เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 984 บทเพลงลึกลับ

แปลโดย iPAT

 

ฉากที่สามของอาณาจักรแห่งความฝัน

 

มันเป็นค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว

 

ฟางหยวนยืนอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบและกำลังมองสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในศาลาหิน

 

เทพอมตะกลุ่มดาว!

 

ในประวัติศาสตร์มีเพียงเทพปีศาจบัวแดงเท่านั้นที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน สำหรับผู้อมตะระดับเก้าคนอื่นๆ พวกเขาเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง

 

เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นผู้อมตะระดับเก้าคนที่สองต่อจากเทพอมตะแรกกำเนิด นอกจากนี้นางยังเป็นผู้นำของวังสวรรค์รุ่นที่สอง

 

นางประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างมาก ใบหน้าและการปรากฏตัวของนางเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถจดจำนางได้ในทันที

 

เทพอมตะกลุ่มดาวเป็นสตรีผอมสูงในชุดคลุมสีฟ้ายาวลากพื้น

 

นางมีเส้นผมสีดำราวกับน้ำตกที่ยาวลงมาถึงเอว คิ้วของนางทั้งหนาและยาว ดวงตาของนางราวกับดวงจันทร์ที่ส่องประกายด้วยความฉลาดเฉลียว ขณะที่ผิวของนางขาวราวหิมะ ทั้งหมดทำให้นางดูเป็นหญิงที่ทั้งงดงามและลึกลับ

 

ตอนนี้นางกำลังดีดพิณอยู่ในศาลาบนเกาะกลางทะเลสาบ

 

“ในที่สุดเจ้าก็มาที่นี่” เทพอมตะกลุ่มดาวกล่าวอย่างช้าๆ

 

“น่าสนใจ ในอาณาจักรแห่งความฝันฉากนี้ ข้าคือผู้ใด?” ฟางหยวนมองกลับมาที่ตนเองและพบว่าเขาอยู่ในรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตนเอง

 

สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนตกตะลึง

 

กล่าวตามหลักเหตุผล สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น

 

ก่อนหน้านี้ในฉากแรก ฟางหยวนอยู่ในร่างของเด็กชายผู้หนึ่ง ในฉากที่สอง เขาเป็นเด็กหนุ่มที่กำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการบ่มเพาะ แต่เหตุใดในฉากที่สามเขาจึงอยู่ในร่างของตนเอง?

 

‘ก่อนเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝัน ข้าใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย แต่ตอนนี้กระทั่งท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยก็ยังถูกลบออกไป บางทีอาณาจักรแห่งความฝันนี้อาจอยู่ลึกมาก จิตวิญญาณของข้าจมลงสู่ก้นบึ้งของมันงั้นหรือ?’

 

ฟางหยวนคิดและระวังตัวมากขึ้น

 

เมื่อเขาอยู่ในฉากที่สอง เขาตระหนักอย่างชัดเจนว่ามันเป็นความฝันไม่ใช่ความจริง

 

แต่ในกรณีที่จิตวิญญาณของเขาจมลงสู่ส่วนลึกของอาณาจักรแห่งความฝัน เขาจะสูญเสียการรับรู้และคิดว่าทุกสิ่งคือเรื่องจริงเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ไห่ลั่วหลันจมลงสู่อาณาจักรแห่งความฝันและสูญเสียตัวตน

 

‘รูปลักษณ์ดั่งเดิมของข้าแสดงให้เห็นว่าข้าจมลงสู่ส่วนลึกของอาณาจักรแห่งความฝัน ดูเหมือนฉากที่สามจะไม่ใช่เรื่องง่าย’ ฟางหยวนคิดและไม่กล้าประมาท

 

เทพอมตะกลุ่มดาวดูเหมือนจะเข้าใจความกังวลของฟางหยวน นางเผยรอยยิ้มก่อนกล่าว “อย่ากังวล เพียงฟังบทเพลงของข้า”

 

หลังกล่าวจบคำ นางจึงเริ่มดีดพิณอีกครั้ง

 

เสียงพิณบรรเลงไปราวกับสายน้ำที่อ่อนโยน

 

จากนั้นนางจึงเปิดปากร้องเพลงด้วยภาษาโบราณ

 

“บทเพลงที่ล้มเหลวและวีรบุรุษที่สิ้นหวัง ความยากลำบากในการต่อต้านโชคชะตา”

 

“ดาบที่จมอยู่ใต้พื้นทรายทะยานขึ้นจากห้วงอดีตสร้างเสียงครวญครางไปทั่วน้ำตกสวรรค์”

 

“อนิจจา…”

 

“ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวนำวิญญาณสู่ความฝัน แล้วผู้ใดจะสามารถพักผ่อนอย่างสงบ?”

