ตอนที่ 312 ปล้นชิง

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

เมื่อได้ยินหลิงเทียนอีเซี่ยนเห็นด้วย ในใจของหลี่หลานเฟิงก็ตื่นเต้นมาก เขาสูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง ให้ตัวเองใจเย็นลง ครั้งนี้เขาจะต้องแสดงผลงานให้ดีๆ ไม่อาจทำให้กระต่ายของเขาขายหน้าได้ หลี่หลานเฟิงรู้ดีว่า หากต้องการยืนอย่างมั่นคงในทีมของกระต่าย อาศัยมิตรภาพของเขากับกระต่ายยังไม่เพียงพอ

หลี่หลานเฟิงบังคับหุ่นรบให้พุ่งออกไปทันใด เมื่อเขาตกลงสู่ท่ามกลางทะเลทรายอันไร้ที่สิ้นสุดซึ่งกลืนกินหุ่นรบไปจำนวนมาก เขาก็เห็นว่าทรายดูดใต้เท้ากลืนกินขาทั้งสองข้างของหุ่นรบเข้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหุ่นรบก็จมลงไปอย่างฉับไว จากความเร็วนี้ เกรงว่าอีกหนึ่งนาทีให้หลัง หุ่นรบก็จะถูกฝังจนไม่เหลือแล้ว

“รูปแบบทะเลทรายที่กำหนดไว้ของหุ่นรบไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ที่แท้จริง แรงพยุงตัวแตกต่างกันอย่างสุดขีด จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่า เปลี่ยนเป็นยี่สิบ ไม่พอ สามสิบ ยังคงไม่พอ สี่สิบ มากเกินไปนิดหน่อย…ที่ถูกต้องน่าจะเป็นสามสิบเจ็ดหรือว่าสามสิบแปด ยืนยันที่สามสิบแปด แรงฉุดของหุ่นรบที่ตั้งค่าไว้แต่เดิมยังขาดไป เลือกค่าการเสริมเป็นสิบ มีสภาพเฉื่อย เปลี่ยนค่าเป็นเก้า สำเร็จ ค่าความละเอียดผิดพลาด เพิ่มค่าเป็นยี่สิบ ผิดพลาด เพิ่มเป็นยี่สิบห้า? ปรับเป็นยี่สิบสี่ ยืนยัน…” เสียงพูดรัวๆ อย่างรวดเร็วของเนี่ยนเทียนโหยวเหริน รวมถึงเสียงรางๆ ของนิ้วมือที่บังคับด้วยความเร็วสูงสุดยอดดังขึ้นในช่องสื่อสารของทีม

นี่ทำให้คนอื่นๆ ในทีมหลิงหลานตกใจทันที พวกเขารู้ว่านี่หมายความว่าอะไร ไม่ต้องพูดถึงฉีหลงที่บังคับหุ่นรบอย่างป่าเถื่อนหยาบกระด้างตรงไปตรงมาโดยพึ่งแค่สัญชาตญาณ ต่อให้เป็นหานจี้จวินที่มีความสามารถในการคำนวณล้ำเลิศก็ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่แท้จริงของพื้นดิน ทำการแก้ไขให้ถูกต้องอย่างแม่นยำได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้เช่นกัน เสียงเคาะโบกสะบัดนิ้วอย่างรวดเร็วนั้นบ่งบอกว่าเวลานี้ความเร็วนิ้วของอีกฝ่ายไปถึงระดับที่น่ากลัวแล้วแน่นอน

นี่ทำให้พวกฉีหลงอดให้ความสนใจต่อเนี่ยนเทียนโหยวเหรินที่เข้าร่วมกลางทางขึ้นมาไม่ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่มีทางสงสัยสายตาของลูกพี่หลาน แต่ว่าไม่เคยสัมผัสความจริงย่อมไม่รู้เลยว่า ที่แท้เนี่ยนเทียนโหยวเหรินที่ดูสุภาพถ่อมตนคนนี้ก็เป็นอัจฉริยะด้านการควบคุมหุ่นรบเช่นกัน อย่างที่คิดไว้เลย คนที่ลูกพี่หลานถูกใจไม่ใช่คนธรรมดาทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกฉีหลงตื่นตกใจแล้วก็ใจเย็นลง พวกเขาไม่รอให้หลิงหลานสั่งการก็ทำการปรับหุ่นรบตามการปรับของเนี่ยนเทียนโหยวเหริน เนื่องจากหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงผ่านการตั้งค่านี้แล้ว ก็ดึงขาทั้งสองข้างออกมาจากในทรายดูด ยืนขึ้นมาได้อย่างสบายๆ ราวกับเหยียบอยู่บนพื้นของจริง รอคอยการมาของพวกเขา นี่ก็พิสูจน์ว่าการตั้งค่าเหล่านี้ของเขาถูกต้องแน่นอน

