ตอนที่ 953-954

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 953+954 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 953 ควานหาตัวผู้บงการอยู่หลังม่าน

“เยี่ยนเฉิน เจ้าจำกัดขอบเขตการสู้ให้เล็กลงหน่อย รักษากำลังไว้ก่อน ข้าจะไปค้นหารอบๆ!” กู้ซีจิ่วสั่งการ

สีหน้าเยี่ยนเฉินแปรเปลี่ยนนิดๆ “ไม่ได้! เจ้าไปคนเดียวอันตรายเกินไป!”

“ไม่เป็นไร ข้ามีวิชาเคลื่อนย้าย พวกมันทำร้ายข้าม่ได้หรอก” ร่างกายกู้ซีจิ่วส่องแสงวูบ หายลับไปทันที

“ข้าจะไปกับนาง!” หลังจากอิงเหยียนนั่วทิ้งประโยคนี้ไว้ ก็เลือนหายไปทันที

เยี่ยนเฉินพูดอะไรไม่ออกแล้ว

อิงเหยียนนั่วผู้นี้ก็หายตัวไปว่องไวยิ่งนัก! หรือว่าเขาก็เป็นวิชาเคลื่อนย้ายด้วย?

เป็นไปไม่ได้กระมัง? เขาจำได้ว่าเคยได้ยินกู้ซีจิ่วบอกไว้ วิชาเคลื่อนย้ายของนางเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง มิใช่วิชาที่สามารถฝึกฝนกันได้

เว้นแต่เขาจะฝึกฝนวิชาเหินหาวถึงขั้นแปดแล้ว

แต่วิชาประเภทนี้ผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นเก้าเท่านั้นถึงจะบรรลุได้มิใช่หรือ?

และพลังวิญญาณของอิงเหยียนนั่วในยามนี้เพิ่งฝึกฝนถึงขั้นหกสองส่วนเท่านั้น…

ที่สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เยี่ยนเฉินได้รับการยอมรับว่าเป็นยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เป็นคนพิเศษในหมู่คนพิเศษมาโดยตลอด หลังจากกู้ซีจิ่วมาถึง ก็ชิงเอาคำว่าคนพิเศษสามคำนี้ไป ตอนนี้มีอิงเหยียนนั่วโผล่มาอีกคน มงกุฎของยอดอัจฉริยะก็ดูเหมือนจะถูกยื้อแย่งไปด้วย…

เขารู้สึกมาเสมอว่าอิงเหยียนนั่วศิษย์น้องเล็กผู้นี้ค่อนข้างประหลาด บัดนี้ความรู้สึกนี้ยิ่งหนักขึ้นกว่าเก่า

อิงเหยีนนั่วผู้นี้คงมิใช่คนชั่วที่แฝงตัวอยู่ในที่มืดอันใดนั้นปลอมตัวมากระมัง?!

หน้าผากของเยี่ยนเฉินมีหยาดเหงื่อผุดพรายออกมาทันที ตัดสินใจว่าถ้ากู้ซีจิ่วกลับมาจะเตือนให้นางระวังตัวสักหน่อย…

ในเมื่อผีดิบเหล่านี้สังหารเท่าไหร่ก็ไม่สิ้น เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองพลังงานทุ่มเทต่อสู้ถึงเพียงนั้น

เยี่ยนเฉินตะโกนบอกทุกคนอย่างรวดเร็วว่าจำกัดขอบเขตให้เล็กลง ให้ทุกคนรักษากำลังไว้ ไม่ต้องเป็นฝ่ายบุกโจมตีอีก

จางฉูฉู่ติดใจการสังหารแล้ว ถึงแม้จะถอยกลับมา สีหน้านางก็ยังคงดุดันอยู่ “มารดามันเถอะ! สรุปแล้วเจ้าพวกนี้โผล่มาจากไหนกันแน่? ทำไมมากมายถึงเพียงนี้”

เยี่ยนเฉินตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเขาก็คือทหารที่เสียชีวิตแล้วหายตัวไปเหล่านั้น!”

จางฉูฉู่ตะลึง

เล่อชิงซิ่งเอ่ยขึ้นว่า “คนที่คอยควบคุมพวกมันอยู่เบื้องหลังไม่ธรรมดาเลย! หากว่าเจ้าพวกนี้ถูกปล่อยออกไปยังโลกภายนอก เกรงว่าทหารทั่วไปคงต้านรับไม่ไหว จะมีคนที่ถูกกัดเพิ่มมากขึ้น…”

เยี่ยนเฉินสูดหายใจเบาๆ “ด้านนอกมีทหารธรรมดาที่ถูกกัดแล้ว ทหารม้ากองหนึ่งของอาณาจักรเฟยซิงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พวกข้าสามคนได้ตรวจสอบเรื่องนี้ เมื่อติดตามร่องรอยไปพบว่ามีประชาชนของเมืองชายแดนแห่งหนึ่งถูกกัดเข้า ที่ตายก็ตาย ที่เจ็บก็เจ็บ พวกเราคิดจะดูอาการผู้บาดเจ็บเหล่านั้น ก็พบตัวคนน่าสงสัยคนหนึ่งอยู่ไม่ไกล จึงรีบไล่ตาม ตามมาจนถึงที่นี่…”

พายุหิมะพัดโหม หัวใจของทุกคนก็หนาวเหน็บไปหมดเช่นกัน

หากถูกเจ้าสิ่งนี้กัดก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับเจ้าสิ่งนี้ เช่นนั้นมิใช่หายนะของแผ่นดินนี้หรอกหรือ?