 

“ร่างกายและจิตใจอาจเปลี่ยนผัน แต่เจตจำนงสวรรค์ยังยิ่งใหญ่และไร้ขอบเขต”

 

เสียงเพลงของเทพอมตะกลุ่มดาวราวกับน้ำพุธรรมชาติที่ไหลเข้าสู่ส่วนลึกในจิตใจของฟางหยวน

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก เขารู้สึกว่าบทเพลงนี้เหมือนเป็นการทำนายอนาคต นางพยายามบอกบางสิ่ง แต่ฟางหยวนยังไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ในเวลาอันสั้น

 

เมื่อเทพอมตะกลุ่มดาวร้องเพลงจบ ร่างของนางก็ค่อยๆเลือนหายไป แต่รอยยิ้มลึกลับยังแขวนอยู่บนใบหน้าของนาง

 

ฟางหยวนยังระวังตัว แต่ในเวลาต่อมาอาณาจักรแห่งความฝันกลับอันตรธานหายไปอย่างสมบูรณ์

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น? อาณาจักรแห่งความฝันหายไปได้อย่างไร?” จากด้านนอก ฟงจินฮวงที่กำลังพักฟื้นเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความตกใจและสงสัย

 

ฟางหยวนซ่อนตัวได้ทันเวลา ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดค้นพบการคงอยู่ของเขา

 

เขาลอบออกจากสถานที่แห่งนี้ด้วยความรู้สึกตกใจเช่นกัน ‘เหตุใดฉากที่สามของอาณาจักรแห่งความฝันจึงหายไปก่อนที่ข้าจะสำรวจมัน เหตุใดมันจึงลึกลับนัก? จากประสบการณ์ทั้งหมดของข้า ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีอาณาจักรแห่งความฝันเช่นนี้มาก่อน!’

 

ฟางหยวนขมวดคิ้วลึก เขารู้สึกว่าอาณาจักรแห่งควมฝันนี้พิเศษและมีจุดประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง

 

‘ในอาณาจักรแห่งความฝัน เทพอมตะกลุ่มดาวร้องเพลงให้ข้าฟัง นางต้องการบอกสิ่งใดกับข้า?’

 

ฟางหยวนพยายามนึกแต่ตอนนี้เขากลับจดจำบทเพลงเหล่านั้นไม่ได้

 

มันเหมือนกับคนพึ่งตื่นนอน แม้พวกเขาจะฝัน แต่พวกเขากลับไม่สามารถจดจำความฝันที่พึ่งผ่านพ้นไป

 

ฟางหยวนใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่เขายังไม่สามารถจดจำรายละเอียด

 

…..

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ภาคใต้ ฐานทัพของนิกายเงา แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตและความตาย

 

ด้านหน้าประตูแห่งชีวิตและความตายมีอาณาจักรแห่งความฝันหนึ่งอยู่ที่นี่

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อถือวิญญาณอมตะระดับแปดจำนวนเก้าดวงเดินเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอย่างช้าๆ

 

ทันทีที่เข้าไป เขาตระหนักถึงเจตนาสังหารที่พลุ่งพล่าน

 

“ตาย ตาย ตาย!” ชายชุดคลุมดำผู้หนึ่งตะโกนด้วยดวงตาสีแดงก่ำและเส้นผมที่ยุ่งเหยิง

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อไม่สามารถขยับเขยื้อน

 

หากเป็นคนอื่นเข้ามาที่นี่ พวกเขาอาจกรีดร้อง “เทพปีศาจจิตวิญญาณ!”