ฉากนี้ทำให้บรรดาหุ่นรบที่ยังคงดิ้นรนอยู่ท่ามกลางทรายมองอึ้งด้วยความตกใจเช่นกัน แต่พวกเขาก็เข้าใจอะไรได้อย่างรวดเร็ว รีบปรับการตั้งค่าด้วยมือ แต่ทุกอย่างนี้ไม่ได้ดูง่ายดายเหมือนพวกเขา การปรับด้วยมือจำเป็นต้องรู้เรื่องการตั้งค่าทุกอย่างของหุ่นรบราวกับมือตัวเอง ถ้าเกิดรู้เพียงครึ่งๆ กลางๆ ละก็ ไม่สามารถทำได้ถึงระดับของหลี่หลานเฟิงเลย

“เอาล่ะ พวกเราออกเดินทาง” หลิงหลานเห็นดังนั้นก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ออกคำสั่งทันที

หลังจากเสียงนี้ หุ่นรบแปดตัวที่ยังอยู่บนแท่นก็พุ่งออกมาราวกับกระสุนปืนใหญ่ ตกลงสู่ท่ามกลางทะเลทรายอย่างสบายๆ ก่อนจะรวมตัวกับเนี่ยนเทียนโหยวเหรินแล้วเดินทางเข้าไปยังส่วนลึกของทะเลทรายอย่างเร็วไว

ฉากนี้ถูกกล้องวงจรปิดของยานจับภาพไว้ได้แล้วถูกส่งไปที่ห้องบังคับการอย่างรวดเร็ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการที่อยู่ในห้องบังคับการเห็นการกระทำของคนกลุ่มนี้ ใบหน้าพลันเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ขยะทั้งหมดนะครับ กลุ่มนี้ยังพอมีผีมืออยู่นิดหน่อย โดยเฉพาะหุ่นรบตัวนี้…” หุ่นรบที่เขาชี้นั้นก็คือเนี่ยนเทียนโหยวเหรินที่ปรับตัวเข้ากับสภาพของทะเลทรายได้เป็นคนแรกที่ออกมา

“ถึงได้บอกไงว่า ผู้ควบคุมหุ่นรบพลเรือนอาจจะไม่ได้แย่ไปเสียทั้งหมดจริงๆ” ผู้บัญชาการตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “แต่ฉันรู้สึกมาตลอดว่าการบุกเบิกพื้นที่คราวนี้ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น…”

“คุณหมายความว่า…” ผู้ช่วยผู้บัญชาการอึ้งไป

“เมื่อสักครู่นี้เพิ่งจะได้รับการแจ้งเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก บอกว่าดาว X193 ที่อยู่ไม่ไกลจากเราเกิดความผิดปกติบางอย่าง ตอนนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไว้รอมีข้อมูลที่แน่ชัดแล้วก็จะแจ้งพวกเราอีกครั้ง” คิ้วของผู้บัญชาการขมวดแน่น เขาศึกษาค้นคว้ามาตลอดว่าจะใช้วิธีการอะไรทำให้พวกเขาเข้าใกล้ฐานที่มั่นซวิ่นหลง แต่ทุ่มเทความคิดแล้วก็ยังคงคิดหาสาเหตุไม่ออก ได้แต่เป็นฝ่ายรอคอยการแจ้งเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลัก นี่ทำให้ผู้บัญชาการที่ชอบควบคุมเรื่องทุกอย่างไว้ในมืออึดอัดใจอยู่บ้าง เขาไม่ชอบความรู้สึกที่โดนคนมัดมือมัดเท้าแบบนี้เลย

“ดูเหมือนว่าคราวนี้ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักกลัวว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอีกครั้งเอามากๆ เลยนะครับ…” แววตาของผู้ช่วยผู้บัญชาการดูจริงจัง ราวกับกำลังใคร่ครวญอะไรบางอย่าง

“ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาก็ได้แต่เป็นฝ่ายรอคอยการแจ้งเตือนของออปติคัลคอพิวเตอร์หลักเท่านั้น…” ผู้บัญชาการเอ่ยพลางถอนหายใจ เขายิ่งรู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับภารกิจของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

……

ช่วงเวลาเจ็ดวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทีมหลิงหลานไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นในเจ็ดวันนี้เพราะว่าหลิงหลานไม่ได้มาเพื่อบุกเบิกพื้นที่ดวงดาวแสวงหาความร่ำรวย เพราะฉะนั้นพวกเขาเลยไม่ได้แบ่งทีมออกเป็นหลายกลุ่มแยกย้ายกันออกไปเหมือนกลุ่มนักผจญภัยคนอื่นๆ เก้าคนในทีมแบ่งออกเป็นกลุ่มละสามคนตั้งขบวนสามเหลี่ยม เดินทางด้วยกันอยู่ในพื้นที่เดียวกัน คอยระวังให้กันและกัน ต่อให้มีกลุ่มนักผจญภัยบางกลุ่มมีเจตนาร้าย แต่เมื่อเห็นทีมหลิงหลานมีสมาชิกอยู่เต็มเปี่ยม และตั้งขบวนสามเหลี่ยมที่สามารถโจมตีและป้องกัน พวกเขาก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือ

อันที่จริงรูปขบวนสามเหลี่ยมคือรูปขบวนพื้นฐานของรูปขบวนหุ่นรบสหพันธรัฐ มันใช้หุ่นรบสามตัวตั้งเป็นรูปขบวนสามเหลี่ยม เคลื่อนไหวร่วมกัน รูปขบวนแบบนี้ไม่ว่าแนวขบวนของหุ่นรบตัวไหนก็สามารถเปลี่ยนเป็นหัวลูกศรมุ่งไปข้างหน้าของทีมได้ มันเป็นหนึ่งในรูปขบวนที่หน่วยหุ่นรบกองทัพสหพันธรัฐใช้กันบ่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ต่อให้เป็นแบบนี้ โชคของทีมหลิงหลานยังคงไม่เลว ถึงแม้พวกเขาไม่ได้ทำการค้นหาเป็นวงกว้าง แต่พวกเขายังคงเจอโลหะหายากบางอย่าง รวมถึงแร่ธาตุที่ไม่รู้จักบางอย่างด้วย พวกเขาบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้อย่างลับๆ ขอเพียงมอบให้เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนบนยานอวกาศ ต่อให้ไม่ได้รางวัลจำนวนมาก แต่ย่อมไม่มีปัญหาเรื่องการจัดหาพลังงานของหุ่นรบเป็นเวลาหลายเดือนแน่นอน

พูดถึงตรงนี้แล้ว ต้องพูดเรื่องการใช้พลังงานในโลกหุ่นรบรวมถึงวิธีการได้รับมาก่อน หุ่นรบที่ใช้กันทั่วไป ต่อให้ไม่ได้ล็อกอินเข้าไปควบคุมก็มีการบริโภคพลังงานพื้นฐานอยู่เหมือนกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบทุกคนต่างมีความกดดันในการเก็บสะสมพลังงานในแต่ละวัน พลังงานสามารถได้รับผ่านทางภารกิจ หรือว่าได้รับจากการสำรวจผจญภัยในพื้นที่นอกเมือง และก็สามารถใช้คะแนนเกียรติยศซื้อผ่านทางร้านค้าพลังงานในโลกหุ่นรบได้

ด้วยเหตุนี้เองผู้ควบคุมหุ่นรบที่ไม่ได้ล็อกอินเป็นเวลานาน ถ้าหากแหล่งพลังงานที่กักตุนไว้ไม่เพียงพอ มีความเป็นไปได้สูงว่าหุ่นรบของตัวเองจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ในครั้งต่อไปที่ล็อกอิน การเติมพลังงานใหม่อีกครั้งจะแพงกว่าที่กักตุนเตรียมไว้ ดังนั้นปกติแล้วในโลกหุ่นรบ ผู้ควบคุมหุ่นรบทั่วไปจะมีหุ่นรบที่ใช้ตามปกติหนึ่งตัว คนที่แข็งแกร่งนิดหน่อย มากสุดก็เตรียมหุ่นรบที่ใช้สำรองไว้แค่ตัวเดียวเท่านั้น เพราะว่าถ้าเกิดเพิ่มขึ้นอีกตัว ผู้ควบคุมหุ่นรบทั่วไปจะเลี้ยงดูไม่ไหว นอกเสียจากเป็นพวกคนที่มีความสามารถหรือว่าเป็นคนที่มีคะแนนเกียรติยศเยอะมาก

