั้นคือหนึ่งในสมบัติวิเศษไม่กี่ชิ้นที่ชั่วร้ายที่สุดของลัทธิวิญญาณร้าย

สมบัติชนิดนี้มีเพียงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพเท่านั้นถึงจะหลอมสร้างได้ สามารถควบคุมผีร้ายหลายพันตัว วางเป็นค่ายกลภูตผีน่ากลัวหลายชนิดสังหารศัตรู

ธงหมื่นภูตผีที่คุณภาพสูงสุด ถึงขั้นควบคุมผีร้ายระดับดวงจิตดรุณได้หมื่นตน หลังวางค่ายกลแล้ว แม้แต่ผู้อริยะยังต้องเลี่ยงประกายคมไปชั่วคราว

แน่นอน ธงหมื่นภูตผีระดับนี้หายากมากจริงๆ ทั้งลัทธิวิญญาณร้ายอาจจะหาเจอแค่อันเดียว

ตอนนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายคนนี้ที่ถูกเสิ่นเทียนฟันตกลงมา ถือธงหมื่นภูตผีธรรมดา

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนนี้ดูจะบาดเจ็บไม่เบา แขนซ้ายหักทั้งหมด ธงหมื่นภูตผีในมือถูกหักไปครึ่งส่วน

“เจ้าเด็กอวดดี หากไม่ใช่เพราะอยู่ในเขตแดนสรรพสัตว์เท่าเทียม มดปลวกอย่างเจ้าข้าใช้นิ้วเดียวก็บดขยี้เจ้าแหลกได้สบายๆ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนนั้นเพิ่งเอ่ยจบ ก็พบว่ามีร่างสีแดงอมทองขยับวูบออกมาจากความว่างเปล่า

แสงสีทองคือเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรกับทองคำเซียนปีกปักษา

แสงสีแดงคือแสงกระบี่สีโลหิตจากกระบี่ฟ้าสังหาร

ชิ้ง~!

ท่ามกลางเสียงกระบี่กังวาน กระบี่ฟ้าสังหารพลันกลายเป็นกระบี่ยักษ์สีโลหิตหลายสิบจั้ง จากนั้นก็ฟันใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายคนนั้นในฉับพลัน ตอกผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายคนนั้นลงกับพื้นจนกายเนื้อสลายเป็นอากาศธาตุ

จิตต้นกำเนิดกลุ่มหนึ่งลอยออกมาจากกายเนื้อ คิดจะหนีกลับเข้าไปในเมฆชั่วร้ายด้วยความตื่นกลัว

น่าเสียดายก็แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าทองคำเซียนปีกปักษา เขาช้าเกินไปจริงๆ

เสิ่นเทียนย้ายร่างมาขวางหน้าจิตต้นกำเนิดนั้น บินขึ้นถีบมันไปทางกองทัพฝ่ายเซียน

“ทำดีมาก เทียนเอ๋อร์!”

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ขยับแสง ก่อนประสานมุทรา ปรากฏคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์สีทองเล่มหนึ่งในมือ

จิตต้นกำเนิดนั้นถูกเขาเก็บไปในมิติคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีแรงต่อต้านใดๆ เลย

……

“ไม่อยากเชื่อว่าจะหาผู้ควบคุมที่ซ่อนตัวในกองทัพภูตผีหลายหมื่นตัวพบ เจ้าหนูนี่แปลก จะให้มันเข้าใกล้เราไม่ได้อีกเด็ดขาด!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายหลายคนในเมฆชั่วร้ายสีดำมีสีหน้าเขียวปัด

พวกเขาเป็นคนควบคุมผีร้ายพวกนี้ ดังนั้นพวกมันถึงร่วมมือกันได้เข้ากันดีเช่นนี้

หากไม่มีธงหมื่นภูตผีควบคุม อย่าว่าแต่ไม่อาจคงรูปกองทัพภูตผีแข็งแกร่งเลย ลำพังแค่ผีร้ายพวกนี้แว้งกัดก็ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนี้ปวดหัวแล้ว

“ทุ่มกำลังทั้งหมดฆ่าไอ้เด็กนี่!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หลายคนในเมฆชั่วร้ายสีดำวางแผนกันอย่างจริงจัง

กองทัพภูตผีมืดฟ้ามัวดินนั้นมากกว่าครึ่งโจมตีใส่ค่ายกลของพันธมิตรฝ่ายเซียนต่อ พยายามทำลายค่ายกลให้เร็วที่สุด

อีกส่วนเล็กรวมเป็นพายุพลังชั่วร้ายน่าขนลุกหมุนม้วนเข้าใส่เสิ่นเทียนเหมือนจะกลืนกินฟ้าดิน

“ถึงจำนวนจะเยอะ แต่เสียดายที่ทุกตัวอ่อนแอกันมาก ขวางหน้าข้าไม่ได้เลย”