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อถูกบังคับให้ออกไปพร้อมกับจิตวิญญาณที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

เขาพ่นเลือดตำโตออกมาขณะที่ใบหน้ากลายเป็นซีดขาว

 

อาณาจักรแห่งความฝันของเทพปีศาจจิตวิญญาณมีความยากสูงกว่าอาณาจักรแห่งความฝันของเทพอมตะกลุ่มดาว

 

ผู้อมตะเฒ่าม่านเยี่ยนซื่อพึ่งเข้าไปในฉากแรกแต่กลับถูกบังคับให้ออกมาอย่างรวดเร็ว

 

ตัวละครที่เขาสวมเป็นศัตรูที่ถูกสังหารโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

ม่านเยี่ยนซื่อพยายามเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันนี้มาแล้วหลายครั้งแต่ยังถูกเทพปีศาจจิตวิญญาณสังหารทุกครั้งและไม่สามารถตอบสนอง

 

“แต่ข้าทิ้งวิญญาณอมตะไว้ในอาณาจักรแห่งความฝันแล้ว มันต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อยเพื่อแสดงพลังอำนาจ” ม่านเยี่ยนซื่อไม่สนใจอาการบาดเจ็บของตน เขาเปิดฝ่ามือและเผยให้เห็นวิญญาณอมตะดวงหนึ่ง

 

วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกหลอมรวมขึ้นโดยหยูมู่ฉาน มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกฎที่มีชื่อว่า กลายเป็นความจริง

 

ม่านเยี่ยนซื่อกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะกลายเป็นความจริงทันที

 

มันบินไปรอบๆอาณาจักรแห่งความฝันและทิ้งเส้นแสงสีเงินเอาไว้ในอากาศ

 

‘ไป!’ ม่านเยี่ยนซื่อคิด

 

ทันใดนั้นวิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนจากมิติช่องว่างของเขาก็บินออกไปและสร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ปกคลุมอาณาจักรแห่งความฝันเอาไว้ทั้งหมด

 

ค่ายกลวิญญาณลึกลับราวกับรังไหมสีเงินที่ห่อหุ้มอาณาจักรแห่งความฝันเอาไว้ภายใน

 

ม่านเยี่ยนซื่อถอนหายใจ ร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงและแทบไม่สามารถประคองตัวยืนอยู่ต่อ

 

เขาเหนื่อยมากแต่เขามีความสุขเมื่อมองไปที่รังไหมแสง “ต่อไปเพียงต้องรอให้มันโตเต็มที่เท่านั้น”

 

…..

 

หลายวันผ่านไป

 

แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

 

ฟางหยวนหัวเราะอยู่ในถ้ำใต้พิภพ

 

เขาประสบความสำเร็จ

 

หลังจากใช้เวลาหนึ่งเดือนในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู เขาสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะเขตแดน!

 

ท่าไม้ตายนี้มีชื่อว่าเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดารา มันใช้วิญญาณอมตะล้างใจ วิญญาณอมตะร่องรอยดารา วิญญาณอมตะศรแสงดาว วิญญาณอมตะแสงดาว และวิญญาณอมตะความคิดดาราเป็นแกนกลาง มันไม่มีพลังโจมตีแต่มันจะสลายพละกำลังของศัตรูตลอดเวลา

 

“แสงแห่งปัญญาช่างทรงพลังนัก หากข้าคิดเอง ข้าจะไม่ได้รับสิ่งใดแม้จะผ่านไปสามปี!”

 

ท่าไม้ตายเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดาราใช้วิญญาณระดับมนุษย์เพียงหกร้อยดวงแต่การทำงานร่วมกันระหว่างพวกมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก

 

ดังนั้นการกระตุ้นใช้งานเขตแดนนี้ ฟางหยวนต้องมีเวลาอย่างน้อยสองหรือสามนาที

 

เวลาดังกล่าวไม่ถือว่านานนัก มันอยู่ในค่าเฉลี่ยของท่าไม้ตายเขตแดนทั่วไป

 