….

ณ ส่วนลึกของเมืองร้างแห่งนี้ มีบ้านพักที่ดูธรรมดายิ่งนักหลังหนึ่ง บ้านดินกำแพงดิน เครื่องเรือนภายในบ้านเสื่อมโทรม

ลึกลงไปใต้พื้นของบ้านดินหลังนี้ กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ที่ใต้พื้นมีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งที่กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของตัวเมืองอยู่ใต้ดิน

กำแพงศิลาหนาหนัก เฉลียงทางเดินเทียบกับสุสานของจักรพรรดิได้เลย ที่ส่วนลึกของเฉลียงทางเดินมีประตูศิลาบานหนึ่ง ประตูศิลาจะเปิดออกบ้างเป็นครั้งคราว ทุกครั้งที่เปิดออกล้วนมีผีดิบชุดขาวสิบกว่าตัวพุ่งออกมา มุดออกไปผ่านช่องทางแห่งหนึ่ง…

ที่ส่วนลึกของเฉลียงทางเดินมีพระวังใต้ดินแห่งหนึ่งที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าปราการเหล็กกล้าเสียอีก

การตกแต่งภายในพระราชวังใต้ดินค่อนข้างประหลาด บนผนังสี่ด้านฝังกระจกฉาบปรอทไว้ ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกมิใช่การจัดแต่งภายในวัง แต่เป็นฉากสถานการณ์ภายนอก บ้านเรือนทุกหลัง ถนนทุกสาย ลานกว้างทุกแห่งล้วนปรากฏออกมาภายในกระจกฉาบปรอทเหล่านั้น ไม่มีจุดอับสายตาเลยสักแห่ง

และภายในวังจัดวางอุปกรณ์หน้าตาประหลาดส่วนหนึ่งไว้ เสมือนห้องทดลองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

————————————————————————————-

 บทที่ 954 ควานหาตัวผู้บงการอยู่หลังม่าน 2

ในวังใต้ดินมีคนสองคนกำลังมองกระจกฉาบปรอทเหล่านั้นอยู่ หนึ่งในนั้นรูปร่างผอมแห้ง เรือนกายสูงโปร่ง เครื่องหน้าหล่อเหลาโดดเด่น สวมเสื้อคลุมสีขาวตัวหนึ่ง บุคลิกเสมือนคงแก่เรียนผู้หนึ่ง รูปโฉมเหมือนกับหลงซีในชาติก่อนทุกประการ!

ขณะนี้สายตาของเขาจับจ้องร่างของกู้ซีจิ่วที่เข้าๆ ออกๆ บ้านร้างเหล่านั้นปานพายุหมุน ก้นบึ้งดวงตาฉายแววซับซ้อนและร้อนแรงแวบหนึ่ง

บุรุษชุดสีมรกตคนหนึ่งยืนอยู่ด้านข้างเขา รูปร่างผอมกระหร่อง มือทั้งสองราวกับท่อนกระดูก สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่กลุ่มของพวกเยี่ยนเฉิน พูดให้ถูกคือ สายตาเขาจ้องมองร่างของเชียนหลิงอวี่ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ตรงนั้น

บุรุษชุดสีมรกตกำหมัดแน่น “ผู้อาวุโสหลง ไอ้เด็กนั่นใกล้จะกลายเป็นผีดิบแล้วใช่ไหม? ข้ารู้สึกว่าท่านน่าจะเอาไอ้เด็กนั่นมาศึกษาทดลองนะ บางทีอาจะทลายปัญหายุ่งยากได้!”

บุรุษชุดขาวผู้นั้นเหลือบมองเชียนหลิงอวี่แวบหนึ่ง กล่าวเรียบๆ  “จับไม่ได้ พิษศพบนร่างเขาถูกขจัดออกไปแล้ว จับมาก็ไม่มีประโยชน์ ซ้ำยังเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น”

บุรุษชุดสีมรกตจ้องกู้ซีจิ่วในกระจกปรอทเขม็งแวบหนึ่ง “ล้วนเป็นนังเด็กตัวเหม็นคนนี้ที่ทำลายแผนการของพกเรา! ต้องกำจัดนังเด็กตัวเหม็นคนนั้นทิ้งก่อนไหม?”

ท่าทางของผู้อาวุโสหลงสงบยิ่ง ทว่าถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยกลับเย็นชา “ห้ามแตะต้องนาง!”