เสิ่นเทียนถือกระบี่ฟ้าสังหาร แม้จะไม่ได้ฝึกเคล็ดกระบี่สูงส่งอะไร แต่ทักษะการรบในใต้หล้าก็มีจุดมุ่งหมายเหมือนกันอยู่แล้ว อาวุธเป็นเพียงภาชนะที่ต่างกันเท่านั้น

แสงกระบี่สีแดงชั่วร้ายไหลเวียนดั่งสายน้ำใบไม้ร่วง ข้างหลังเสิ่นเทียนเกิดปรากฏการณ์กระบี่เทพทรงพลังนับไม่ถ้วน ทำให้มวลอากาศปริแตก

“ข้า หาพวกเจ้าเจอแล้ว!”

เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มเย้าหยอก พลันขยับปีกเทพทองคำข้างหลัง

ทั้งตัวเขาเหมือนทะลวงผ่านมิติ ความเร็วเหนือกว่าระดับกายทองไปอย่างสมบูรณ์

ผีร้ายมากมายกระโจนใส่เขา แต่กลับไม่โดนตัวเสิ่นเทียน ตอนนี้ไม่มีเงาของเสิ่นเทียนแล้ว

บุรุษ ก็ต้องเร็ว!

กระบี่ฟ้าสังหารในมือคมกริบอย่างยิ่ง ฟันผีร้ายที่ขวางหน้าเป็นสองซีก

อ๊าก~

ภายใต้ไอกระบี่มหาศาลสาดลงมาราวกับพายุห่าฝน ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายคนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในผีร้ายสิบกว่าตัวถูกฟันตกลงมา ธงหมื่นภูตผีแตกเป็นเสี่ยงๆ

เมื่อเสียธงหมื่นภูตผีไป ผีร้ายหลายพันตัวนั้นเสียการควบคุมไปอย่างสมบูรณ์และเริ่มกระโจนใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายคนนั้น

หากอยู่ในสภาพเต็มร้อย ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายจะกลัวผีร้ายระดับแก่นพลังทองเล็กจ้อยหรือ ต่อให้มีเยอะกว่านี้ อย่างน้อยก็ยังหนีออกมาได้

ทว่าตอนนี้อยู่ในเขตแดนสรรพสัตว์เท่าเทียม ระดับพลังถูกจำกัดอยู่แก่นพลังทอง อีกทั้งกายเนื้อยังถูกทำลายเหลือเพียงจิตต้นกำเนิด ผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนนั้นจึงต่อต้านไม่ได้เลย

ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็ถูกผีร้ายนับไม่ถ้วนกัดกินอย่างบ้าคลั่ง วิญญาณแหลกสลายไป

เสิ่นเทียนไม่ได้หยุดแค่ตรงนี้ แต่บุกไปหาผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายที่ซ่อนในกองทัพภูตผีต่อ

เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรทำให้พลังป้องกันของเสิ่นเทียนแข็งแกร่งจนน่าโมโห

ปีกปักษาทองคำเซียน ทำให้เสิ่นเทียนเร็วจนจับตัวไม่ทัน

เถากลืนกินเซียนเน้นการฟื้นฟู ทำให้เสิ่นเทียนแทบไม่ต้องกังวลว่าพลังฤทธิ์จะหมดเลย

กระบี่ฟ้าสังหารเน้นการเข่นฆ่า คมกระบี่ผ่านไปที่ใด คนกับภูตผีจะแยกเป็นสองส่วนด้วยกระบี่เดียว

…….

เสิ่นเทียนในสายตาทุกคนตอนนี้เหมือนกลายเป็นเทพสงครามที่สุดแห่งยุค น่าเกรงขามอย่างยิ่ง

แม้แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกยังมีสีหน้าตกใจ “แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้บุตรกิเลนเช่นนี้ สวรรค์ปกปักเทพสวรรค์จริงๆ!”

ตอนแรกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกยังเคยได้ยินเสี่ยวหลิงเซียนเล่าว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนเคยได้รับมรดกของผู้อาวุโสเสินสุ่ยหลิงพร้อมๆ กับนาง ถึงได้ผูกวาสนาที่อธิบายไม่ได้กับแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก

ตอนนั้นในใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ๋ธารหยกยังไม่คิดเช่นนั้น

ถึงอย่างไรสำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกแล้ว อัจฉริยะคนเดียวไม่เท่าไรจริงๆ

ทว่าหลังจากข่าวเกี่ยวกับเสิ่นเทียนมาถึงหูนางมากขึ้นเรื่อยๆ นางก็เริ่มอิจฉา

ตอนนี้ได้เห็นเสิ่นเทียนมีองค์ประกอบเหนือเทพทั้งตัว รวมถึงกำลังรบในระดับเดียวกันที่แกร่งจนน่าโมโห เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว

เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดบรรพจารย์แดนศักดิ์สิทธิ์ถึงต้องตั้งกฎ ‘ธารหยกไม่รับศิษย์บุรุษ’ ด้วย

ถ้าไม่เช่นนั้น หากผูกเหตุและผลกับเสิ่นเทียนตามลำดับขั้นตอนแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็น่าจะได้เสิ่นเทียนมาก่อน

ก็เพราะกฎนี้เองที่ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกพลาดสุดยอดโอรสสวรรค์ที่เทียบเท่ากับจักรพรรดิฮวงสือ!