นี่ก็ทำให้ผู้ควบคุมหุ่นรบจำนวนมากจัดการทิ้งหุ่นรบที่คัดออกไปแล้วแลกเปลี่ยนเป็นพลังงานสำรองบางอย่างบนตัว นี่ก็คือสาเหตุที่หลี่หลานเฟิงไปแลกหุ่นรบอีกตัวในตอนที่ต้องการหุ่นรบระดับกลาง ผู้ควบคุมหุ่นรบทั่วไปไม่มีทางเก็บหุ่นรบที่เคยแลกมาทั้งหมดไว้กับตัว

เหตุผลที่เข้มงวดเช่นนี้ก็เพราะกลัวว่าผู้ควบคุมหุ่นรบจะไม่สามารถทุ่มเทความสนใจในการฝึกฝนหุ่นรบที่อยู่ในมือ ควรรู้เอาไว้ว่ายิ่งไปถึงช่วงหลัง การจัดหมวดหมู่ของหุ่นรบก็จะละเอียดมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หุ่นรบระดับกลาง แค่หุ่นรบฮิวแมนนอยด์ก็มีห้าประเภทแล้ว หุ่นรบระดับสูงก็ไปถึงแปดประเภท ถ้าหากไม่สามารถทุ่มเทสมาธิในการควบคุมหุ่นรบประเภทหนึ่ง ต่อให้ผู้ควบคุมหุ่นรบจะมีพรสวรรค์อีกสักแค่ไหนก็เปลี่ยนเป็นธรรมดาสามัญเพราะเหตุนี้ได้เหมือนกัน ดังนั้นโลกหุ่นรบจำเป็นต้องใช้แรงกดดันของความเป็นจริงมาบีบบังคับผู้ควบคุมหุ่นรบที่ใจร้อนให้ใจเย็นลง ฝึกฝนทักษะการควบคุมของหุ่นรบตัวหนึ่งอย่างยากลำบาก….

ดังนั้น ผู้ควบคุมหุ่นรบทุกคนในโลกหุ่นรบต่างปวดหัวเกี่ยวกับพลังงานของหุ่นรบ พวกหลิงหลานก็หงุดหงิดใจเพราะเรื่องนี้เหมือนกัน การที่พวกเขาสามารถออกมาทำภารกิจเป็นเวลานานได้ ต้องขอบคุณหลินจงชิงฝ่ายพลาธิการคนนี้ที่สำรองพลังงานมาตลอด แต่มากสุดก็สามารถประคับประคองได้แค่ครึ่งเดือนเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเก็บเกี่ยวอะไรที่นี่ได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยมทั้งนั้น

ในขณะที่พวกเขาเตรียมตัวจะมุ่งหน้าไปยังเขตต่อไป พวกเขาก็ได้รับการแจ้งเตือนฉุกเฉินจากศูนย์บัญชาการของกองยานรบ หวังว่าผู้ควบคุมหุ่นรบทุกคนจะกลับมาที่ยานลำเลียงได้ภายในสามวัน เพราะว่ายานลำเลียงจะแล่นออกจาก X192 ในตอนเที่ยงตรงของวันที่สาม ส่วนเหตุผลนั้น ทางกองยานรบบอกเฉยๆ ว่า ดาว X192 จะเกิดการปั่นป่วนของพลังงานธาตุอย่างรุนแรงในอีกสามวันให้หลัง การปั่นป่วนนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะทำลายหุ่นรบทั้งหมดที่รั้งตัวอยู่บนดาว

พวกหลิงหลานปรึกษากันสักพักก็เตรียมตัวค้นหารวบรวมต่ออีกหนึ่งวันแล้วค่อยรีบกลับไป ถึงแม้พวกเขาอยู่ห่างจากยานลำเลียงด้วยระยะทางแค่หนึ่งวัน แต่หลิงหลานไม่ชอบทำเรื่องจวนตัว เธอชอบเหลือช่องทางสำหรับแก้ไขข้อผิดพลาดให้กับทุกเรื่อง

หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาเก็บทรัพยากรที่มีประโยชน์และเติมพลังงานขับเคลื่อนภายในหุ่นรบให้เต็ม หลังจากนั้นก็บังคับหุ่นรบให้รีบกลับไปทางยานลำเลียงด้วยความเร็วเต็มอัตรา เมื่อเดินทางมาได้ครึ่งทาง เรื่องที่ไม่คาดฝันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา

เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่น ด้านหน้าเส้นทางที่ทีมของหลิงหลานกลับไปนั้นมีเสียงระเบิดอย่างรุนแรงดังเข้ามา เสียงนี้เป็นเสียงที่มีหุ่นรบใช้อาวุธปืนใหญ่อย่างชัดเจน

“เจียนเตา นายพาขบวนของนายไปดูหน่อย” หลิงหลานขมวดคิ้ว การใช้อาวุธปืนใหญ่ในดาวดวงนี้คือเรื่องที่อันตรายสุดขีดอย่างไม่ต้องสงสัย เดิมทีในอากาศมีไฮโดรเจนกับคลอรีน บวกกับอุณหภูมิสูงแล้ว ก็เกิดปรากฏการณ์ระเบิดเองได้ง่ายมาก ถ้าหากโดนผลกระทบของอาวุธปืนใหญ่ละก็ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ถ้าโชคร้ายอาจจะส่งผลถึงความปลอดภัยของทีมพวกเขา หลิงหลานเลยสั่งให้ขบวนของลั่วล่างที่เป็นหัวลูกศรในเวลานี้รุดหน้าไปสำรวจสักรอบเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ให้ชัดเจน

ขบวนของลั่วล่างมีลั่วล่าง เซี่ยอี๋ หลี่ซื่ออวี๋สามคนรวมกลุ่มกันโดยที่ลั่วล่างเป็นหัวหน้าขบวนชั่วคราว หลังจากที่ลั่วล่างรับคำสั่งแล้วก็พาเซี่ยอี๋กับหลี่ซื่ออวี๋สองคนวิ่งเข้าไปอย่างเร็วไว

ไม่นาน พวกหลิงหลานก็ได้รับคลิปที่พวกลั่วล่างส่งมา ที่แท้ตรงบริเวณหนึ่งกิโลเมตรด้านหน้าพวกเขามีขบวนหุ่นรบสิบห้าตัวกำลังปล่อยการโจมตีอย่างดุเดือดใส่หุ่นรบกลุ่มหนึ่งที่มีเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น

ถ้าหากเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นการปล้นชิง นี่คือฉากที่เกิดขึ้นปกติในการบุกเบิกพื้นที่ดวงดาว กลุ่มนักผจญภัยขนาดใหญ่บางกลุ่มที่มีชื่อเสียงเลวร้ายชอบทำเรื่องแบบนี้มากที่สุด เนื่องจากการลงมือปล้นชิงในเวลานี้จะได้กำไรมากกว่าการที่พวกเขาไปค้นหาเอาเอง

คิดดูแล้วทีมห้าคนนั้นก็บ้าดีเดือดเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ต่อสู้กันขึ้นมา ทีมหุ่นรบมากมายที่เห็นว่าต้านทานไม่ไหวต่างเลือกทิ้งทรัพยากรจำนวนมากแล้วตัดสินใจกลับไปอย่างปลอดภัย แต่ทีมนี้ไม่ได้เลือกยอมจำนน เมื่อพวกเขาเห็นว่าไม่สามารถหลบหนีได้อย่างหวุดหวิดก็ลงมือยิงปืนใหญ่วิถีอัคคีก่อนเลย เห็นได้ชัดว่าอยากลากอีกฝ่ายตายตกตามกัน อย่างไรก็ตาม โชคของพวกเขาไม่ได้ดีมาก อาวุธร้อนไม่ได้จุดระเบิดธาตุในอากาศ ดังนั้นเวลานี้พวกเขาจึงถูกอีกฝ่ายอัดโจมตี ผ่านไปไม่นานก็ถูกกวาดล้างจนหมดทีม

———————