บุรุษชุดสีมรกตเลิกคิ้วขึ้น “เพราะเหตุใดเล่า? นางทำลายแผนการของพวกเราครั้งแล้วครั้งเล่า…”

ผู้อาวุโสหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ห้ามก็คือห้าม ไม่มีว่าเพราะเหตุใด นางคือเส้นตายของผู้อาวุโสเช่นข้า ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องนางแม้สักเส้นขน ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่เกิดมาบนโลกใบนี้!”

บุรุษชุดสีมรกตตะลึง

เขากระอึกกระอักอยู่ตรงนั้นครู่ใหญ่ถึงถามออกมา “ที่แท้นางเป็นใครกัน? เหตุใดผู้อาวุโสหลงต้องปกป้องนางถึงเพียงนี้?”

สายตาของผู้อาวุโสหลงร่อนลงบนร่างกู้ซีจิ่ว เด็กสาวคนนั้นกำลังตรวจค้นบ้านเรือนทุกหลัง บางครั้งก็เงยหน้าขึ้นมาแวบหนึ่งราวกับกำลังมองเข้ามาในกระจก สายตาเฉียบคมนั้นทำให้บุรุษชุดสีมรกตสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่!

ผู้อาวุโสหลงมองกู้ซีจิ่วด้วยสายตาที่เจือแววหลงใหลเอ็นดูรางๆ “นางคือผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของข้า…เป็นคนสำคัญที่สุด…”

บุรุษชุดสีมรกตนิ่งงัน

เห็นได้ชัดว่าเขากริ่งเกรงผู้อาวุโสหลง จึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสีย “ผู้อาวุโสหลง เมื่อไหร่ผู้ฟื้นจากความตายของท่านจะสามารถปรับปรุงจนใช้งานจริงได้?”

ผีดิบชุดขาวเหล่านั้นกัดและข่วนคน ทว่าไม่อาจทำใคนผู้นั้นกลายเป็นพวกเดียวกันได้ คนที่ถูกพวกมันกัดข่วนจนบาดเจ็บล้วนสิ้นชีพหมด

ไม่ง่ายเลยกว่าจะคนพิเศษอย่างเชียนหลิงอวี่สักคน หลัจากเขาถูกกัดก็มีมีอาการว่าจะกลายเป็นผีดิบ นึกไม่ถึงว่าจะถูกนังเด็กตัวเหม็นคนนั้นรักษาจนหายอีกแล้ว!

ในที่สุดสายตาของผู้อาวุโสหลงก้กวาดผ่านเชียนหลิงอวี่แวบหนึ่ง นัยน์ตาฉายแววใคร่ครวญแวบหนึ่ง เอ่ยเรียบๆ ว่า ข้าผู้อาวุโสกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ การทดลองทางวิทยาศาสตร์มิใช่สิ่งที่จะสำเร็จได้ในชั่วข้ามคืน เจ้าร้อนใจอันใด?“

บุรุษชุดสีมรกตยิ้มหยัน “มิใช่ข้าที่ร้อนใจเป็นท่านเจ้าของพวกเราต่างหากที่ค่อนข้างร้อนใจ เขาส่งข้ามาเร่งท่าน”

ผู้อาวุโสหลงเม้มปากแน่นไม่พูดอะไรอีก

บุรุษชุดสีมรกตผู้นั้นกล่าวต่อว่า “ระยะนี้จำนวนครั้งที่พวกเราล่อลวงผู้คนเข้ามาทดสอบมากพอแล้ว แต่คนที่ถูกขังไว้ที่นี่ล้วนถูก ‘ผู้ฟื้นจากความตาย’ ของพวกเราฉีกทึ้งเป็นอาหารโดยตรง ยังไม่มีเลยสักคนที่กลายเป็นผีดิบอย่างแท้จริง…อีกทั้งวิธีการสร้าง ‘ผู้ฟื้นจากความตาย’ ขึ้นมาสักตัวก็สิ้นเปลืองกำลังเหลือเกิน ไม่อาจแพร่พิษศพไปทั่วแผ่นดินอย่างรวดเร็วได้…ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าการศึกษาทดลองของท่านยังไม่ทันประสบความสำเร็จก็จะถูกคนของเทพศักดิ์สิทธิ์พบเข้าเสียก่อน…”

ผู้อาวุโสหลงตอบอย่างเฉยชา “ข้าก็พยายามอยู่! ข้าจะฝ่าด่านนี้ให้ได้ จะทำให้ท่านเจ้าพึงพอใจ!”

บุรุษชุดสีมรกตเสนอความคิดขึ้นมา “เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกี่ยวข้องกับระดับสูงต่ำพลังวิญญาณ? ยิ่งมีพลังวิญญาณสูง พอถูกกัดหรือข่วนก็มีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผีดิบ แต่เนื่องจากชาวบ้านธรรมดาทนรับความรุนแรงของพิษไม่ไหว พอถูกกัดถูกข่วนจึงสิ้นชีพผุพังไปทันที แทนที่จะกลายเป็นผู้ฟื้นจากความตาย?”

————————————————————————————-