‘ไม่ได้ พรสวรรค์ของเสิ่นเทียนไม่อาจประเมินได้ จะพลาดไปไม่ได้เด็ดขาด!’

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกคิดคำนวณในใจ ‘ในศิษย์ฝ่ายข้าทั้งหมด หลิงเอ๋อร์สนิทกับเสิ่นเทียนมากที่สุด จบเรื่องนี้แล้ว ข้าจะกลับไปแต่งตั้งให้หลิงเอ๋อร์เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ธารหยกรุ่นนี้ ภายภาคหน้าค่อยหาโอกาสอันดีงามเกี่ยวดองกัน

อืม! รับเจ้าเป็นศิษย์ไม่ได้ เช่นนั้นก็รับเจ้าเป็นลูกเขยแล้วกัน!

แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกต้องได้เจ้ามา!’

……

คนที่คิดคล้ายๆ กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกไม่ได้มีแค่คนเดียว

แน่นอนว่าเสิ่นเทียนไม่รู้ความคิดในใจพวกเขา ตอนนี้เขาทุ่มความคิดทั้งหมดไปกับการสังหารผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้าย

ไม่ว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายพวกนั้นจะซ่อนลึกเพียงใด ก็โดนเขาฟันออกมาทีละคน

ตอนนี้เขากำลังฮึกเหิมมาก

ไฉนถึงฮึกเหิม มันก็เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึ

ที่เสิ่นเทียนขายผ้าเอาหน้ารอดมาตลอดก็เพราะระดับพลังต่ำ

ตอนนี้เจ้าผู้คุ้มกฎอู๋เซิงช่วยกดระดับพลังทุกคนลงเหลือแก่นพลังทอง ในเขตแดนสรรพสัตว์เท่าเทียม แม้แต่คนของลัทธิวิญญาณร้ายยังไม่ละเว้น

นี่ทำให้เสิ่นเทียนได้สัมผัสว่าอะไรคือการใช้อำนาจกดขี่ผู้อื่น

หนึ่งคน

สองคน

สามคน

สี่คน

….

เจ็ดคน

แปดคน

ไม่นาน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ของวิหารเจ็ดสังหาร วิหารทะลวงทัพและวิหารหมาป่าละโมบของลัทธิวิญญาณร้ายทั้งแปดคนก็ถูกเสิ่นเทียนฟันตกลงมาจากในเมฆชั่วร้าย

จิตต้นกำเนิดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคนในนั้นโดนเสิ่นเทียนจับไว้ อีกห้าคนโดนพวกผีร้ายแว้งกัดเพราะธงหมื่นภูตผีพัง ถือว่ากรรมตามสนอง

และในการต่อสู้อาบโลหิตไม่หยุดหย่อนนี้ ทำให้เสิ่นเทียนสัมผัสได้ว่าทะลวงเยื่อบางชั้นนั้นแล้ว

การต่อสู้คือทางลัดในการพัฒนาได้เร็วที่สุดเสมอมา ตอนนี้ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ทะลวงกายทองรอบที่สามสำเร็จ พละกำลังเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น

เสิ่นเทียนรู้สึกถึงอกถึงใจในศึกนี้มาก!

……

“ไม่เลวๆ กวาดล้างเจ้าหนูเฒ่าพวกนี้ได้เร็วขนาดนี้เลย”

เสียงปลาบปลื้มใจของเยี่ยฉิงชางดังในความคิด

เสิ่นเทียนยิ้ม “เพราะได้ผู้อาวุโสเยี่ยชี้แนะ ข้าถึงได้เจอพวกมันเร็วขนาดนี้”

เยี่ยฉิงชางยิ้ม “กำลังรบในระดับเดียวกันของเจ้ามีเจ็ดส่วนสมัยข้าหนุ่มๆ แล้ว พยายามต่อไป”

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าทันที “ข้าจะพยายามต่อไป!”

ตอนนี้เองเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้น

พบว่าผีร้ายที่เสียการควบคุมพวกนั้นกินผู้สูงศักดิ์สวรรค์ลัทธิวิญญาณร้ายหมดแล้วก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม

พวกมันโจมตีใส่กองกำลังพันธมิตรฝ่ายเซียนอีกครั้ง!

………………………..