ในความเป็นจริงท่าไม้ตายเขตแดนมักต้องใช้เวลาในการติดตั้ง ในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวน เทพธิดาหลี่ซานก็ต้องติดตั้งท่าไม้ตายเขตแดนภูเขาสวนแพร์ล่วงหน้าก่อนจะล่อลวงผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่เข้าสู่กับดัก

 

“ในแง่ของการจับกุมศัตรู เขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดาราของข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขตแดนภูเขาสวนแพร์ แต่ความสามารถในการสลายพลังของศัตรูทำให้มันเหนือกว่าเขตแดนภูเขาสวนแพร์ หลังจากทั้งหมดเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดาราของข้าใช้เขตแดนสนามรบจิตวิญญาณในการอ้างอิง”

 

ฟางหยวนต้องการทดสอบท่าไม้ตายเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดารากับเป้าหมายที่เหมาะสม

 

เขาคิดถึงฉลามนิ้วกาลเวลา

 

‘ฉลามนิ้วกาลเวลามีพลังการต่อสู้ระดับแปด มันยังมีวิญญาณอมตะในการครอบครองถึงสามดวง ขณะเดียวกันเขตแดนสนามรบจิตวิญญาณดาราของข้าก็ไม่สามารถดักจับมันได้ นอกจากนั้นเพื่อจัดการฉลามนิ้วกาลเวลา ข้าต้องต่อสู้กับฉลามปีศาจและซูไป่ม่านเป็นอันดับแรก’

 

ฟางหยวนปัดความคิดนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

 

แน่นอนว่าเขาสามารถร่วมมือกับนางมารผลาญสวรรค์

 

ในช่วงเวลานี้เทพธิดาหลี่ซานเริ่มติดต่อนางมารผลาญสวรรค์และสร้างความร่วมมือ

 

หากฟางหยวนใช้ตัวตนของเขาในฐานะพันธมิตรของไห่ลั่วหลันเพื่อร่วมมือกับนางมารผลาญสวรรค์ มีโอกาสสูงมากที่พวกเขาจะสามารถจัดการฉลามปีศาจกับซูไป่ม่าน

 

แต่ฟางหยวนไม่ต้องการทำสิ่งนี้

 

แม้เขาจะสามารถจัดการฉลามนิ้วกาลเวลา แต่ในแง่ของการปล้นชิง เขาไม่สามารถแข่งขันกับนางมารผลาญสวรรค์ สุดท้ายเขาจะได้รับผลประโยชน์เพียงเล็กน้อย

 

นอกจากนั้นเขายังไม่สามารถสังหารฉลามปีศาจกับซูไป่ม่าน

 

แม้ฟางหยวนจะไม่ใช่สมาชิกกองกำลังพันธมิตรผีดิบแต่นางมารผลาญสวรรค์เป็น ตามข้อตกลง นางสามารถกำหราบแต่ไม่สามารถสังหารฉลามปีศาจกับซูไป่ม่าน

 

“อย่างไรก็ตามข้าต้องตามหานางมารผลาญสวรรค์ หากข้าไม่พบนาง ไห่ลั่วหลันกับเทพธิดาหลี่ซานอาจปกปิดการดำรงอยู่ของนางและใช้นางจัดการข้า หากข้าเป็นฝ่ายออกตามหานาง ไห่ลั่วหลันจะสูญเสียความหวังในเรื่องนี้ นี่เป็นวิธีหนึ่งในการต่อต้านนางมารผลาญสวรรค์”

 

ฟางหยวนเดินทางไปยังทะเลตะวันออก

 

ฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านคาดหวังกับฟางหยวนเป็นอย่างมาก

 

ในครั้งก่อนหน้าการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ก้าวหน้าไปได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาบรรลุถึงเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายแต่พวกเขายังไม่สามารถทำสิ่งใด

 

ฉลามปีศาจต้องการความช่วยเหลือจากฟางหยวนแต่ฟางหยวนกลับเพิกเฉยอย่างสิ้นเชิง

 

เขาเต็มใจช่วยนางมารผลาญสวรรค์มากกว่าฉลามปีศาจ

 

หลังจากทั้งหมดฟางหยวนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับนางมารผลาญสวรรค์มากกว่าฉลามปีศาจ เขาจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นหากร่วมงานกับนาง